|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
เรื่องสั้น : ความรักที่ทดแทนไม่ได้ (1)
รูปภาพในมือของสมศรีมีหลายรูป บางรูปก็เป็นสีขาวดำที่กระดาษออกจะเหลือง ๆ แล้ว บางรูปก็เป็นรูปสี แต่ก็ดูเก่าแล้วเช่นกัน เธอมองดูรูปเหล่านั้น แล้วน้ำตาที่เพิ่งจะเหือดแห้งไป ก็กลับไหลมาอีก
เธอเช็ดน้ำตา หยิบเอารูปหนึ่งจากหลาย ๆ รูปขึ้นมาดู ในรูปเป็นภาพชายหญิงคู่หนึ่ง ฝ่ายหญิงสวมชุดแต่งงานสีขาวดูสดใส ฝ่ายชายก็สุดเท่ห์ในชุดสูทสีเทา ดูเหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก
ผู้หญิงและผู้ชายในรูปนั้น คือเธอกับเขา.... .................................................................
เขาเป็นหนุ่มข้าราชการ อนาคตไกล ส่วนเธอเป็นสาวน้อยบ้านนอกที่เข้ามาหางานทำในกรุงเทพ และเผอิญโชคดีได้งานในร้านขายเสื้อผ้าแห่งหนึ่ง บ้านเขาอยู่ในซอยลึกเข้าไป ยามเช้า-เย็น เขาจะเดินผ่านหน้าร้านเสมอ เธอไม่รู้ว่าเธอรักเขาเมื่อใด แต่เมื่อเวลาผ่านไปเพียง 2 ปี เธอก็ตอบตกลงแต่งงานกับเขา
ในวันแต่งงาน มีแขกเหรื่อมากมายมาแสดงความยินดี ด้วยความเป็นคนกว้างขวางของคุณพ่อของเขา เธอนึกฝันถึงความสุขที่เธอจะได้รับหลังจากแต่งงาน และความสุขนั้นก็ฉายชัดอยู่บนใบหน้าเจ้าสาวอย่างที่ทุกคนอดเอ่ยปากชมไม่ได้
หลังงานแต่งเธอลาออกจากงานที่ร้านเพื่อมาเป็นแม่บ้านให้เขาเต็มตัว เธอย้ายมาอยู่ที่บ้านเขาซึ่งเป็นครอบครัวใหญ่ มีพี่น้องและญาติ ๆ อยู่รวมกันหลายคนอย่างที่เธอนึกไว้ แต่สิ่งหนึ่งที่เธอไม่เคยนึกถึงเลย นั่นก็คือการที่เธอต้องเผชิญกับปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้ อย่างในละครน้ำเน่าที่เธอเคยปรามาสอยู่เสมอว่า มันไม่มีจริง และเป็นไปไม่ได้ แต่ตอนนี้เธอได้เจอของจริงแล้ว
เธออยู่ที่บ้านนั้นอย่างอดทน มีเพียงเขาและลูกอีก 2 คนเท่านั้น ที่เป็นแรงใจให้เธอสู้ต่อไป ลูก ๆ ของเธอเป็นเด็กน่ารัก คนโตเป็นผู้ชาย คนเล็กเป็นผู้หญิง แต่ถึงแม้เธอจะสู้และอดทนเพียงใด เธอก็ยังเฝ้าภาวนาขอให้ ความทุกข์ทรมานนี้หมดไปโดยเร็วก่อนที่เธอจะหมดความอดทน
แล้วคำภาวนาของเธอก็สัมฤทธิ์ผล แต่.... ......................................................................
แม่ พ่อไปไหนเหรอ เสียงลูกสาวตัวน้อย วัย 5 ขวบ ร้องถาม ลูกสาวคนนี้จะสนิทกับพ่อมากเป็นพิเศษ เธอหันมาดึงลูกไปกอดแนบอก น้ำตาไหลนองเต็มหน้า พร้อมด้วยเสียงสะอึกสะอื้น
แม่ พ่อไปไหน หนูจะหาพ่อ เสียงลูกสาวยังถามต่อ เธอกอดลูกน้อยแน่นขึ้น ก่อนกระซิบเบา ๆ ว่า
พ่อไปสวรรค์แล้วลูก ตอบได้เท่านั้น ทำนบน้ำตาก็พังลงมาราวกับว่าจะไม่มีวันเหือดแห้งกระนั้น ........................................................................
เขาจากเธอไปด้วยโรคร้ายที่รุมเร้าเขาอยู่นานปี ทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างรวมทั้งลูกน้อยทั้งสองให้เธอต้องดูแล เธอจะทำอย่างไรดี
เธอขนของออกจากบ้านนั้นทันทีที่เสร็จงานศพ แล้วไปเช่าบ้านหลังเล็ก ๆ อยู่ในซอยถัดไป เงินเก็บที่เธอมีอยู่บ้างคงพอประทังชีวิตไปได้สักพัก แต่ลูกที่กำลังโต ทำให้เธอตัดสินใจไปสมัครงานเป็นพนักงานในโรงงานละแวกนั้น พร้อมกับหารายได้พิเศษโดยการทำงานบ้านในตอนเย็นให้กับนายช่างในโรงงานที่มาเช่าบ้านอยู่ใกล้กับโรงงาน
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะพรหมลิขิตหรือเพราะเหตุผลใด หลังจากผ่านไปเกือบปี เธอก็หอบลูกย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านเช่านั้น ไม่ใช่ในฐานะคนทำงานบ้าน แต่ในฐานะภรรยาของนายช่าง
ชีวิตหลังจากนั้นมีความสุขพอสมควร เธอมีลูกให้กับนายช่างอีก 2 คน เป็นผู้หญิงทั้งคู่ นายช่างเข้ากับลูกสาวทั้ง 3 คนได้ดี แต่กับลูกชายคนโตไม่ค่อยสนิทมากนัก อาจเป็นเพราะเป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่ก็ได้ เธอคิดเช่นนั้น .......................................................................
สมศรีหยิบรูปอีกใบหนึ่งขึ้นมาจากกองรูป เป็นภาพของเธอกับนายช่าง และลูกสาวทั้ง 3 แต่ไม่มีลูกชายคนโต ก็ผู้ชายคนนี้มิใช่หรือที่เธอเคยลั่นวาจาต่อหน้าเขาไว้ว่า จะไม่มีวันร้องไห้ให้เขา ถึงแม้เขาจะตายจากไป
หากเปรียบผู้ชายคนแรกเป็นคู่แท้ ผู้ชายคนที่ 2 นี้ก็คงต้องเป็นคู่ทุกข์ ........................................................................
เธอใช้ชีวิตคู่ครั้งที่ 2 อย่างสงบสุขมาได้ประมาณ 10 ปี โดยไม่เคยคาดคิดเลยว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เธอเสียใจที่สุด
นายช่างมีปัญหากับผู้จัดการโรงงานคนใหม่ ด้วยความเป็นคนตรงของเขา และไม่เคยยินยอมให้ใครมาหาผลประโยชน์กับโรงงาน หลังจากมีปากเสียงกับผู้จัดการหลายครั้ง เขาก็ตัดสินใจลาออกจากโรงงานโดยไม่ปรึกษาและไม่ฟังเสียงทัดทานของใครแม้แต่คนเดียว
หลังจากลาออก เขาได้เงินมาก้อนหนึ่ง เขาได้เพียรพยายามหางานอยู่ตลอดเวลา แต่ด้วยอายุที่มาก ทำให้ไม่ได้รับการพิจารณาจากโรงงานใด จนท้ายที่สุดเขาก็ได้งานเป็นผู้จัดการสโตร์ในโรงงานแห่งหนึ่ง ซึ่งแม้เงินเดือนจะน้อยกว่าที่เดิม แต่เรื่องเงินก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะทั้งเขาและเธอไม่ใช่คนฟุ่มเฟือยอะไร
หากเป็นเพราะความเป็นคนรักศักดิ์ศรี บวกกับความผิดหวังอย่างรุนแรงจากที่ทำงานเก่า ทำให้เขาหันไปหาเหล้าเป็นเพื่อนปลอบใจตั้งแต่นั้นมา
แล้วก็ถึงวันหนึ่ง วันที่เธอจะไม่ลืมไปตลอดชีวิต วันนั้นเขานั่งกินเหล้าตามปกติ ลูกชายคนโตของเธอเพิ่งกลับมาจากข้างนอก มาถึงก็เปิดเพลงฟังเสียงดัง ซึ่งก็เป็นปกติของเขา แต่วันนั้นมันคงเป็นวันไม่ปกติ จู่ ๆ เขาก็เดินไปที่ห้องของลูกชาย และบอกให้เขาเบาเพลงลง ด้วยอารมณ์วัยรุ่น หรือด้วยอะไรก็เหลือจะเดา ลูกชายได้เถียงเขา จากเรื่องเพลง ก็ลุกลามไปเรื่องอื่น ๆ อีกมากมาย เธอเข้าห้ามปรามโดยกันนายช่างออกไป แล้วหันไปบอกลูกชายก่อนจะออกจากห้องว่า ให้เปิดเพลงเบา ๆ หน่อย ทันใดนั้น หัวใจเธอก็กระตุกวูบอย่างรุนแรง นี่เธอต้องพูดอะไรผิดไปแน่นอนเลย เพราะลูกชายได้หันมามองหน้าเธอด้วยแววตาที่เธอบรรยายไม่ถูก และไม่อาจจะลืมเลือนได้เลย หลังจากนั้นลูกชายก็หุนหันออกจากบ้านไป และไม่กลับมาอีกเลย
เธอเศร้าโศกปานจะขาดใจ เพราะลูกชายคนนี้เป็นตัวแทนของคนที่เธอรัก เธอโยนความผิดทั้งหมดให้กับนายช่าง เธอหมางเมิน เย็นชา และไม่ค่อยสนใจในตัวเขา ปล่อยหน้าที่ในการดูแลต่าง ๆ ให้กับลูกสาวทั้ง 3 คน ทุกวันเธอจะเฝ้ารอ และภาวนาให้ลูกชายกลับมา เธอภาวนาอยู่เช่นนั้น จนเวลาล่วงไป 2 ปี คำภาวนาของเธอก็เป็นผล
(อ่านต่อตอนหน้าจ๊ะ)
Create Date : 07 พฤศจิกายน 2549 |
|
9 comments |
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2549 15:45:06 น. |
Counter : 724 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: galdewis 8 พฤศจิกายน 2549 17:19:05 น. |
|
|
|
| |
โดย: แอม (sugarhut ) 8 พฤศจิกายน 2549 20:37:23 น. |
|
|
|
| |
โดย: galdewis 9 พฤศจิกายน 2549 6:39:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: แอม (sugarhut ) 9 พฤศจิกายน 2549 12:02:05 น. |
|
|
|
| |
โดย: คายตรี (คายตรี ) 10 พฤศจิกายน 2549 0:39:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: galdewis 10 พฤศจิกายน 2549 6:52:50 น. |
|
|
|
|
|
|
.....คนเราทุกวันนี้ใช้ชีวิตหมดไปกับกาลเวลาที่ผันผ่าน จนลืมที่จะมองหาความงดงามและความอ่อนโยนในชีวิต หลายคนเพียรค้นหา และหลายคนไม่มีวันพบเจอ.....
|
|
|
|
|
|
|