Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2557
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
7 กรกฏาคม 2557
 
All Blogs
 
Shimla - นาลเดห์รา และ ตาตาปานี



ด้านข้าง HPTDC Office
จะมีป้ายบอกทางไป
 Rovali Bus Stand ตั้งอยู่
บางคนก็อาจเรียกท่ารถนี้ว่า Lakkar Bazaar Bus Stand 

และเมื่อเดินเลี้ยวลงไป หากสังเกตดี ๆ จะมีจุดตั้งร้านค้าที่เรียงยาวเป็นแผง
ใกล้กับทางบันได และคนขายของก็มีหน้าตาออกไปทางทิเบตเต็มไปหมด
สถานที่ตรงนี้ก็คือตลาดทิเบต (Tibetan Market) ค่ะ

ถัดลงไปยังพื้นที่ข้างล่างจะเป็นท่ารถโดยสารท้องถิ่น ที่มีรถจอดอยู่เต็มลาน 
ส่วนมากไม่มีป้ายบอกเป็นภาษาอังกฤษให้ไปถามที่จุดประชาสัมพันธ์ 
หรือจะเดินไล่ถามถึงรถที่จะวิ่งไป นาลเดห์รา หรือ ตาตาปานี ได้เลย
เพราะสถานที่ตั้งของจุดหมายทั้งสองแห่งนี้ จะต้องวิ่งผ่านไปเส้นทางเดียวกัน






จากแผนที่

นาลเดห์รา 
ตั้งอยู่ห่างจาก ชิมลา ไปประมาณ 20 กิโลเมตร 
ตาตาปานี อยู่ไกลกว่าในระยะทาง 50 กิโลเมตร


สภาพเส้นทางก็เหมือนกับการนั่งรถที่ขับเลียบไปตามไหล่เขา
ดังนั้น เรื่องของเวลาที่ใช้ไปจึงค่อนข้างนานพอสมควร
เมื่อเอาไปเทียบกับตัวเลขบอกระยะทางที่หลักกิโล 




หน้าตาของ Rivoli Bus Stand  




เบาะฝั่งซ้ายมักจะเขียนระบุบอกไว้ว่าเป็น ที่นั่งสำหรับสุภาพสตรี แต่บางครั้ง
ถ้าเกิดว่ารถยังไม่เต็มหรือยังมีที่ว่างเหลือก็จะเห็นผู้ชายไปนั่งแทนที่เป็นปกติ

บางช่วงเวลาที่รถจอดรับผู้โดยสารบางจุด ก็จะมีกลุ่ม พ่อค้าเร่ เดินขึ้นมาบนรถ
แบกขนม ของกิน มาขายกันให้จอแจไปหมด เอาเป็นว่าหากไม่มีปัญหาเรื่อง
ท้องไส้แล้ว เราเองก็แทบจะไม่จำเป็นต้องพกของกินติดตัวไปเลยด้วยซ้ำ 
(จงใช้วิจารณญาณ และฟังเสียงท้องไส้ของตัวเองเป็นมาตรฐานหลักนะ)








ประมาณชั่วโมงเศษกับระยะทาง 20 กิโลเมตร กับสถานที่แรก นาลเดห์รา 
ช่วงขามาให้พยายามนั่งรถฝั่งขวาจะได้สังเกตเห็นจุดหมายง่าย ๆ
ซึ่งบริเวณด้านหน้าทางเข้าอุทยานนี้จะมีรถนำเที่ยวมาจอดเต็มไปหมด
รวมไปถึงเหล่าม้าทั้งหลายที่มายืนรอให้คนมาขี่ 

นาลเดห์รา ตั้งอยู่บนความสูง 2,044 เมตร จากระดับน้ำทะเล แวดล้อมไปด้วยป่า
ที่เขียวขจี มันถูกค้นพบในปี ค.ศ. 1905 โดย Lord Curzon เมื่อครั้นยังดำรง
ตำแหน่ง
ผู้สำเร็จราชการแผ่นดินอินเดีย (Viceroy of India) ให้ช่วงปีสุดท้าย

ที่มาของชื่อนี้ มาจากการรวมคำ ระหว่าง Nag ที่หมายถึง เทพแห่งงู
และ Dehra ซึ่งแปลว่า ที่พำนัก, ที่อยู่อาศัย  
มีศาลเทพเจ้าโบราณที่เป็นงูตั้งอยู่
แต่ไม่ได้แปลว่ามีงูชุกชุมนะคะ ส่วนที่มีมากจริง ๆ ก็แค่ ลิง  

สถานที่แห่งนี้ถือเป็นพื้นที่อันโปรดปรานของ Lord Curzon เป็นอย่างมาก
และบ่อยครั้ง เขามักจะหาโอกาสมาปักหลักตั้งแคมป์อยู่เป็นเวลานาน
กระทั่งชื่อ 'นาลเดห์รา' นั้น Lord Curzon ยังนำมาใช้เป็นชื่อกลางให้กับลูกสาวตน
นั่นคือ Lady Alexandra Naldehra Curzon









ตอนที่ไปเยือนครั้งนั้น พอเห็นบรรดาคู่รักทั้งหลายบนหลังม้าและมีคนเดินจูง
คุมลากจูงเข้าเส้นทางเข้าไปในป่าซีดาร์ อยู่ ๆ ก็เหมือนจะนึกถึงอะไร
บางอย่างได้ขึ้นมาไม่ใช่ว่าระลึกชาติได้หรอกนะ ถึงนี่จะเป็นทริปแรกที่มาเยือนอินเดีย

เราได้เคยเห็นภาพของเพื่อนชาวนากาแลนด์
ถ่ายรูปตอนขี่ม้ากับภรรยาในที่นี้มาก่อนช่วงระหว่างฮันนีมูนนั่นเอง 
ทำให้เพิ่งรู้ว่าหนึ่งในที่หมายยอดนิยมสำหรับคู่รักชาวอินเดีย
ก็คือชิมลา และทัวร์ที่ว่านี้ก็มักรวมถึงการแวะมาที่นาลเดห์ราแห่งนี้ด้วย 

นอกเหนือไปจากการขี่ม้าชมป่า ก็ยังมีสันทนาการอื่น ๆ

อย่างเช่น 
การแต่งชุดเป็นชนพื้นเมืองเพื่อถ่ายภาพเป็นที่ระลึก
หรือแม้แต่เครื่องเล่นที่เป็นเล่นรอกเลื่อนโหนตัวร่อนไปในระยะทางสั้น ๆ
ซึ่งจุดตรงนี้จะมีเสียงกรี๊ดกร๊าด วี๊ดว้าย ลั่นป่าเชียว 

ตรง สโมสรกอล์ฟ มีผู้ฝึกสอนให้หัดตีสำหรับนักท่องเที่ยวเป็นรายชั่วโมง
ส่วนพื้นที่สนามกอล์ฟที่มีขนาด 18 หลุม ในปัจจุบัน (จากเดิมที่มีแค่ 9 หลุม)
ก็สร้างแรงดึงดูดให้ผู้คนมาออกรอบกัน เพราะมีจุดเด่นตรงที่มันตั้งอยู่บนพื้นที่สูง 
และถูกสร้างมาตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1920 โดยทางอังกฤษนั้นต้องการที่จะผลักดัน
ให้ อินเดียกลายเป็นประเทศที่สองรองจากสหราชอาณาจักร ที่นิยมกับการเล่นกีฬาประเภทนี้

นาลเดห์รา สามารถแวะมาเที่ยวชมแบบไปเช้า-เย็นกลับ 

หรือหากชอบกับธรรมชาติที่นี่และอยากแวะค้างก็จะมีสถานที่พักรองรับ
อย่าง Log Huts (Golf Glade Hotel) ที่ตั้งอยู่ด้านในอุทยาน


และนอกเหนือจากนี้ ทางส่วนบริเวณรอบนอกใกล้เคียง
ก็ยังมีโรงแรม ที่พัก ไม่ไกลไปจากพื้นที่เช่นกัน





.....






มาต่อยังจุดหมายสุดท้าย ตาตาปานี 

ที่นี่อยู่ไกลกว่านาลเดห์รา 30 กิโลเมตร
และไกลจากตัวเมือง ชิมลา ไป 50 กิโลเมตร

ใช้เวลาการเดินทางจากชิมลา ยาวนานถึง 3 ชั่วโมง !


รถโดยสาร มักจะมาสุดทางยังที่ ตาตาปานี เป็นแห่งสุดท้าย
ส่วนรอบเที่ยวรถที่จะกลับไปชิมลา ก็จะออกทุก สามชั่วโมง 
ดังนั้นหากไม่อยากแวะค้างก็ควรทำเวลาให้ดีด้วย ส่วนเรื่องที่พัก
ก็มีตัวเลือกเยอะอยู่

อุณหภูมิบริเวณนี้ ไม่หนาวเหมือนกับชิมลาเพราะตั้งอยู่บนพื้นที่ต่ำ
โดยมีความสูงเพียง 650 เมตรจากระดับน้ำทะเลเท่านั้น
หากระหว่างเดินทาง จะรู้สึกว่าอากาศร้อนมันขึ้นเรื่อย ๆ
จนแทบอยากถอดเสื้อกันหนาวทิ้งก็คงไม่แปลก :)

กิจกรรมเด่น ๆ ของการมาเยือนสถานที่นี้
ก็คือ การมาแช่น้ำร้อนบำบัด 

ชื่อของตาตาปานี นั้นแปลตรง ๆ ก็คือ น้ำร้อน 

จากการค้นพบการผุดขึ้นมาของน้ำพุร้อน บริเวณริมฝั่งแม่น้ำ Sutlej 

มันประกอบไปด้วยแร่กำมะถันและถูกนำมาใช้ประโยชน์เพื่อรักษาโรคผิวหนัง
หรือไม่ก็นำมาเพื่อการแช่เผื่อผ่อนคลาย





แต่น้ำพุร้อนที่ว่าเนี่ยมันถูกสูบขึ้นมาใช้ผ่านท่อ ที่ใช้ในส่วนก๊อกสาธารณะ
ในชุมชนและธุรกิจสปาของการท่องเที่ยวและโรงแรมต่าง ๆ เป็นที่เรียบร้อย

มีการประชาสัมพันธ์ถึงการนำเสนอ แนวทางการบำบัดเชิงอายุรเวท
ด้วยน้ำพุร้อนให้เลือกซื้อคอร์สเต็มไปหมด 

แต่หากจะมองหาน้ำพุร้อนที่ผุดจากริมฝั่งแม่น้ำและจะไปนั่งแช่
ก็ดูยาก และบ่อยครั้งแม่น้ำที่ไหลเชี่ยวนี้ก็เอ่อล้นกลบบริเวณดังกล่าวไป
ดังนั้นหากการเดินทางมายัง ตาตาปานี ถ้าไม่คิดมีแผนจงใจที่จะมา
อาบแช่น้ำร้อนหรือล่องแก่ง ที่นี่คงไม่มีอะไรเป็นที่น่าสนใจเลยล่ะ 


การเดินทางมาออกมานอกเมืองสำหรับสองพื้นที่นี้ คงเป็นอีกตัวเลือก
ให้ได้ลองตัดสินใจกัน หากมีเวลามากกว่าสามวันในการแวะมาเยือนชิมลา






### หมายเหตุ ###

โปรดระวัง
เที่ยวรถขากลับ รถเมล์จะไม่ไปจอดยังท่ารถ Rivoli
แต่จะไปสุดทางที่ ท่ารถใหม่ ถ้ารอไม่ไหว เพราะนั่งนานจนเมื่อยแล้ว
หากยังเป็นเวลาหัววันและไม่มืดค่ำ ก็แวะลงที่ Chotta Shimla  
สังเกตุง่าย ๆ ว่า จุดที่คนลงรถตรงนั้น จะมีรูปปั้น Rajiv Gandhi ตั้งอยู่
จากที่นั่น สามารถเดินตรงกลับมาที่ Mall Road ซึ่งไกลกันราวๆ 3 กิโลเมตรได้ 





Create Date : 07 กรกฎาคม 2557
Last Update : 23 ธันวาคม 2560 14:37:44 น. 5 comments
Counter : 828 Pageviews.

 
อันนี้ปรับจากบล็อกเก่าแล้วไหงไม่มีคอมเมนท์อื่นๆก่อนหน้านี้เลยอะครับ?
อันที่จริงอัพเป็นบล็อกใหม่เลยก็ได้น้า ไม่ต้องกลัวมีคนฟ้อง สคบ. หุหุ กว่าจะเรียบเรียงผลิตออกมาใหม่แต่ละบล็อกมันก็ไม่ใช่ง่ายๆ

มาเที่ยวชิมลาแบบต้วมเตี้ยมๆต่อครับ หลักกิโลแถวนี้หน้าตาเหมือนหลัก กม. ของลาวเลย
20 กม. เดินทางชั่วโมงเศษนี่นั่งรถรึขี่เต่าขึ้นมา -*-
หนนี้มาเที่ยวสถานที่พักผ่อนตากอากาศของคนอินเดีย บรรยากาศเลยต่างไปจากเอนทรี่อื่นๆ ดูแร้นแค้นน้อยกว่า อิอิ
ตาตาปานีมีน้ำพุร้อนด้วย แต่ต้องไปแช่ตามโรงแรม แย่ๆ เหมือนปามุคคาเล่ที่ตุรกีเลยครับ เขากั้นน้ำไม่ให้ลงตามภูเขาละ ผันไปโรงแรมแทน


โดย: ชีริว วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา:23:17:25 น.  

 
@ชีริว

แน่ะ

นี่อุตส่าห์แอบอัพแบบไม่กระโตกกระตาก

เอางี้ เดี๋ยวเผื่อมีสมาชิก(เผลอ)เข้ามาอ่านแล้วสงสัยเนอะ

1. ฟ้าเขียนทับของเก่า เรื่องอาจไม่เรียงแบบบันทึกประจำวัน
เหมือนของเก่า ดังนั้นอาจรวบเนื้อหาจาก การไปครั้งที่ 1 และ 2
มาลงทีเดียวเลย อย่าง นาลเดห์รา เนี่ยไปเมื่อตอนมาเที่ยวครั้งแรก
ส่วน ตาตาปานี คือ หนที่สอง แต่เนื่องจากมันเป็นเมืองเดียวกัน
เลยขอรวมไว้เป็นสัดส่วนจะดีกว่า

2. วันก่อน อัพดึกไป ลืม ... ดันไปลงเขียนหน้าใหม่
ทีนี้ก็เลย แจ้งอัพกระทู้ใหม่ + ปรากฏเนื้อเรื่อง
ที่ Blog Update บางคนไม่รู้อาจกดเผลอโหวตให้
(เลยต้องรีบอุ้มหายไปอย่างไว 55)
มันเหมือนเอาเรื่องเก่า มาให้เขาโหวตใหม่
ตัวเองก็ไม่สบายใจตรงนี้

3. เป็นเรื่องที่เคยเขียนแล้ว เมื่อมีคนโหวตให้แล้ว = จบไปแล้ว

บางที ก็เซ็งมาก เวลาลงเรื่องแบบนี้และมีคอมเมนต์ที่ว่า
"อีกละ?" .."อินเดียอีกละ?"... "เบื่อ !" ..."ไปที่อื่นดีกว่า" ฯลฯ
(เคยเจอแล้ว รู้สึกบั่นทอนมาก...)

มาลงตรงพื้นที่เดิมนี้ อย่างน้อยมันก็จะได้ไม่ต้องไปอัพเดท
และ รบกวนใครอีก

4. การที่เขียนทับของเก่า เนื้อหาอาจรันไม่ตรงกับคอมเมนต์เดิม
ส่วนบางอันที่เก็บไว้ก็เพราะมันไม่ห่างไกลจากเนื้อความน่ะ
(ที่จริงก็ก็เสียดายเหมือนกัน save เก็บไว้ดูต่างหน้าแล้วละ)

สรุปคือ...ได้กลับมาย้อนเขียน มาย้อนแก้ไขให้ดี ก็มีความสุขละ

...........................

## รถวิ่งซิ่งปกติ แต่ไม่โหดเท่าสาย 8
แต่ถนนมันไม่เป็นเส้นตรงอ่ะ ถ้าไปเที่ยวแถวนั้นต้องบอกเลยว่า
หลักกิโล และระยะทาง มันไร้ความหมาย
ควรถาม ว่ากี่ชั่วโมงไปถึง คือ สิ่งที่ถูกต้องที่สุด !!!



โดย: กาบริเอล วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา:19:53:18 น.  

 


อินเดียไม่น่าเบื่อนะ มีตั้ง 28 รัฐ ให้เที่ยวกันวุ่นวาย ต่อให้เป็นที่เดิม เที่ยวซ้ำก็ได้เห็นอะไรใหม่ๆ
ขนาดซากอิฐประเทศไทยมีไม่กี่อันผมยังจับมาลงบล็อกเกือบหมดประเทศ << แต่มีเสียงแว่วๆว่าอันนี้น่าเบื่อจริง


โดย: ชีริว วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา:10:09:07 น.  

 
พี่ไม่เบื่อนะ ทั้งอินเดีย และซากอิฐเมืองไทย ใครใคร่อ่าน ก็อ่าน ใครไม่อยากอ่าน ก็ออกไปเงียบ ๆ ก็ได้เนะ เออนะ คนเรา

พี่สนใจอินเดีย เพราะได้อ่านจากบล็อกฟ้า ที่อินเดียมีอะไรมากกว่าสังเวชนียสถานทั้ง 4 (ซึ่งก็อยากไปด้วยแหละ) อินเดียสำหรับพี่ ยังน่ากลัว เพิ่งมีตอนหลัง ๆ ที่ได้จากบันทึกฟ้า เออ คนดี มีน้ำใจก็มีเหมือนกันนิ เราจะโชคดีหรือโชคร้ายไปป๊ะเค้าแค่นั้น


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา:15:56:07 น.  

 
บ่อยครั้งมั้กๆมาก(ช่วงลุยงานอดิเรกขี้เกียดขับรถ)สาย8 ที่หมายของลุงแอ็ด เร็วรีบเรียบร้อย พี่โชว์โฟอร ใจถึง,


โดย: ธนู ลุงแอ็ดชวนเที่ยว (สมาชิกหมายเลข 4365762 ) วันที่: 30 มกราคม 2562 เวลา:1:46:17 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กาบริเอล
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




ชอบต้นไม้, แมว, หนังสือ
และออกเดินทางท่องเที่ยวบ้าง

ไม่ชอบพบปะผู้คนมากนัก
เป็นมนุษย์จำพวก introvert

การเขียนบล็อก
คืออีกพื้นที่บอกเล่าผ่านตัวอักษร
และตัวตนของเราก็อยู่ในสิ่งที่เขียนค่ะ

ขอบคุณ Bloggang
สำหรับพื้นที่แบ่งปันตรงนี้

....

เริ่มต้นลงบันทึกอย่างเป็นทางการ
ณ วันที่ 16 ม.ค. 2014


###ไม่สะดวกพูดคุยหลังไมค์นะคะ###

© ขอสงวนลิขสิทธิ์ ภาพถ่าย 
ห้ามนำไปใช้ ดัดแปลง แก้ไข 
โดยไม่แจ้งที่มา ก่อนได้รับอนุญาต


New Comments
Friends' blogs
[Add กาบริเอล's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.