เฉลียง
ขอเขียนถึงเฉลียงอีกซักวันแล้วกัน

เราเคยถามตัวเองว่า เราชอบเฉลียงจริงรึเปล่า

เราชอบตามคนอื่นป่าววะ ?

เราชอบเพราะอยากจะทำตัว cool ป่าว ?

หรือเราแค่หลงใครคนหนึ่งในเฉลียง ?

หลงความหล่อเหลาเอาการของ พี่เจี๊ยบ หรือหลงความขาวผ่องของ พี่จุ้ย หลงความผอมเพรียวของ พี่แต๋ง หลงความน่ารักของ พี่ดี้ หลงคารมของ พี่นกกับพี่เกี้ยง หรือหลงไหลในเนื้อเพลงของ พี่จิก

ไม่ว่าอะไรทั้งนั้น เราเคยสับสนว่าเราชอบเฉลียงอย่างจริงใจหรือไม่

ทุกอย่างระหว่างเรากับเฉลียง เกือบจบลง

แต่ความทรงจำต่างๆก็กลับมาอีกครั้ง หลังจากดูรายการ ย้อนรอย

เราเดินทั่วห้องพร้อมกับร้องเพลงเสียงดัง อย่างมีความสุข

ลัลลัลลา เด็กน้อยสารภี ลัลลัลลา ไม่ยอมฟังครู
ลัลลัลลา ครูเงื้อไม้ตี ลัลลัลลา สารภีตีตอบ

ทุกเพลงที่พูดถึง เราร้องได้เกือบหมด
เราจึงแน่ใจว่าเรารักเฉลียงจริงๆซะแล้ว

เริ่มต้นฟังเฉลียงตั้งแต่อยู่ชั้นประถม ใจจริงอยากดูการ์ตูน แต่ดั๊นมีลูกพี่ลูกน้องที่เป็นวัยสะรุ่น ชอบดูแต่คอนเสิร์ต ทั้งโลกดนตรี 7สีคอนเสิร์ต เราเลยต้องฟังไปด้วย

ฟังไปเรื่อยๆ เราเริ่มคิดตามเพลง แต่ก็คิดเเบบเด็กๆ ตามที่เข้าใจ พอเห็นเพื่อนร้องไห้ เราก็จะร้องเพลงให้เพื่อนฟัง
"ร้องเถิดร้องเพลง ถ้าอยากจะร้องจงร้องไป
ร้องเถิดร้องไห้ ถ้าได้ร้องแล้วลืมมัน"

เพื่อนก็จะหยุดฟัง (เพราะไม่รู้ว่าเราบ่นอะไร)

เราอ่านหนังสือไปรยาลใหญ่ ของพี่จุ้ยตั้งแต่ยังเล็ก ไม่ได้เห็นคุณค่าอะไรนักหนา บางทีเห็นรูปสวยๆ ยังตัดเอามาเล่นด้วยซ้ำไป แต่หนังสือเหล่านั้น ถึงแม้จะยับเยินยังไง ก็ยังในห้องนอนเราอยู่ดี

เรากล้าพูดได้เต็มปากว่านิสัยการมองโลกในแง่ดีของเรามาจากเฉลียงมากกว่าครึ่งหนึ่ง

"ฟ้าสีคราม เมฆปุยขาวมีสองปุย สวยทั้งสองปุย อยู่ที่เขาที่เราคุย ฟ้าที่แสนงานแขวนเมฆขาวเป็นร้อยปุย ปุยทุกปุยปุยจะสดสวยเพราะเราดู"

ทุกประโยคที่อยู่ในใจเรา เราเอามาใช้ได้กับชีวิตจริง

เรามองโลกอย่างเข้าใจในแง่มุมของเฉลียงผสมกับมุมของตัวเอง

หากเรามองว่าเฉลียงคือลัทธินึงก็คงได้
ลัทธิที่มีมุมมองประหลาดๆ แต่ไม่ทำร้ายใคร ไม่ได้ทำให้ใครหลงเชื่ออย่างไร้เหตุผล หรืออาจไม่เชื่อจนถึงขั้นมองว่าไร้สาระเลยก็ได้ แต่หากมองด้วยหัวใจเบลอๆ (เหมือนที่เพื่อนสอนให้มองภาพสามมิติ ที่จนปัจจุบันก็ยังมองไม่ออก) เราจะมองเห็นความจริงบางอย่าง เรื่องดีๆอยู่รอบตัวเรา เรื่องร้ายๆที่ใครๆก็พบเจอเหมือนกัน แล้วก็ผ่านไป

เราดีใจที่เราเกิดมาแล้วถูกหล่อหลอมกล่อมด้วยเพลงของเฉลียง และกินหนังสือไปยาลใหญ่แทนนมข้นหวานเราจึงไม่หวานเกินไป

ทุกครั้งที่เรามองเห็นเมฆบนฟ้า ก็ยังเห็นความงามของมัน เราทำความเข้าใจกับความผิดหวังได้ดีกว่าคนปกติ

แค่นี้เราก็มีความสุขแล้ว

ขอบคุณพี่เฉลียง
ถ้าใครเจอฝากบอกด้วยว่าเรา รักเค้าจริงๆซะแล้ว




Create Date : 12 กรกฎาคม 2550
Last Update : 12 กรกฎาคม 2550 14:31:16 น.
Counter : 530 Pageviews.

1 comments
อุ้มสีมาทำบุญ ๙ วัด ในวันขึ้นปีใหม่ที่จ.อุบลราชธานี อุ้มสี
(3 ม.ค. 2567 19:10:02 น.)
สวัสดีปีใหม่ Rain_sk
(1 ม.ค. 2567 21:38:33 น.)
No. 1259 สาระเกือบมี (ตอนทำงานที่ใหม่ ถูกลองดี) ไวน์กับสายน้ำ
(1 ม.ค. 2567 05:58:05 น.)
สวัสดีปีใหม่ Rain_sk
(1 ม.ค. 2567 21:38:33 น.)
  
คำถาม มีอยู่ว่า ???
เราชอบตามคนอื่นป่าววะ ?
เราชอบเพราะอยากจะทำตัว cool ป่าว ?
หรือเราแค่หลงใครคนหนึ่งในเฉลียง ?
...................................................................
นานพอควร...นะแต่เรารู้ว่าซักวันต้องมีblogนี้
เฉลียง...หลังบ้าน เอกขเนก แบกะบาล ฯลฯ
....................................................................
คำตอบ มีอยูว่า
เราไม่คิดว่าความชอบมันจะเลียนแบบกันได้..แต่เป็นเพราะ
คนที่ชอบอะไรๆเหมือนกันเค้าคงจะมีอะไรเหมือนๆกันมากกว่า

เราไม่เคยคิดว่าเฉลีงจะทำให้เราดู cool ได้..เพราะเรา cool ของเราอยู่แล้วแต่น้อยคนนักที่จะมองเห็น

ตัวศิลปินและวงคงจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่เรารู้จักในเฉลียง
ดังนั้น คงไม่มีใครในเฉลียงที่จะทำให้เราหลงได้
ความหมาย เนื้อเพลง เสียงร้อง เสียงดนตรี และมุมมองต่างหาก ที่เราได้จากเฉลียง แต่จะได้อะไรบ้างหนะเหรอ comment นี้คงจะต้องยาวมากๆแน่เลย

เอาเป็นว่าสำหรับเราถ้าจัดระดับความสำคัญ
สิ่งมหัศจรรย์อันดับ 3 ของโลก คือดนตรี
3.1 เฉลียง แน่ๆ

โดย: dakanda IP: 203.150.143.34 วันที่: 13 กรกฎาคม 2550 เวลา:15:17:27 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Jukebox.BlogGang.com

somland
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]