การแบ่งปัน
โดยส่วนตัว ฉันเชื่อเรื่องมิตรภาพที่เกิดจากการ "ให้" ฉันเชื่อว่า การให้ ทำให้เกิดความสุข ทั้งผู้ให้ และผู้รับ และสิ่งที่ให้ จะดีและเป็นประโยชน์ ถ้าเป็นสิ่งของที่เค้าต้องการ
วันนี้ที่เขียนบล็อคนี้ขึ้นมา เนื่องจากได้รับจดหมายจากมูลนิธิสงเคราะห์เด็กยากจนซี.ซี.เอฟ
เกริ่นก่อนเบื้องต้นสำหรับคนที่ไม่เคยรู้จักมูลนิธินี้มาก่อน
CCF เป็นมูลนิธิในพระบรมราชูปถัมภ์ในสมเด็จพระเทพฯ ที่ส่งเสริมเด็กไทยที่ยากจนให้ได้รับโอกาสที่ดีในการเรียนหนังสือ และพัฒนาเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่ดีของชาติ
ฉันรู้จักมูลนิธินี้ จากจดหมายที่ได้รับส่งมาที่ทำงานเมื่อปีที่แล้ว อ่านจดหมายปั๊บ ฉันไม่ลังเลที่จะรับตอบรับการอุปการะเด็ก 1 คนทันที
ค่าใช้จ่ายในการอุปถัมภ์เด็ก 1 คน ต่อเดือนคือ 500 บาท เงินเพียง 500 บาทต่อเดือน ที่จะต่ออายุให้กับเด็กคนนึง ให้มีการศึกษาที่ดี ได้มีเสื้อผ้าใส่ไปโรงเรียน ได้ทำกิจกรรมสำหรับวัยสร้างสรรค์ ฉันว่า มันคุ้มค่ามาก
เมื่อทำการตอบรับและเสร็จสิ้นขั้นตอนทางเอกสาร (ซึ่งทำได้ง่ายมากผ่านอินเตอร์เนต) ฉันได้รับจดหมายประวัติเด็กที่รับอุปการะ ปีใหม่ที่ผ่านมา ฉันเดินไปหาซื้อเสื้อกันหนาวที่ละลายทรัพย์ แล้วส่งให้น้องเค้าไป ทางมูลนิธิจะมีการเก็บข้อมูลสิ่งของที่เราให้น้องเค้าไว้ทั้งหมด สามารถตรวจสอบได้ ว่าของถึงมือน้องหรือเปล่า
เวลาฉันได้รับจดหมายจากมูลนิธิ บางทีก็สร้างรอยยิ้มให้กับตัวเองได้ อย่างน้อยๆ เงินของเราก็สร้างประโยชน์และโอกาสให้อนาคตของชาติได้เพิ่มอีก 1 คน
***********************************************
จบเรื่องการให้เพื่อนมนุษย์ด้วยกันแล้ว ก็มาถึงเรื่องการให้กับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ
เคยไหมคะ บางทีเราไปสั่งข้าวกิน แล้วกินไม่หมด หรือข้าวที่เรากินในบ้าน ซึ่งกินเหลือ แล้วก็เททิ้งไปในแต่ละวัน
เนื่องจากหน้าหมู่บ้านฉัน และซอย จะมีสุนัขจรจัดกระจายเป็นหย่อมๆ บางตัวก็ดูดี บางตัวก็มีแผล บางตัวก็ผอม สุนัขพวกนี้ ถ้าสังเกตุดีๆ จะเห็นว่า เค้ากลัวคนพอสมควรนะ เพราะเค้าก็คงเคยผ่านการถูกไล่ตี เอาน้ำสาด จากร้านค้าบางร้านที่ไม่ชอบให้มีสุนัขมาป้วนเปี้ยนใกล้ๆ
ปกติ ถ้าบ้านฉันมีกับข้าวเหลือ แม่ฉันจะเทใส่ถุง แล้วให้ฉันเอาไปให้สุนัขพวกนี้แหละค่ะ
วันก่อน ฉันกินน่องไก่ทอด แล้วก็แบ่งน่องไก่ไปให้น้องหมาที่อยู่โซนไกลจากบ้านออกไปหน่อย
ไปเจอน้องหมาตัวนึง นอนนิ่งๆอยู่ ตัวผอมๆ แต่หน้าตาดีนะ ก็เลยเอาน่องไก่ไปวางไว้ข้างหน้า กะว่าให้เงียบๆ ถ้าเค้าตื่น คงจะเห็นของกินเอง
ปรากฏ พอวางปั๊บ น้องหมาลืมตามาดูน่องไก่ แทนที่จะรีบกินอย่างน้องหมาตัวอื่นๆที่ฉันเคยเจอ เค้าเงยหน้ามามองฉัน มองนานมาก ฉันอธิบายแววตาน้องหมาไม่ถูกจริงๆ มันเป็นแววตาแสดงความขอบคุณจริงๆ
ฉันเห็นน้องหมามองฉัน ฉันเลยบอกไปว่า ..เอามาฝากนะ กินอร่อยๆนะ... น้องหมาก็ก้มไปกิน ฉันก็ขับรถจากมา
เรื่องเล็กๆของการ "ให้" ที่ทำให้หัวใจพองโตได้เหมือนกัน
************************************************ ตบท้าย Blog วันนี้ด้วยคำถามว่า "Do you believe in Destiny?"
Create Date : 22 กรกฎาคม 2554 |
|
0 comments |
Last Update : 23 กรกฎาคม 2554 14:09:47 น. |
Counter : 948 Pageviews. |
|
|
|