<<
ธันวาคม 2565
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
9 ธันวาคม 2565
 

ตะกอน ซ่อนซุก - บทที่ 3 ถลำ

พราวนั่งดูบ้านที่จัดไว้เป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาดตา ทุกอย่างอยู่ในที่ในทางของมันแบบนี้ ตั้งแต่ภูมิย้ายมาอยู่กับพราว ก่อนหน้านั้นมันก็ไม่ได้เป็นแบบนี้ ผนังทุกด้าน นอกจากนาฬิกาแขวนแล้วก็ไม่มีอะไรเลย ภูมิชอบให้เกลี้ยงๆ โล่งๆ ทำความสะอาดง่าย พราวเคยแขวนรูปบ้านสวยๆ ที่พราวใช้เวลาต่อจิ๊กซอว์อยู่เป็นเดือน ภูมิมาอยู่ไม่กี่เดือน บอกให้พราวเอาลงมาเช็ดกระจกทุกอาทิตย์ พราวเหนื่อยจะเอาขึ้นเอาลง กลัวแตกด้วย ก็เลยยอมแพ้ เลิกแขวน ตุ๊กตาดินปั้นตัวเล็กตัวน้อยที่พราวสะสมไว้เยอะแยะ คอยเอามาสลับสับเปลี่ยน วางไว้มุมโน้นมุมนี้ ก็โดนรวบเก็บลงกล่องหมด เพราะภูมิบอกว่า มันเป็นฝุ่น ถ้าพราวอยากวาง พราวต้องเช็ดทุกวัน

ใครไปใครมา ก็บอกว่า บ้านพราวดูดีขึ้น พราวดูแลบ้านดีขึ้น ภูมิทำให้ชีวิตพราวดีขึ้น พราวเคยภูมิใจกับคำชมนั้น เคยรู้สึกดีที่ทำให้ภูมิสบายใจ กลับมาเห็นบ้านสะอาดเรียบร้อยแบบที่ภูมิชอบ

ถ้วยจานสีขาวล้วนวางเรียงเป็นระเบียบอยู่บนที่คว่ำจาน ส่วนถ้วยจานสารพัดสีที่พราวเคยใช้ ถูกเก็บเข้าตู้ไปหมด เพราะภูมิบอกว่ามันดูไม่ปลอดภัย ดูไม่สบายตา พอพราวทำเฉยๆ ภูมิก็ไปซื้อมาเองทั้งชุด วันนั้น ภูมิซื้ออาหารมาทำเอง จัดจานเอง เก็บล้างเอง แล้วเลยเก็บสีสันของพราวเข้าตู้ แล้วเรียงสีขาวของภูมิไว้ใช้แทน

มันก็แค่เรื่องเล็กๆ พราวแค่ชอบสีสัน แต่ก็ไม่ได้ไม่ชอบสีขาว แล้วพราวก็ไม่ได้เห็นจานข้าวตลอดเวลา ก็เลยปล่อยตามใจภูมิ

อยู่กันมา 2 ปี พราวก็ตามใจภูมิมาเรื่อยๆ เพราะภูมิเป็นคนดี ความชอบของภูมิ ก็ไม่ได้มีอะไรไม่ดี

พราวแทบไม่ได้สังเกตเลยว่า ในบ้านนี้ ยังมีอะไรที่พราวชอบ อยู่ในที่ที่มันเคยอยู่บ้างมั้ย

พราวเปิดตู้ ผ้าปูที่นอนสีขาวล้วน เรียงซ้อนกัน ไม่มีสีอื่นอยู่ในตู้ ผ้าสวยๆ ลายดอกไม้เล็กๆ หวานๆ ลายพระจันทร์ ลายดาว พราวเก็บบริจาคไปหมดแล้ว ภูมิอีกแหละ ไม่ชอบผ้าปูที่นอนมีลาย ภูมิว่าผ้ามันต้องเลอะอยู่แล้ว ยิ่งมีลาย ยิ่งดูเลอะไปกันใหญ่

พราวเอาผ้าผืนใหม่ปูแทนผืนที่เอาไปซัก ในห้องนอนก็เรียบพอกับบริเวณอื่นของบ้าน ภูมิอยากแขวนรูปแต่งงาน แต่พราวบอกว่า ถ้าอยากแขวนให้ภูมิเป็นคนเช็ดทำความสะอาดเอง  ภูมิไม่มีเวลาทำ ก็เลยไม่แขวน วางแค่รูปเล็กไว้ที่โต๊ะข้างหัวเตียง พราวยอมรับผิดชอบแค่ผนังด้านเดียวที่พราวติดรูปนักร้องที่รักไว้ หัวเด็ดตีนขาดยังไง พราวก็ไม่ยอมเอาออก

ภูมิก็พูดเหมือนเดิมว่า ขยันเช็ดก็แล้วกัน อย่าให้มีฝุ่น  พร้อมกับสำทับว่า แค่นี้พอแล้ว ไม่ติดเพิ่มแล้วนะ

พราวลงมาข้างล่าง เขาส่งรูปดอกปีบดอกเดียวหล่ออยู่ในเรซินรูปหัวใจเล็กๆ กองรวมกันอยู่หลายอัน เขาบอกว่า เผื่อไว้ เขาอาจจะพลาดทำหาย แต่ยังไงก็จะมีอยู่กับเขาไปตลอด

ตัวหนังสือเรียบง่ายนั้น ทำให้ผีเสื้อบินอีกแล้ว พราวอ่านข้อความนั้นซ้ำๆ ยอมรับว่าพราวชอบข้อความของเขา นึกถึงที่เขาถามว่า พราวเอารูปวาดไปทำอะไร เก็บหรือโชว์ พราวตอบแบบไม่ต้องคิดว่า เก็บสิ รูปไม่สวยจะไปโชว์ใครได้ เขาหัวเราะรื่นเรื่อย ถามพราวว่า บ้านพราวมีแขกไปใครมาเยอะเหรอ พราวตอบว่า เปล่า อยู่กัน 2 คน นานๆ พ่อแม่มาที เขาพูดต่อว่า แล้วพราวจะกลัวอะไร รูปจะสวยหรือไม่สวย ไม่สำคัญเท่าเวลาที่พราวเห็นรูปแล้วได้คิดถึงความสุขตอนที่กำลังวาดรูป ช่วงเวลาดีๆ แบบนั้น พราวจะเอาไปเก็บทำไม เอามาไว้ในที่ที่พราวจะเห็นได้เรื่อยๆ พราวก็จะได้มีความสุขเรื่อยๆ แบบไหนดีกว่า

พราวชอบฟังเขาพูด เขาบอกให้พราวนึกถึงความรู้สึกตัวเอง ผ่อนคลายตัวเอง มองโลกอย่างที่เป็น ไม่คาดหวังจนเป็นภาระตัวเอง พราวไม่คิดว่าจะคุยกับใครได้ทีละ 2-3 ชั่วโมง แต่พราวก็คุยกับเขา พราวไม่ได้สนิทกับเขา แต่ก็มีเรื่องให้คุยมากมาย พราวคุยกับเขาได้ พราวจำได้ว่านานๆ หลายครั้ง ก็ยังไม่เบื่อ

พราวเคยถามเขาว่า ทำไมมาทำงานจิตอาสา ทำไมเลือกสอนวาดรูป พราวจำได้ว่า ตอนอยู่โรงเรียน ไม่เคยเห็นผลงานเขาเลย เขาตอบง่ายๆ ว่า ว่าง เขาเองก็ไม่ได้วาดรูปเก่ง แค่พอวาดเป็น และก็แค่รู้ว่า คนส่วนมาก มีกำแพงที่สร้างเอง แล้วตัวเองก็ไม่กล้าข้าม การได้ลงมือวาดรูปโดยไม่สนใจรูปแบบ กรอบ หรือ ขนบอะไร เขาเห็นว่ามันช่วยให้หลายๆ คนได้ผ่อนคลายตัวเอง ได้รู้สึกว่า การขยับออกมาจากกรอบที่คุ้นเคยบ้าง มันไม่ได้น่ากลัว

แล้วเขาก็ถามพราวว่า พราวรู้สึกแบบที่ว่าหรือเปล่า

พราวเอารูปนั้นติดลงบนกระดาษแข็ง แต่งขอบด้วยกระดาษสีตัดเป็นรูปรูปร่างตามใจตัวเอง ติดทับอีกทีด้วยแม็กเน็ตติดตู้เย็นที่ภูมิบอกว่าเกะกะ มันเป็นรูปกุ้งหอยปูปลา ไม่ได้เข้ากันกับรูปวาด แค่พราวอยากให้มันอยู่ตรงนั้น พราวเอารูปนั้นติดไว้ที่บานประตูตู้ลอยในครัว พราวไม่อยากทะเลาะกับภูมิเพราะเรื่องเล็กๆ นี่ มุมนี้ภูมิไม่ค่อยได้เข้ามา เขาน่าจะไม่สังเกต พราวไม่อยากอธิบายด้วยว่าทำไมต้องเอามาติด

พราวจัดการเรียบร้อยแล้วก็ออกไปหาเขา เขาชวนไปกินข้าวร้านตามใจแม่ นั่งปุ๊บก็มีคนมาถามว่า เผ็ดหรือไม่เผ็ด เขาตอบว่า ทั้งสอง พราวสงสัยว่าเขาสั่งอาหารตอนไหน เขาเล่าไปยิ้มไปว่า ไม่ได้สั่ง แค่เลือกว่ากินเผ็ดรึเปล่า คอมเซปต์ร้านนี้คือ ตามใจแม่ อารมณ์เหมือนกลับจากโรงเรียนก็มากินข้าวที่แม่เตรียมไว้ให้ ไม่เคยรู้ล่วงหน้า ไม่ได้สั่งไว้ก่อน แต่ก็ได้กินของดีมีคุณภาพ ด้วยความใส่ใจของแม่ พราวอุทานเบาๆ ว่า ได้เหรอ เขาหัวเราะ พูดว่าได้สิ พราวทำกับข้าวให้แฟน มีสักกี่มื้อที่ถามเขาก่อนทำ

กับข้าวมื้อนั้นมี 3 อย่าง ต้มยำกุ้ง ปลาทอดกระเทียมพริกไทย แล้วก็ ถั่วฝักยาวผัดไข่ใส่หมูสับ พราวนั่งมองอยู่นาน บอกเขาว่า ไม่ได้คิดถึงถั่วฝักยาวนานแล้ว ภูมิแพ้ถั่วฝักยาว ก็เลยไม่เคยซื้อเข้าบ้าน เขาตักใส่จานพราว บอกว่างั้นก็กินเถอะ พราวทำตามใจคนอื่น อยู่ในกรอบของคนอื่นมานานแล้ว คราวหน้า ผมจะไปตามใจพราว

ก่อนเข้าบ้าน พราวแวะซื้อของสดไปทำกินตอนเย็น พราวเลือกผักเลือกปลาด้วยความเคยชิน แม่ค้าชวนซื้อปลาช่อนนาตัวเขื่อง ตอนอยู่กับพ่อแม่ พราวได้กินบ่อย เพราะพราวชอบ พ่อก็ชอบ แต่ภูมิไม่ชอบ บอกว่าหัวเหมือนงู เห็นทีไรก็กลัวจนไม่อยากกิน

เขาบอกว่า ถ้าพราวไม่อยากไปกินตามร้าน อยากกินอะไร ก็ซื้อมาทำที่บ้านเขาก็ได้ เดี๋ยวเขาช่วยกิน แล้วเขาจะทำของที่เขาชอบให้พราวลองกินด้วยว่าชอบเหมือนเขามั้ย ถ้าเราชอบเหมือนกัน จะได้มากินด้วยกันบ่อยๆ เขาจบประโยคด้วยรอยยิ้มอ่อนหวาน

พราวสบตาเขาตรงๆ เขาอยู่ตรงนั้น สบตา ไม่หลบตา ยังยิ้มให้

แล้วพราวก็ปล่อยให้ความรู้สึกนำหน้าความคิด

พราวจูบเขา

พราวซื้อปลาช่อนนาตัวนั้นกลับบ้าน  ทอดแล้วแกะเอาแต่เนื้อมาทำปลาช่อนลุยสวน  กินกับผักสด  แล้วก็แกงจืดเต้าหู้หมูสับ

ภูมิก็ยังรู้ว่าเป็นปลาช่อน  เขาไม่ยอมกัน  ไปเปิดปลากระป๋องมากินแทน

ภูมิไม่ว่าอะไรเรื่องปลาช่อน  หาของกินเพิ่มเอง  ไม่ได้ใช้พราว  ภูมิยังคุยกับพราวเรื่อย ๆ ด้วยอารมณ์ดีปกติ

มีแต่พราวที่ไม่ปกติ




Create Date : 09 ธันวาคม 2565
Last Update : 9 ธันวาคม 2565 17:34:22 น. 0 comments
Counter : 293 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

วัลยา
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




[Add วัลยา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com