คิดให้ดีก่อนเป็น...หนี้ ตอนที่ 2 เตรียมความพร้อมก่อนการกู้เงิน ตอนที่ 2 เตรียมความพร้อมก่อนการกู้เงิน 2.1 ถ้าตัดสินใจแล้วว่าต้องซื้อ ต้องกู้ จะต้องทำอย่างไร เมื่อมีความจำเป็นต้องซื้อหรือนำเงินไปลงทุนแต่เงินก้อนไม่พอ ระบบเงินกู้เป็นวิธีการที่ช่วยใหความจำเป็นหรือความต้องการเป็นจริงขึ้นมาได้ โดยการผ่อนภาระเงินก้อนใหญ่หนึ่งครั้งเป็นภาระเงินผ่อนระบะบาวที่เราพอจะหาจ่ายแต่ละเดือนได้ จะซื้อแบบไหนหรือกู้เงินแบบไหน มีหลักการคิดง่าย ๆ ว่า ... -คิดทบทวนอีกทีว่าจำเป็นต้องกู้ใช่หรือไม่ -ถ้าต้องกู้เพื่อซื้อก็ควรจะหาข้อมูลว่ามีที่ไหนให้กู้บ้าง แล้วเลือกกู้กับสถาบันการเงินที่น่าเชื่อถือ เป็นแห่งเงินกู้ในระบบที่มีหน่วยงานของรัฐเป็นผู้คุมกฎ ไม่ว่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ย เบี้ยปรับ และค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคจนเกินไป -มีเงินพอที่จะต้องผ่อนในแต่ละงวด ถ้ามีไม่พอก็คงต้องต่อรองเพื่อเพิ่มระยะเวลาการผ่อนชำระ -ดอกเบี้ยยิ่งต่ำยิ่งดี โดยปกติแล้วอัตราดอกเบี้ยเงินกู้มักจะอ้างอิงกับดอกเบี้ยเงินกู้ธรรมดาขั้นต่ำ (MLR) ตลอดช่วงระยะเวลาที่ขอกู้ -ดูเงื่อนไขการผ่อนชำระด้วยว่าถ้าต้องผิดนัดจะเสียค่าปรับ ค่าธรรมเนียมอะไรบ้าง -ลองดูว่ามีเงื่อนไขพิเศษอะไรบ้างที่น่าสนใจ เช่น ปลอดดอกเบี้ย หรือคิดดอกเบี้ยต่ำ ๆ ในปีแรก (ถ้าดอกเบี้ยมีแนวโน้มกำลังสูงขึ้น แล้วได้อัตราดอกเบี้ยคงที่จะดีกว่า ในทางกลับกันถ้าแนวโน้มดอกเบี้ยลดลงการได้อัตราดอกเบี้ยลอยตัวจะดีกว่า) 2.2 เงื่อนไขการกู้ซื้อรถกับซื้อบ้านต่างกันอย่างไร สิ่งที่คนกู้ซื้อกันเยอะที่สุด คงหนี้ไม่พ้น เครื่องใช้ไฟฟ้า จักรยานยนต์ รถยนต์ และบ้าน ทราบไหมว่าระบบการให้กู้และการคิดดอกเบี้ยของสิ่งต่าง ๆ ที่กล่าวมานี้ต่างกัน เงินกู้ซื้อจักรยานยนต์และรถยนต์ มีวิธีคิดแบบเดียวกัน คือ คิดดอกเบี้ยแบบคงที่ตลอดระยะเวลาที่ผ่อน (Flat Rate) ฉะนั้นเวลากู้แบบนี้คนจึงไม่นิยมใส่เงินก้อนโปะเข้าไป เพราะไม่มีประโยชน์เนื่องจากต้องจ่ายเงินเท่าเดิมอยู่ดี ยกเว้นแต่จะรำคาญ หรือกลัวลืมจ่ายค่างวดก็เลยจ่ายให้สิ้นเรื่องสิ้นราวไป ส่วนเงินกู้ที่ซื้อบ้าน คิดดอกเบี้ยแบบ ลดต้นลดดอก ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งครบอายุ หรือเงินต้นหมด (ที่จริงแล้วอัตราดอกเบี้ยไม่ได้ลด แต่ที่ลดคือจำนวนเงิน เนื่องจากเมื่อเงินต้นลด ดอกเบี้ยคิดตามเงินต้นที่เหลือ จึงทำให้จำนวนเงินที่เป็นดอกเบี้ยลดลงด้วย) คนที่กู้เงินซื้อบ้านเมื่อมีเงินก้อนที่คืนเจ้าหนี้ได้ก็จะลดภาระค่าบ้านโดยรวมลงไปด้วย เพราะเงินต้นในการคิดดอกเบี้ยลดลงโดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ดอกเบี้ยสูง 2.3 มีการให้กู้หรือการคิดดอกเบี้ยแบบอื่น ๆ อีกไหม นอกจากการให้สินเชื่อบ้านหรือรถยนต์ ก็ยังมีสินเชื่อหรือการกู้ลักษณะอื่น ๆ อีกหลายอย่าง ที่เป็นทางเลือกให้กับผู้กู้ให้เหมาะสมกับจำนวนเงินที่ต้องการกู้และเงื่อนไขของผู้กู้แต่ละคน ตัวอย่างสินเชื่อลักษณะอื่น เช่น สินเชื่อส่วนบุคคลหรือที่หลายแห่งโฆษณาว่าเป็นบริการเงินด่วน สินเชื่อรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ รวมถึงบัตรเครดิตหรือบัตรลูกหนี้ ที่ถือเป็นการกู้ยืมเช่นกัน สินเชื่อทั้ง 3 แบบนี้มีวงเงินและเงื่อนไขการคิดดอกเบี้ยที่แตกต่างกัน และเงื่อนไขการผ่อนที่ต่าง ๆ กันไปให้ผู้กู้มีโอกาสเลือกให้เหมาะกับตน ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อส่วนบุคคลหรือสินเชื่อรถยนต์ (ใช้รถเป็นสินทรัพย์ค้ำประกัน) เป็นเงินที่อนุมัติให้เราได้อย่างรวดเร็ว หลักฐานครบรับเงินทันที แต่ถ้าอ่านให้ดี ๆ ดอกเบี้ยคิดกันเป็นรายวัน กู้นิดเดียวกว่าจะใช้คืนหมดบางทีใช้เวลาเป็นปี จึงเพิ่มเติมคาถาที่เคยบอกไว้แล้วอีกคาถาว่า อะไรที่ได้มาง่าย ๆ เร็ว ๆ มักจะต้องจ่ายมากกว่าปกติ เพราะเวลาและความสะดวกก็มีราคา อยากให้ลองนึกถึงการกู้ซื้อบ้าน เปรียบเทียบจะเห็นว่ากว่าจะอนุมัติต้องส่งเอกสาร ต้องสัมภาษณ์ ต้องใช้เวลาพิจารณาเป็นเดือน ๆ แม้ว่าปัจจุบันใช้เวลาน้อยลงแล้ว แต่ก็ยังเป็นอาทิตย์ ๆ อยู่ดี ซึ่งหากเปรียบเทียบเฉพาะเรื่องดอกเบี้ยแล้ว เงินกู้ซื้อบ้านนั้นถูกกว่าสินเชื่อส่วนบุคคลเป็นเท่าตัว (ปกติเงินกู้ซื้อบ้านได้อัตราเท่ากับอัตราอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำ (MLR) แต่เงินกู้อื่น ๆ มักจะสูงกว่า) - - - - - - - - - - จบตอนที่ 2 - - - - - - - - - - - ขอบคุณที่ติดตามค่า |
บทความทั้งหมด
|
กรอกและส่งกลับถ้าสนใจ
ชื่อเต็ม .........
ประเทศ ..........
อายุ .........
เพศ .........
จำนวนเงินที่ต้องเป็นเงินกู้ .........
ระยะเวลาเงินกู้ ......
โทรศัพท์: .........
ติดต่อเราผ่านทางที่อยู่อีเมล: financialservice79@gmail.com
REGARD
เอริควิลสันอัลเมดา