:: ศึกชิงบัลลังก์ยุทธ์ มังกรพยัคฆ์บูรพา ตอนที่ 10 ::

:: ศึกชิงบัลลังก์ยุทธ์ มังกรพยัคฆ์บูรพา ตอนที่ 10 ::

เรื่องและภาพ : กะว่าก๋า















แล้วหิมะภายนอกนั่นก็หยุดตก พายุเลยผ่านไป กลายเป็นแดดจ้าฟ้าใสหวนคืนกลับมา
สภาพภายในศาลเจ้าร้าง ทุกสิ่งพังทลายราวกับเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง ทุกอย่างหักพัง
แตกระเบิดกระจายไปทั่ว ด้วยพลังฝ่ามือและท่วงท่าทำลายของไป่จิงเหวิน เขาเปิดประตูรับ
ไอหนาวเย็นในยามเช้า แต่ด้วยกำลังภายในอัดแน่นในร่าง
เขาจึงสามารถทำให้ร่างกายอุ่นขึ้นด้วยการเดินลมปราณเพียงไม่กี่อึดใจ
ไป่จิงเหวินในยามนี้ได้กลายเป็นสุดยอดฝีมือแห่งยุทธภพไปเรียบร้อยแล้วโดยไม่มีใครล่วงรู้ !!!


เขาเดินทางเข้าสู่เมืองหลวงอย่างไม่เร่งร้อน
ด้วยเหตุที่พวกจินได้ลุกล้ำก้ำเกินเข้ามาในดินแดนซ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ
แผ่อิทธิพลครอบคลุมพื้นที่ทางภาคเหนือของต้าซ่งได้เกือบทั้งหมด
ไป่จิงเหวินเดินทางไปพร้อมกับสืบหาข่าวความเคลื่อนไหวจากหมู่บ้านต่าง ๆ
ชาวบ้านให้ข้อมูลซึ่งทำให้เขาประหลาดใจ สิ่งที่รับรู้ไม่เหมือนสิ่งที่เขาเคยได้ยินมา

“พวกจินน่ะรึ จะว่าร้ายก็ร้าย จะว่าดีก็ดี”

ชาวนาคนหนึ่งบอกกับไป่จิงเหวิน และนั่นทำให้เขารู้สึกพิศวงงงงวยเป็นอันมาก

“เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้นเล่าท่านลุง”

ไป่จิงเหวินซักถามต่อไป

“พวกจินดูเหมือนโหดร้ายป่าเถื่อน แต่เอาเข้าจริง พอพวกเรายอมจำนน
เขาก็ไม่เข่นฆ่าทำร้ายใคร กลับบอกว่าพวกเขารู้ว่าชนชั้นปกครองของต้าซ่งโหดร้ายทารุณ
รีดนาทาเร้น ขูดรีดภาษีหนักหน่วง เกณฑ์แรงงานหนุ่มสาวไปเป็นทาสเป็นทหาร
เขาบอกพวกเราว่าหากพวกจินเข้าปกครองจะไม่มีทางทำอย่างนั้นเด็ดขาด
พวกเราฟังเสร็จก็อึ้งไป เพราะสิ่งที่พวกจินพูดนั้นคือความจริง”

“ที่ผ่านมาพวกท่านถูกทางการข่มเหงน้ำใจอย่างนั้นหรือ ?”

“ใช่แล้วพ่อหนุ่ม...ตอนแรกข้าไม่อยากคุยกับเจ้า
เพราะกลัวว่าเจ้าจะเป็นสายลับซึ่งถูกส่งมาเหมือนคนก่อน
พอเราพูดความจริง ทหารก็ฆ่าคนในหมู่บ้านแล้วบอกว่านี่คือการเชือดไก่ให้ลิงดู
อย่าได้คิดต่อต้านราชสำนักเป็นอันขาด พวกข้าหวาดกลัวและไม่มีความสุขเลย
ลูกสาวถูกพรากไปย่ำยีต่อหน้าต่อตา ข้าวปลาอาหารที่มีน้อยนิดก็ถูกทหารแย่งชิงไปจนหมด
แถมทัพม้ายังย่ำเหยียบผืนนาของพวกเราจนเสียหาย แต่พวกจินไม่ได้ทำอย่างนั้นกับเราเลย”

ชายชราพรั่งพรูความรู้สึกให้ไป่จิงเหวินฟังอย่างละเอียด

“แล้วทำไมที่ผ่านมาทุกคนถึงเชื่อว่าพวกจินเป็นพวกป่าเถื่อนโหดร้ายล่ะลุง หรือมันไม่เป็นความจริง”

“เขาโหดร้ายเฉพาะกับพวกที่ต่อต้าน ถ้าเรายอมแพ้แต่โดยดี
พวกจินกลับปฏิบัติต่อเราด้วยความเคารพ ไม่ใช้กำลังหักหาญ
ไม่แตะต้องบ้านเรือนทรัพย์สิน ไม่ล่วงเกินผู้หญิงของเรา
ก่อนหน้าเจ้าจะมาพบข้าไม่นานนัก เตมูบูจินนำทัพผ่านหมู่บ้านเราไป
เขาเป็นคนหนุ่มที่น่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง นอกจากไม่ทำร้ายพวกเรา
ยังได้มอบเงินและข้าวของให้เป็นจำนวนมาก เพราะรู้ว่าพวกเรากำลังลำบากหนักหนาแสนสาหัส
หลังจากถูกทหารซ่งเข้าปล้นหมู่บ้าน”

เตมูบูจิน....ใยข้าจึงคุ้นกับชื่อนี้นัก แต่นึกเท่าไหร่ไป่จิงเหวินก็นึกไม่ออกว่าเตมูบูจินเป็นใคร

“เตมูบูจินคือใครหรือท่านลุง ?”

ไป่จิงเหวินตัดสินใจเอ่ยถามไปตรง ๆ เพื่อขจัดความสงสัยในใจ
ชายชราดวงตาเป็นประกายวิบวับเล่าเรื่องด้วยความตื้นตันใจ
“เตมูบูจินเป็นองค์รัชทายาทของอาณาจักรจิน รวมทั้งเป็นแม่ทัพใหญ่ด้วย
นอกจากยังหนุ่มแน่น มากความสามารถในเชิงรบ เขายังมีความนอบน้อมถ่อมตน
ให้เกียรติทุกคนไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม หากเจ้าเดินทางต่อไปเรื่อย ๆ ลองสังเกตดูสิ
ไม่ว่าทัพจินผ่านไปทางไหน ล้วนได้รับการต้อนรับจากชาวบ้านทุกแห่งหนเป็นอย่างดี
แตกต่างจากทหารซ่ง เข้าไปที่ใด ที่นั่นล้วนวอดวายฉิบหายจนหมดสิ้น”

ช่วงท้ายประโยคของประโยคเห็นได้ชัดว่าชายชราพูดไปด้วยน้ำเสียงชิงชังและคับแค้นใจเหลือแสน

ไป่จิงเหวินประสานมือคารวะชาวนาด้วยความนอบน้อม

“ขอบคุณท่านลุงที่ช่วยไขความกระจ่างให้กับตัวข้า เช่นนี้แล้วข้าคงต้องเดินทางต่อ
เพื่อไปถึงยังเมืองหลวงโดยเร็วที่สุด”



.............................................



เดินเท้านานค่อนวัน ไป่จิงเหวินจึงลุถึงอำเภอหนานฉวน
เขามองหาเพิงน้ำชาเพื่อนั่งพัก แต่กลับพบเพียงโรงเตี๊ยมชั้นเดียวเก่าคร่ำคร่า
เมื่อหมดทางเลือก จึงตัดสินใจเดินเข้าไปในโรงเตี๊ยมแห่งนั้น
บรรยากาศภายในร้านดูไม่เป็นมิตรต่อผู้มาเยือนเอาเสียเลย
ทหารซ่งราวสามสิบนายดื่มกินสุราอาหารกันอย่างโหวกเหวกไม่เกรงใจใคร
ด้านในสุดคงเป็นโต๊ะของนายทหารผู้คุมทัพ
มีชายฉกรรจ์สามสี่คนในชุดเกราะร่ำสุราจนเมามาย แสดงกิริยาท่าทางกักขฬะตลอดเวลา

“เฮ้ย ... ไปเอาเหล้ามาอีกสิเสี่ยวเอ้อ เถ้าแก่---อาหารดีดีไม่มีให้กินเลยรึไง !!!”

รองแม่ทัพหนุ่มตะโกนเสียงดังลั่นร้าน เถ้าแก่และเสี่ยวเอ้อต่างลนลานรีบทำตามคำสั่ง
ไป่จิงเหวินขยับจะเดินออกจากร้านเนื่องจากไม่มีโต๊ะว่างแม้แต่ที่นั่งเดียว
ด้วยความลนลานเร่งรีบ เถ้าแก่ร้านวัยชราสะดุดขาตนเองจนจอกสุราที่ยกมาหกราดรดตัวรองแม่ทัพ

“ไอ้โง่ ทำอย่างนี้ได้ยังไงวะ บัดซบ !!!”

พูดขาดคำก็ต่อยเถ้าแก่ร้านเต็มแรง ร่างของชายชราลอยละลิ่วไปกลางร้าน
ไป่จิงเหวินกระโจนลอยตัวรับร่างเถ้าแก่ร้านกลางอากาศ
หาไม่ร่างนั้นต้องปะทะกับเสาโรงเตี๊ยมจนเสียชีวิตเป็นแน่แท้


ทหารทั้งหมดภายในร้านยืนลุกฮือ มองไป่จิงเหวินเป็นตาเดียว
เมื่อวางร่างอันบอบช้ำของเถ้าแก่ร้านลงเรียบร้อย จึงหันไปมองสบตากับรองแม่ทัพด้วยความขุ่นเคือง

“ท่านเป็นถึงแม่ทัพนายกองไฉนจึงทำร้ายประชาชนของตนเยี่ยงนี้เล่า”

เมื่อถูกตำหนิประณามซึ่ง ๆ หน้า รองแม่ทัพโกรธจัดจนร่างสั่นเทิ้ม

“มึงเป็นใครวะ ถึงหาญกล้ามาสั่งสอนกู กินเนื้ออินทรีเคี้ยวกระดูกเสือมารึไง”

พูดจบก็ชักดาบออกจากฝัก พุ่งทะยานหมายฟันคอไป่จิงเหวินให้ขาดในดาบเดียว !


เร็วเกินคาดคิด พุ่งมาทางไหนก็กระเด็นกลับไปทางนั้น
ร่างของรองแม่ทัพลอยละลิ่วกระแทกโต๊ะนั่งดื่มสุราจนพัง สิ้นสติสิ้นลายภายในกระบวนท่าเดียว !!!
แม่ทัพยืนมองดูสภาพของรองแม่ทัพที่นอนสลบเหมือด กรามหักยับ เลือดไหลออกมาจากจมูกและปาก
ไป่จิงเหวินลดศอกลงข้างตัว โคจรพลังเตรียมรับศึก
นายทหารหันไปมองลูกน้องภายในร้าน เขาโกรธจนหนวดกระดิกเพราะโดนลบเหลี่ยมจากชายแปลกหน้า

“รำคาญชีวิตนักใช่มั้ยไอ้หนุ่ม เจ้าได้ตายสมใจแน่ ทหารทุกคน ลุย !!!”

สิ้นคำสั่งทหารราว 10 กว่าคนกรูกันเข้าไปหาไป่จิงเหวิน ทุกคนพุ่งตรงเข้าไปพร้อมกระชับอาวุธภายในมือ
ไป่จิงเหวินตกอยู่ในวงล้อมของวงกลมมนุษย์ ดาบ กระบี่ถูกทิ่มพรวดเข้ามาอย่างรุนแรงหมายเอาชีวิต
เขากระโดดลอยตัวขึ้นด้วยวิชาตัวเบาอันล้ำลึก คบดาบคมกระบี่มิอาจสัมผัสผิวกาย
ขณะลอยตัวอยู่กลางอากาศเขาตวัดเท้าซ้ายขวาให้หมุนกลายเป็นกงจักรบาทาฟาดเข้าเต็มแรงที่ใบหน้าเหล่าทหาร
ทั้งหมดล้มลงสิ้นสติในคราเดียว !

ทหารชุดที่สองล้อมวงเข้ามาเหมือนเดิม ฝ่ามือพันกรของเขาสยบทหารนับสิบภายในพริบตา
ทั้งหมดล้มตัวนอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดจากพลังฝ่ามือของไป่จิงเหวิน
แม้เขาจะลดทอนพลังให้เบามือที่สุดแล้ว เพราะไม่ปรารถนาจะฆ่าใคร
แต่ความรุนแรงยังทำให้คนที่ถูกซัดฝ่ามือไม่อาจลุกขึ้นยืนได้เลยแม้แต่คนเดียว

ทหาร 20 กว่าคนพ่ายแพ้ในเวลาไม่ถึงอึดใจ ทำให้ทหารที่เหลืออีกราว 10 กว่าคนแตกตื่นกลัว
เกิดรักชีวิตขึ้นมา พากันวิ่งหนีโดยไม่ฟังคำสั่งแม่ทัพที่ร้องตะโกนให้สู้
ไป่จิงเหวินเดินเข้าไปหาแม่ทัพอย่างช้า ๆ ความกลัวแผ่ซ่านไปทั่วสรรพางค์กาย
ออกรบมาหลายสมรภูมิศึก แต่ไม่เคยมีใครสร้างความหวาดกลัวให้ได้มากมายถึงเพียงนี้เลย
ไป่จิงเหวินในยามนี้ดูไม่ต่างอะไรกับพญามัจจุราช

“ขะ..ขะ...ข้ากลัวแล้ว ยอมแพ้แล้ว เจ้าอย่าฆ่าข้าเลยนะ อยากได้อะไรข้าจะยกให้เจ้าจนหมดสิ้นเลย”

แม่ทัพลนลานแตกตื่นกลัวจนไม่เหลือศักดิ์ศรีอะไรใดใด รีบโยนดาบในมือทิ้ง
ไป่จิงเหวินยืนจ้องหน้า ก่อนเรียกเถ้าแก่ให้เดินเข้ามา

“จงคิดค่าอาหารค่าเสียหายทั้งหมดจากแม่ทัพ ให้เขาจ่ายเงินต่อหน้าข้านี่แหละ”

เถ้าแก่บอกจำนวนเงินไปด้วยเสียงสั่นเทา แม่ทัพรีบควักเงินออกมาจ่ายโดยไม่รั้งรอ
ไป่จิงเหวินพยักหน้าพึงพอใจ

“เสร็จธุระแล้วจงไสหัวของพวกเจ้าออกไปซะ อย่าได้กลับมารังควาญรังแกประชาชนในเมืองนี้อีก
หาไม่ครั้งหน้าข้าจะมิยั้งมือเกรงใจอีกแล้ว”


ไม่ต้องรอให้กล่าวซ้ำสองแม่ทัพและทหารทั้งหมดที่บาดเจ็บรีบลุกเดินหนีออกไปจากโรงเตี๊ยมด้วยความละอายใจ
เถ้าแก่ร้านรีบกล่าวขอบคุณไป่จิงเหวิน

“ขอบคุณท่านจอมยุทธ์ยิ่งนัก สามสี่วันที่ผ่านมาข้าถูกกองทหารชุดนี้เข้าเหยียบย่ำกดขี่โดยตลอด
กินแล้วก็ไม่จ่าย ซ้ำยังหาเรื่องทำร้ายทำลายข้าวของในร้านมิหยุดหย่อน
ชาวบ้านร้านช่องต่างหวาดกลัวเป็นอันมาก
เห็นลูกเมียใครถูกใจพวกมันก็ฉุดคร่าไปข่มเหงโดยไม่ยำเกรงกฎหมายบ้านเมืองเลย”

พูดจบชายชราก็ยกแขนเสื้อขึ้นปาดน้ำตาด้วยความคับแค้นใจ

ไป่จิงเหวินขอนั่งพักและสั่งอาหารสองอย่างมากินเพื่อประทังความหิว
เสี่ยวเอ้อรีบเข้าไปจัดข้าวปลาอาหารมาต้อนรับตามคำสั่งของเถ้าแก่

ไป่จิงเหวินจึงถือโอกาสสนทนาค้าความกับเจ้าของโรงเตี๊ยมเพื่อหาข้อมูล




...........................................



เถ้าแก่ร้านเล่าว่าในอดีตเมืองหนานฉวนเคยเจริญรุ่งเรืองยิ่งนัก เพราะเป็นทางผ่านไปสู่เมืองหลวง
แต่ปีกว่าที่ผ่านมาทุกอย่างกลับซบเซาลง หลังนายอำเภอคนใหม่เดินทางมาปกครอง
นายอำเภอรีดนาทาเร้นเก็บส่วยภาษีอย่างหนัก ตัดสินคดีตามความพอใจของตน
พวกพ้องทำผิดก็ปกป้อง ส่วนชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ต่างถูกรังแกข่มเหง
กฎหมายไร้มาตรฐาน แถมคดโกงบ้านเมือง
เอาเงินภาษีที่ได้เก็บเข้าพกเข้าห่อของตน ตั้งตัวเป็นผู้มีอิทธิพลอยู่เหนือกฎหมาย
เท่านั้นไม่พอยังสมคบคิดกับแม่ทัพ
ตั้งด่านเถื่อนเรียกเก็บค่าคุ้มครองจากพ่อค้าที่เดินทางผ่านเมืองจนร่ำรวยไปตาม ๆ กัน
คนที่พอมีช่องทางต่างย้ายหนีไปอยู่เมืองอื่น
ที่หนีไปไหนไม่ได้ก็ต้องทนแบกรับชะตากรรมอันแสนเจ็บปวดอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน


เมื่อไป่จิงเหวินสอบถามว่าแล้วทางบ้านเมืองไม่เคยส่งใครมาดูแลเรื่องนี้เลยหรือ
เถ้าแก่บอกว่า ไม่มีชาวบ้านคนไหนกล้าร้องเรียนไปยังส่วนกลาง
เนื่องจากเคยมีชายคนหนึ่งร้องเรียนเรื่องราวกับขุนนางในวัง
พอสืบรู้ว่าใครฟ้อง นายอำเภอกับรองแม่ทัพก็ตามฆ่าล้างครัวของคน ๆ นั้นจนหมดสิ้น
ตัดหัวเสียบประจานกลางประตูเมือง 7 ศพ
แม้แต่เด็กสองขวบยังไม่ละเว้น จนไม่มีใครกล้าร้องเรียนอะไรอีกเลย


ไป่จิงเหวินนั่งรับฟังเรื่องราวความอยุติธรรมด้วยใจเจ็บปวด
ช่างเป็นการกระทำอันต่ำทรามของข้าราชการชั่วช้าและทหารโฉด
เหตุใดทางการบ้านเมืองจึงไม่ใส่ใจดูแลทุกข์ยากของประชาราษฎร์เลย ยิ่งคิดยิ่งขุ่นเคืองใจ
ไม่นานนักอาหารอันเรียบง่ายถูกยกมา ไป่จิงเหวินนั่งกินจนหมดด้วยความหิว
ครั้นจะจ่ายเงิน เถ้าแก่ก็ไม่ยินยอมรับ
แถมยังพร่ำขอบคุณที่ไป่จิงเหวินได้ช่วยปลดเคราะห์ภัยให้ชาวเมืองในครั้งนี้



..............................................



หลังรับรู้รับฟังเรื่องราวทั้งหมดไป่จิงเหวินตัดสินใจเดินทางไปยังจวนนายอำเภอ
เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นดั่งที่เถ้าแก่ร้านได้กล่าวโทษไว้หรือไม่
เมื่อเดินมาถึงประตูทางเข้าที่ว่าการอำเภอ ทหารราว 20 คนพร้อมอาวุธครบมือ
ก็กรูเข้ามาล้อมกรอบไป่จิงเหวินอีกครั้ง ด้านในหน้าอาคารที่ว่าการ นายอำเภอกับแม่ทัพยืนเคียงข้างกัน
ขนาบด้วยพลธนูอีกไม่ต่ำกว่า 30 คนกำลังง้างเกาทัณฑ์รอคำสั่งยิงในทันที
แต่ไป่จิงเหวินหาได้หวั่นวิตกหรือเกรงกลัวไม่


“ไอ้กบฏ เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร ถึงได้มาวางใหญ่วางโตในเมืองของข้า
จงยอมจำนนและให้ข้าจับกุมตัวไปส่งทางการซะ หาไม่วันนี้ ถึงเจ้ามีปีกก็มิอาจบินหนีความตายไปได้อย่างแน่นอน”

นายอำเภอร่างอ้วนตะโกนขู่เพราะหารู้ไม่ว่าไป่จิงเหวินนั้นมีฝีมือมากเพียงใด

“เสียแรงเป็นข้าราชการ แทนที่จะปกครองบ้านเมืองด้วยความซื่อสัตย์ รักใคร่ห่วงใยประชาชน
พวกเจ้ากลับเลือกทำร้ายหมายขวัญคนชาติเดียวกัน เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน จนละเลยสุขทุกข์ประชาราษฎร์
ขูดเลือดขูดเนื้อคนจน วันนี้หากข้าไม่ทำอะไร เอาแต่ยืนมองดูพวกเจ้ากระทำชั่วข่มเหงรังแกคน
ชาวบ้านคงเดือดร้อนมิสิ้นสุด ต้องกล้ำกลืนฝืนทนอยู่กับสิ่งเลวทรามชั่วช้าที่พวกเจ้ากระทำ
ข้ามิอาจทนนิ่งเฉยได้อีกต่อไปแล้ว”


ไป่เจิงเหวินกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
ชาวบ้านบางส่วนเริ่มออกจากบ้านมามุงดูเหตุการณ์อย่างกล้า ๆ กลัว ๆ เป็นห่วงเป็นใย
เพราะทหาร 50 กว่าคนกำลังกลุ้มรุมคนเพียงคนเดียว ทหารที่ล้อมกรอบอยู่ขยับถอยห่างออกไป

“สามหาว ! --- เจ้าเป็นใครถึงกล้ามาสั่งสอนข้า.... เกาทัณฑ์ --- ยิง !!!”

นายอำเภอสั่งการทันที ลูกธนูกว่า 30 ดอกพุ่งทะยานเข้าหาตัวไป่จิงเหวิน
เขายกดาบในมือขึ้นปัดป่ายหมุนเป็นวงกลมคล้ายโล่เหล็ก ลูกธนูหักสะบั้นทั้งหมด
ไม่มีแม้แต่ดอกเดียวหลุดรอดระคายผิว

“ยิง”

นายอำเภอสั่งการอีกครั้งโดยตกตะลึงไม่แพ้แม่ทัพซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ
เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด เกาทัณฑ์นับสิบซึ่งถูกยิงพร้อมกันจะทำอะไรคนที่ถูกยิงไม่ได้เลย
เกาทัณฑ์พุ่งเข้าใส่ไป่จิงเหวินอีกครั้ง คราวนี้เขายืนนิ่งรับห่าเกาทัณฑ์โดยไม่เกรงกริ่ง
ลูกธนูพุ่งสุดแรงเข้าหาตัว แต่เมื่อถูกผิวกายของไป่จิงเหวิน มันกลับกระเด็นร่วงหล่น
บ้างก็หักสะบั้น แต่มิอาจสร้างริ้วรอยบาดแผลใดใดให้กับผิวกายของเขาได้เลย !!!


ทั้งทหารในที่ว่าการ ทั้งชาวบ้านที่มุงดูอยู่ต่างพรึงเพริดอัศจรรย์ใจ
เหตุใดบุรุษอาชาไนยผู้นี้จึงมีผิวกายแข็งแกร่งดุจศิลาหรือเหล็กกล้า !!!
นี่คือ ประสิทธิภาพของ “ยันต์เกราะเพชร” ซึ่งสำแดงเดชให้เห็นแล้วว่า วิชาหนังเหนียวนั้นมีจริง
ปกป้องคุ้มครองผู้ที่ได้สักยันต์ไว้ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ


ทหาร 20 กว่าคนกรูเข้ามาหมายใช้ดาบฟัน ไป่จิงเหวินใช้ใบดาบฟาดใส่ทหารเหล่านั้นจนกระเด็นกระดอนมิรู้ทิศ
บ้างโดนฟาดเข้าใบหน้า บ้างโดนฟาดลำตัว ทั้งหมดนอนร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด
เมื่อทางเปิดโล่ง เขากระโจนพรวดเดียวเข้าถึงตัวนายอำเภอและแม่ทัพ
ไป่จิงเหวินก้มตัวซัดฝ่ามือเข้าไปที่ต้นขาทั้งสองข้างของนายอำเภอ กระดูกหักสะบั้นในทันที
พริบตาเดียวก็หมุนกายหันไปซัดฝ่ามือใส่ต้นแขนทั้งสองข้างของแม่ทัพจนกระดูกแตกแหลกละเอียด
ทั้งคู่ร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดสุดแสน กลายเป็นคนพิการไปตลอดชีวิต !!!

“นี่คือบทลงโทษที่ข้ามอบให้เจ้าทั้งสองคน ทดแทนความเจ็บปวดรวดร้าวของชาวบ้านซึ่งถูกพวกเจ้าเข่นฆ่าย่ำยี”

ไป่จิงเหวินกล่าว พร้อมหันมองไปกลุ่มชาวบ้านที่ยืนมุงดูเหตุการณ์อยู่นอกจวน
เขาสั่งให้เสมียนคนหนึ่ง เอากระดาษและน้ำหมึกเขียนคำร้องเรียน
เรื่องความประพฤติอันฉ้อฉลชั่วร้ายของนายอำเภอและแม่ทัพ พร้อมใส่เครื่องพันธนาการ
กำชับให้เจ้าหน้าที่ในจวนส่งตัวคนทั้งสองไปให้ทางการตรวจสอบลงโทษยังเมืองหลวง
โดยไม่ต้องกลัวเกรงอำนาจเถื่อนใดใด

“นับจากนี้ไป พวกท่านอย่าได้เกรงกลัวคนโฉด หากมีเรื่องใดไม่ชอบมาพากล
จงร้องเรียนไปยังทางการ ข้าหวังว่าทุกคนจะมีชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ต้องตกอยู่ภายใต้ความหวาดกลัวตลอดเวลา”

เมื่อไป่จิงเหวินกล่าวจบ ชาวบ้านต่างร้องเฮขึ้นด้วยความสุข
บ้างน้ำตาไหลพราก กอดกันกลม เหล่าพลทหารที่นอนเจ็บอยู่ต่างค่อย ๆ ยันกาย
ประคองกันเดินหนีไปคนละทิศคนละทาง


ไม่มีใครคิดสู้กับไป่จิงเหวินอีกแล้ว เพราะรู้ดีว่าฝีมือนั้นห่างชั้นกันจนไม่อาจเทียบ
ขืนสู้ต่อไปไม่แคล้วคงสิ้นชีพ

เมื่อไป่จิงเหวินเดินผ่านกลุ่มชาวบ้าน ทุกคนต่างกรูกันเข้ามากอด
บ้างถึงกับก้มตัวคุกเข่าลงคารวะ มองดูไป่จิงเหวินด้วยความเคารพนับถือ
ไม่ต่างอะไรกับพระยูไลผู้มาโปรดสัตว์โลกให้พ้นจากทุกข์เทวษ
เขาหันไปสอบถามเส้นทางที่จะไปยังเมืองหลวงกับชาวบ้าน
เมื่อรู้ทิศทางก็ออกเดินทางต่อไป





ความเดิมจากตอนที่แล้ว



ตอนที่ 1    ตอนที่ 2    ตอนที่ 3    ตอนที่ 4

ตอนที่ 5    ตอนที่ 6    ตอนที่ 7    ตอนที่ 8

ตอนที่ 9



Create Date : 23 สิงหาคม 2562
Last Update : 23 สิงหาคม 2562 6:14:29 น.
Counter : 2870 Pageviews.

24 comments
The Greatest Hits (2024) ไมเคิล คอร์เลโอเน
(18 เม.ย. 2567 18:36:03 น.)
Oh!! my sassy boss ตอนที่ 22 หน้า 2 unitan
(16 เม.ย. 2567 10:34:46 น.)
เรา คือ เอไอ ชีวภาพ..ที่ ทุกอย่าง ทำงาน อัตโนมัติ..อวิชชา ไม่รู้ โง่ ทุกข์..โดย อัตโนมัติ 15 CXO.Asia
(15 เม.ย. 2567 05:12:22 น.)
ธี่หยด (2566) ไมเคิล คอร์เลโอเน
(15 เม.ย. 2567 12:42:37 น.)

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณmultiple, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณสองแผ่นดิน, คุณkae+aoe, คุณTui Laksi, คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณตะลีกีปัส, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณJinnyTent, คุณmcayenne94, คุณธนูคือลุงแอ็ด, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณInsignia_Museum, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณสันตะวาใบข้าว, คุณThe Kop Civil, คุณtoor36, คุณhaiku, คุณnewyorknurse

  
สวัสดีวันศุกร์ค่ะคุณก๋า วันนี้เนื้อเรื่องยาว เดี๋ยวไล่อ่านตอนกลางคืนช่วงว่างๆค่ะ ขอบคุณที่นำลงมาให้อ่านค่ะ
โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 23 สิงหาคม 2562 เวลา:7:05:08 น.
  
เรื่องกลับตาลปัตรซะแล้ว ศัตรูกลายเป็นคนดีซะงั้น
ไป่จิงเหวิน เดิมเคยร้าย ตอนนี้ ดีที่ 1 เลยน้า พ่อเทพบุตร อิอิ

ขอเพียงแต่ระหว่างทางไปเมืองหลวงนี่ อย่าไปโดนอะไรเคาะหัวเข้าละ สมองกระทบกระเทือน เดี๋ยวจำความเดิมได้ กลัวจะกลับมาร้ายอีกนะครับ 555

โดย: multiple วันที่: 23 สิงหาคม 2562 เวลา:7:06:55 น.
  
สุขสวัสดีครับ คุณก๋า
มาอ่านต่อครับ
ทหารต้าซ่ง ยังไม่มีใครจำไป่จิงเหวินได้
1 ต่อ 50 ชนะเหงื่อยังไม่ทันออก ไม่กี่กระบวนท่า
หนังเหนียวจากยันต์เกราะเพชร
เรื่องยันต์เกราะเพชร พอรู้บ้างว่ามาจากหลวงพ่อองค์ใด หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ฯ
แต่เรื่อง คงกระพันชาตรี ประสบการณ์จากยันต์เกราะเพชร ไม่ได้อ่านเพิ่มเติมครับ

เลิกงาน ฝนตกหนักอีก ค่ำๆก็ยังตกโปรยปรายตลอด

โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 23 สิงหาคม 2562 เวลา:8:17:00 น.
  
ว้าว ๆ ได้ใช้วิชาวิทยายุทธมังกรพยัคฆ์บูรพาปราบมารซะที
นี่ขนาดเบาๆนิ...บรรยายเห็นภาพการต่อสู้กันเลยค่ะคุณก๋า
มีอิทธิฤทธิ์ของ “ยันต์เกราะเพชร” ด้วย
สงสัยเรื่องนี้มีพระเอกสองคนนิ
โดย: Tui Laksi วันที่: 23 สิงหาคม 2562 เวลา:8:33:03 น.
  
เอนทรี่นี้บทบู๊มันมากค่ะ 5555


คนดี คนร้าย มันอยู่ที่เค้าไปเจอตอนไหนจริงๆ นะคะ

ทหารที่เขาปกป้องบ้านเมือง เตบูจินก็ต้องฆ่า ครอบครัวเขาเหล่านั้นก็ต้องคิดว่าเตบูจินร้าย เพราะทหารก็ทำหน้าที่ของเขาเหมือนกัน

บางทีดีร้าย มันก็ตัดสินอะไรได้ยากจริงๆ แหละค่ะ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 23 สิงหาคม 2562 เวลา:8:58:19 น.
  
บ๊อบบี้สำหรับโอเล่ จะต๊องๆ แต่ฝรั่งข้างบ้านที่เมกาเขากลัวมากๆ

หลังบ้านจะมีรั้วกั้นแบบไม้ บักสีดาเขากลัวหมาหลุดข้ามไปที่บ้าน

ของเขาค่ะคุณก๋า เป็นหมาบ้าพลังค่ะ
โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 23 สิงหาคม 2562 เวลา:9:25:47 น.
  
หลายวันนี้จะยุ่งๆมากเลยค่ะ คุณก๋า
พี่ไว้ตามอ่านย้อนหลัง
วันนี้จะกลับบ้านป่าไปจนกลับวันอาทิตย์ค่ำๆค่ะ
แต่ทุกๆค่ำๆก็จะเข้ามาเยี่ยมเพื่อนๆ
กลางวันอยู่แต่ในป่า
ฝากบ้านด้วยนะคะ

โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า วันที่: 23 สิงหาคม 2562 เวลา:9:44:45 น.
  
สวัสดีมีสุขค่ะ

ส่งกำลังใจก่อน ค่อยตามอ่านใจจอคอมพ์ค่ะ
มือถือไม่สามารถ ผู้เฒ่าจิบ้านหมุนค่ะ
โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 23 สิงหาคม 2562 เวลา:10:00:20 น.
  
สวัสดี จ้ะ น้องก๋า

ไป่จิงเหงิน ตอนนี้ ได้ใช้วิชาที่เรียนมา ปราบคนชั่วได้
อย่างดี เรียกว่าใช้วิชาไปในทางที่ถูก พวกที่ทำชั่ว ก็ได้รับ
กรรมชั่วตอบสนอง ตามพุทธวัจนะ เนาะ

แต่ละประเทศ ก็หนีไม่พ้นจะมีข้าราชการชั่ว ๆ แบบนี้
อ่านแล้ว ก็คิดถึงเรื่อง เปาบุ้นจิ้น และ จั่นเจา เนาะ

รออ่านต่อพรุ่งนี้ จ้ะ กำลงตื่นเต้น น่าติดตามการ
เดินทางของ ไปจิงเหวิน จ้ะ

โหวดหมวด งานเขียน ฯ

กรุงเทพฯ แถวบ้านครู ฝนตกไม่หนักนัก ตกไม่นาน
แต่จุดอื่นได้ข่าวว่าตกหนักและน้ำท่วม จ้ะ

โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 23 สิงหาคม 2562 เวลา:10:14:24 น.
  
เพิ่งเห็นว่าพี่เขียนเรื่องนี้ น่าสนใจมากค่ะ
โดย: sawkitty วันที่: 23 สิงหาคม 2562 เวลา:11:43:30 น.
  
มาแล้ววว อ่านเพลินขนาดเจ้า
แต่มาสะดุดตรงที่ท่านแม่ทัพด่าไป่จิงเหวินเนี่ยเจ้า
คำว่า มึง กู มันดูขัด ๆ เจ้า บะคุ้น
เท่าที่เคยอ่านนิยายจีนมา จะได้ยินว่าเจ้า บังอาจ
หรือด่าอีกฝ่ายว่า ทารก ช่างโง่เขลา ประมาณนี้มากกว่า
สุมาตวยเน้อ ถ้าติติงไปแบบบะรู้ความ

แต่อ่านม่วนขนาดเจ้า ดำเนินเรื่องไปได้เร็ว บะยืดยาด
ฉากบรรยายได้เห็นภาพชัด ตื่นเต้น ลุ้น และน่าติดตาม

ละตกลงชาวบ้าน ฮู้จักชื่อจอมยุทธ์ที่ช่วยเหลือพวกเขาก่อเจ้า
เหมือนจะมัวดีใจจ๋นลืมถามชื่อเสียงเรียงนาม

ตอนอ่านบะนึกว่าเป็นพลังวิชาของยันต์เกราะเพชร
พออ่านแล้วเจอเฉลย ทำเอาอึ้ง อัศจรรย์ใจ๊ตวยเจ้า
ม่วน ๆ ย้ำคำเดิมว่า บะน่าเชื่อว่าบะเคยอ่านนิยายจีนมาก่อนเน้อ
ไหลลื่นดีแท้เจ้า

อ่านนิยายคุณก๋าแล้ว
ใจกระหวัดไปถึงหนังสือ ฤทธิ์มีดบิน ที่ทำออกมาเป็นบ็อกเซทใหม่
กับชอลิ้วเฮีย ตอนจอมโจรจอมใจที่เล็งไว้
อยากได้มาครอบครองเจ้า อยากอ่านนิยายจีนกำลังมา
โดยมีบล็อกคุณก๋ากระตุ้น 5555

โดย: JinnyTent วันที่: 23 สิงหาคม 2562 เวลา:12:31:33 น.
  
กี๊สสสสสสส
ถูกบล็อก เพราะคำติติงแน่ๆ เลย แง๊
โดย: JinnyTent วันที่: 23 สิงหาคม 2562 เวลา:12:31:51 น.
  

อุตส่าห์ซุ่มแอบอยู่เงียบๆ คุณก๋าไปขุด เย็น มาจากใน รูนะคะเนี่ยะ ซุ่มแอบอยู่กะจะรอให้จบซีรี่ย์นิยายโรมานซ์นี่ซะก่อน

ที่ซุ่ม ก็เพราะ
ประการที่หนึ่ง ปกติ ไม่ค่อยชอบอ่านนวนิยายสักเท่าไหร่ (ตอนจบ ไม่ได้กัน ก็เลิก ก็ตาย แค่นั้นแหละค่ะ) esp. นวนิยายจีน ตัวละครจะเยอะเรื่องเยอะอ่านแล้วงุนงง ไอคิวไม่ค่อยได้แล้วค่ะ

ประการที่สอง คือ ชื่อเรื่อง มันล่อแหลม เกรงจะติดร่างแหไปดูดโอเลี้ยงชาดำเย็น กินข้าวผัด รอเยี่ยมญาติวันศุกร์ ด้วยน่ะค่ะ

ไป่จิงก๋า เป็นยอดฝีมือในยุทธภพซะแล้ว อ่านเม้นท์มาหลายวันว่ารอฉากโรมานซ์ สงสัยฝึกวิชาแล้วไปจิงเหวินความจำเสื่อมและจะกลายเป็น รักไม้ป่าเดียวกันซะแล้ว 555 " ไสหัวไป เอา...มา"

วันนี้เม้นท์บ้าบอหน่อยนะคะ ไม่ชอบโอเลี้ยงดื่มแล้วนอนไม่หลับ คืออออว่า... นู๋ไม่เกี่ยวนะคร้า
โดย: mcayenne94 วันที่: 23 สิงหาคม 2562 เวลา:12:37:39 น.
  
สวัสดีค่ะ ^^ ทักทายส่งกำลังใจให้พี่ก๋าค่ะ
โดย: kae+aoe วันที่: 23 สิงหาคม 2562 เวลา:13:13:56 น.
  
โดย: ลุงแอ็ดชวนสุขภาพดี (สมาชิกหมายเลข 4365762 ) วันที่: 23 สิงหาคม 2562 เวลา:14:35:25 น.
  
โถ...จำใครไม่ได้ไม่เป็นไร แต่จะลืมเตมูบูจินไม่ได้นะพี่ไป่
โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 23 สิงหาคม 2562 เวลา:15:02:34 น.
  
สวัสดีอีกรอบค่ะ

นั่นสิคะ ไม่ทำเป็นแอนิเมชั่นหละคะ? 555

ตอนเด็กๆ นี่ เราทั้งวาดการ์ตูน เขียนเรื่องสั้นและนิยายเลยแหละค่ะ
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 23 สิงหาคม 2562 เวลา:16:22:12 น.
  
จากบล๊อคครับ

ผมก็เลือกทำสิ่งที่ถูกกับตัวเองกับแฟนครับ
เหมือนพี่ก๋าเลยครับ
แต่แหม่...น่ารักจริงๆ เลยนะครับ มีความมาดามเป็นนัมเบอร์วัน

ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับพี่ก๋า ปล่อยวางได้ไปเยอะเลยครับ
โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 23 สิงหาคม 2562 เวลา:16:23:16 น.
  
ม่วนเน้อ ชอลิ้วเฮียง
เจิ้งเส้าชิว เป็นดาราในดวงใจปี้เลย
ท่าเอานิ้วถูจมูกไปมา เป่าขลุ่ยล่องเรือ
เพลงดาบชั่วพริบตาเดียว ถ้าชักกระบี่นั่นคือได้เลือด

ชอบตอนจอมโจรจอมใจ และมังกรหยกเจ้า
บะฮู้ตอนไหนที่แสดงกับหมี่เซียะ แห๋ม
เป็นหนังจีนดาบที่ติดตอนสมัยวัยเด็ก วัยประถม/มัธยมเลยเจ้า

ลี้คิมฮวง เกยดูละครบะได้อ่าน
มาอ่านตอนวัยรุ่น กะมีมังกรหยก ทั้ง 3 ภาคเลย
ทั้งก๋วยเจ้ง+อึ้งย้ง / เอี้ยก๊วย+เซียวเล่งนึ่ง / เตียบ่อกี+เตียวเมี้ยง
นอกนั้นกะจะเป็นเจาะเวลาหาจิ๋นซี เซียวหื้อยี้ หลุดจากนี้

กะเป็นผู้ใหญ่แล้ว เป็ฯจีนยุคสมัยละ
อย่าง เจินหวน ผลาญ ป่าท้อฯ
แต่ละเรื่องยาว เจินหวนกะ 10 เล่มจบ อ่านตาลายเลย
จังตรงที่นิยายจีนมันแปง นี่อยากได้ภาคต่อของป่าท้อฯ
4 เล่มจบ 2,200 ก่อน อดเอา บะซื้อเตื้อไค่อ่านขนาด 555

โดย: JinnyTent วันที่: 23 สิงหาคม 2562 เวลา:19:10:47 น.
  
สวัสดียามค่ำค่ะคุณก๋า
โดย: สันตะวาใบข้าว วันที่: 23 สิงหาคม 2562 เวลา:20:31:25 น.
  
แวะมาทักทายคะพี่ก๋า
โดย: blog pu วันที่: 23 สิงหาคม 2562 เวลา:20:41:47 น.
  
ตอนคุณแม่พี่สอนพี่ปูผัดผัก พี่ปูยังใส่เครื่องปรุงไม่ค่อยถูก
แล้วผัดผักต้องไฟแรง ผัดเร็ว คุณยายก็เลยให้เอาผักและ
เครื่องปรุงรสทุกอย่างใส่กาละมังเล็กๆ ใส่น้ำซุปลงไปเล็กน้อย
ตั้งกระทะให้ร้อนจัด ใส่น้ำมันแล้วเทลงไปหมดกาละมัง
ผัดไปมาพอผักสุกก็ตักขึ้นหมด เป็นวิธีที่ง่ายสุดและ
อร่อยมากค่ะ บอกมาเผื่อคุณก๋าจะลองดูนะคะ

โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า วันที่: 23 สิงหาคม 2562 เวลา:20:55:01 น.
  
แปดเทพอสูรมังกรฟ้า
อั้นกะต้องจำคุณชายเตี้ยอ้วน อ้วนเตี้ย
เอ๊ย ต้วนอี้ อิอิ
ปี๋หนา จำคุณชายเตี้ยอ้วนตลอด 5555
โดย: JinnyTent วันที่: 23 สิงหาคม 2562 เวลา:20:57:20 น.
  
เนื้อเรื่องตอนนี้กลายเป็นผู้พิทักษ์คุณธรรมไปแล้ว ไม่แปลกที่คนที่โดนกดขี่จะไม่ชอบ ไม่ว่าจะเป็นระดับองค์กร หรือแม้แต่ประเทศก็เหมือนกันหมด ไม่มีใครชอบโดนกดขี่ หรือโดนเอาเปรียบหรอก
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 23 สิงหาคม 2562 เวลา:23:26:30 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Kawaka.BlogGang.com

กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]

บทความทั้งหมด