Group Blog
 
 
เมษายน 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
24 เมษายน 2551
 
All Blogs
 

เจ็บคำจำคิดจิตขวย หลงเชยเลยชมลมชวย

วันนี้ ขวัญนำกลอนแปดเอย โคลงสี่สุภาพเอยของ
ท่านสุนทะภู่ ที่โดนใจเรามาให้อ่านกัน

“อย่าอ่านเปล่าเอาแต่กลอนสุนทรเพราะ
พึงพิเคราะห์คำเลิศประเสริฐศรี” นะจ๊ะ



จากนิราศพระบาท แต่งในสมัยรัชกาลที่ 1 เมื่ออายุ 2 1ปี


“เห็นจันทร์สุกเหลืองตลบกลิ่น แมงภู่บินร่อนร้องตระคองหวง

พฤกษาพร้อมต้องนามกานดาดวง พี่ยกพวงผลจันทร์ให้หวั่นใจ

แมงภู่เชยเหมือนพี่เคยประคองชิด ยิ่งพินิจนึกว่าน้ำตาไหล

เห็นรักร่วงผลิผลัดสลัดใบ เหมือนรักใจขวัญเมืองที่เคืองเรา”

(เมียคนแรกของสุนทรภู่ชื่อจันทร์ เป็นนางกำนัลในวังหลัง
มีลูกด้วยกัน 1 คนชื่อ นายพัด ตอนที่แต่งบทนี้
เค้าก็อยู่ในช่วงแตกร้าว แยกทางกันแล้ว)


นิราศวัดเจ้าฟ้า แต่งเมื่ออายุ 46ปี ขณะที่อยู่ในเพศบรรพชิต

“ เขาย่อมเปรียบเทียบความว่ายามรัก แต่น้ำผักต้มขมชมว่าหวาน ครั้งจืดจางห่างเหินไปเนิ่นนาน แต่น้ำตาลก็ว่าเปรี้ยวไม่เหลียวแล”

(เขาใช้คำว่าแต่ ไม่ใช้คำว่าแม้ นะคะ ไม่ได้พิมพ์ผิดนะคะ)



จากนิราศสุพรรณ แต่งเมื่ออายุ 55ปี ขณะบวชอยู่ที่วัดเทพธิดาราม

“บางม่วงทรวงเศร้าคิด เคยชวน

ม่วงเก็บมะม่วงสวน สุกระย้า

ม่วงอื่นรื่นรันจวน จิตไม่ ใคร่แฮ

ม่วงหม่อมหอมหวนหน้า เสน่เนื้อ เจือจร

(ผู้หญิงไทย ชื่อม่วง .....เอ..สมัยนี้จะมีใครตั้งชื่อลูกแบบนี้บ้างนา.....บทนี้แต่งโคลงสี่สุภาพค่ะ แม่ม่วงเนี่ยเป็นเมียคนที่3ของสุนทรภู่
เป็นแม่ม่ายลูก 2 แล้วมามีลูกกับสุนทรภู่อีก 2คน
ชื่อ นายนิล กับนายน้อย)



จากนิราศภูเขาทอง แต่งสมัยรัชกาลที่3 เมื่ออายุ40ปี “ยามยากไร้กายเราก็เท่านี้ ไม่มีที่พสุธาจะอาศัย

ล้วนหนามเหน็บเจ็บแสบคับแคบใจ เหมือนนกไร้รังเร่อยู่เอกา”



จาก นิราศอิเหนา เป็นเรื่องเดียวที่แต่งจากจินตนาการทั้งหมด
มีท่อนเด็ดๆ เยอะมาก ลองไปอ่านกันดูค่ะ


“จะหักอื่นขืนหักก็จักได้ หักอาลัยนี้ไม่หลุดสุดจะหัก

สารพัดตัดขาดประหลาดนั้น แต่ตัดรักนี้ไม่ขาดประหลาดใจ”


“ นอนเถิดหนายาหยีพี่จะกล่อม งามละม่อมมิ่งขวัญอย่าหวั่นไหว

คิรีรอบขอบเคียงเหมือนเวียงชัย อยู่ร่มไม้เหมือนปราสาทราชวัง......”

(คำว่า ยาหยี นี่ ได้ใจมากๆๆๆๆ เอาไป 100 คะแนน)




“ หนาวน้ำค้างกลางคืนสะอื้นอ้อน จะถางกรกอดน้องประคองขวัญ

เอาดวงดาราระยับกับพระจันทร์ ต่างช่อชั้นชวาลาระย้าย้อย....”



“ดูเล็บนางนึกถึงนางเหมือนอย่างเล็บ เคยข่วนเจ็บรอยมีอยู่ที่แขน



นิราศพระประธม เป็นช่วงเส้นทางจากกรุงเทพไปนมัสการพระปฐมเจดีย์ สมัยนั้นเรียกว่า พระประธม


“โอ้บางกอกกอกเลือดให้เหือดโรค แต่ความโศกนี้จะกอกออกที่ไหน

ต้องหันหับหนับแตกให้แหลกลำ นั่นแลน้ำจึงจะหวานเพราะจานเจือ”


(ผ่านระแวกนี้ สุนทรภู่ก็รำพันถึงเมีย(แบบไหนดี) อีก 3คน ที่ชื่อ งิ้ว,แก้ว,นิ่ม...... โอ้พระแม่เจ้า.. .ในที่สุดเราก็เข้าใจว่าผู้ชายไทยสมัยนี้
เอายีนเจ้าชู้มาจากไหน)





และเพราะสิ่งที่สุนทรภู่หลงคิดว่า ความสุขทั้งชีวิตของเขาคือ สุรา นารี และลายแทง(พยายามหาสูตร ยาอายุวัฒนะ กินแล้วไม่แก่ และฟิตตลอด อิอิอิอิ(คิดไปด้าย))

แต่ทุกสิ่งกลับเป็นมายาสิ่งลวงตาได้พบกับความผิดหวัง อกหัก และทุกข์ขมขื่น ดั่งที่ถ่ายทอดมาในนิราศทั้ง9เรื่อง (แค่ที่หามาให้อ่านเนี่ย เอาแบบตามใจฉันนะ (คือเราคิดว่ามันโดนใจเราดี)) ......”รำพันพิราป”จึงแต่งขึ้นเพื่อสะท้อนสิ่งเหล่านั้น ซึ่งเชื่อมโยงกับความฝันและความปรารถนา คงจะนำมาให้อ่านเร็วๆนี้ล่ะ





เราไปอ่านบทรักๆใคร่ๆได้ใจกันดีกว่า
จาก พระอภัยมณี “นมแนบนมนิ่มน้อง ท้องแนบท้องโอ่ท้อง

นาภีแนบนาภีมล ทรวงแนบชิดชม

บรรทับและเบียดบัวศรี” (เฮ้อ+++)



จากลิลิตพระลอ

“หัตถ์ขวาฝันเคล้นดอก โกมล

กรกอดดอกจงกล ฝ่ายซ้าย

จะเพียนหวั่นไหวชล ชมช่วง ไส้นา

ลิงโลดพรวนทองหว้าย หว่างสร้อยสระศรี (what ลิง?)



“อดอะไรเหมือนอดที่รสรัก อกจะหักเสียด้วยใจอาลัยหา

ไม่เห็นพักตร์รักดิ้นในวิญญาณ์ จะเป็นบ้าเสียเพราะรักสลักทรวง”

(นิราศอิเหนา)
แล้วก็มีที่เราชอบที่แต่งแบบคำผวน เก๋ไก๋มากๆ

“เจ็บคำจำคิดจิตขวย หลงเชยเลยชมลมชวย รักรวยด้วยรวนด่วนร้าว

“เฉน็งไอมาเวิ่งเว้า วู่กา

รูกับกาวเมิงแต่ยา มูไร้

ปิดเซ้นจะมู่ซา เคราทู่

เฉะแต่จะตอบให้ ชีพม้วยมังรณอ”



โอเค......เดี๋ยวผวนให้ฟังนะ



“ ไฉนเอ็งมาเวิ่งเว้า ว่ากู

ราวกับกูมาแต่เยิง ไม่รู้

เป็นศิษย์จะมาสู้ ครูเฒ่า

ชอบแต่จะเตะให้ ชีพม้วยมรณัง” อิอิอิอิอิ


เอาแบบหอมปากหอมคอก็พอเนาะ.....

นั่นก็เพราะข้าเมื่อยนิ้วและสมอง


สงสารเถอะ...ตอนนี้ข้าน้ำตานอง.....

เพราะคอยจ้องแต่หน้าจอ.....ให้ท้อใจ......

(อันนี้กลอนจบของขวัญเอง...)


โอเค.......จบจริงสักที

“อันดีชั่วตัวตายเมื่อภายหลัง ชื่อก็ยังยืนอยู่มิรู้หาย” นะจ๊ะ


(ถาม????? วันนี้ท่านได้ทำอะไรให้แผ่นดินหรือยัง)




Kissถึงกันบ้างนะ

ขวัญรวี


ขอบคุณข้อมูล “ท่องโลกกวี เทิดอักษร สุนทรภู่”
เขียนโดย “ ภิญโญ ศรีจำลอง”




 

Create Date : 24 เมษายน 2551
2 comments
Last Update : 5 พฤษภาคม 2551 18:11:01 น.
Counter : 1552 Pageviews.

 

12.39

เจิมครบ คง จบเคลิ้ม............คลึงฝัน
เจิมตัว จั่วเติม ขัน................ขับร้อง
เพลงโคลง โพล่งเคลง ครัน...คิดกล่อม
เพลงรัก พักเร่ง ต้อง............ตื่นเต้นแซมสนาน ฯ

12.42

 

โดย: คนสาธารณะ 24 เมษายน 2551 12:44:25 น.  

 

thank you ka

 

โดย: kwan (toyor ) 17 พฤษภาคม 2551 2:15:03 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


toyor
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




Friends' blogs
[Add toyor's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.