รักแรกพบจะสมหวังหรืออกหักดังเป๊าะ


รักแรกพบจะสมหวังหรืออกหักดังเป๊าะ
 
          เมื่อเข้าสู่วัยหนุ่มสาว ธรรมชาติจะเร่งเร้าให้เกิดอารมณ์รัก ๆ ใคร่ ๆ มันเป็นปกติวิสัยที่จะสืบสานต่อเผ่าพันธุ์ รักแรกนี้จะเป็นรักแท้ที่ยืนยาวนานชั่วชีวิตหรืออาจพลาดจนล้มไม่เป็นกระบวนท่า
            เมื่อตำแหน่งหน้าที่การงานต้องอยู่ในเขตพระราชฐาน โอกาสได้พบปะสาวงามลูกผู้ดีมีเงินมีฐานะย่อมมีมากตามไปด้วย สาวงามมากมายที่ผ่านเข้ามาได้พบปะและรู้จัก อาจจะต้องตาต้องใจจนต้องรอลุ้นฉากต่อไป
จะสมหวังดังใจ คงมาจากบุพเพสันนิวาสที่เคยทำร่วมกันมาแต่ชาติปางก่อน หรืออาจอกหักดังเป๊าะจนแทบคลั่ง อยากจะบ้าตาย ยังน่าสงสัยอยู่
ที่น่าแปลกชายไทยสมัยนั้นคงทำบุญร่วมชาติตักบาตรร่วมขันกับสาวหลายคนจึงมีโอกาสมีเมียมากมาย ทั้งเมียเอก เมียแต่ง เมียรอง รวมทั้งนางเล็กนางน้อยที่คอยปรนเปรอ
ส่วนสาวเจ้าคงทำบุญร่วมชาติตักบาตรร่วมขันกับชายในดวงใจเพียงคนเดียวเท่านั้นจึงมีสามีได้เพียงหนึ่ง และต้องกล้ำกลืนน้ำตาไว้ในอกเมื่อสามีปันใจไปรักหญิงอื่น
ไม่มีหนทางใดเลย ที่ฝ่ายหญิงจะเลิกร้างจากสามีไปได้โดยง่ายดาย เว้นเสียแต่อีกฝ่ายจะลาจากโลกใบนี้ไปยังภพภูมิใหม่
ถึงแม้จะไม่มีเขาอยู่เคียงกาย คงจำต้องรักษาเนื้อตัวให้พ้นมือชายอื่น เพื่อเกียรติภูมิและศักดิ์ศรีของแม่ม่าย จะไปแอบลักลอบได้เสีย ด้วยอารมณ์ที่มีเองตามธรรมชาติหาได้ไม่ หรือจะแต่งเปิดเผยออกเรือนกับชายคนใหม่ยิ่งน่าเกลียด จำต้องเก็บเนื้อเก็บตัวจนเหี่ยวเฉาตายไป
ไม่มีโอกาสเสียล่ะที่จะจากเป็นด้วยเบื่อหน่าย รังเกียจในความประพฤติ มีแต่ต้องทน และทนไปตลอดกาล ไม่มีข้ออ้างใด ๆ ที่จะขอแยกทาง
 
การมีลูกเมียมากมายนั้น จำต้องเลี้ยงดูปูเสื่อเมียเอกให้เชิดหน้าชูตาตลอดกาล ถึงจะไม่ชอบขี้หน้า ถึงจะเบื่อหน่ายสุดแสนจะทน จำต้องพาอวดแขกในงานต่าง ๆ จะไปยกเมียรอง เมียเล็กเมียน้อย ให้มาตีหน้าเสมอเมียเอกหาได้ไม่ 
เขาถือกันนักว่า เมียแรกคือเมียเอก ห้ามทิ้งขว้าง ไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ ฝ่ายชายจำต้องทน และทนไปตลอดกาลเช่นกัน อาจตั้งไว้บนหิ้ง ไม่เกี่ยวข้องด้วยได้ แต่ต้องยกไว้ให้เป็นหนึ่งเสมอ
คนที่จะมีเมียได้มาก จะดูจากว่า ใหญ่โตมีอำนาจราชศักดิ์ จากศักดินาที่ได้รับพระราชทานจากเจ้าเหนือหัว มากน้อยเพียงใด
พวกชาวบ้านทั่วไปจะมีลูกเมียกี่คนกัน สงสัยไหม เบี้ยน้อยหอยน้อยจะมีปัญญาหาเลี้ยงดูหญิงและลูกเล็กได้สักกี่คนกัน มีเมียสักคนแล้วทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ คงน่าอายแย่เลย แล้วคงทำไม่ได้ด้วยสังคมจะก่นด่าประนามจนต้องแทรกแผ่นดินหนี
เจ้าใหญ่นายโตยุคนั้นล้วนมีเมียมากมาย และมีบุตรธิดามากมายนับไม่ถ้วนตามไปด้วย เนื่องจากไม่รู้วิธีคุมกำเนิด และคิดกันว่าจะได้มีคนสืบเชื้อสายวงศ์ตระกูลมากขึ้น จึงนิยมเหลือเกินที่จะมีเรือนเอกหลังใหญ่โต และเรือนเล็กเรือนน้อย รายล้อมรอบบริเวณที่ดินอันกว้างใหญ่ไพศาล
ยิ่งใหญ่โตมากเพียงใดยิ่งมีคนอยากเอาลูกสาวมาให้จะได้เชื่อมสัมพันธไมตรี เกื้อกูลผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน เจ้านายชั้นสูงจึงมีคนมาถวายลูกสาวให้เป็นบาทบริจาริกา รวมทั้งท้าวต่างบ้านเจ้าต่างเมืองยินดียิ่งนักที่จะให้ลูกสาวมารับใช้ใกล้ชิด
 
ตำหนักที่มีสาวสวยให้ยลโฉมคงได้แก่ตำหนักของพระมเหสี พระมารดาของจ้าวทัศน์ จ้าวภาคย์และตำหนักพระสนมเอก พระมารดาของจ้าวอินทร จ้าวอินทา จ้าวทอง
ทั้งนี้เพราะเป็นตำหนักใหญ่ของฝ่ายใน บรรดาลูกท่านหลานเธอต่างหวังความก้าวหน้า บิดาที่เป็นขุนนางชั้นผู้ใหญ่จึงส่งลูกสาวหลานสาวมาที่นี่
นายทหารมหาดเล็ก 3 นายเดินวนเวียนป้วนเปี้ยน เผื่อจะเตะตากับสาวสวยที่ถูกใจสักคน
ตำนานรักของหนุ่มสาวสมัยนั้นใช่ว่าจะเปิดปุ๊บติดปั๊บดังใจ คงต้องใช้เวลานานโขกว่าสาวเจ้าจะยินยอมพร้อมตกลงปลงใจเข้าเรือนหอ ยิ่งพ่อแม่ของสาวเจ้าใหญ่โตมากเพียงใด คงต้องยิ่งเพิ่มความพยายามมากขึ้นเท่านั้น
ผู้ใหญ่นายโตจะฝากฝังลูกสาวหลานสาวไว้ที่ตำหนักเจ้านาย จะได้เรียนรู้วิชาชั้นสูง ฝึกการเป็นแม่บ้านแม่เรือนกุลสตรี เพราะยังไม่มีโรงเรียนสำหรับเรียนรู้นอกจากฝึกงานกับเจ้านายฝ่ายหญิง
ที่สำคัญบรรดาลูกสาวหลานสาวจะมีโอกาสได้พบปะกับผู้ลากมากดีทั้งหลายที่มาเข้าเฝ้า รวมทั้งขุนนางอำมาตย์หนุ่ม ๆ ที่ยังไม่มีเรือน โอกาสที่จะมีคู่ครองย่อมดีกว่าอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน
 
แทนที่พี่ใหญ่จะพบเจอสาวสวยที่ถูกใจคนแรก กลับกลายเป็นน้องเล็กซะนี่
ทั้งที่ทั้งสามชะเง้อชะแง้กวาดสายตาคอยเมียง ๆ มอง ๆ พอ ๆ กัน
มันเป็นเช่นนี้ได้เช่นไรกัน คงเป็นเพราะพี่ใหญ่จมื่นศรีมาดเข้มเกินเหตุ ส่วนหลวงเดชนั้นค่อนข้างหาข้อตำหนิเสียมากกว่าจะดูที่ผิวพรรณความสวยงาม
หลวงพิชัยพบเห็นแม่หญิงบัวจากตำหนักใหญ่ เรือนพระมเหสีเพียงครั้งแรกถึงกลับไปนอนละเมอเพ้อพก จนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ได้แต่หาเหตุไปทำธุระแถวตำหนักใหญ่อยู่ร่ำไป พบเห็นหน้าสาวเจ้าแค่ผ่าน ๆ แสนจะดีใจมากแล้ว ยังมิกล้าเอ่ยปากทักทายสักที
ทำไมนะ สาวเจ้าจึงงดงามเสียเช่นนี้ แสนจะถูกอกถูกใจยิ่งนัก มองไปครั้งใด ให้ใจเต้นตุ้ม ๆ ต้ำ ๆ ผิดจังหวะเสียทุกครา บางคราเต้นตุ๊บ ๆ ตั๊บ ๆ เกรงเสียงดังของหัวใจจะออกมาข้างนอกเสียด้วยซ้ำ จนทำให้สาวเจ้าได้ยินเสียง อายจังเลยนิ
หลวงพิชัยได้แต่ละเมอเพ้อพกไปฝ่ายเดียวเป็นนานสองนาน
 
เมื่อหลวงพิชัยแจ้งแก่ใจแล้วว่า หญิงงามคนนี้ต้องตาต้องใจยิ่งนัก และน่าจะเป็นหญิงคนรักได้ วันหนึ่งจึงได้เอ่ยปาก บอกความในใจให้แก่พี่ท่านทั้งสองได้รับรู้
“พี่ท่าน น้องได้พบหญิงงามบาดตาบาดใจยิ่งนัก และคิดว่า ชาตินี้จะมิมีวันรักหญิงใดได้อีก นอกจากแม่หญิงบัวคนนี้คนเดียวเท่านั้น” หลวงพิชัยทำตาซึ้ง พลางเอ่ยปากบอกพี่ทั้งสอง
หลวงเดชกลับทำเสียงขำขัน หัวเราะเสียงดังลั่น “อะไรกัน เป็นน้องเล็กที่สุด กลับจะมาข้ามหน้าข้ามตาพวกพี่ได้เช่นไร ริรักเสียก่อนใคร ๆ ได้อย่างไรรึ”
หลวงพิชัยมิได้หัวเราะตาม มีแต่แสดงความจริงใจ “กระผมรักชอบนางจริง ๆ นะขอรับ” พลางยืนยันตามเดิม
“เออ พี่เข้าใจ ธรรมดาของความรัก ใช่ว่าจะกำหนดกฎเกณฑ์ได้เสียเมื่อไหร่เล่า มันคงเป็นรักแรกพบ ยากนักที่จะหักห้ามใจได้ ใช่ไหมล่ะ” จมื่นศรีหันไปพยักหน้ากับหลวงพิชัยอย่างเข้าใจ
“พี่ท่านเจรจาความเยี่ยงนี้ ราวกับเคยรู้จักความรักแล้วอย่างนั้นรึ” หลวงเดชหัวเราะอีก
“เอาล่ะ หยุดแหย่น้องเราได้แล้ว ตอนนี้เขาได้เป็นถึงหลวงพิชัย ไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะ จะริรักหรือชอบจริงจัง ก็ไม่แปลกใช่มั้ย” จมื่นศรีพูดเอาใจรักครั้งแรกของหลวงพิชัยอีกครั้ง
“ขอบพระคุณมากขอรับที่เข้าใจว่ากามเทพแผลงศร สะดุดรักดังปึ๊บทีเดียว อยากเห็นแต่หน้าน้องนางแม่หญิงบัวทุกเวลาทีเดียวเชียวนะขอรับ” หลวงพิชัยยังคงพร่ำเพ้อคะนึงหาอยู๋
“ดู๊ดูนะพี่ท่าน แค่พูดถึง ยังทำตาหวานฉ่ำเยิ้มเสียเพียงนี้ ไม่รู้ในใจเตลิดเปิดเปิงไปถึงไหนแล้วนี่” หลวงเดชยังอดที่จะแขวะต่อไม่ได้ ทั้งที่โดนห้ามปรามจากพี่ใหญ่สุดแล้ว ด้วยเกิดหมั่นไส้นิด ๆ ในกิริยาท่าทางอาการที่แสดงออกของหลวงพิชัยว่าหลงใหลได้ปลื้มกับสาวคนนี้เสียเต็มประดา
อาการสะเทิ้นอายจากรักแรกพบน่าจะเป็นฝ่ายหญิงแรกรุ่นเสียมากกว่า แต่หนุ่มน้อยหน้ามนที่เพิ่งพบเจอะเจอรักครั้งแรกอย่างหลวงพิชัยก็สะเทิ้นอายได้เช่นกัน
หลวงพิชัยไม่ได้ใส่ใจในคำของหลวงเดชแม้แต่น้อย รู้แต่ว่าหลงใหลได้ปลื้มเสียเหลือเกิน อยากจะเห็นแต่หน้าและพร่ำเพ้อให้ใคร ๆ ได้รู้ว่าตนหลงรักแม่หญิงบัวเข้าไปเต็มหัวใจแล้ว
“จริงขอรับพี่ท่าน ในใจนั้นเตลิดเปิดเปิงจนหยุดไม่ได้แล้วจริง ๆ นะขอรับ” แทนการโกรธที่โดนแขวะ กลับน้อมรับคำโดยเร็วว่าเป็นเช่นนั้นจริง
 
ส่วนสาวเจ้าแม่หญิงบัวรู้อยู่เต็มอก รวมทั้งเพื่อน ๆ มักจะหลิ่วตาหยอกล้อว่า ชายหนุ่มรูปหล่อ หุ่นล่ำบึ้ก ผิวออกคล้ำสมดังไทยแท้นี้แวะเวียนผ่านมาให้เห็นหน้าบ่อยครั้งเกินความจำเป็นซะแล้ว
 หลวงพิชัยผ่านมาให้แม่หญิงบัวเห็นนานหลายเดือนโดยไม่เคยเอ่ยปากทักทาย ได้แต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ จนสาว ๆ ขบขันกับท่าที และแอบไปนินทาว่า “อะไรกันแค่นี้มิกล้า”
ส่วนสาว ๆ จะไม่เอ่ยปากทักทายก่อนเป็นแน่แท้ มิเช่นนั้นจะโดนนินทาไปทั่วบ้านทั่วเมือง ยิ่งเป็นสาวในรั้วในวังด้วยแล้ว ข้อห้ามมีมากมายนัก
แม่หญิงบัวได้แต่แอบค่อนขอดในใจและพูดกับเพื่อนสนิทว่า “คุณหลวงพิชัยนี้หน้าตาดี หล่อเหลานัก แต่ทำไมไม่พูดจาหรือเป็นใบ้พูดไม่ได้ คงไม่ใช่หรอก เป็นใบ้จะมารับราชการได้เช่นไร แต่เช่นนี้ก็น่ารักดีเหมือนกัน นาน ๆ จะเจอผู้ชายขี้อายสักที”
สาว ๆ ในวังรับรู้ไปถ้วนหน้าแล้วว่า แม่หญิงบัวมีหนุ่มมาแอบเยี่ยม ๆ มอง ๆ เข้าให้แล้ว
ทั้งสองได้แต่ยินดีที่จะมองหน้าและสบตากันนานหลายเดือน มิได้สอบถามประวัติความเป็นมาของกันและกัน เพราะยังไม่ได้สืบสานสัมพันธ์จากคนต้องตาต้องใจเขยิบไปเป็นคู่หมั้นคู่หมายหรือคนรักกัน
หลวงพิชัยรู้แต่ว่า แม่หญิงบัวนี้เป็นหญิงที่สวยที่สุดตั้งแต่โตเป็นหนุ่มมา เพิ่งจะถูกตาถูกใจมากถึงมากที่สุดก็คงจะเป็นคนนี้นี่เอง ส่วนแม่หญิงบัวรู้สึกสะเทิ้นอายทุกครั้งที่สบตากับหนุ่มน้อยคนนี้
ผ่านไปนานหลายเดือนจนพี่ใหญ่จมื่นศรีและพี่รองหลวงเดช อดรนทนไม่ได้ยุคุณหลวงพิชัยให้กล้าทักทายและพูดคุย จะได้รู้แน่ชัดว่าแม่หญิงคนนี้มีใจตอบให้หรือไม่ จะได้เดินเรื่องต่อ
มิมีแม้สักคนที่คิดจะสืบสาวราวเรื่องถึงชาติตระกูลของแม่หญิงบัว หญิงงามในดวงใจของหลวงพิชัย ด้วยยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่คิดจะริรักเท่านั้น ยังมิถึงขั้นจะตกลงปลงใจมอบรักต่อกัน
แล้วความรักของหนุ่มสาวคู่นี้ดำเนินต่อมาถึงขั้นได้พูดจากันตามประสาคนชอบพอ และแอบมอบความหวังให้แก่กัน รอว่า สักวันเมื่อความรักสุกงอมจะได้ส่งผู้ใหญ่มาสู่ขอตบแต่งให้เป็นเรื่องเป็นราว วันนั้นฝันคงเป็นจริงและสวยงามยิ่งนัก
ระหว่างนี้ทั้งสองหนุ่มสาวยังมิได้คุยในรายละเอียดและสืบเสาะว่าต่างฝ่ายต่างเป็นลูกเต้าเหล่าใคร รู้แต่เพียงทั้งสองเริ่มมีใจให้แก่กันแค่นั้นเป็นพอแล้ว
ผู้ใดมีรักผู้นั้นจะมองเห็นโลกสดใสสว่างจ้า ไม่มีเมฆหมอกครึ้มฟ้าครึ้มฝนแม้แต่น้อย
แล้วหนุ่มสาวทั้งสองนี้จะสมหวังในรักหรือไม่
ผ่านมาอีกหลายเดือน หลายคนเริ่มรับรู้ว่าทั้งสองมีใจให้แก่กันและกัน และช่วงนี้แหละที่คนใกล้ชิดเริ่มมากระซิบกระซาบถึงเรื่องราวของอีกฝ่ายให้รู้กัน
ข่าวที่รับรู้มาแทบทำให้หลวงพิชัยช็อคได้ เพราะมองเห็นเมฆฝนก้อนใหญ่ลอยลงมาต่ำเสียเหลือเกิน รอแต่วันที่จะก่อพายุและฝนถล่มหนักแบบไม่ลืมหูลืมตา ทำไมต้องเป็นเช่นนี้นะ
ให้บังเอิญเสียเหลือเกินที่มาสืบรู้ว่า แม่หญิงบัวจากตำหนักใหญ่นี้เป็นหลานสาวคนโปรดของ
สมุหพระกลาโหม แล้วให้บังเอิญอีกเช่นกันที่บรรยากาศทางการเมืองระหว่างจ้าวทัศน์กับสมุหพระกลาโหมเกิดอึมครึมขึ้นมา โดยที่ยังมองหาทางลงที่สวยงามระหว่างสองฝ่ายไม่พบ
            ส่วนแม่หญิงบัวที่อยู่แต่ในรั้วในวัง จะไม่ค่อยได้รู้เรื่องราวทางการเมืองมากสักเท่าใดนัก เพราะข้อห้ามที่ฝ่ายในจะไม่สอดรู้สอดเห็นเรื่องราวภายนอกเขตพระราชฐาน แต่เรื่องที่เจ้าคุณลุงสมุหพระกลาโหมปีนเกลียวกับจ้าวทัศน์พระโอรสองค์ใหญ่ของพระมเหสีนั้น เป็นข่าวดังที่ลือกันไปทั่วทั้งตำหนักใหญ่
แม่หญิงบัวอกสั่นขวัญแขวนเมื่อรู้ว่าหนุ่มหน้าเข้มตาคมขำคนที่ชอบแอบเมียงมองและชอบพอเธอเป็นนายทหารคนสนิทของจ้าวทัศน์คู่อริของเจ้าคุณลุงเสียอีก
เช่นนี้แล้ว รักที่เริ่มก่อจะสานต่อได้หรือไม่ สงสัยอยู่
ทั้งหลวงพิชัยและแม่หญิงบัวเมื่อได้รู้ความที่ต่างอยู่คนละฟากฝั่ง ยากนักที่จะมาสมานไมตรีต่อกันได้ ยังหาข้อที่จะยุติความสัมพันธ์ไม่ได้
ด้วยความชอบพอที่เริ่มจะกลายมาเป็นความรักนี้ช่างสวยสดงดงาม ยากนักที่จะหักหาญน้ำใจให้ขาดสะบั้นลงได้ในทันทีเพราะความอาลัยอาวรณ์ต่อสายใยที่ได้เกิดขึ้น
 
สมุหพระกลาโหมสืบรู้มาว่ามีนายทหารหนุ่มในสังกัดของจ้าวทัศน์ แอบมาติดพันหลานสาวแม่หญิงบัว ยิ่งโกรธเกรี้ยวขึ้นมาทันที พาลเกลียดขี้หน้าหลวงพิชัยอย่างไม่มีเหตุผล แล้วเช่นนี้ความรักจะสมหวังได้หรือไม่ เมื่อมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง
            สมุหพระกลาโหมไม่ได้มองว่า นี่อาจเป็นช่องทางที่ดีที่จะสมานไมตรีกับฝ่ายของจ้าวทัศน์ เช่นเดียวกับจ้าวทัศน์เมื่อรู้ความว่าหลวงพิชัยสหายสนิทของจมื่นศรี ดันแอบไปหลงรักสาวเจ้าที่เป็นหลานสาวของคู่อริ รู้สึกไม่ยินดีเช่นกัน
            ต่างฝ่ายต่างไม่พอใจเมื่อรู้ว่า ทั้งสองแอบรักใคร่ชอบพอกัน ไม่มีทางเสียล่ะที่จะยอมให้เกิดเรื่องไม่งามเช่นนี้ในสายตาของพวกเขาเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน
            หลวงพิชัยแทบอยากจะวิ่งหนีเข้าป่า เมื่อสีรุ้งอันสวยงามบนฟากฟ้ากลับกลายเป็นเมฆหมอกมืดครึ้มราวพายุฝนจะถล่มทลายลงมาต่อหน้าต่อตาในบัดดล
ครั้นจะคิดพาสาวเจ้าหนีเข้าป่าไปด้วยกัน คงเป็นเรื่องที่ไม่อาจเป็นไปได้แน่นอน คงได้แต่หน้าชื่นอกตรม รอให้ความขัดแย้งทั้งหลายค่อย ๆ ลดน้อยลงเสียก่อน อาจจะดีขึ้นก็เป็นได้
 
            ผู้ใหญ่อย่างสมุหพระกลาโหมไม่รอให้เหตุการณ์มิงามเกิดขึ้น รีบทูลขอให้แม่หญิงบัวได้กลับเรือนเพื่อไปแต่งงานกับนายทหารที่สังกัดตน และเป็นถึงคุณพระมีฐานะและชาติตระกูลสูงส่ง
            รักแรกพบของหลวงพิชัยจะจบลงง่าย ๆ เช่นนี้เหรอ
            รักต่างขั้วของศัตรูคนละฟากฝั่งมิอาจจะลงเอยอย่างสวยงามกระนั้นหรือ
            แต่คงไม่จบแบบโรเมโอและจูเลียตนะ ที่ต่างฝ่ายต่างต้องพลีชีพเพื่อสังเวยรัก เพราะใช่ว่าจะมีแค่หญิงเดียวในโลกให้ได้รัก แต่ยามนั้นมิคิดไปไกลอื่น นอกจากอยากจะบ้าตายเท่านั้นเอง
            บางคนบอกอกหักดีกว่ารักไม่เป็น อย่างน้อยยังได้รู้จักหน้าตาของความรักว่าเป็นเช่นไร จริงไหมนิ
 
            อันความรักครั้งแรกนี้ช่างสวยสดงดงาม
แลกระตุ้นความรู้สึกหวั่นไหวให้เกิดขึ้น
แล้วรักจะสมหวังหรือรักคุดคงไม่อาจรู้ได้
หวังแต่เพียงเมฆหมอกที่มืดครึ้มจะสลายลง
 
 



Create Date : 22 มิถุนายน 2563
Last Update : 22 มิถุนายน 2563 16:30:04 น.
Counter : 611 Pageviews.

0 comments
: แสงลอดเมฆ 14 : กะว่าก๋า
(25 ก.ย. 2567 04:54:57 น.)
: แสงลอดเมฆ 12 : กะว่าก๋า
(23 ก.ย. 2567 05:40:29 น.)
คุณเพื่อนฝากขายรถฟอร์คลิฟท์ kcan9
(23 ก.ย. 2567 12:15:04 น.)
: แสงลอดเมฆ 11 : กะว่าก๋า
(22 ก.ย. 2567 06:23:18 น.)
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Drpk.BlogGang.com

BlogGang Popular Award#20



สมาชิกหมายเลข 4665919
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]

บทความทั้งหมด