ตอนที่ 5 ล่องเรือ ....เหนือใต้ ...ทิ้งใจลงเเม่น้ำ...ที่ลือเบค (Lübeck).Germany
มีนาคม 2548 ณ เมืองลือเบกค์ ( Luebeck ) 


หลังจากที่ดูประตูชัย เเละ โบสถ์ต่างๆในเมืองรอสต็อกซะเรียบเมืองเเล้วก็ได้เวลา
ที่ฉันต้องเดินทางต่อมายังเมืองที่ตั้งใจไว้ ก็คือ เมืองลือเบกค์ ( Luebeck ) 

ฉันซื้อตั๋วเรียบร้อยเเล้วรถไฟจะออกเวลา 16.00 น. รถไฟที่เยอรมันจะตรงเวลามาก
ไม่เคยมาก่อน เเละไม่เคยสาย น๊านน นาน ที่จะมีมาไม่ตรงเวลาซะทีซึ่งตอนนั้น
อาจจะเป็นเพราะ..หิมะตกหนัก จนรถไฟไม่สามารถผ่านไปได้

Smiley
นั่งๆรถไฟไปสักพักหนึ่งก็มาต่อรถไฟที่ Bad kleinen นั่งไปได้สักสองสถานี ก็เจอกับ 
กลุ่มคุณตาคุณยายโล้งเล้งขึ้นมาเน้นว่าอายุเกิน 60 ปีทุกคน อย่างเเน่นอน ... ฟังๆ
 เขาคุยกันบวกกับเดาจากเสื้อผ้าที่เขาใส่กันเนี่ย เพิ่งกลับมาจากไปปีนเขา เเละเดินป่ากัน
....เเก่เเต่มีไฟจริง ปีนเขาหน้าหนาว ....อึ๋ยย..

Smiley

พอมาถึงสถานีรถไฟของลือเบกค์ ( Luebeck) ก็ลังเลว่าจะไปทางซ้ายหรือทางขวาดี 
เพราะมันคนละฝั่งกันเลยเหมือนฉันจะเป็นคนมีดวงทางเดินทางอยู่หน่อยๆ เพราะ
พอตัดสินใจว่าจะไปทางขวาก็เป็นทิศทางที่จะไปพักที่ Youth hotel พอดีเลยค่ะ

ตอนเเรกเห็นร้านอาหารเอเชียชื่อ " YamYam " ก็อยากจะกิน เเต่พอไปยืนดูราคา
เเต่ละเมนูหน้าร้านเเล้วว ต้องร้องเพลง...ถอยดีกว่า ไม่เอาดีกว่า... กลับไปกิน
 ร้านเเผงลอยเล็กๆ ราคา 2 ยูโรดีกว่า

Smiley

กินอิ่ม....เสร็จเเล้วก็ไปต่อรถบัสสาย 3 Smiley เพื่อไป YH ตอนที่นั่งอยู่ในรถบัส
เจอคนไทยด้วยค่ะ เป็นผู้หญิงไทย มากับลูก ลูกเขายังเป็นทารกอยู่เลย ที่รู้เพราะว่า
เขาพูดไทย + เยอรมันกับลูกเขา ฉันก็ไม่รู้ว่าควรจะทักหรือไม่ทักดีอยู่เข้าไปเเนะนำ
ตัวเขาอาจจะหวาดระเเวงหรือเปล่าไม่รู้ค่ะเพราะเขาก็ไม่ได้หันมามองใครเลย พอดีอีก
สองป้ายก็ถึงปายที่ฉันต้องการลงเเล้วก็เลยจากไปโดยไม่ได้รู้จัก

พอไปถึง YH (Youth hotel) ก็ลงทะเบียน เเล้วก็เข้าไปนอนที่นี่ฉันก็ได้ห้องรวมอีกเเล้วค่ะ 
เเต่เป็นห้องรวมที่มีผู้หญิงมาอยู่เเล้ว 3 คน ....โล่งอกไปหน่อยคืนนี้คงนอนสบายใจขึ้น
 เป็นคนเยอรมันคนหนึ่ง คนชิลีคนหนึ่งเขามาเรียนที่อังกฤษเเต่ตอนนี้มาเที่ยวเยอรมัน
 เขาบอกว่า เดี๋ยวจะไปฮัมบูร์กเเล้วต่อจากนั้นก็จะไปเบอร์ลิน เราก็โห มันคนละทิศ
กันเลยนะนั่น(เหมือนไปกาญจนบุรี เเล้วไปจันทบุรี)....เขาก็หัวเราะ 55555

ก่อนนอน สวดมนต์ขอให้พรุ่งนี้ฟ้าสวยด้วยเถอะค่ะ...เจ้าพระคู้ณพอเช้า ตื่นขึ้นมาดีใจ
สุดชีวิต.....ฟ้าใสเเจ๋วเลยค่ะ....ดีใจๆจริงๆๆ หลังจากที่ทานอาหารเช้า +เช็คเอาท์
เรียบร้อยเเล้ว ฉันก็รีบกางเเผนที่เพื่อเดินทางเที่ยวเลยเพราะไม่เเน่ใจว่า เมื่อไร
ฟ้าฝนจะมา ตอนเเรกฉันไม่มีเเผนที่ฉบับพกพาของเมืองนี้ก็เลยถามเจ้าหน้าที่
หนุ่มรูปหล่อซึ่งเขาก้อได้ให้พร้อมกับชี้สถานที่ที่น่าจะไปให้ฉันด้วยค่ะ ...น่ารักจริงๆ


จุดเเรกที่ฉันไปคือ Burg Tor คือประตูเมืองของเมืองลือเบกค์ค่ะ 

ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองที่เด่นอีก


ฺีburg tour


ขอเล่าประวัติสักนิดนึง (อยากมีสาระบ้าง)5555

ลือเบค (เยอรมัน: Lübeck) เป็นเมืองที่เดิมอยู่ในกลุ่มฮันเซียติคที่มีขนาดใหญ่เป็นที่สองของรัฐชเลสวิก-โฮลชไตน์ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศเยอรมนี และเป็นเมืองท่าสำคัญนครรัฐอิสระลือเบ็คเป็นคล้ายเมืองหลวงของสันนิบาตฮันเซียติกอยู่เป็นเวลาหลายร้อยปีความสำคัญที่ว่านี้และการมีสิ่งก่อสร้างที่เป็นสถาปัตยกรรมกอธิคอิฐทำให้ลือเบคได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1987   ลือเบ็คตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำทราเวอที่เป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมนีบนฝั่งทะเลบอลติก ส่วนที่เก่าที่สุดของเมืองเป็นเกาะล้อมรอบด้วยแม่น้ำทราเวอ

(ที่มา : wikipedia)

เข้าไปในเมืองกันค่ะ





Landesamt ค่ะ ซึ่งภายในนั้นจะมีพิพิธภัณฑ์ ซึ่งก็ปิดอีกเช่นกันค่ะ





หันหลังกลับไปถ่ายรูปก็จะได้อีกภาพหนึ่ง





สถานที่สวยๆ




โรงพยาบาลค่ะ ชื่อ Holy Spirit เป็นโรงพยาบาลที่มีการก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรม
ที่งดงามด้วยอิฐสีแดง บนหลังคามีหอคอยปลายยอดแหลม จำนวน 5 ยอด




ข้างๆ Burg Tor ลงมาทางซ้าย จะมีสะพานลอยค่ะ ริมเเม่น้ำ Trave





Lübecker Rathaus ซึ่งเป็นศาลากลางของเมือง จุดเด่นคือ หอคอยทรงกรวยเหนือหลังคานั่นเอง 




จากนั้นก็เดินไปเรื่อยๆค่ะ.... วันนี้ฟ้าสวย ลมเย็นพัดผ่านเบาๆ อากาศกำลังสบายไม่หนาวมาก
 เมฆเป็นปุยขาว ก้อนเล็กๆกระจายทั่วฟ้า เเหม...อากาศอย่างนี้เดินไปถึงโบสถ์ Katharienen Kirche





วันนี้คนน้อยจนนึกว่าเมืองร้างเลย เงียบมาก เดินไปๆ ฟ้าเริ่มหม่น เมฆพยับมาเเต่ไกล 
เเต่ฉันยังไม่ได้ไป ยัง ประตู โฮลชเท่น (Holsten Tor) ซึ่งถือว่าเป็น high light ของ
ที่นี่เลยนะเนี่ย ก็เลยต้องรีบเดิน พอเดินไปงงง ไม่รู้ว่าจะไปทางไหน  ก็เลยได้เหยื่อ...เอ้ย
 ได้ถามพ่อลูกอ่อน ที่เผอิญเดินสวนมาว่าจะไป  ประตู โฮลชเท่น (Holsten Tor) ไปยังไง

เขาก็บอกว่าเดินตรงไปเรื่อยๆ เเล้วเห็นตึกอันนั้นไหม สีเเดงๆ อันนั้นเเล้วเลี้ยวซ้าย
 เเล้วก็เดินไปเรื่อยๆ ข้ามสะพานก็จะถึงเลย   ฟังเสร็จ ฉันก็รีบเร่งฝีเท้าค่ะ กลัวว่า
 ฟ้าใสๆจะจากฉันไปเสียก่อน

ทางไป ประตู โฮลชเท่น (Holsten Tor) อยู่ที่ป้ายนี้นะคะ 






ถึงเเล้วค่ะ  ประตู โฮลชเท่น (Holsten Tor) ถ้าเป็นหน้าร้อน หญ้าจะเขียวกว่านี้ เเล้วก็จะมีดอกไม้บานสะพรั่งอากาศสดใส เเละจะมีคนมาเที่ยวให้เห็นมากกว่านี้ค่ะ ภายใน ประตู โฮลชเท่น (Holsten Tor) จะมีพิพิธภัณฑ์ ด้วยค่ะ ก็ไปซื้อตั๋วบอกคุณป้าคนที่ขายตั๋วว่าเป็นนักเรียน ป้าไม่ยอมเชื่อ เลยต้องโชว์บัตร เป็นครั้งเเรกนะเนี่ยที่ต้องมาโชว์บัตรนักเรียน

เอ...ฉันเดินทางมาเเค่สามวันโทรมขนาดนี้เลยหรือนี่ T__T" 

พอได้บัตรเสร็จก็เลยบอกคุณป้าว่าฝากเป้ด้วยนะคะ เเล้วก็เริ่มทัวร์พิพิธภัณฑ์เเห่งนี้



เริ่มที่ชั้นเเรกก่อน ค่ะ ลือเบกค์เป็นเมืองที่มีเเม่น้ำ Trave เเละยังติดทะเล Ostsee 

อีกดังนั้นการประมง ก็เป็นอาชีพที่สำคัญของเมืองค่ะ

อีกรูปหนึ่ง

ภาพประวัติศาสตร์



อาวุธที่ใช้ป้องกันเมืองในสมัยก่อนค่ะ มองๆไป เหมือนที่ใช้ในบ้านเราเลยค่ะ




เหนื่อยจัง เดี๋ยวพักเเป๊บหนึ่ง เเล้วค่อยไปต่อกันตอนหน้าค่ะ


Smiley







Create Date : 07 พฤศจิกายน 2555
Last Update : 25 มกราคม 2556 16:38:53 น.
Counter : 2159 Pageviews.

0 comments
Slow Life ในเมืองเลย Alex on the rock
(15 เม.ย. 2567 07:44:23 น.)
春和歌山市 : ทำไมต้องวากะยามะ mariabamboo
(15 เม.ย. 2567 11:06:33 น.)
หาอะไรดับร้อนกับน้องถั่วแดงที่ร้านเย็น เย็น หวานเย็น สาขาMRTท่าพระ นายแว่นขยันเที่ยว
(12 เม.ย. 2567 00:32:31 น.)
ระยองฮิสั้น จันทราน็อคเทิร์น
(12 เม.ย. 2567 15:33:48 น.)
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Functionaltextiles.BlogGang.com

เรียมเจ้าขา
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 144 คน [?]

บทความทั้งหมด