๛ ภูษาโยง ๛ (บทที่ 10 : นักโทษ)

เมื่อทั้งสามเดินกลับมายังศาลาฉัน นพพรกราบเรียนหลวงพ่อว่าวันนี้เป็นวัดเกิดของลัดดา พระภิกษุวัยชราหยิบวัตถุมงคลชิ้นเล็กๆ ที่วางอยู่บนพานใกล้มือมายื่นให้


“เอ้า มีโยมเขาถวายมาไว้ให้พระแจกโยมอีกที”


นพพรรับมาแจกจ่ายให้หงุนและลัดดา ในมือคือพระเครื่องรูปพระพุทธรูปองค์เล็กๆ 

“เก็บไว้ติดตัว เพื่อระลึกคุณของพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์ทรงค้นพบธรรมะและนำมาสอนสั่งจนมีพุทธศาสนามาจนถึงวันนี้ ระลึกถึงคุณงามความดีทั้งหลายเอาไว้ แล้วภัยยันตรายทั้งหลาย จะไม่มาแพ้วพานพวกเอ็ง”

“สาธุ”


นพพรรับพรและก้มลงกราบพระ ลัดดาและหงุนประนมมืออยู่แล้วก็ก้มลงกราบตาม พอทั้งสามเดินกลับมาที่รถและนพพรยังไม่มีที่เก็บพระเครื่อง ครั้นจะใส่กระเป๋ากางเกงไว้ก็ใช่ที่ เขาจึงเลื่อนเปิดเก๊ะรถเพื่อจะอัญเชิญพระเครื่องไปวางไว้ ทันทีที่เปิดเก๊ะออก แสงกระพริบวิบวับสะดุดตาในช่องนั้นพลันทำให้เขาเอะใจ และล้วงเอาวัตถุสิ่งนั้นออกมา


มันคือนาฬิกาฝังเพชรที่เขาสั่งให้หงุนถอดออกมาจากคนขับรถที่ชนคนตาย และด้วยข่าวที่ได้รับรู้มาหลังจากนั้นทำให้เขาตัดสินใจเก็บนาฬิกาเอาไว้ แต่ยังไม่แน่ใจว่าควรทำอย่างไรต่อ


แสงวิบวับจากนาฬิกาสะดุดตาและสะกิดใจ นพพรนึกถึงใบหน้าของหญิงสาวที่นั่งรถผ่านตรงหน้าโรงพยาบาลเมื่อช่วงสายของเมื่อวานแล้วพลันระลึกได้


เธอคือหญิงสาวในที่เกิดเหตุในวันนั้น


“ทำไมหรือพี่”

ลัดดาที่นั่งอยู่ตรงเบาะข้างหันมาถามเมื่อเห็นว่านพพรเงียบไป ชายวัยกลางคนผมสีดอกเลาโยนนาฬิกากลับเข้าไปใหม่ เขาดันเก๊ะปิดแล้วหันไปสตาร์ทรถ

“เปล่าจ้ะแม่ เดี๋ยวฉันพากลับบ้านนะ สายๆ คงจะมีงานให้ทำอีก”

“จ้ะ งั้น ไปกินข้าวกันนะจ๊ะ หงุนด้วย พี่เตรียมอาหารสำหรับพวกเราทานไว้ให้ต่างหากแล้ว”

ลัดดาไม่ลืมหันไปบอกหงุนที่ยังนั่งลุ้นไส้กิ่วอยู่ทางด้านหลัง ได้ยินดังนั้นมันก็รีบยิ้มแต้ด้วยความยินดี

“ครับเจ้!”


ความซื่อและโผงผางของหงุนทำให้บรรยากาศในรถครึกครื้นได้ตลอดเวลา ลัดดาชวนสองหนุ่มต่างวัยเรื่องสัพเพเหระกันมาเรื่อยๆ ระหว่างทาง


กำแพงวัดสีขาวคล้ายผ้าผืนยาวขึงอยู่โดยรอบ บ่งบอกถึงอาณาเขตแห่งแดนสว่าง แต่ก็ใช่จะตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง ยังมีสายใยแห่งวัฎฎะที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น สายใยเหล่านั้นคอยถักทอและผูกโยงแต่ละชีวิตให้เกี่ยวพัน พลัดพราก และหวนกลับมาพบกันด้วยกลไกที่ยากจะหยั่งถึง


นพพรขับรถออกมาจากประตูวัดและเลี้ยวออกไปยังถนนที่ตัดขนานกำแพงวัดสีขาว เขาเองก็ยังอยู่ในสายใยนี้เช่นกัน...


* •..,..,..• * * •..,..,..• * * •..,..,..• ** •..,..,..• *


“連絡くれてありがとう”

(ขอบใจนะ ที่ส่งข่าวมาบอก)

นักนินได้ยินเสียงเกนโซคุยโทรศัพท์อยู่ไม่ไกล หญิงสาวเงยหน้ามองชายหนุ่มด้วยสายตาพร่ามัว ครั้นจะขยับตัวก็ลำบาก ด้วยมือทั้งสองข้างถูกรวบและพันไว้แน่นหนา ขาข้างหนึ่งก็ถูกตรึงไว้ด้วยเชือกผูกของที่มัดติดกับเสา ด้วยสติที่ขาดๆ หายๆ ทำให้นักนินค่อนข้างงุนงงและสับสน นึกเรียบเรียงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมา ก็จำได้ว่า ก่อนหน้านั้นเขากอดเธอไว้หลวมๆ นั่นเป็นสัมผัสที่นุ่มนวลและอบอุ่น หญิงสาวเองก็โอบรัดเขาไว้แน่น ในเวลานั้น มันเป็นทางออกเดียวที่ทำให้ความรู้สึกรุมเร้าและตื่นตัวในทุกประสาทสัมผัสค่อยผ่อนคลายลง เกนโซดูนิ่งงันในระยะแรก จากนั้นเขากลับพยุงเธอไปที่ราวตากผ้า และชั่วเวลาไม่กี่อึดใจ เกนโซกลับแกะมือสั่นเทาของนักนินมารวบไว้ เขาดึงด้ายดิบที่แขวนไว้กับผ้าไหมและผ้าฝ้ายหลากสีบนรวมตากผ้า มาผูกมือเธอไว้ด้วยเงื่อนที่ดูไม่ซับซ้อนแต่ยิ่งดิ้นยิ่งกลับรัดแน่น 


“เกนโซ”

นักนินเรียกชื่อเขาด้วยเสียงเบา มองหน้าเขาสลับกับกลุ่มด้ายที่พันอยู่รอบข้อมือสองข้างที่ถูกรวบไว้ด้วยกัน

“คุณทำอะไรน่ะเกนโซ”

“ผมกำลังช่วยคุณครับ”

“อยากช่วยก็กอดฉันสิ เมื่อกี้ฉันกอดคุณ คุณกอดฉัน แล้วฉันรู้สึกดีมากๆ นะคะ กอดฉันหน่อยสิคะ”

นักนินยืนตัวโคลงเหมือนคนเมา หญิงสาวคิดว่าสิ่งที่เกนโซกำลังทำอยู่คงเป็นการล้อเล่นอะไรสักอย่าง เขาไม่มีทางทำร้ายภรรยาของเขา... – ใช่ ภรรยาของเขา... – แต่เธอไม่ใช่... – ใช่สิ กำลังเป็นอยู่นี่ไง…


หญิงสาวสะบัดหน้าแรงๆ แล้วเวียนหัววูบวาบ เกนโซไม่ตอบคำใด เขาได้แต่ก้มหน้างุดแล้วผูกเงื่อนสุดท้ายก่อนจะประคองเธอไปยังมุมหนึ่งของบ้านแล้วดึงประตูที่ติดอยู่กับพื้นขึ้นมา บ้านหลังนี้ยังมีชั้นใต้ดินลงไปอีก เขาพาเธอลงบันไดไปยังในห้องโถงเล็กๆ ห้องหนึ่ง นักนินเดินตามลงไปอย่างว่าง่าย ไม่ขัดขืน ในห้องนั้นมีกล่องกระดาษวางอยู่เรียงราย กับเครื่องใช้สำหรับทำความสะอาดบ้านวางกองอยู่อีกมุมหนึ่ง ตรงกลางมีเสาเอกของบ้านที่เชื่อมต่อลงมายังชั้นใต้ดิน เกนโซพาเธอไปนั่งพิงที่เสานั้น เมื่อทรุดตัวลง นักนินจึงค่อยเห็นว่าชายหนุ่มมีเชือกเส้นหนึ่งติดมือมาด้วย เขาจัดการผูกเชือกเส้นนั้นด้วยเงื่อนเดิม ยิ่งดิ้นยิ่งรัดแน่น ปลายอีกข้างของเชือกนั้นถูกนำไปพันไว้กับเสาต้นที่เธอนั่งพิงอยู่ นักนินนิ่งมองตามอย่างงุนงง ความรู้สึกเคลิ้มฝันเลือนรางเริ่มหายไป กลายเป็นความรู้สึกปั่นป่วนเข้ามาแทนที่

“เกนโซ...”

คนถูกเรียกถอยห่างออกมาจากร่างของหญิงสาว เขาเดินหนีขึ้นไปทางบันได นักนินพยายามสลัดเชือกแล้วลุกเดินตาม แต่พันธนาการที่ขึงตึงทำให้เธอเดินไปไม่ถึงบันไดเสียด้วยซ้ำ นักนินหันไปมองรอบๆ มันคือห้องเก็บของที่มิดชิด... และเก็บเสียง


หรือเขาตั้งใจจะขังเธอไว้ที่นี่?...


หญิงสาวทรุดตัวลงเงยหน้ามองขึ้นไปยังปลายบันไดที่เกนโซยังไม่ได้ปิดประตู เขารับสายโทรศัพท์และสนทนาเป็นภาษาญี่ปุ่นอยู่สองสามประโยค หลังจากวางสาย ยังเดินไปหยิบอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งมานั่งเปิดดู เขาลากนิ้วไปมาเลื่อนหาข้อมูลอยู่พักใหญ่ ก่อนจะเดินลงมาหานักนินพร้อมกับถังน้ำขนาดกลาง ผ้าเช็ดตัว นมจืดที่พอจะหาได้ในตู้เย็น กับน้ำเปล่าขวดหนึ่ง อุปกรณ์แต่ละชิ้น ถูกนำมาวางอยู่ข้างเสาที่นักนินนั่งอยู่ ส่วนตัวเขาเองคุกเข่าลงนั่ง และเปลี่ยนเป็นขัดสมาธินั่งประจันหน้ากับหญิงสาว


“ตอนนี้คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง”

“ฉัน...หิวน้ำ”

นักนินยังสับสนแต่ก็ตอบไปตามความรู้สึกแรกที่นึกออก

“ผมมีน้ำให้คุณ ดื่มลำบากหน่อยนะครับ”


เกนโซแกะพลาสติกที่ครอบฝาขวดน้ำต่อหน้านักนินเพื่อให้มั่นใจว่าเขาไม่ได้ใส่สารพิษใดๆลงในขวดน้ำ จากนั้นเปิดฝาขวดน้ำและเอาปากขวดมาจ่อปากให้หญิงสาว เขาค่อยๆรินให้เบาๆ นักนินดื่มน้ำลงไปอึกหนึ่งแล้วส่ายหน้า อยากจะบ้วนที่เหลือออกมา


“ถังน้ำครับ”


หญิงสาวโน้มตัวลงไปในถังแล้วบ้วนน้ำลงไป มันคือน้ำเปล่าใสบริสุทธิ์แต่ทำไมพอกลืนลงคอกลับขมฝาด


“ฤทธิ์ยาใช่ไหมครับ”


เกนโซยังคงรักษาความนิ่งและสุภาพ การอยู่ในครอบครัวที่ทำธุรกิจมาเป็นเวลานานทำให้เขาระมัดระวังเรื่องความไว้เนื้อเชื่อใจมาก ระหว่างที่หญิงสาวหลับอยู่บนเรือ เกนโซได้ถ่ายรูปของเธอและส่งพิกัดที่พบไปให้กับเลขาส่วนตัว ให้ช่วยค้นหาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นละแวกนั้นและช่วงเวลานั้น ทำให้เขาได้ชื่อ ประวัติ และเนื้อหาข่าวที่ไม่ค่อยดีเท่าไรนักเกี่ยวกับตัวนักนิน


‘สาวใจแตก เสพยาแล้วกระโดดหน้าผาฆ่าตัวตาย แฟนหนุ่มรอคอยการค้นหาร่างด้วยความเศร้าสลด’


เป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ที่ลงเพียงไม่กี่สำนักข่าวและเงียบหายไปในวันต่อมา เลขาส่วนตัวของเกนโซใช้ข้อมูลที่มีอยู่เพียงน้อยนิดเพื่อสืบหาโรงแรมในบริเวณใกล้เคียงและสำรวจรายชื่อผู้เข้าพัก กินเวลาอยู่สองวันในช่วงที่เกนโซพานักนินเดินทางกลับและหญิงสาวเข้าไปนอนในโรงพยาบาล เขาใช้สิทธิ์ความเป็นสามีร้องขอผลการตรวจเลือดหาสารเสพติดในร่างกายภรรยา ผลเลือดนั้นแสดงผลในวันต่อมาว่าในเลือดของ นัตสึกิ อิจิยานางิ มีสารเสพติดตกค้างอยู่ในร่างกายจริง แต่ก็ในปริมาณไม่มากนัก หากไม่รับเข้าไปเพิ่ม สารเสพติดเหล่านั้นก็จะถูกขับออกมากับของเสียในร่างกาย และกระบวนการต่างๆ ในร่างกายจะกลับสู่สมดุลและคืนสู่ความเป็นปรกติ


เขาใช้เวลาในการปรึกษาแพทย์และพยาบาลด้วยสีหน้าท่าทางของคนที่รักและเป็นห่วงภรรยา จึงไม่ได้โผล่หน้าไปเฝ้าหญิงสาวเลยตลอดทั้งคืน แต่กล้องวงจรปิดภายในห้องพักผู้ป่วยได้ถูกเปิดให้ใช้งานโดยการอนุญาตของสามีโดยนิตินัย เกนโซรีเพลย์ดูภาพย้อนหลังที่นักนินนอนหนาวสั่นอยู่บนเตียงทั้งที่มีผ้าห่มปกคลุมร่างกาย เวลาเช้ามืดหญิงสาวขยับดิ้นไปมาอยู่บนเตียงจนสายน้ำเกลือหลุด ทางโรงพยาบาลแสดงความเสียใจเรื่องความผิดพลาดในการดูแลสายน้ำเกลือที่หลุดในเวลาใกล้รุ่งโดยไม่มีพยาบาลเข้าไปเปลี่ยนให้อย่างทันท่วงที เกนโซยอมรับได้กับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น กระนั้น แพทย์ยังแสดงความห่วงใยในอาการหวาดผวาของหญิงสาวดูผิดปรกติจนน่าเป็นห่วง น่าจะนอนโรงพยาบาลดูอาการอีกสักวันสองวัน แต่เกนโซปฏิเสธด้วยเหตุผลสั้นๆ ว่าเขาอยากดูแลภรรยาสุดที่รักด้วยตนเอง ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยยืดยาวกว่านั้น เขาเก็บงำมันไว้


เกนโซถอนหายใจยืดยาว ชายหนุ่มข่มความรู้สึกผิดหวังที่ประเดประดังเข้ามาและยังคงทำดีกับหญิงสาวอย่างเสมอต้นเสมอปลาย จนกระทั่งพากลับมาที่บ้านหลังเล็ก เธอกลับมีอาการประหลาดขึ้นมาอีก


“คุณ อยากเล่าให้ผมฟังไหมครับ”


นักนินเงยหน้าจากถังน้ำด้วยเนื้อตัวชุ่มโชก ใบหน้าและไรผมยังเปียกชื้นด้วยน้ำจากอ่างน้ำและเหงื่อที่เริ่มผุดพราว หญิงสาวมองเกนโซด้วยสายตาสับสนและว้าวุ่น

“นักนิน มณีปุระ”


ข้อมูลล่าสุดจากเลขาส่วนตัวของเขาที่บอกมาตามสาย คือชื่อและนามสกุลที่แท้จริงของหญิงสาวโดยครบถ้วน เกนโซเอ่ยชื่อนั้นช้าๆ และชัดถ้อยชัดคำ นักนินตัวชาดิกเมื่อได้ยินชื่อของตน เกนโซไม่ได้เรียกเธอว่า ‘นัตสึกิ’ อย่างที่เคยเรียก แววตาที่จ้องมองเธอยังดูนิ่งสงบแต่แท้จริงที่ดิ่งลึกลงไปในดวงตาดำสนิทคู่นั้น กักเก็บความเฉียบขาด แข็งขัน และพิถีพิถันตามแบบฉบับของชาติกำเนิด


“คุณอยู่กับผมมาตลอดเกือบสามวัน คุณเอายาที่ไหนมาเสพครับ”


หญิงสาวหน้าชา น้ำตาเริ่มไหลออกมาอีกครั้ง เกนโซเบนสายตาออกไปจากภาพเบื้องหน้า เขาไม่อยากใจอ่อนอีก

“ฉัน...ฉันเปล่า”

นักนินตอบเสียงแผ่ว รู้ว่าน้ำตาไม่ช่วยอะไร แต่เธอก็กลั้นมันเอาไว้ไม่ได้

“ครอบครัวผม ไม่มีใครยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ถ้าคุณจะเป็นนัตสึกิ ก่อนอื่น คุณก็ต้องเลิกมันให้ได้”

“ฉันไม่ได้เสพยา...”

นักนินปฏิเสธด้วยเสียงสั่นเครือ

“แล้วนี่อะไรครับ”

แผงยาแก้เมารถเปล่าๆ ไม่มียาเหลืออยู่สักเม็ดถูกยื่นให้ต่อหน้า

“ฉันแค่กินแล้วรู้สึกว่ามันดีขึ้น”

“เมื่อคืนคุณดึงสายน้ำเกลือตัวเองออก ผลักเสาน้ำเกลือ ทำลายข้าวของ แล้วเมื่อครู่ อาการของคุณก็เหมือนคนเสพยาออกมาจากห้องน้ำ”

เกนโซข่มเสียงและควบคุมบทสนทนาให้ราบเรียบ นักนินส่ายหน้าไปมาในแต่ละประโยคที่เขาพูด

“มันไม่ใช่เพราะยา...ไม่ใช่”

“ผมมีผลการตรวจเลือดที่มีสารเสพติดอยู่ในร่างกายของคุณด้วย อยากดูไหมครับ”

ให้เขาเอาผลเลือดพวกนั้นมาปาหน้าเธอเลยดีกว่า คำพูดและกิริยาท่าทางสุภาพแต่ไม่เหลือความไว้เนื้อเชื่อใจแบบนี้ นักนินไม่มีคำอธิบายใดๆ ให้เขาอีก ได้แต่ก้มหน้ายอมรับชะตากรรมที่ไม่ได้ก่อ


“แล้วคุณก็กำลังหลบหนีอะไรบางอย่าง ไม่กล้าปรากฏตัวในสังคมเดิม ชื่อเดิม ไม่แม้แต่จะติดต่อไปยังญาติมิตรที่รู้จัก”


นักนินรู้สึกจุกแน่นในลำคอจนพูดไม่ออก ได้แต่พยักหน้าช้าๆ

“ดังนั้นถ้าผมจะทำอะไรกับคุณ ก็คงไม่มีใครรู้”


ใจหายวาบเมื่อได้ฟังคำนั้น พันธนาการที่มือและเท้าก็เป็นสัญญาณเตือนตั้งแต่แรก นักนินจ้องหน้าเขาเป็นคำถาม ว่าเกนโซต้องการจะทำอะไร


“คุณคงต้องอยู่ในสภาพนี้ไปสักระยะ ผมมัดมือคุณไว้ด้านหน้า เพื่อให้คุณพอจะช่วยตัวเองได้ แต่อย่าแกะมันออก เพราะไม่อย่างนั้นผมคงต้องเปลี่ยนไปมัดไว้ข้างหลัง จับคุณพันไว้กับเสา แล้วเอาข้าวเอาน้ำมาหยอดให้ทีละมื้อ”

“ค่ะ...”

นักนินได้แต่ก้มหน้า ไม่โต้แย้ง ไม่ร้องขอ หรืออุทธรณ์แม้แต่คำเดียว


“ผมขอแค่ 72 ชั่วโมงเท่านั้น ตามเวลาที่หมอบอก ว่าสารเสพติดทั้งหมดจะหายไป ช่วงนี้ผมจะให้คุณทานแต่น้ำ นม อาจจะมีข้าวปลาลงมาให้บ้าง แต่คุณจะไปไหน หรือกินอะไรอย่างอื่นนอกเหนือจากนี้ไม่ได้”

“ค่ะ...”


หญิงสาวก้มหน้ายอมรับโดยดุษฎี นั่นทำให้เกนโซใจอ่อนยวบ ท่าทางของหญิงสาวไม่ได้เป็นไปตามข่าวและข้อมูลที่เขาได้รับมาเลยสักนิด ที่สำคัญ เสื้อผ้าเธอยังเปียกชื้น ทั้งหยดน้ำและเหงื่อยังผุดพราวอยู่ตรงใบหน้าและไรผม เกนโซวางผ้าเช็ดตัวให้เธอไว้บนตัก


“ผมขอโทษนะครับที่ต้องทำแบบนี้”

“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเป็นหนี้ชีวิตคุณ คุณจะฆ่าจะแกงฉันยังไงก็ได้ และถ้าคุณต้องการให้ฉันพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจ ต้องการจับฉันใส่ตะกร้าล้างน้ำด้วยวิธีนี้ ฉันก็ยินดี”


นักนินฝืนยิ้มทั้งที่ความหวาดกลัวเข้ามาเกาะกุม เกนโซลุกขึ้นยืนมองหญิงสาวที่นั่งกอดเข่าก้มหน้าพิงกับเสาที่ผูกเชือกล่ามไว้ เขาเองก็ขบกรามแน่นแล้วตัดใจผละขึ้นบันไดแล้วปิดประตูลงกลอน


นักนินมองตามแผ่นหลังของผู้ช่วยชีวิตแต่บัดนี้กลายมาเป็นผู้คุมขังและปฏิบัติกับเธอไม่ต่างอะไรกับนักโทษที่ถูกจองจำ เสียงประตูปิดดังกึงพร้อมกับความมืดเข้ามาครอบงำ แสงสว่างเพียงรำไรลอดลงมาจากช่องว่างของบานประตู นอกนั้นทั้งห้องก็ถูกปกคลุมด้วยสีเทาหม่นจนคล้ำของความมืด และอะไรบางอย่างกำลังคืบคลานเข้ามา


มันคือภาพหลอน ...

มันคือผลจากฤทธิ์ยา ...


นักนินบอกตัวเองอย่างนั้น บอกตัวเองซ้ำๆ ในช่วงเวลาที่ยังมีสติหลงเหลือและตั้งใจมั่น ว่าตนเองจะต้องก้าวข้ามผ่านวันและคืนเช่นนี้ไปให้ได้


* •..,..,..• * * •..,..,..• * * •..,..,..• ** •..,..,..• *

…
…
…

- โปรดติดตามตอนต่อไป –



Create Date : 16 สิงหาคม 2555
Last Update : 16 สิงหาคม 2555 15:30:36 น. 17 comments
Counter : 1648 Pageviews.

 
อ่านผ่านมั่งไรมั่ง
แต่ยอมรับว่าสนุกมากเลยค่ะคุณอ้อ
ขอแชร์ไปกลุ่มนะคะ
ขอหาภาพมาปรากรอบให้เลยด้วยนะคะ อิอิ
คิดถึงค่ะุ ม๊วฟๆ


โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 16 สิงหาคม 2555 เวลา:17:34:00 น.  

 
มาลงชื่อจ้า สงสารนักนินจัง


โดย: แจม IP: 27.130.179.53 วันที่: 16 สิงหาคม 2555 เวลา:22:31:58 น.  

 
ขอบคุณนะค่ะ ที่อัพให้ อีกรอบจริงๆ
ชอบมากเลยคะ รอติดตามตอนต่ออยู่นะค่ะ ^^


โดย: ฟ้าใส IP: 110.164.68.126 วันที่: 17 สิงหาคม 2555 เวลา:9:22:47 น.  

 
อ่านแล้วลุ้นมากเลย
รอติดตามตลอดนะคะ


โดย: นุช IP: 58.137.44.146 วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:11:57:43 น.  

 
อาทิตย์นี้ จะมี เพิ่มป่าวน้า
มาลงชื่อ เฝ้า รอ จ้า ^^


โดย: ฟ้าใส IP: 203.144.164.158 วันที่: 22 สิงหาคม 2555 เวลา:11:09:56 น.  

 
เศร้าเลย....

ขอบคุณทุกคนที่รอติดตามนะคะ
ช่วงนี้ทั้งตัวเองป่วย ทั้งคนที่ทำงานป่วย
(ตอนตัวเองไม่ป่วย ก็ต้องทำงานแทนคนอื่นด้วยค่ะ)

ขอมาอีกที 1 ก.ย. นะคะ


โดย: รุริกะ วันที่: 24 สิงหาคม 2555 เวลา:7:21:05 น.  

 
หายไว ๆ นะคะ ส่วนเราก้อรอนักนินต่อปายย ^^


โดย: Tucky IP: 119.160.215.254 วันที่: 24 สิงหาคม 2555 เวลา:14:30:07 น.  

 
พักให้เต็มที่ แข็งแรง ๆ นะคะ แอบเป็นหวัดเหมือนกัน T_T


โดย: แจม IP: 27.130.187.49 วันที่: 25 สิงหาคม 2555 เวลา:21:29:11 น.  

 
หายไวๆนะคะ


โดย: นุช IP: 49.49.148.77 วันที่: 27 สิงหาคม 2555 เวลา:21:33:07 น.  

 
รอได้ค่ะ
ขอให้หายไวๆ นะคะ


โดย: deer IP: 115.67.97.203 วันที่: 28 สิงหาคม 2555 เวลา:13:59:55 น.  

 
ขอให้หายไวๆนะจ้ะ ยังรอ ได้ อยู่ จ้า


โดย: ฟ้าใส IP: 203.144.164.158 วันที่: 28 สิงหาคม 2555 เวลา:16:30:52 น.  

 
หะ... หายแว้วค่ะ


ขอบคุณทุกคนนะคะ
ถ้าไม่ติดอะไร พรุ่งนี้ตอนใหม่มาวางช่วงดึกๆ ค่า


โดย: รุริกะ วันที่: 31 สิงหาคม 2555 เวลา:8:23:15 น.  

 
พรุ่งนี้ดึก จะเข้ามาอ่านค่ะ (เรื่องต่อไปเป็นของนักนิน กับ เกนโซ หรือเปล่าน๊า) ลุ้นๆ


โดย: นุช IP: 58.137.44.146 วันที่: 31 สิงหาคม 2555 เวลา:16:07:32 น.  

 
โซเซมาขออภัยนะคะ T T

ติดงานไปจนถึงวันมะรืนเลยค่ะ -_______-;;;;


โดย: รุริกะ วันที่: 1 กันยายน 2555 เวลา:23:29:17 น.  

 
รักษาสุขภาพนะคะ ^^


โดย: แจม IP: 27.130.43.74 วันที่: 4 กันยายน 2555 เวลา:20:03:19 น.  

 
นานไปมั้ยค่ะ T.T


โดย: ฟ้าใส IP: 203.144.164.158 วันที่: 11 กันยายน 2555 เวลา:14:11:29 น.  

 
มาแล้วค่ะมาแล้ว


โดย: รุริกะ วันที่: 12 กันยายน 2555 เวลา:9:21:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

รุริกะ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




users online
pageviews
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2555
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
16 สิงหาคม 2555
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add รุริกะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.