ตอนที่ 4 วันฝนพรำที่...รอสต๊อก (Rostock)...Germany (ตอนจบ) พอทานขนมเสร็จ ก็ตะเวณดูเมืองต่อค่ะ มาดูรูปบรรยากาศในเมือง เมื่อยามฝนพรำของเมือง Rostock กันค่ะ ![]() อีกรูปหนึ่ง ![]() ![]() ประตูชัย ( kroepeliner Tor) ของเมืองรอสต็อก ![]() ข้างใน kroepelinerTor นั้นมีทั้งหมด 6 ชั้นเเละจะมีพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ของเมืองด้วย ฉันก็ไม่รอช้ารีบซื้อบัตรเข้าชมเลยค่ะ บัตรราคา 2 ยูโร เเต่ฉันรีบต่อราคา...เอ้ย.. .รีบบอกว่าฉันเป็นนักเรียน ค่ะเขาเลยส่งบัตรราคานักเรียนให้ในราคา 1 ยูโร เเล้วก็เตรียมตัวจะเดินขึ้น.... เจ้าหน้าที่ที่ขายบัตร ก็ถามฉันว่า จะฝากกระเป๋าไว้ที่เค้าเตอร์ ก่อนไหมเพราะที่เนี่ย มันมีเจ็ดชั้นนะ ฉันก็รีบส่งให้เลยค่ะเพราะเริ่มรู้สึกหนักเหมือนกัน kroepeliner Tor สูง 54 เมตรเป็นหนึ่งในสี่ประตูของเมืองรอสต็อก เเต่ว่าตรงจุดนี้จะมี ชื่อเสียงเเละเป็นที่รู้จักที่สุดอาจจะเนื่องมาจากอยู่ในย่านชุมชนด้วย เเละด้านหน้าของ ประตูก็มีสายรถรางมาลงก็อาจเป็นได้ค่ะ ขึ้นบันไดไปชั้นเเรก....ก็เจอซะเเล้ว...ถังเบียร์ค่ะ... เป็นถังเบียร์ในสมัยก่อน ซึ่งตอนนี้ต้องเอาลวดมาเกี่ยว ให้มันเกาะอยู่ด้วยกัน ซึ่งตอนนี้สภาพเก่ามาก นอกจากนั้นก็ยังมีภาพวาดเเสดงชีวิตของคนเมืองรอสต็อกในสมัยก่อนด้วย ![]() นี่ค่ะ เสื้อเกราะของอัศวิน รุ่นพิเศษ " รุ่นเกาะอก " ![]() สงครามโลกครั้งที่สองได้ส่งผลกระทบให้หลายเมืองถูกทำลาย ทั้งบ้านเรือน สถาปัตยกรรมที่สำคัญๆเมืองรอสต็อกก็ไม่พ้นที่จะถูกผลกระทบของสงครามโลกครั้งที่สองเช่นกันเพราะว่าก็ยังมีผลให้เห็นอยู่บ้าง ซึ่งเขาก็ได้เอามาเเสดงให้ดูด้วยค่ะ ส่วนระเบิดลูกนี้ คิดว่า ตอนนั้นมันคงไม่ทำงาน เขาถึงเอามาโชว์ได้ค่ะ เวลาไปเที่ยวเนี่ยมีคำๆหนึ่งที่ฉันจะไม่พูดเลยคือคำว่า " บอม" หรือคำที่ออกเสียงคล้ายๆ กันเช่น ปอม พอม เพราะกลัวว่าถ้ามีตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ทางการ ที่ฟังภาษาเยอรมัน สำเนียงไทยของฉันเเล้วเกิดไม่เคลียร์กับคำที่ฉันพูด จะเชิญไปพูดให้ฟังให้เคลียร์ ล่ะ...เเย่เลย เเล้ว ฉันก็เดินไปชั้นบนก่อนเลยค่ะ ปรากฎว่าชั้นสุดท้ายเนี่ย ปิดซ่อมไม่ สามารถขึ้นได้ ก็เลยต้องเดินย้อนลงมาข้างล่างค่ะ เดินลงกันไปด้วยกันค่ะ ![]() พอลงมาก็เจอจักรยานคันนี้เลยค่ะ เป็นจักรยานที่โดนใจมากค่ะ ซี่โซ่จะใหญ่มาก เท่ากับล้อ เเละเป็นเหล็กค่ะ ล้อเป็นเหล็กนะคะ เพราะฉะนั้นไม่ต้องสูบยางเลยค่ะ ![]() ส่วนอื่นใน ![]() อีกรูปหนึ่ง หลังจากที่ดูพิพิธภัณฑ์ที่ kroepeliner Tor หมดเเล้ว ภาพมีอีกเยอะเหมือนกันค่ะ เเต่ไม่ค่อยชัดค่ะสงสัยมือจะสั่นมากไปหน่อย อากาศมันเย็นๆๆเเล้วโดนฝนก็เลยเหมือนจะเป็นหวัดค่ะ จากนั้นก็นั่งรถรางต่อไปที่Stein tor ซึ่งเป็นประตูเมืองอันหนึ่งของรอสต็อกค่ะ Stein tor เป็นประตูทางเข้าเมืองหลักที่ก่อนที่จะเข้ารอสต็อกตอนกลางค่ะ เเละใหญ่กว่าส่วน kroepeliner Tor จะสูงยาว เเละบอบบางกว่าค่ะ ภาพสถาปัตยกรรมอื่นๆภายในเมือง ก่อนกลับก็เเอบถ่ายค่ะ.....เเอบถ่าย...ค่ะ
มอง........คนวัยรุ่นร่วงโรย กี่วันกี่เดือนกี่ปีเเล้ว ที่เขาครองคู่กันมา
เสร็จจากนี้เเล้วก็เป็นเวลาประมาณ 16.00 น. ซึ่งฉันก็คิดว่า สมควรเเก่เวลาแล้ว ที่จะ ต้องรีบไปเมืองที่สอง ตามเเผนเดิมที่ตั้งไว้ก็คือเมืองลือเบกค์ (เเผนเดิม เบอร์ลิน-รอสต๊อก ( rostock) ลือเบกค์ (Luebeck) ฮัมบูร์ก (Hamburg)-เบรเมน (Bremen) ฮันโนเฟอร์ (Hannover) ฮิลเดสไฮม์ (Hildesheim) ฮาเมลน (Hameln) กอสลาร์ (Goslar) กลับเดรสเดน (Dresden)
เจอกันตอนหน้าที่เมือง ลือเบกค์ (Luebeck) ค่ะ
สวัสดีครับ ทักทายวันสดชื่น
![]() โดย: ต้นกล้า อาราดิน
![]() |
บทความทั้งหมด
|