บ่น ๆๆๆ: บุคคลสาธารณะ มีคนบอกว่า ผม เป็น "บุคคลสาธารณะ" หรือเรียกง่ายๆว่า "คนของประชาชน" เออ ! ไม่ทราบว่ามีใครแต่งตั้งผมอย่างเป็นทางการหรือยัง มีลายลักอักษรไหม ดาราก็ไม่ ใช่ หัวข้อสีน้ำเงินสามารถ ข้ามไปด้เลยนะครับแค่ ก๊อปเขามาพูด ตาม //th.wikipedia.org เค้าได้ให้ความหมายไว้ บุคคลสาธารณะ (อังกฤษ: public figure) เป็นศัพท์ทางกฎหมายซึ่งใช้ในบริบทของความผิดฐานหมิ่นประมาท (การโฆษณาหมิ่นประมาทและการกล่าวหมิ่นประมาท) เช่นเดียวกันกับการล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคล บุคคลสาธารณะ อย่างเช่น นักการเมือง ผู้มีชื่อเสียง หรือผู้นำธุรกิจ ไม่สามารถฟ้องร้องข้อความผิด ๆ ที่เป็นโทษได้ ยกเว้นจะมีหลักฐานชี้ว่านักเขียนหรือผู้ตีพิมพ์นั้นกระทำโดยมีเจตนามุ่งร้าย (รู้ถึงความผิดหรือไม่ใส่ใจต่อข้อเท็จจริงอย่างประมาทเลินเล่อ[1]) ภาระการพิสูจน์ในความผิดฐานหมิ่นประมาทจะมีสูงกว่าในคดีของบุคคลสาธารณะ บุคคลสาธารณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อยู่ในตำแหน่งสูงยิ่งขึ้นไปนั้น ถือเป็นบุคคลตัวอย่าง ที่ถือว่ามีอิทธิพลอย่างลึกซึ้งต่อพฤติกรรม วิถีชีวิต และวัฒนธรรมของประชากรทั่วไป อ่านไปอ่านมา งง ครับงง ตาม //forum.serithai.org/index.php?topic=10.0 บุคคลสาธารณะ 1) บุคคลสาธารณะที่มีลักษณะหรือแสดงออกซึ่งความเป็นบุคคลสาธารณะอย่างชัดเจน (Obvious public figure) บุคคลสาธารณะประเภทนี้ถือได้ว่า เป็นผู้ที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับประโยชน์สาธารณะหรือประโยชน์มหาชนโดยตรง ซึ่งอาจแบ่งออกเป็นระดับต่าง ๆ ได้อีก ดังนี้ 1.1) บุคคลที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะในระดับต่าง ๆ ได้แก่ นักการเมืองหรือผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับประชาชน เช่น นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี วุฒิสมาชิก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตลอดจนนักการเมืองระดับท้องถิ่นต่าง ๆ 1.2) ข้าราชการประจำ เช่น ข้าราชการฝ่ายปกครอง ข้าราชการทหาร ข้าราชการตำรวจ ข้าราชการตุลาการ ข้าราชการครู หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่สังกัดส่วนราชการต่าง ๆ เพราะนโยบายหรือการปฏิบัติงานของเขากระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนโดยทั่วไป 2) บุคคลสาธารณะที่จำกัดตามวัตถุประสงค์ของการแสดงออกซึ่งความเป็นบุคคลสาธารณะนั้น ๆ (Limited-purpose public figure) บุคคลประเภทนี้จะถือว่าเป็นบุคคลสาธารณะเฉพาะในเรื่องที่ได้แสดงออกตามที่ตนเองมีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมหรือการดำเนินการนั้น ๆ หรือในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ เท่านั้น ได้แก่ 2.1) บุคคลที่อาสาตนเข้ามาดำเนินกิจกรรมในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งหรือสถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่งโดยเฉพาะเจาะจง เช่น ผู้นำกลุ่มผลประโยชน์หรือตัวแทนในการต่อสู้เรียกร้องทางการเมืองเพื่อบรรลุขอบวัตถุประสงค์ในเรื่องที่กลุ่มของตนต้องการ นักวิชาการอิสระที่เข้ามาเป็นสื่อกลางหรือกลไกในการเผยแพร่ความคิดเห็นต่อปัญหาที่เกิดขึ้นในบ้านเมือง 2.2) บุคคลผู้ประกอบอาชีพในด้านสันทนาการและให้ความบันเทิงแก่ประชาชน เช่น ดาราภาพยนต์ ศิลปิน นักร้อง นักแสดง นายแบบ นางแบบ นักพูดทอล์กโชว์ นักกีฬาอาชีพ 2.3) บุคคลผู้ประกอบวิชาชีพในด้านสื่อสารมวลชน เช่น ผู้ดำเนินรายการหรือผู้สื่อข่าววิทยุโทรทัศน์ และนักหนังสือพิมพ์หรือคอลัมนิสต์ 2.4) บุคคลที่ทำหน้าที่เผยแพร่คำสอนทางศาสนาหรือปฏิบัติธรรมจนเป็นยอมรับของประชาชนโดยทั่วไป เฉพาะบุคคลที่เปิดเผยตัวต่อสาธารณชน เช่น พระเกจิอาจารย์ พระนักเทศน์ 2.5) บุคลที่เปิดเผยตัวให้ปรากฏต่อสาธารณะหรืองานสังคมต่าง ๆ ในฐานะที่เป็นบุคคลระดับสูงในสังคม (hi-society) เช่น นักธุรกิจชั้นนำที่ประสบความสำเร็จในการประกอบอาชีพ หรือผู้ที่สืบเชื่อสายมาจากตระ I ลอันทรงเกียรติซึ่งเป็นที่รู้จักในวงกว้างทางสังคมหรือมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือกิจกรรมสาธารณกุศลต่าง ๆ เพื่อสังคม 3) บุคคลสาธารณะที่ไม่ได้เข้ามาโดยสมัครใจหรือบุคคลสาธารณะโดยบังเอิญ (Involuntary limited-purpose public figure or By change public figure) บุคคลประเภทนี้ ก็คือคนธรรมดาทั่วไปที่ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมและไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับประโยชน์สาธารณะในแง่ของความเป็นอยู่ของประชาชนแต่อย่างใด แต่สถานความเป็นบุคคลสาธารณะของเขาได้ปรากฏเมื่อเรื่องราวของเขาได้ถูกเสนอเป็นข่าวทางสื่อมวลชนต่าง ๆ ซึ่งสถานะความเป็นบุคคลสาธารณะของบุคคลประเภทนี้จะมีระยะเวลาไม่คงทนถาวร เนื่องจากประชาชนจะให้ความสนใจในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง เมื่อหมดความสนใจความเป็นบุคคลสาธารณะก็จะหมดไปทันที บุคคลสาธารณะ...โดย ดร.ทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ คือ แบบว่า เออ จากไอ่สีน้ำเงินข้างบน ก็มาคิดไปมาว่า เออ "ตรูข้าเนี่ย เป็นบุคคลสาธารณะ อีตอนไหน" คืออธิบายนิดหนึ่ง เรื่องมันมีอยู่ว่า ทุกเสาร์อาทิตย์ หรือเวลาที่ไม่ใช่เวลางาน มันจะมีละโทรศัพท์ พี่มาหาหน่ิอย พี่ไปเป็นเพื่อนหน่อย พี่มีอะไรจะถาม พี่ อย่างโน้นพี่อย่างนี้.......... บางครั้งนอนอยู่ กริ๊งงงงง เอาแห๋มล่ะ (เอาแห๋มล่ะ {ภาษาเหนือ} = เอาอีกแล้ว) คือจะไม่ให้มีเวลาว่างเป็นของตัวเอง เลยหรือไง อ้างว่า "จะนอน" (คือ นอนแล้ว) พวกมันก็บอก "โหพี่ขอเวลานิดเดียว คือผมไม่รู้จะไปหาใครแล้ว" , บ้างก็ร้องให้มา "ฮือๆๆๆๆๆๆ" อ้างว่า "ดูหนัง" >>> "ดูหนังเสร็จโทรหาเลยนะ" อ้างว่า "อยู่กับสาว" >>> "ใช่สิ ไม่สำคัญ", "อย่ามาแหล" (บ่ะไอ่นี่รู้ทัน) อ้างว่า "กลับบ้าน" >>> " กลับทำไม" (เอ้อ นี่ตรูกลับบ้านก็ผิด), "กลับมาเลย" (จะไม่ให้อยู่กับครอบครัวเลยเหรอ) อ้างว่า "กินข้าวกันเพื่อน เพื่อนมาจากกรุงเต็บ " >>> " ก็พาเพื่อนมาสิ " อ้างว่า "...อย่างโน้น....." >>> " .......อย่างนี้......." คือพวกคุณมรึงจะให้กรูมีเวลาว่างบ้างไม่ได้เหรอ เห็นใจกรูบ้าง ก็รู้นะรู้ว่ามีปัญหา คือถามกันบ้างไหม ว่า ณ ตอนนั้น กรูพร้อมจะรับ กับปัญหาของพวกคุณมรึงกันไหม ไม่มีกรูพวกคุณมรึง ตัดสินใจกันเองบ้างไม่เป็นเหรอ โตๆกันแล้ว กรูแก่กว่าพวกมรึงไม่กี่ปี บางคนกรูก็่อ่อนกว่า รู้ว่าตัวเองเป็นคนดี แต่ ขอได้ไหม ขอเวลาส่วนตัวกันบ้างwfhไหม เหนื่อยเป็นเหมือนกันนะเพ๊ย ก็มีอารมณ์เหมือนคุณมรึงทั้งหลายหมือนกัน ว่าแต่จะมีใครเป็นบุคคลสาธารณะสำหรับตรูบ้างไหม ปล. โองอ ปลง บ่นไปบ่นมา ก็ต้องไปหาพวกมันอยู่ดี โห
พ่อสาธารณะ แบบนี้ก็แสดงว่ามีแต่คนรักและไว้ใจนะเนี่ย วันหลังจะมาขอใช้บริการมั่งน้า โดย: หนูลีลี วันที่: 8 พฤศจิกายน 2554 เวลา:9:08:02 น.
|
บทความทั้งหมด
|
เป็นยังไงบ้างเนี่ย
ดูเหมือนชีวิตจะวุ่นๆ นะเนี่ย
ปล. เด่วมาอ่านนะ