ทรงพระเจิรญ ไปเมื่อปีที่แล้ว คิดถึงความลำบากของการไปตั้งแต่การเดินทางไปรถเสียต้องติดรถคันอื่นไป เหนื่อยเดิน ร้อน หิว แต่เพื่อในหลวงลืมความลำบากทั้งหมด นึกถึงคนชุมนุมตอนนี้คงลำบากกว่าหลายเท่าแต่เพื่อชาติและในหลวงพวกเขาคงลืมความลำบาก ด้วยใจรักและศรัทธา ไปถึงตั้งแต่ตีสี่กว่า เดินตั้งแต่วัดโสมนัส จนถึงพระบรมรูปทรงม้า ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() พระอาทิตย์เริ่มขึ้นคนก็เริ่มแน่นมาเพิ่มเรื่อยๆ ![]() ![]() ![]() เจ้าหน้าที่พาซ้อมโบกธง"ทรงพระเจริญ"ฆ่าเวลา ![]() ไปห้องน้ำลำบากมาก กว่าจะออกจากที่กั้นได้ กว่าจะเดินผ่านคนได้ หันหลังไปดู คนเยอะขึ้นมากกก ![]() ![]() สายมาที่นั่งแทบไม่มีแล้วจ้า ![]() อากาศเริ่มร้อนอบอ้าว ถึงแม้แดดยังไม่แรง คุณหมอน่ารักพากันเอายาดมมาแจก ![]() ![]() ![]() ตั้งใจถ่ายรูปเจ๊นี้โดยเฉพาะแกจัดเต็มชุดรักในหลวง ![]() ![]() ![]() เริ่มพิธี ด้านขวามือเขาดิน ![]() จุดพลุเสียงดังนกบินแตกฮือ ![]() มุมด้านซ้าย สีแดงไกลลิบคือ ขบวนทหารม้าเดินสวนสนามเข้ามาในพิธี ![]() ![]() เวลาที่รอคอย ในหลวงและราชวงศ์เสด็จมาแล้ว ลุกขึ้นยืนโบกธงถวายพระพร ในหลวงและราชวงศ์ และในหลวงทรงพระราชดำรัส ![]() "ทรงพระเจริญ" ๆๆๆๆๆๆๆ ลุกขึ้นยืนโบกธงกล่าวทรงพระเจริญกัน เสียงดังกึกก้องทั่วบริเวณ ทุกคนเปล่งเสียงทรงพระเจิรญกันถ้วนหน้าอย่างจงรักภักดี ตื่นเต้นปลื้มปิติมากโดยอัตโนมัติ ลืมเหนื่อย ลืมร้อนเพราะแดดเริ่มแรงถึงแม้จะมีเฆมบดบังบ้าง ลืมหิวไม่ได้กินข้าวเช้าหาซื้อแถวนั้นยาก ถ้าได้ห่อข้าวมากินนะมีแรงกล่าวสะบัดธงกว่านี้ ![]() ![]() ปล่อยลูกโป่งฝั่งเขาดิน ![]() ![]() ตอนเดินออกมาคนแน่นมากแทบไม่มีที่ยืนก็ว่าได้ มีผู้ชายข้างหลังเป็นลมก้มเกาะรั้วแผงกั้นไว้ ดิฉันเหลือบไปเห็นพอดีเลยบอกเจ้าหน้าที่แถวนั้น เขาก็รีบช่วยพามานั่งพัดลมเป่า พอพ้นคนระบายออกตามทางแยกคนเริ่มน้อยลง เลยได้ซื้อแฮมเบเกอร์เชสเตอร์น้องๆเอามาขายกินรองท้องก่อน คนซื้อตามมุงขายดีเลยนะจ๊ะ นั่งกินดูคนเดินกลับได้น้ำส้มผลไม้ฟรีทิปโก้ลงทุนเอามาแจก คาดว่าก่อนนั้นคงมีอาหารแจกฟรีหลายที่เหมือนเป็นการทำบุญช่วยในหลวงแต่คนเยอะเลยหมดแล้วกัน ![]() ![]() ![]() บ้าย บาย ทหารที่ไปเดินสวนสนาม กำลังเดินทางกลับ ![]() ![]() อ่านแล้วจะรักในหลวงของเรา ยิ่งขึ้น 1. ทรงเรียกสมเด็จพระราชชนนีอย่างธรรมดา ว่า แม่ 2. สมัยทรงพระเยาว์ทรงรับจ้างเก็บผักผลไม้ไป ขายเมื่อได้เงินมาก็นำไปซื้อเมล็ดผักมาปลูก เพิ่ม 3. หากทรงทำกิจกรรมแล้วมีกำไรจะถูกเก็บภาษี 10%ทุกสิ้นเดือนสมเด็จพระราชชนนีจะเรียก ประชุมเพื่อถามว่าจะเอาเงินไปทำอะไรเช่นมอบ ให้โรงเรียนคนตาบอดมอบให้เด็กกำพร้า หรือ ทำกิจกรรมเพื่อคนยากจน 4. ช่วงเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2ทรงปั่นจักรยาน ไปโรงเรียนแทนรถพระที่นั่ง 5. พระอัจฉริยภาพมาจากการเล่นหากอยากได้ ของเล่นต้องทรงเก็บสตางค์ซื้อหรือประดิษฐ์เอง ทรงหุ้นค่าขนมกับพระเชษฐาซื้อชิ้นส่วนวิทยุเอา มาประกอบเองแล้วแบ่งกันฟัง 6. ทรงพระราชนิพนธ์เพลงแสงเทียน ครั้งแรก เมื่อ 18พรรษาครั้งหนึ่งทรงฉวยซองจดหมาย แล้วเขียนโน้ตทำนองเพลงขึ้นเดี๋ยวนั้นกลาย เป็นเพลง เราสู้จนถึงปัจจุบันพระราชนิพนธ์ เพลงไว้48เพลง 7. ทรงนำภาพยนตร์ส่วนพระองค์ออกฉายแล้ว นำเงินรายได้มาสร้างอาคารสภากาชาดไทยที่ รพ.จุฬาฯ และ รพ.ภูมิพลรวมทั้งใช้ในโครงการ โรคโปลิโอและโรคเรื้อน 8. ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกของ โลกที่ได้รับสิทธิบัตรผลงานประดิษฐ์เครื่องกล เติมอากาศที่ผิวน้ำหรือ กังหันชัยพัฒนา 9. ทรงเป็นผู้ริเริ่มการพัฒนาเชื้อเพลิงจากวัสดุ การเกษตรเพื่อใช้เป็นพลังงานทดแทนเช่นแก๊ส โซฮอล์ ดีโซฮอลล์ และน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ต่อ เนื่องเป็นเวลากว่า20ปี 10.โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริมี จำนวนกว่า 3,000 โครงการ โครงการสวน จิตรลดาเริ่มต้นขึ้นจากเงินส่วนพระองค์ 32,866.73บาทแล้วก็ค่อยๆเติบโตอย่างที่เรา เห็นกันทุกวันนี้ 11.ทรงประดิษฐ์ฟอนต์จิตรลดาและฟอนต์ภู พิงค์ในคอมพิวเตอร์ที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้และทรง เชี่ยวชาญ 6ภาษาคือ ไทยละตินฝรั่งเศส อังกฤษเยอรมัน และสเปน 12.ทรงจดทะเบียนสมรสเหมือนคนทั่วไป ปิด อากรแสตมป์ 10สตางค์ เสียค่าธรรมเนียม 10 บาท หลังอภิเษกสมรสทรงฮันนีมูนที่หัวหิน 13.ครั้งหนึ่งทรงแข่งเรือใบออกจากฝั่งไปได้ไม่ นานก็ทรงแล่นกลับเพราะไปโดนทุ่นซึ่งในกติกา ถือว่าฟาวส์ทั้งๆ ที่ไม่มีใครเห็น 14.เมื่อผู้แทนพระองค์ไปติดต่อทำเอกสารทรง โปรดให้กรอกในช่องอาชีพของพระองค์ว่า ทำ ราชการ 15.ของใช้ส่วนพระองค์ไม่จำเป็นต้องมียี่ห้อดัง การถวายของให้พระองค์จึงไม่จำเป็นจะต้องเป็น ของแพง ไม่ทรงโปรดสวมเครื่องประดับยกเว้น นาฬิกา 16.หลอดยาสีพระทน ทรงใช้จนแบนราบโดย เฉพาะบริเวณคอหลอดจะมีรอยบุ๋มลึกซึ่งเป็นผล จากการใช้ด้ามแปรงสีพระทนช่วยรีดและกด 17.พระเกศาที่ทรงตัดแล้วส่วนหนึ่งมอบให้ ทหาร อีกส่วนหนึ่งเก็บไว้สร้างวัตถุมงคลเพื่อ มอบให้ราษฎรที่ทำความดีแก่ประเทศชาติ 18.ครั้งหนึ่งเมื่อเสด็จฯเยี่ยมโครงการปรากฏ ว่ามีฝนตกลงมาอย่างหนักข้าราชการและ ราษฎรที่เข้าแถวรอรับเปียกฝนกันทุกคนจึงมี รับสั่งให้องครักษ์เก็บร่มแล้วทรงเยี่ยม ข้าราชการและราษฎรกลางสายฝน 19.วันที่ทรงกำลังจะเข้าห้องผ่าตัดกระดูกสัน หลัง 20 กรกฎาคม 2549) ทรงรับสั่งให้ข้าราช บริพารไปติดตั้งคอมพิวเตอร์เดินสายออนไลน์ ไว้เพราะกำลังมีพายุเข้าประเทศเผื่อน้ำท่วมจะ ได้ช่วยเหลือทัน 20.ห้องทรงงานอยู่ใกล้ห้องบรรทม เป็นห้อง เล็กๆ ขนาด3×4เมตรภายในมีวิทยุ โทรทัศน์ โทรศัพท์ โทรสาร คอมพิวเตอร์เครื่องบันทึก เสียง เครื่องพยากรณ์แผนที่ ฯลฯ 21.ปีหนึ่งๆทรงเบิกดินสอ 12แท่งใช้เดือนละ แท่งจนกระทั่งกุด ทุกครั้งที่เสด็จฯไปยังสถานที่ ต่างๆ จะทรงมีแผนที่ซึ่งทรงทำขึ้นเอง(ตัดต่อเอง ปะกาวเอง) กล้องถ่ายรูปและดินสอที่มียางลบ 22.ทรงพระราชทานปริญญาบัตรตั้งแต่ปี 2493 จน29ปีต่อมามีผู้คำนวณว่าเสด็จพระราชทาน 490ครั้ง ประทับครั้งละ3ชม.ทรงยื่นพระหัตถ์ 470,000ครั้งน้ำหนักปริญญาบัตรฉบับละ 3 ขีดรวมน้ำหนักทั้งหมด 141 ตัน 23.ทรงใช้พระเนตรข้างซ้ายข้างเดียวบำบัด ทุกข์บำรุงสุขราษฎรมากว่า60ปี 24.ทรงตรัสว่า ความจริงมันน่าท้อถอยอยู่ หรอกบางเรื่องมันน่าท้อถอยแต่ว่าฉันท้อไม่ได้ เพราะเดิมพันของเรานั้นสูงเหลือเกินเดิมพัน ของเรานั้นคือบ้านเมืองคือความสุขของคนไทย ทั่วประเทศ ![]() |
บทความทั้งหมด
|