ตอนที่ 8 เพื่อนใหม่....มิตรภาพกับคนเเดนไกล...ในฮัมบูร์ก (Hamburg) Germany (ตอนจบ) พร้อมกันนั้น ฉันก็กางเเผนที่ เพื่อที่จะหาเป้าหมายต่อไปที่จะไปเที่ยว " เราจะไหนต่อกันดี" ฉันหันไปมองหน้า ใครมาใช้คำว่า....เราเเถวนี้ฟ่ะ.. ฉันก็ว่า..... ฉันมาคนเดียวนะ อ้อ ...ตี๋หนุ่มนั้นเอง " ไปด้วยกันไหม ผมก็รอพ่อ เเต่อีกหลายชั่วโมงกว่าพ่อจะมา " ฉันอึ้งไปพักใหญ่ ว่าจะเซย์ " yes " หรือเซย์ " No " ดี ....กึ๋ยยยยย...555555 หลังจากที่อึ้งไปพักใหญ่ๆ ................... เเละทำเป็นดูเเผนที่ พร้อมๆกับตรึกตรองอยู่ประมาณ 10 ที ก็ตัดสินใจเซย์ " yes" ค่ะ เพราะคิดว่า บางทีมีเพื่อนเที่ยวบ้างก็อาจจะดีเหมือนกัน อีกอย่าง ฉันกับเขาก็ตัวพอๆกัน เเถมเขามีกระเป๋าเดิน ทางอีกใบเบ่อเริ่ม หากว่า มีเหตุฉุกเฉิน ฉันก็มีความคล่องตัว ในการชิ่งหนีออกมาก่อนได้เเน่นอน ตรึกตรองเสร็จเสร็จ ฉันก็ยิ้มเจ้าเลห์นิดหน่อย เเล้วก็ตอบ" โอเค "ไปค่ะเเล้วก็จากนั้นก็เอาเเผนที่มา สุมหัวกันว่าจะไปไหนบ้าง เพราะ.... ฉันก็เพิ่งมาที่นี่ เขาก็เพิ่งมาที่นี่เหมือนกัน... บ้านนอกเข้ากรุงทั้งคู่ เลย มิตรภาพระหว่างการเดินทาง มันก็ดีเหมือนกัน มีเพื่อนเที่ยวเเละถ่ายรูปให้ อย่างน้อยช่วยดูแผนที่ก็ยังดีนะ หลังจากนั้นเราก็เลย นั่ง U-Bahn สาย 3 ไปเซนต์เปาลี ( St. Pauli) กัน ( เวลาเขียนคำ อ่านเป็นภาษาไทยนี่ หวั่นๆนิดนึงว่าจะเขียนคำอ่านผิดหรือเปล่าหว่า... " จัง ชั๊ว " เรียกชื่อเขาทีไร เหมือนด่าเขาทุกทีเลยอ่ะ " ทำไรอยู่ที่ไหนเหรอ " " ผมอยู่คีล (Kiel) จะมาทำ Ph.D. มาได้ 4 เดือนเเล้วล่ะ" " อ้าว เเล้วมาทำไรที่ ฮัมบูร์ก อ่ะ" "ผมมาหาพ่อ เอาของจากเมืองจีนมาให้พ่อ เดี๋ยววันพุธก็จะกลับเเล้วล่ะ" " ฮืม เเล้วทำไมเลือกมาเรียนที่เยอรมันล่ะ " " นั่นเเหละ คือความผิดพลาดอย่างหนึ่งของผม " "หา" " 555 คือว่า พ่อมีเพื่อนอยู่ที่เยอรมัน ท่านก็เลยคิดว่าการมาเรียนที่เยอรมันอาจจะดี สำหรับผม ผมเป็นลูกชายคนเดียว มีพี่สาวคนหนึ่ง เค้าเเต่งงานเเล้วล่ะ " " เเล้วผิดพลาดตรงไหนล่ะ " ฉันงง ๆ " ที่นี่หนาว ภาษาก็ยาก หัวข้อที่จะทำวิจัย ( Doctorarbeit) กับโปรเฟสเซอร์ ก็ยังไม่เคลียร์เลย โปรเฟสเซอร์ดุด้วย " ตี๋หนุ่มบ่นเเบบท้อเล็กๆๆ " ไม่เห็นจะดุเลย ฉันว่า โปรเฟสเซอร์ที่นี่ใจดีจะตาย " " โปรเฟสเซอร์น่ะนะ ใจดีกับผู้หญิงเสมอ เเต่กับผมนะเหรอ ....ไม่รู้เรื่องเหรอ ... ไปอ่านหนังสือเยอะๆซิ "" 555555" ว่าเเล้วเราก็ขำกัน เราพูดเยอรมันกันค่ะ บางคำก็รู้เรื่องบ้าง บางคำก็ไม่ค่อยจะรู้เรื่องสักเท่าไร อย่างกำเเพงเมืองจีน กว่าฉันจะสื่อสารได้ว่า ฉันอยากไปดูกำเเพงเมืองจีน สุสานจิ๋นซิ เนี่ย คุยกันตั้งนาน เเต่เขาก็ ทำหน้าที่พลเมืองที่ดีของเมืองจีน ที่โปรโมทประเทศเขา อย่างพระราชวังที่ปักกิ่ง อะไรงี้ ฉันก็ไม่ยอมเเพ้ ก้อโฆษณาเมืองไทยบ้าง ทั้งวัดพระเเก้ว ทะเล เกาะต่างๆ มากมาย ..... จากการคุยกันกับฉันท์เพื่อนที่เพิ่งรู้จักกันครั้งนี้ ทำให้ฉันได้คิดอย่างหนึ่งว่า การไปเที่ยวคนเดียว หนึ่งในข้อดีหลายๆข้อคือ เราสามารถสร้างมิตรภาพใหม่ๆได้ง่ายกว่าไปเป็นกลุ่ม บางทีหากเราระวังตัวมากเกินไปจนเกร็ง เราก็จะไม่ได้มิตรภาพใหม่ๆ บางคนบอกว่า " บ้าหรือเปล่า ไว้ในไปได้ยังไง "เเต่ฉันว่า ผู้หญิงหรือผู้ชายก็เป็นเพื่อนกันได้ ความเป็นเพื่อนกัน บางทีความต่างของเรื่องเพศก็ไม่เป็นปัญหา เเต่หากว่า เปิดใจรับมิตรภาพใหม่ๆมากเกินไป อาจจะได้ มิตรภาพเเบบเเปลกๆ ที่ไม่สามารถใช้คำว่า " มิตรภาพ " มาจำกัดความได้ เพียงเเต่ว่า เราอาจจะต้อง ระวังตัวเยอะๆหน่อย เพราะคนไทยยังมีเส้นบางๆ ของธรรมเนียมไทยที่ต้องรักษาไว้ เช่นกัน เเต่วันนี้ก็รู้สึกดีเเละสนุกค่ะ ที่ได้รู้จักเพื่อนใหม่ มิตรภาพจากคนเเดนไกล..... เอ....เเต่จริงๆเเล้ว ตี๋หนุ่มอาจจะคิดว่าฉันคือ ผู้ชายคนหนึ่งก็ได้นะ ก็เลยกล้ามาเที่ยวด้วย 55555 หลังจากนั้นก็เดินไปเที่ยวตึกเเดงกันค่ะ ตึกอันนี้เรียกว่าอะไรไม่รู้ เเต่เพื่อนที่ฮัมบูร์กเรียกว่า ตึกเเดง อีกรูปหนึ่ง แล้วเราก็มาที่ ท่าเรือฮัมบูร์ก (Port of Hamburg) หรือที่นิยมเรียกกันว่า "ประตูสู่โลก" (Gateway to the World) ท่าเรือที่มีขนาดใหญ่และมีความคึกคักมากเป็นอันดับสองของสหภาพ ยุโรป แต่วันที่มานี่ไม่เห็นคนสักเท่าไรเลย อากาศก็ครึ้มฟ้าครึ้มฝน เป็นสีเทาไปหมดเลยค่ะ ใกล้เวลา 15.00 น. เเล้ว ตี๋หนุ่มก็ต้องกลับไปรอพ่อเขาที่ Rathaus เเล้ว ก่อนไปเราก็เเลกอีเมล์กัน เเต่เนื่องจากฉันไม่ใช่นางเอกของเขา ก็เลยทำหายตั้งเเต่ยังไม่ได้กลับบ้านเลยจากนั้น ฉันก็เดินไปต่อรถไฟเพื่อไปต่อจุดอื่นต่อไปเช่นกันฉันนั่งรถต่อไปที่ altonaย่านที่เพื่อนๆบอกว่า เเสงสียามราตรีสวยงามนัก....เเต่ตอนไป เเค่เพิ่งบ่ายสามเอง ก็เลยไม่เห็นอะไรเลยค่ะ มีเเต่ร้านให้ช้อปปิ้งเต็มไปหมด ซึ่งไม่ใช่สไตล์ฉันก็เลย ไม่ได้ซื้ออะไรเลย เเต่ก็หิวเเล้ว ท้องร้องจ๊อกๆๆๆ อีกเเล้ว ก็เลยต้องเเวะไปหาอะไรทาน ก็เลยเเวะไปร้านคนตุรกี เห็นอาหารในรูปหรือเปล่าคะ ตอนเเรกนึกว่า ไข่เจียวยัดไส้อะไรสักอย่าง ก็เลยสั่งมา เเต่กลายเป็น เเป้งอะไรสักอย่างทอดให้เหลืองๆ มีขนมปังให้สองสามชิ้น จานใหญ่มากกกทานไม่หมด .....ตอนเเรกว่าจะให้ห่อกลับหอ ....เจ้คนขายก้อท่าทางดุๆ เลยไม่กล้า .....เสียดายจัง จริงๆเเล้วเป้าหมายหลักอันหนึ่งที่ฮัมบูร์กนี้ก็คือ ฉันอยากมาตระเวณราตรี ที่เเสงสีวิจิตรนัก เขาว่ากันว่า.... ก็เหมือนเเล้ว ลูกเเตงโมเลย อยากเห็นๆๆๆๆๆ " คติอันหนึ่งอฉันคือ ลองทำอะไรเเปลกเเปลก เเละชีวิตการ เรียนรู้ ก็เลยอยากไป
สำหรับเมือง ฮัมบูร์ก ก็หมดเเล้วค่ะ สำหรับเมือง ฮัมบูร์กนี้ นอกจากมิตรภาพของพี่เพื่อนน้องนักเรียนไทยที่ประทับใจเเล้ว สถานที่สวยๆก็เยอะค่ะ เสียดายว่า วันที่เรียมไป ฝนตกปรอยๆ ตลอดทั้งวัน เลยไม่ค่อยเห็น บรรยากาศสบายๆ ของคนเมืองนี้เลย คนเยอะ หลากหลายเชื้อชาติ ทั้งคนเยอรมันเอง คนตุรกี คนดำ คนจีน เอเชียเยอะเหมือนกันค่ะ สาวๆเดินไปเนี่ยบางทีโดยเเซวเป็นระยะๆค่ะ เเต่ชอบที่ว่า...มีสายน้ำไหล เเล้วก็มีทางให้เดินเล่น สบายๆ วันหยุด... เป็นอีกเมืองหนึ่งที่น่ามาเยือนเช่นกันค่ะ จบเเล้วค่ะ
|
บทความทั้งหมด
|