ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 284 "เที่ยวทิพย์ทั่วไทย" โจทย์ถนนสายนี้มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 284 "เที่ยวทิพย์ทั่วไทย" ตั้งโจทย์โดย พี่อุ้ม คุณอุ้มสี เมื่อ 4 – 5 ปีที่แล้ว คุณพ่อของเจ้าของบล็อกเสีย การเที่ยวของเจ้าของบล็อกก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ เจ้าของบล็อกจะต้องนึกเอาไว้ตลอดว่า “มีคุณนายแม่ที่เดินไม่ค่อยไหวอีกคนนึงนะ” จะไปตะลอนๆ ขึ้นเขาลงห้วย สมบุกสมบันอย่างเมื่อก่อนไม่ได้ ยิ่งพอย้ายออกจากครอบครัวใหญ่ออกมาอยู่เป็นครอบครัวเล็กๆเองด้วยแล้วเจ้าของบล็อกก็มี “หลานสาวตัวเล็ก” กับน้องสาวอีกคนนึงต้องห่วงด้วย เริ่มจากการเลือกสถานที่ท่องเที่ยว จากการที่ไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวที่กำลังเป็นที่นิยมในช่วงนั้นๆ เปลี่ยนมาเป็นการที่เอาหลานสาวกับคุณนายแม่เป็นตัวตั้งว่าอยากไปเที่ยวที่ไหน หรือถ้าหลานสาวกับแม่ไม่มีไอเดีย สถานที่ท่องเที่ยวที่เจ้าของบล็อกจะเลือกไปนำเสนอก็ต้องผ่านการคัดกรองจากเจ้าของบล็อกและคนข้างๆเป็นอย่างดีว่าเด็กไปแล้วจะสนุก มีกิจกรรมให้เด็กๆทำ คนชราก็สามารถไปเที่ยวได้โดยไม่ลำบาก ไม่ต้องเดินไกล หรือมีที่ให้นั่งพัก มีร้านกาแฟให้นั่งรอ เมื่อไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวเจ้าของบล็อกกับคนข้างๆจะต้องรีบสำรวจสถานที่ว่าเดินไกลมั๊ย ระหว่างทางเดินมีที่พักมั๊ย หรือไม่อย่างนั้นจะต้องมองหาร้านกาแฟใกล้ๆ ที่ร่มๆมีที่นั่งสบายๆใกล้ๆ แล้วกลับมาถามคุณนายแม่ว่าจะไปเดินเที่ยวหรือว่าจะนั่งรอ ถ้าคุณนายเลือกการนั่งรอในร้านกาแฟก็จะต้องจัดที่จัดทาง เตรียมเครื่องดื่ม ขนม ให้พร้อม และฝากคุณนายแม่ไว้กับเจ้าของร้าน ฮ่าๆๆๆ แต่ถ้าคุณนายแม่เลือกที่จะเดินเที่ยว หลานสาวก็จะทำหน้าที่ "จูงยายเที่ยว"                 การเลือกสถานที่พักก็เป็นเรื่องสำคัญนะครับ คนข้างๆกำหนดไว้เลยให้เลือกโรงแรมแรม 5 ดาว ก่อนเป็นตัวเลือกแรก เพราะมั่นใจในการบริการและมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ถ้าโรงแรม 5 ดาวเต็ม หรือราคาสูงเกินไป ก็เลือกโรงแรมระดับรองๆลงมา แต่แทนที่จะจองผ่านเวบไซด์ที่จองที่พักเพื่อให้ได้ราคาที่ถูก หรือราคาโปรโมชั่น ก็ต้องโทรไปจองกับทางโรงแรมเองเพื่อจะได้คุยกับโรงแรมว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับคนชราหรือเปล่า จากล็อบบี้เดินไปห้องพักไกลมั๊ย มีรถ wheelchair ให้หรือเปล่า มีห้องแบบ Family หรือเปล่า หรือถ้าไม่มีห้องแบบ Family ก็ต้องเป็นห้องพักที่เป็น connection room มีอะไรจะได้ช่วยเหลือกันทันท่วงที บางทีที่โทรไปคุยกับบูติกโฮเทลถ้าได้คุยกับเจ้าของเลยก็จะได้ราคาโปรโมชั่นพิเศษๆ หรือได้อัพเกรดห้อง แต่ถ้าโทรไปคุยกับพนักงานทั่วไปก็เป็นราคาปกติซึ่งบางครั้งจะแพงกว่าราคาที่มีอยู่ในเวบจองโรงแรม แต่เพื่อความมั่นใจว่าคุณนายแม่จะเที่ยวอย่างสนุก สุขใจ สบายใจ เจ้าของบล็อกก็ยินดีจ่ายนะครับ อย่างเมื่อตอนที่ไปเที่ยวสุโขทัย โทรไปจองทีพักที่ The Old Stay by Sisyter เองเลย เคยไปพักครั้งนึงแล้วที่พักสะอาด สะดวกสบาย แล้วเห็นห้องที่อยู่ที่ชั้น 1 ไม่ต้องขึ้นบันได เลยโทรไปคุยกับทางโรงแรม พอดีว่าเจ้าของเป็นคนรับสายเลยบอกไปว่าเคยไปพักแล้ว ชอบที่พักมากๆ อยากได้ห้องพักที่อยู่ชั้น 1 เพราะมีคนแก่ขึ้นบันไดไม่สะดวก เจ้าของใจดีมากลดค่าที่พักให้ด้วย หรือตอนไปเที่ยวเชียงรายไปพักที่ Le Meridien ก็ประทับใจมากๆ คุณชายจองห้องพักไปลืมดูว่าอยู่ไกลจาก Lobby พนักงานของโรงแรมเอารถเข็นมาบริการคุณนายแม่ไปจนถึงห้องพัก แล้วยังบอกว่าถ้าต้องการรถเข็นให้โทรไปที่ Lobby ได้ตลอดเวลา อีกที่นึงคือโรงแรม Isaan-Isan Boutique Resort by Andacura ที่เขาใหญ่ ห้องพักก็อยู่ไม่ไกลจาก Lobby แต่ก็ยังมี wheel chair บริการจนถึงห้องพักเลย พอดีว่าไปวันธรรมดาคนไม่เยอะ พนักงานก็เลยให้เอา wheel chair ไว้ใช้ตลอด                                     จบเรื่องที่พักก็มาถึงเรื่องสำคัญอีกเรื่องคือเรื่องกิน เจ้าของบล็อกต้อง list ร้านอาหารมี่ไม่น่าพลาด หรือร้านอาหารที่แนะนำ แล้วเอาลิสต์ร้านอาหารเหล่านั้นมาคุยกับคนข้างๆ เข้าไปดูแผนที่ Google บางทีก็เข้า Google earth ดูว่าร้านนี้เดินสะดวกหรือเปล่า เข้าไปดูรีวิวหลายๆที่ จะได้เห็นร้านทั่วๆ เพราะกลัวคุณนายเดินไม่สะดวก เคยครั้งนึงตอนไปเชียงใหม่ ไปกินข้าวเย็นร้านสวยๆ บรรยากาศดีๆ อยู่ติดหน้าผา แต่ร้านต้องเดินขึ้นๆ ลงๆ หลายชั้นมากกว่าจะถึงโต๊ะกินข้าว คุณนายแม่ถอดใจบอกว่า “ไปกินกันเถอะแม่นั่งรอตรงนี้แหละ” เจ้าของบล็อกเลยเปลี่ยนร้านเลยครับ จะให้เจ้าของบล็อกกินข้าวอร่อยได้ยังไงถ้ามีคุณนายแม่นั่งรออยู่ เมื่อตอนที่วางแผนหาร้านอาหารในทริปเชียงราย เจ้าของบล็อกอยากไปร้านภูภิรมย์ สิงห์ปาร์ค เห็นว่าหน้าร้านมีบันไดสูงมากกกกกกก คุณนายแม่ขึ้นไม่ไหวแน่ๆ เลยไปตามหารีวิวร้านภูภิรมย์ สิงห์ปาร์ค จนเจอว่าที่ร้านภูภิรมย์ สิงห์ปาร์ค มีลิฟต์ขึ้นไปที่ร้านได้ด้วย การเลือกสั่งอาหารในแต่ละมื้อเจ้าของบล็อกก็จะเลือกสั่งตามใจตัวเอง เลือกอาหารแนะนำ ของทางร้านเพื่อจะมาทำรีวิวก็ไม่ได้ เพราะคุณนายแม่ทานเผ็ดมากไม่ได้ ไม่ทานอาหารประเภทหอย ปู หลานสาวก็จะเลือกแต่ของที่ตัวเองชอบ เช่น ปีกไก่ทอดเกลือ ข้าวผัดกุ้ง ไข่เจียว ถ้าเป็นอาหารอิตาเลี่ยนนี่ยิ่งแล้วใหญ่ เมนูบังคับคือ "พิซซ่าชีส" เท่านั้นครับ คุณนายแม่จะชอบทานสปาเกตตี้แบบไทยๆ รสเผ็ดน้อยๆ คุณชายชอบกินไส้กรอกรวม ..... แค่ 3 เมนูนี่สำหรับผู้ใหญ่ 4 คน เด็กหญิงอีก 1 คน ก็เต็มทีแล้วครับ เพราะฉะนั้นน่าจะเข้าใจเจ้าของบล็อกได้นะครับว่าทำไมถึงได้สั่งเมนูซ้ำไปซ้ำมา อิอิอิ                      ตามปกติทริปครอบครัวใหญ่ๆของเจ้าของบล็อกจะใช้เวลาเที่ยวประมาณ 6 – 7 วัน แต่เจ้าของบล็อกต้องเตรียมตัววางแผนจองโรงแรม หาสถานที่ท่องเที่ยว หาร้านอาหารไว้ล่วงหน้าเป็นเดือนครับ ถามว่าลำบากกว่าสมัยก่อนที่เที่ยวกันสองคนมั๊ย .... ลำบากกว่ามากกกกกก สมมุตินะครับ ... สมัยก่อนอยากไปเชียงใหม่ตอนไหนก็จองตั๋วเครื่องบินเพื่อบินวันรุ่งขึ้น จองโรงแรมตอนที่นั่งรถไปสนามบิน พอถึงเชียงใหม่ก็เข้าโรงแรมไปนอนนึกว่าจะไปเที่ยวไหนดี แล้วค่อยหาร้านอาหารใกล้ๆทาน ..... แต่ ..... ตอนนี้มันรู้สึก “เป็นสุข” กว่ามากๆครับ ได้แอบเห็นคุณนายนั่งมองวิวจากในรถ ได้เปลี่ยนบรรยากาศ ได้เห็นหลานสาววี๊ดว๊ายกระตู้วู้ ตื่นเต้นได้เห็นสิ่งแปลกๆ ใหม่ๆ ได้เห็นคุณนายแม่กินข้าวอย่างเอร็ดอร่อย กินข้าวได้เยอะขึ้น ได้เห็นหลานสาวได้ลองกินข้าวกับกับข้าวแปลกๆ เผ็ดไปบ้าง อร่อยบ้าง ไม่อร่อยบ้าง ได้เห็นทุกคนในครอบครัวหัวเราะด้วยกัน ยิ้มให้กันทั้งวัน ..... มันมีความสุขที่สุดแล้วครับ เจ้าของบล็อกว่าถ้าไปกับครอบครัวไปเที่ยวที่ไหนก็มีความสุขครับ
พอมีเด็ก มีผู้สูงอายุ เราก็ต้องคำนึกถึงอะไรมากขึ้นจริงๆ ครับ เดี๋ยวนี้ดีตรงที่เราสามารถหาข้อมูลก่อนได้เยอะ สมัยก่อนยุคที่ไม่มีอินเทอร์เน็ตหาได้เต็มที่ก็จากคนรู้จัก รายการทีวี ไม่ก็ปากต่อปากเท่านั้น แต่เดี๋ยวนี้อย่างน้อยมีกูเกิ้ล เราหาข้อมูลได้ก่อน ก็ช่วยกำหนดแผนการได้ระดับหนึ่ง ผิดกับสมัยก่อนที่แทบจะดำน้ำอย่างเดียวเลย
โดย: คุณต่อ (toor36
  ) วันที่: 24 สิงหาคม 2564 เวลา:12:51:18 น.คอเดียวกันเลยครับพี่บอล
อาจจะมีคนด่า 5555 แต่ตัวเลือกในการพักโรงแรมของผม ส่วนใหญ่ก็เลือก 5 ดาวก่อน ถ้าแพงจัด 5555 หรือไม่มีจริงๆ ก็ดู 4 ดาว จริงๆ ขึ้นกับบริบทในการไปเที่ยวด้วยว่าเราเน้นเที่ยวๆๆๆๆๆ กลับดึกๆ ออกเช้า ออกทุกวันไม่มีพักหรือป่าว ถ้าแบบนั้น 3 ดาว หรือ เซอร์วิซ อาพาทเม้น ผมก็พักได้ แต่ถ้าตั้งใจไปพักผ่อน เปลี่ยนที่นอน กินข้าว นั่งชิล ก็เลือก 5 ดาวครับ มีคุณนายแม่ไปด้วย การวางแผนก็ต้องรอบคอบขึ้นเยอะครับ แต่ก็สนุกไปอีกแบบ ท่านก็ได้สนุกมีความสุขไปด้วย หลานตัวไม่น้อยแล้วครับ จูงยายได้สบายๆแน่นอน ฝากคุณยายไว้ได้เลย ^^ เนี้ยแค่ผมมีหลานแล้วต้องไปด้วยกัน ผมก็คิดเยอะมาก จะจองห้องพูลวิลล่าแบบเมื่อก่อนก็ไม่ได้ เพราะกัวหลานพลาดเดินตกน้ำ จะจองเต้นสปาที่มีอ่างน้ำวนที่พื้นห้องก็ไม่ได้ กัวหลายตกอีก ทำอะไรต้องคิดถึงเค้าก่อน ไว้ไม่ได้พาไปค่อยไปพักแบบนั้นก็ได้ โดย: จันทราน็อคเทิร์น
 วันที่: 24 สิงหาคม 2564 เวลา:13:42:51 น.สวัสดีมีสุขค่ะ
ชื่นใจแทนคุณแม่ค่ะ ทำบุญกับพุพการี ไม่ไปไหนเสียค่ะ ลอย้อนนึกถึงตอนเราเด็กๆ พ่อแม่ทั้งอุ้ม ทั้งให้ขี่คอ เมื่อเราเดินไม่ไหวร้องไห้งอแง มาตอนนี้คุณแม่เดินไม่ค่อยไหว แต่ได้ลูกคอยห่วงใยดูแล...กุศลทั้งนั้นค่ะ โดย: ตะลีกีปัส
 วันที่: 24 สิงหาคม 2564 เวลา:15:22:09 น.ไปเที่ยวกับครอบครัวเหนื่อยหน่อย แต่ผมว่ามีความสุขมากที่สุดเลยครับ
บางครั้งทริปไหนที่ผมไปคนเดียว ยังนั่งคิดเลยครับว่าน่าจะชวนครอบครัวมาด้วยดีกว่า โดย: The Kop Civil
 วันที่: 24 สิงหาคม 2564 เวลา:15:25:51 น.เที่ยวกับครอบครัวมีความสุข
ถือว่านานๆ รวมกันที หยวนหยวนกันไป โดย: นกสีเทา
วันที่: 24 สิงหาคม 2564 เวลา:16:49:47 น...สวัสดี จ้ะ น้องบอล
มาเที่ยวทิพย์กับบล็อกของบอล จ้ะ แต่ละแห่งดูอลังการเหลือเกิน ห้าดาว ต้องมีตังค์เยอะ ๆ แต่สำหรับบอล เป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยอยู่แล้ว อิอิ การทำเพื่อแม่ เพื่อความสุขของครอบครัว เป็นสิ่งถูกต้องจ้ะ โหวดหมวด ตะพาบ โดย: อาจารย์สุวิมล
 วันที่: 24 สิงหาคม 2564 เวลา:18:37:22 น.รู้ว่าน้องบอลทำเพื่อคนในครอบครัวมาตลอด ๆ ค่ะ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกิน ท่องเที่ยว ฯลฯ แต่ก็ต้องทำเพื่อตัวเองบ้างนะคะ จะได้มีก่ำลังแรงใจและทำเพื่อคนที่รักต่อไปค่ะ โดย: เนินน้ำ
 วันที่: 24 สิงหาคม 2564 เวลา:20:16:11 น.จูงยายเที่ยว
น่ารักดีครับคุณบอล สองคนสองวัยที่คุณบอลดูแล คงยิ้มอย่างมีความสุขในทุกทริปเลยนะครับ  โดย: กะว่าก๋า
 วันที่: 24 สิงหาคม 2564 เวลา:23:08:21 น.หลานสาวน่ารักจังค่ะคุณบอลจูงคุณยายเที่ยว
ไปเที่ยวกับครอบครัวไปที่ไหนก็มีความสุขจริงๆนะคะ ขอบคุณคุณบอลสำหรับกำลังใจค่ะ  โดย: Sweet_pills
 วันที่: 24 สิงหาคม 2564 เวลา:23:39:38 น.มาเที่ยวด้วยค่ะ น่าไปเที่ยวทุกที่เลยค่ะ อาหารน่ากินหลายอย่างด้วย โดย: newyorknurse
 วันที่: 25 สิงหาคม 2564 เวลา:4:32:14 น.โรงแรมน่านดูสวยมีเอกลักษณ์ดีคุณบอล
โรงแรมดุสิตมีเอกลักษณ์แบบเก่าๆ จ้า  โดย: หอมกร
 วันที่: 25 สิงหาคม 2564 เวลา:8:30:53 น. |
บทความทั้งหมด
|
||||||||||||||||||||
 |
|
ผู้ติดตามบล็อก : 156 คน [