พอดีทาง Samsung ให้ยืม Wave II มาลองเล่นนะครับ ก็เลยว่าจะมาเขียน
แกะกล่องให้เพื่อนๆได้อ่านกันซักหน่อย ส่วนตัวผมประทับใจเจ้า Wave ตัว
แรกมากนะฮะ ถึงมันจะมีข้อบกพร่อง และเมื่อเทียบกับระบบอื่นๆ App ของ
Bada ค่อนข้างจะน้อยกว่ามากๆ แต่โดยตัวของ Bada เองผมว่าทำมาดีเลย
ละ และมันดูจะพัฒนาได้อีกเยอะครับ (แฟนผมยังชอบมากเลยนะเนี่ย มัน
ง่ายๆดี อิอิ)
สนใจไปอ่าน "Review Samsung Wave II เหล้าเก่าในขวดใหม่ ความคุ้ม
ค่าที่น่าลอง พร้อมตัวอย่างภาพถ่ายครับผม!" กันได้ที่นี่ครับ//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=joker-master&month=12-2010&date=16&group=2&gblog=47สัมผัสแรกผมรู้สึกว่าเจ้า Wave II มันไม่ได้ต่างจาก Wave รุ่นแรกเท่าไหร่
เหมือนกับว่าขนาดมันไม่ต่างกันมาก แต่จริงๆมันใหญ่กว่าพอดูนะ และวัสดุ
การประกอบยังยอดเยี่ยมเหมือนเคย เป็นโลหะด้านๆสวยหรูมาก แต่ในส่วน
พลาสติคสีดำเงาที่อยู่ด้านบน และด้านล่างของตัวเครื่องที่ผมไม่ชอบเอาซะ
เลยก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม แหมจะปรับโฉมทั้งทีน่าจะเอาออกอ่ะ มันเป็นรอย
ง่ายสุดๆครับ ต่อให้ถนอมก็ตาม และหน้าจอขนาด 3.7 นิ้วมันก็ดูใหญ่เต็มตา
ดีครับ แต่เรื่องความคม และความสดของสีนี่เทียบกับ Wave รุ่นแรกไม่ติด
จริงๆฮะ น่าเสียดายนะเนี่ยถ้ารุ่นนี้ยังคงใช้จอ Super AMOLED ผมว่ามันจะ
ต้องดังเปรี้ยงอีกรอบแหงๆ


รูปร่างภายนอกไม่ต่างจากเดิมครับ มีแตกต่างก็แค่ตรงลายละเอียด ตาม
Spec เจ้า Wave II ใช้ CPU Cortex A8(Hummingbird) 1GHz และแรม
512 MB โคลนแบบเครื่องแรงๆมาจาก Wave ตัวแรกเป๊ะๆ ลักษณะหน้า
จอจะไม่มีลักษณะเว้าๆแบบรุ่นแรกแล้ว แต่เรียบตรงธรรมดา (ผมว่าแบบ
เดิมสวยกว่าอ่ะ มันดูมีมิติดีครับ) หน้าจอของ Wave II มีขนาด 3.7 นิ้ว
เป็นจอแบบ Super Clear LCD 16 ล้านสี ความละเอียด 480x800 Pixel
ซึ่งหน้าจอมันสวยสู้ Super AMOLED ไม่ได้ละครับ แต่ก็มีขนาดใหญ่กว่า
มาแทน ซึ่งผมว่าถ้าไม่เกิดเหตุจอ Super AMOLED ผลิตไม่ทันก็คงไม่มี
เจ้า Wave II ในวันนี้แหงๆ อิอิ

ด้านบนเขียนใว้ชัดเจนครับ NOT FOR SALE อิอิ ลักษณะตำแหน่งต่างๆก็
จะเหมือน Wave รุ่นแรกครับ กล้องหน้ามีความละเอียด VGA สำหรับใช้งาน
VDO Call แต่ก็ประยุคใช้จับภาพได้เหมือนกันโดยลงโปรแกรมเสริม และ
ลำโพงสนทนาเสียงดังชัดเจนดีครับ (ขนาดเสียงเบาๆอย่างแฟนผม ยังได้
ยินชัดปกติเลยละ อย่างเจ้า Wave รุ่นแรกผมฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเลยครับ บาง
ทีต้องเดา กลัวโดนเธอโวยอ่ะ)

ด้านล่างปุ่ม Home จะไม่มีลักษณะยื่นขึ้นมาแล้ว จะแบนและเว้าลงไปนิด
หน่อยซึ่งผมว่ากดสบายนิ้วขึ้น และปุ่มรับสาย-วางสายที่รุ่นแรกใช้วัสดุโลหะ
ใน Wave II เปลี่ยนเป็นพลาสติคแข็งผิวด้านทำสี และลายให้กลมกลืนแทน

ด้านซ้ายจะมีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง (ใช้เป็น Zoom In, Zoom Out ในโหมดกล้อง
ได้ครับ)

ด้านขวาจะมีปุ่มล็อคเครื่อง และถัดมาจะเป็นปุ่มกล้อง

ด้านบนมีช่องเสียบที่ชาร์ต และต่อสาย Micro USB และมีที่ปิดแบบเลื่อน
เรียบร้อย ถัดมาเป็นช่องต่อหูฟังแบบ 3.5 และถัดมาเป็นรูลำโพงครับ จากที่
ได้ลองลำโพงดูเสียงดูจะเบาลงนิดหน่อย แต่เสียงฟังดูดีขึ้นครับจากเดิมจะ
ออกแตกนิดๆนะครับ (หรือเพราะมันเบาลงนะ เสียงเลยไม่แตก) แต่ก็จัดว่า
ยังดังชัดเจนครับ

ด้านหลังนอกจากขนาดเครื่องแล้ว เหมือน Wave รุ่นแรกเปี๊ยบครับ ฝาหลัง
แกะออกง่ายเช่นเคย วัสดุโลหะดูสวยมากๆ

กล้องของ Wave II มีความละเอียด 5MP และถ่าย VDO ได้ระดับ HD 720P
มาพร้อมไฟแฟรสแบบ LED เหมือนเดิมครับ ซึ่งคุณภาพของกล้องจะยกใว้
ในบท Review ให้อ่านกันอีกทีนะฮะ

แบตของ Wave II ให้มา 1500 mAh เท่ากับรุ่นแรก แต่ด้วยชนิด และขนาด
ของจอ เท่าที่ลองเล่นดูผมว่าแบตหมดเร็วกว่ารุ่นแรกพอสมควรครับ ถ้าเล่น
หนักๆน่าจะต้องชาร์ตกันวันต่อวัน ผมลองชาร์ตใว้เมื่อคืนเสร็จตอนประมาณ
ตี 3 เปิดเครื่องใว้จนตื่นมาเกือบๆ 11โมง แบตลดลงเหลือ 95% จากนั้นตอน
เที่ยงกว่าๆต่อ WIFI เล่นอยู่นาน วางพักบ้าง หยิบเล่นต่อบ้างจนถึงบ่ายสาม
โมงกว่าๆ จากนั้นก็เอามาถ่ายภาพเล่นนิดหน่อย เปิดเกมเล่นบ้างจนถึงตอนนี้
สองทุ่มเศษๆแบตเหลือ 40% ครับ
ก็จบแกะกล่องเจ้า Wave II ใว้เท่านี้นะครับ เดี๋ยวผมขอเล่นมันอีกซักพัก
แล้วจะมา Review ให้อ่านกันต่อนะครับ

