คลื่นสมอง กับระดับสมาธิ
เครื่องวัดสมาธิ
ในสหรัฐอเมริกา เมื่อไม่นานมานี้มีการค้นพบความสัมพันธ์ระหว่างสมองกับการทำสมาธิ การค้นพบนี้บ่งบอกว่าสมองของเรานั้นประกอบด้วยเซลล์จำนวนมาก แต่ละเซลล์นั้นได้สร้างกระแสไฟฟ้าเล็กๆขึ้น ซึ่งรวมกันแล้วทำให้เกิดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือคลื่นสมองซึ่งเปลี่ยนไปตามความเปลี่ยนแปลงของจิตหรือของอารมณ์ นักวิทยาศาสตร์สามารถสร้างเครื่องมือที่ใช้วัดคลื่นสมองของมนุษย์ได้ และเรียกเครื่องมือนี้ว่า อีอีจี มาชีน (EEG Machines) ซึ่งย่อมาจากคำว่า Electroencephalogram machines

จากการต่อเครื่องมือนี้เข้ากับศีรษะ ทำให้พบว่าคลื่นสมองที่เกิดขึ้นในภาวะที่จิตสำนึกตื่นตัวตามปกติเป็นคลื่นชื่อว่า เบต้า (Beta) ซึ่งมีจังหวะรวดเร็วไม่สม่ำเสมอ อันเป็นการชี้ชัดถึงความกระสับกระส่ายวุ่นวายของคนปกติ

แต่เมื่อฝึกสมาธิ พลังของสมาธิมีความเกี่ยวโยงกับสมองทำให้คลื่นสมองเรียบขึ้น แทนที่จะถี่มากก็กลับเป็นเส้นยืดตรงขึ้นตามลำดับ คลื่นสมองนี้ เมื่อวัดจากคนทำสมาธิอย่างเบาๆ คลื่นจะเปลี่ยนเป็นคลื่นอีกชนิดหนึ่ง เรียกว่า อัลฟา (Alpha)

ต่อจากนั้น เมื่อได้ฝึกจิต เช่น ท่องมนต์ หรือภาวนาบ่อยๆเข้า อย่างเราภาวนาพุทโธเป็นต้น จิตสงบขึ้น คลื่นสมองจะเปลี่ยนเป็นคลื่น เธต้า (Theta)

ต่อจากนั้น ถ้าใครฝึกสมาธิจนจิตสงบมากขึ้นไปอีก คลื่นสมองก็จะเป็นเส้นตรงปกติขึ้น ไม่วุ่นวาย ความคิดก็ไม่วุ่นวาย คลื่นสมองก็เรียบดีขึ้น คลื่นจะเปลี่ยนเป็นคลื่น เดลต้า(Delta)

ถ้าใครฝึกจนจิตหยุดนิ่ง สงบ คลื่นสมองในช่วงนั้นที่วัดออกมา เขาเรียกว่า คอสมิก(Cosmic)

เครื่องมือนี้ใช้อยู่ในต่างประเทศ ในประเทศไทยก็มีการนำเครื่องนี้มาใช้แล้วที่มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเป็นเครื่องวัดว่าสมองมีความเกี่ยวพันกับจิตใจ เมื่อจิตใจสงบ สมองก็คลายเครียดลงไป

ในการค้นพบของนักวิทยาศาสตร์ เขาบอกว่าสมาธิขั้นต่างๆนั้น ปรากฏออกมาเป็นคลื่นสมอง เขาเปรียบเทียบคลื่นสมองไว้ 5 คลื่นใหญ่ๆ คือ

1. คลื่นเบต้า คือ คลื่นสมองของคนที่ไม่ได้ฝึกสมาธิ
2. คลื่นอัลฟา คือ คลื่นสมองของคนที่เริ่มฝึกสมาธิ
3. คลื่นเธต้า คือ คลื่นสมองของคนที่จิตสงบเข้าไปมากจนถึงขั้นเกือบจะเป็นอุปจารสมาธิ
4. คลื่นเดลต้า คือ คลื่นสมองของคนที่มีจิตสงบมากขึ้น
5. คลื่นคอสมิก คือ คลื่นสมองของคนที่มีจิตใจสงบมากเป็นสมาธิ ขั้นสูง ซึ่งบางท่านบอกว่าถึงขั้นอัปปนาสมาธิทีเดียว


ข้อมูล เรื่องสมาธิในการรักษาโรค จากหนังสือ “รู้ตัว รู้ใจ ก็ไปนิพพาน” โดยพระธรรมวิสุทธิกวี




Create Date : 18 มิถุนายน 2551
Last Update : 18 มิถุนายน 2551 9:28:52 น.
Counter : 1477 Pageviews.

16 comments
พระพุทธสิหิงค์ : หลวงพ่อเพชร ผู้ชายในสายลมหนาว
(27 มิ.ย. 2568 15:34:46 น.)
ไม่เปลี่ยนใจ ไม่โลภ รู้จักพอ แทนคุณ การอยู่ ทำผิด ความถูก ความดี ปัญญา Dh
(2 ก.ค. 2568 07:37:44 น.)
: กะว่าก๋าแนะนำหนังสือ - ความสุขโดยสังเกต : กะว่าก๋า
(22 มิ.ย. 2568 05:29:20 น.)
"หลวงพ่อโต" วัดพนัญเชิง จ.พระนครศรีอยุธยา สมาชิกหมายเลข 4313444
(21 มิ.ย. 2568 02:46:10 น.)
  
เอ เราเป็นคลื่นไหนหว่า
โดย: The Kop Civil วันที่: 18 มิถุนายน 2551 เวลา:10:10:05 น.
  
หัวหน้าแกงค์อยู่ข้างๆลาบาดอร์ค่ะ
โดย: แม่แฮปปี้ IP: 124.120.177.46 วันที่: 18 มิถุนายน 2551 เวลา:11:28:05 น.
  
ของเราสงสัยจะเป็นคลื่นเบต้า
เคยไปนั่งสมาธิแต่ไม่ได้ค่ะ
โดย: kai (aitai ) วันที่: 19 มิถุนายน 2551 เวลา:9:02:41 น.
  
คิกๆ ๆ สงสัยของเราเป็นคลื่นสปาต้า แหง๋ๆ เลยเจ้า
ขอบคุณเจ้าตี๊เข้าไปแอ่วหา เจ้า
โดย: 2times4t วันที่: 19 มิถุนายน 2551 เวลา:12:26:12 น.
  
ขอบคุณความรู้ดีดีครับ
โดย: w_thira วันที่: 19 มิถุนายน 2551 เวลา:15:50:37 น.
  
ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่เข้าไปเมนท์ให้นะคะ
โดย: แค่คนหนึ่งคน วันที่: 19 มิถุนายน 2551 เวลา:17:01:28 น.
  
เพลงเพราะมาก
ความรู้ก็เข้าท่ามาก

โดย: ขอบคุณสำหรับกำลังใจเช่นกัน (bowkavi ) วันที่: 19 มิถุนายน 2551 เวลา:20:51:07 น.
  
สงสัยส้มจะเป็นคลื่นสมองแบบเบต้านะคะ อิอิ..

ขอบคุณนะคะที่เข้าไปที่บล็อกค่ะ
โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 19 มิถุนายน 2551 เวลา:21:10:23 น.
  
อ่านแล้วสงสัยต้องหัดฝึกสมาธิบ้างแล้วล่ะครับ
โดย: อนันต์ครับ วันที่: 19 มิถุนายน 2551 เวลา:21:44:18 น.
  
น่าสนใจ แต่ การมีสมาธิใช่การนั่งหลับตาอย่างเดียว

ขอบคุณที่นำสิ่งดีๆ มาฝาก จ๊ะ
โดย: บ้าได้ถ้วย วันที่: 20 มิถุนายน 2551 เวลา:3:28:12 น.
  
โดย: kai (aitai ) วันที่: 20 มิถุนายน 2551 เวลา:8:53:06 น.
  
ของผมคงจะต้องจัดอยู่ในคลื่นเบต้า ล่ะครับ
ยามที่ยาออกฤทธิ์ก็อยูเฉยๆ ไม่ได้
ยามที่ยาหมดฤทธิ์ก็เคลื่อนไหวไม่ได้ เหมือนซากคนตาย
เป็นเรื่องปกติสำหรับคนที่มีอาการอย่างผมครับ
บล๊อกสวยครับ
kasawan
โดย: kasawan IP: 118.174.215.129 วันที่: 20 มิถุนายน 2551 เวลา:10:42:36 น.
  
คลื่นสมองเป็นเส้นตรง.. นี่น่าสนใจ..
โดย: myover วันที่: 20 มิถุนายน 2551 เวลา:12:15:26 น.
  
ขอบคุณครับที่ให้ความรู้ ขออนุญาติเข้ามาดูดเนื้อหาไปใช้ในงานเขียนนะครับ
โดย: วาโย (wayoodeb ) วันที่: 16 มิถุนายน 2552 เวลา:12:03:08 น.
  
ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆ ครับ
โดย: jom IP: 115.87.31.190 วันที่: 22 ธันวาคม 2552 เวลา:19:52:01 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Dhamma-poem.BlogGang.com

VICT
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด