ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 281 "รังแก" โจทย์ถนนสายนี้มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 281 "รังแก" โจทย์โดยคุณ toor36 การถูก “รังแก” ที่เจ้าของบล็อกจะมาเล่าในวันนี้เป็นการถูกรังแกแบบเป็นกลุ่ม และเรื่องนี้ไม่ได้เกิดที่เมืองไทยด้วยครับ เมื่อตอนไปเรียนต่อปริญญาโทที่เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย นักเรียนปริญญาโทกฎหมายชาวต่างชาติทางมหาวิทยาลัยถือว่า “Main campus based” คือมีหลักแหล่งอยู่ที่วิทยาเขตหลักซึ่งอยู่ห่างจากกลางเมืองเมลเบิร์นไปประมาณ 30 กิโลเมตร แต่ในความเป็นจริงแล้วสถานที่เรียนของแต่ละวิชาจะต้องเข้ามาเรียนกลางเมืองเมลเบิร์น เวลาเรียนปกติก็จะเป็นตอนเย็นๆ เพราะมหาวิทยาลัยอำนวยความสะดวกให้กับ “Melbournian หรือ ชาวเมลเบิร์น” ทั้งหลายที่ทำงานในเมืองมาเรียนปริญญาโทกฎหมายกันเยอะๆ การเดินทางเข้าเมืองจากวิทยาเขตหลักจริงๆก็ไม่ยากครับ สามารถนั่งรถไฟต่อเดียวก็เข้าเมืองได้สบายๆ แต่ตอนเลิกเรียนซึ่งเป็นเวลากลางคืน 2 ทุ่ม 3 ทุ่ม การเดินทางกลับวิทยาเขตหลักก็ถือว่าลำบากเหมือนกัน   สวัสดิการอย่างหนึ่งที่ทาง Law School มีให้นักเรียนต่างชาติก็คือ “นักเรียนต่างชาติทุกๆคนสามารถเบิก Cab voucher คนละ 1 ใบ ในวันที่มีเรืยนในเมือง” เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับที่พักตอนกลางคืน เราสามารถกรอกตัวเลขที่เป็นค่าโดยสาร .... ถ้าใจดีจะรวมทิปเท่าไหร่ก็ได้ เซ็นชื่อ แล้วส่งให้คนขับได้เลย แรกๆก็ไม่มีปัญหาอะไร .... เด็กไทยที่เรียนปริญญาโทกฎหมายได้รับ Cab voucher ทุกๆครั้งที่เข้าไปเรียนในเมือง ต่อๆมาเริ่มมีนักเรียนไทยบางคนไม่ได้รับ Cab voucher โดยทางเลขาบัณฑิตวิทยาลัยผู้ออก Cab voucher บอกว่าให้ไปแชร์กับเด็กไทยคนอื่นที่ได้รับ voucher ไปแล้ว แล้วนางก็ไม่ได้บอกด้วยนะครับว่าเด็กไทยคนไหนที่รับ voucher ไปแล้ว เราต้องตามหากันเองให้วุ่นไปหมด พอเจ้าของบล็อกรู้เรื่องจึงรู้สึกว่าเหมือนถูก “รังแก” เพราะจากเท่าที่ถามๆนักเรียนชาติอื่นๆแล้ว บางคนก็ยังได้รับ voucher ตามปกติ ทำไมถึงมาตั้งแง่เอากับคนไทย หรือจะเห็นว่าคนไทยเป็นคน “ยังไงก็ได้” เจ้าของบล็อกเลยเป็นตัวแทนนักเรียนไทยขึ้นไปพบกับ เลขาบัณฑิตวิทยาลัยผู้ออก Cab voucher คุยไปคุยมาก็เป็นจริงอย่างที่คิด เลขาบัณฑิตวิทยาลัยเธอทำเสียงอ่อยๆ บอกว่า “ปีนี้รับนักเรียนต่างชาติเยอะกว่าปกติ แล้วเธอคิดว่านักเรียนไทยคือกลุ่มที่พูดง่ายที่สุด เลยมาตัด voucher ของนักเรียนไทยเพื่อเอาไปให้นักเรียนคนที่ไม่ยินยอมที่จะเสียสิทธิของตัวเอง ...” เจ้าของบล็อก “สวด” แม่เลขาบัณฑิตวิทยาลัยซะยกใหญ่ ทวงบุญคุณที่นักเรียนไทยทุกๆคนซื้อของมากำนัลนางตอนที่เข้าเรียนใหม่ ไม่รวมกับที่นักเรียนต่างชาติต้องเสียค่าเล่าเรียนแพงกว่าคนออสเตรเลียนถึง “8 เท่า” พร้อมกับขู่นางว่า “ถ้านักเรียนไทยไม่ได้รับการปฎิบัติที่เท่าเทียมกับคนอื่นๆ “ไอ จะเอาเรื่องนี้ไปฟ้องดีน (คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย) ข้อหา Discrimination (การเลือกปฎิบัติ) นะยูว์ ....” (จริงๆแล้วมีเด็กไทยไปเรียนปริญญาโทด้วยกันประมาณ 6-7 คนเท่านั้น ถ้าจัดกลุ่มกันตามเส้นทางกลับบ้านก็จะได้ 2 กลุ่ม เพราะฉะนั้นถ้าเด็กไทยได้ cab voucher ครั้งละ 2 ใบ ก็พอ) แม่เลขาบัณฑิตวิทยาลัยตาเหลือก รีบปลอบประโลมให้เจ้าของบล็อกใจเย็นลงก่อน นางชักแม่น้ำทั้งห้ามาคุยกับเจ้าของบล็อก ..... ต่อรองกันไปมา .... ผลลัพธ์ออกมาดังนี้คือ ..... เจ้าของบล็อกจะได้ cab voucher ทุกครั้งที่เข้าไปเรียนในเมืองตามเดิม .... สำหรับนักเรียนไทยที่เหลือจะได้ cab voucher 2 ใบ โดยต้องไปจัดสรรกันเอาเอง ......... นางขอให้เจ้าของบล็อกสัญญาวาจะไม่แพร่งพรายข้อตกลงนี้ให้นักเรียนไทยคนอื่นๆทราบ เดี๋ยวจะมาขอ cab voucher กันอีก   เจ้าของบล็อกทำหน้ากึ่งๆไม่พอใจเล็กๆ (แต่ในใจพองโตมากๆ เพราะได้ cab voucher มามากกว่าที่ต้องการอีก 1 ใบ) พยายามเก็บความรู้สึกดีใจไม่ให้ออกมาอยู่นอกหน้าตอนที่ร่ำลาจากเลขาบัณฑิตวิทยาลัย เมื่อมาถึงที่พักซึ่งเพื่อนๆนักเรียนไทยรออยู่ทุกคนต่างหัวเราะลั่น เพราะถือว่าการเจรจาประสบความสำเร็จมาก ได้ cab voucher มาอีก 1 ใบ เราตกลงกันว่า cab voucher ใบที่ได้เกินมานี้เราจะสะสมเอาไว้เป็นสวัสดิการของนักเรียนไทย ใครจะต้องนั่งแท็กซี่ไปสนามบินเพื่อกลับบ้านก็สามารถเอาไปใช้ได้ หรือเราจะเอาไปใช้เพื่อความสนุกสนานของพวกเราตอนที่เราไปเมาปลิ้นกันในเมืองแล้วไม่มีรถไฟกลับบ้าน ฮ่าๆๆๆ 
น่าจะรู้นะ คนเรียน กม. ไม่เบาทำได้หลายอย่าง สอบสวนก็ได้ กับอีกหลายอย่าง
โดย: ไวน์กับสายน้ำ
  วันที่: 9 กรกฎาคม 2564 เวลา:13:23:15 น.พวกนี้บางคนชอบมองคนเอเชียเป็นชนชั้น2ไม่ให้ความสะดวก
ต้องเจอแบบพี่ีบอลวีนบ้างครับ โดย: จันทราน็อคเทิร์น
 วันที่: 9 กรกฎาคม 2564 เวลา:14:04:22 น.ยกนิ้วให้เลยครับ ผมว่าคนเอเชียน่าจะโดนเกือบทุกที่เลยนะครับ
โอวค่าเรียนแพงกว่าคนออสแปดเท่าเลยเหรอครับ โดย: The Kop Civil
 วันที่: 9 กรกฎาคม 2564 เวลา:14:14:22 น.เพราะเห็นว่าคนไทยพูดง่าย อันนี้ไม่สมควรจริง ๆค่ะ ทำถูกต้องแล้วค่ะ ^^
โดย: a whispering star
วันที่: 9 กรกฎาคม 2564 เวลา:14:53:22 น.คนไทยเรามีนิสัยหยวนๆ ครับ อันนี้จะบอกว่าดีมันก็ดี จะบอกว่าไม่ดีมันก็ไม่ดี เพราะหยวนๆ ไม่รักษาสิทธิ์นี่แหละมันถึงได้โดนเอาเปรียบ ตอนอยู่จีนผมก็เคยไปโวยเหมือนกัน ไม่โวยไม่ได้สิทธิ์ที่เราควรจะได้
โดย: คุณต่อ (toor36
 ) วันที่: 9 กรกฎาคม 2564 เวลา:18:38:36 น.สวัสดีครับคุณบอล
ความไม่เท่าเทียม และเอาเปรียบกัน มีอยู่ในทุกสังคมจริงๆ นะครับ ขอบคุณคุณบอลที่เป็นตัวแทนใครหลายๆ คนในวันนั้นครับ โห ค่าเล่าเรียนแพงมากเลยนะครับ โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา
วันที่: 9 กรกฎาคม 2564 เวลา:22:13:13 น.อรุณสวัสดิ์ครับคุณบอล
เป็นการเลือกปฏิบัติจริงๆครับ แถมยังจ่ายค่าเรียนมากกว่า 8 เท่าด้วย ทำเพราะบอกว่าคนไทยพูดง่าย โหยยยย.....  โดย: กะว่าก๋า
 วันที่: 10 กรกฎาคม 2564 เวลา:6:45:26 น.ไม่เบานะคุณทนายบอลเนี่ย
แต่เขาก็เหยียดคนเอเชียจริงๆ หละ  โดย: หอมกร
 วันที่: 10 กรกฎาคม 2564 เวลา:7:40:26 น.สุดยอดค่ะ..แหมๆๆ
ตอนไปเจรจานี่่ของขึ้นๆๆ เผลอท้าวสะเอวด้วยแน่นอน อิ อิ  โดย: เริงฤดีนะ
 วันที่: 10 กรกฎาคม 2564 เวลา:8:22:25 น. |
BlogGang Popular Award#19
 ทนายอ้วน
 ผู้ติดตามบล็อก : 155 คน [?]บทความทั้งหมด
|
||||||||||||||||||||||
 |
|
