Review Nokia Lumia 920 มือถือ WP8 สุดร้อนแรงและแล้วก็ถึงวันที่ยักษ์ตื่น! Drop Test กันสดๆ! : ตอนแรก
สำหรับมือถือ Nokia Lumia 920 เป็นมือถือที่ทำเอาแฟนๆ Nokia ยิ้มออก
ซักทีนะครับ เพราะทาง Nokia ก็ดูแผ่วๆไปซะนานเลย การกลับมาครั้งนี้ก็
ไม่ธรรมดาครับเพราะเจ้า Nokia Lumia 920 เป็นมือถือ Windows Phone 8
ที่มีจุดขายน่าสนใจมากๆเลยทีเดียว
ท่านใดสนใจไปอ่าน Review Nokia Lumia 920 ตอนจบได้ที่นี่ครับ//www.bloggang.com/mainblog.php?id=joker-master&month=07-12-2012&group=2&gblog=145
ทั้งการออกแบบที่เรียบหรูมีเอกลักษ์ วัสดุคุณภาพดีงานประกอบไร้รอยต่อ
Unibody และหน้าจอที่มีจุดเด่น PureMotion HD+ ซึ่งผมว่าเป็นนวัตกรรมที่
มีความโดดเด่นมากเพราะสามารถรองรับภาพเคลื่อนไหวในอัตรา 60fps ซึ่ง
ช่วยลดการเบลอของภาพเคลื่อนไหวให้คมชัดยิ่งขึ้น และในส่วนของกล้อง
ที่หลายๆคนเอามาเกทับกันอยู่ตอนนี้เพราะกล้องของเจ้า Nokia Lumia 920
มาพร้อมเทคโนโลยี Nokia PureView ซึ่งจะแตกต่างจาก Nokia 808 เพราะ
จะไม่ได้ชูจุดเด่นเรื่องเซนเซอร์ขนาดใหญ่ แต่จะไปเน้นเรื่องของการป้องกัน
ภาพสั่นไหวด้วยระบบ OIS ซึ่งเป็นการกันสั่นด้วย HW ทำให้ภาพที่ได้คมชัด
และไหวน้อยลงในการถ่ายวีดีโอ รวมทั้งยังมีรูรับแสงที่กว้างถึง F2.0 ทำงาน
ร่วมกับเซ็นเซอร์ BSI ทำให้แม้ในที่แสงน้อยก็ยังให้ภาพที่สว่างชัดเจน
นอกจากนี้ในส่วนของกล้องยังมีลูกเล่นถ่ายภาพ Panorama, Smart Shoot
และ Cinemagraph ที่ใช้งานได้สนุกมากครับ
และหน้าจอของ Nokia Lumia 920 มีเทคโนโลยี Super Sensitive Touch
สามารถใส่ถุงมือ หรือใช้ของแข็งสัมผัสควบคุมหน้าจอได้ (ซึ่งทำมาเพื่อให้
คนเมืองหนาวใส่ถุงมือใช้งานมือถือได้นั่นเอง)
นอกจากนี้ในส่วนของโปรแกรมนำทาง Nokia Drive+ (Beta) ซึ่งใช้รวมกับ
Nokia Map สามารถโหลดแผนที่ประเทศ และใช้งานแบบออฟไลน์ได้ก็เป็น
จุดขายที่น่าสนใจไม่เบาเลย และโปรแกรมอย่าง Nokia City lens ก็ดูเจ๋งดี
ครับ (เป็น App ที่ใช้เทคโนโลยี AR ยกตัวอย่างก็เช่น Layar นะครับ)
Spec Nokia Lumia 920รองรับ 3G ได้ทุกเครือข่าย
ขนาดตัวเครื่อง 130.3 x 70.8 x 10.7 มม. น้ำหนัก 185 กรัม
Nokia Lumia 920 จะมีหน้าจอขนาด 4.5 นิ้ว IPS-LCD HD ความละเอียดสูง
1280 x 768 pixels (332 ppi) เทคโนโลยี Nokia ClearBlack และ Nokia
PureMotion HD+ (มีใน Nokia Lumia 920 เท่านั้น)
เทคโนโลยี Super Sensitive Touch ใส่ถุงมือหรือใช้ของแข็งสัมผัสควบคุม
หน้าจอได้
CPU Qualcomm Dual Core 1.5 GHz Snapdragon S4, RAM 1GB หน่วย
ความจำภายใน 32GB (มองเห็น 29.12GB) และฟรี SkyDrive 7GB
กล้องความละเอียด 8.7MP (เลนส์ Carl Zeiss) มี AF และไฟแฟลช Dual
LED และมาพร้อมเทคโนโลยี Nokia PureView ป้องกันภาพสั่นไหวด้วยระ
บบ OIS, รูรับแสงกว้าง F2.0, เซ็นเซอร์ BSI
บันทึกวีดีโอ Full HD 1080P 30fps และกล้องหน้า 1.2MP บันทึกวีดีโอ HD
720P
WiFi 802.11b/g/n/a, Wi-Fi Hotspot, GPS รองรับ Geotagging, Nokia
Maps และนำทางด้วย Nokia Drive, Bluetooth 3.0 + EDR, NFC, DLNA
แบตเตอรี่ความจุ 2000 mAh รองรับระบบชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สายมาตรา
ฐาน Qi (ไม่สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่เองได้)
ราคา 21500 บาท

กล่องของเจ้า Nokia Lumia 920 จะใช้วัสดุที่รักษ์โลก ซึ่งสามารถนำกลับมา
Recycling ได้ซึ่งไม่ใช่แค่กล่องแต่ตัวเจ้า Nokia Lumia 920 เองก็สามารถ
นำกลับมา Recycling ได้เช่นกันครับ
ด้านหลังกล่องมีโชว์ทีเด็ดต่างๆเอาใว้ด้วย อิอิ มีบอกอุปกรณ์ในกล่องว่ามีอะ
ไรบ้าง มาพร้อม Nokia Drive, Nokia Map และ Nokia Music เลนส์กล้อง
Carl Zeiss Optics, เทคโนโลยี PuerView และ PureMotion HD+, CPU
Snapdragon, Wireless Charging (ผมหาซื้อแบบตั้งไม่ได้อ่ะครับ Nokia
สาขาพระราม 2 ไม่ได้เอามาขายอ่ะอยากได้มากครับ^^), Dollby Mobile

เปิดกล่องออกมาจะเห็นเจ้า Nokia Lumia 920 นอนหล่ออยู่เลย เครื่องใหม่
แกะกล่องต้องหุ้มพลาสติคมิดชิดนะครับ พอยกเครื่องขึ้นมาก็จะเห็นอุปกรณ์
สำหรับจิ้มถาดใส่ซิม

อุปกรณ์ในกล่องก็จะมีหูฟัง (สีจะตรงกับเครื่องครับ เช่นใครซื้อสีแดงก็จะได้
หูฟังสีแดง^^น่ารักดีนะครับ) และมีจุกหูฟังมาให้เปลี่ยนหลายขนาด, สาย
Micro USB, Adpater ลักษณะกลมๆ และกล่องใส่คู่มือ

Nokia Lumia 920 ใช้ซิมแบบ Micro Sim

งานออกแบบของ Nokia Lumia 920 ดูคล้าย Nokia Lumia 900 มากครับ
ต่างกันก็ตรงขนาดใหญ่ขึ้น และรายละเอียดต่างๆ
หน้าจอขนาด 4.5 นิ้ว IPS-LCD HD ใช้เทคโนโลยี Nokia ClearBlack เช่น
เคยหน้าจอดูสวยมากครับ และสามารถใส่ถุงมือบังคับหน้าจอได้จริงๆ หรือ
จะใช้ของแข็งอย่างเล็บหรือช้อนก็สามารถใช้ได้เช่นกัน (ต้องกดๆนิดนึงฮะ)

เหนือหน้าจอจะมีช่องลำโพงสนทนา เสียงที่ได้ดังชัดเจนดีครับ ระดับเสียงจะ
สามารถปรับได้ 10 ระดับจะมีข้อติก็ตรงใช้ไปนานๆ ฝุ่นสามารถเข้าไปขังได้
ครับ จะทำให้ดูไม่สวยงาม (ผมชอบแบบมีตระแกรงปิดมากกว่านะ) ถัดมาจะ
เป็นกล้องหน้ามีความละเอียด 1.2MP บันทึกวีดีโอ HD 720P และเซ็นเซอร์
ส่วนโลโก้ของ Nokia จะอยู่ริมด้านขวา

ด้านล่างหน้าจอจะประกอบด้วยปุ่มสัมผัส 3 ปุ่มได้แก่ Back, Home, search
(ค้นหาด้วย Bing) ใช้แสงไฟสีขาวนวลๆ

ด้านหลังเรียบๆมีกล้องอยู่ในกลอบโลหะเงาวับตรงกลางเครื่องความละเอียด
8.7MP (เลนส์ Carl Zeiss), Dual LED บันทึกวีดีโอ Full HD 1080P 30fps
มาพร้อมจุดขายเทคโนโลยี Nokia PureView วัสดุของ Nokia Lumia 920
จะเป็นโพลีคาร์บอเนตสำหรับสีดำและสีเทาจะมีการเคลือบผิวด้านยางๆหนืดๆ
มือหน่อยครับ ส่วนสีอื่นๆแดง, ขาว, เหลืองจะเป็นแบบผิวเงาวับเลย

ด้านบนประกอบด้วยถาดใส่ซิม, ช่องหูฟังขนาด 3.5 มม., ช่องไมค์ตัดเสียง
รบกวน

ด้านล่างมีพอร์ท Micro USB, ลำโพงคู่ (เสียงที่ได้ดังดีครับ สามารถปรับได้
30 ระดับ) และมีน็อตยึดใว้ทั้ง 2 ด้าน

ด้านซ้ายเรียบๆ ตัวเครื่องจะมนๆทำให้จับแล้วสบายมือ (แต่ก็ทำให้เครื่องลื่น
ครับก็ถือกันระวังๆหน่อยนะฮะ โดยเฉพาะเครื่องสีๆวัสดุผิวมันจะเงาๆยิ่งลื่น)

ด้านขวามีปุ่มปรับระดับเสียง, ปุ่ม Power และปุ่มชัตเตอร์กล้อง
สำหรับภายนอกของ Nokia Lumia 920 ผมว่าดูสวยมากครับ วัสดุดูดีมากถึง
จะเป็นโพลีคาร์บอเนตไม่ใช่โลหะก็ตาม งานประกอบเนี๊ยบมากครับจะติก็ตรง
น้ำหนักที่ค่อนข้างมาก 185 กรัมและขนาดที่ค่อนข้างหนาและลื่น ทำให้เสียว
หลุดมือไม่น้อยครับ
ซึ่งส่วนตัวผมก็เรียบร้อยแล้วครับ....ด้วยความสูงระดับเหนือหัวผมเลยละ ผล
ออกมาเป็นแค่รอยถลอกปอกเปิกนิดหน่อยเองครับ นอกนั้นปกติดีทุกอย่าง
ตอนแรกเสียวจอจะแตกมากๆครับ เพราะหล่นสูงมากๆเลยแถมพื้นที่หล่นก็มี
เศษหินอยู่เพียบและเป็นพื้นดินแข็งๆอีกด้วยผมว่าเจ้า Nokia Lumia 920 มัน
ทนทานมากเลยนะครับเนี่ย เหลือเชื่อจริงๆ

ในส่วนแบตเตอรี่แรกๆเลยแบตจะไม่ค่อยอึดครับ ขนาดพยายามใช้ไม่มาก
เท่าไหร่แล้วก็ตาม แต่ยิ่งใช้ไปหลายๆวันแบตเตอรี่ก็ยิ่งอึดขึ้นเรื่อยๆนะครับ
จนหลังสุดอย่างที่เห็นในภาพครับ ทั้งๆที่ก็ถ่ายรูปทั้งวันเลยนะเนี่ย^^

สำหรับตอนแรกของ Nokia Lumia 920 ขอจบเพียงเท่านี้ก่อนครับ เดี๋ยวใน
ส่วนของการใช้งานและตัวอย่างภาพถ่าย (ที่ถือเป็นจุดขายสำคัญของรุ่นนี้)
รวมทั้งข้อดีและข้อเสีย และจะสรุปด้วยว่า Windows Phone 8 มันเป็นอย่าง
ไรบ้างในตอนจบนะครับ

(พอดีผมไปเที่ยวจังหวัดเลยมานะครับ ก็เลยต้องขอแบ่งเป็น 2 ตอน แหะ
แหะ จริงๆอยากจะเขียนตอนเดียวจบนะเนี่ย)

จากใจผมไม่ได้อยากจะทดสอบ Drop Test Nokia Lumia 920 เลยนะ=_=
ตอนนั้นใจแป้วสุดๆ อึ้งไปเลยครับ ซิก ซิก แบบนี้ผมโม้ไม่ได้แล้วนะเนี่ยว่า
ไม่เคยทำมือถือหลุดมือมานานแล้ว เหอ เหอ

ของผมใช้มา 9 วันละ ยังไม่ได้ขนาดนี้เลย
แบตยังอยู่ไม่ถึงช่วงค่ำๆเลยครับ