Group Blog
 
 
กันยายน 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
30 กันยายน 2551
 
All Blogs
 

-- กระต่ายขาวในเงาจันทร์ -- บทที่ 5

บทที่ 5

ดอกไม้ไฟนับพันดอกถูกจุดขึ้นเป็นชุดๆสร้างความตื่นตาตื่นใจแก่ผู้ที่มาชมเป็นอันมาก ไอซ์กดถ่ายภาพดอกไม้ไฟที่แตกกระจายบนท้องฟ้าเป็นประกายระยิบระยับอย่างลืมตัว ทั้งสีส้มกับเหลืองสดที่จุดสลับกันไปมา หรือสีเขียวเย็นตาที่มีประกายวิบวับเมื่อตอนใกล้จะดับแสง นึกในใจว่าโชคดีเหลือเกินที่มีโอกาสได้มาเห็นเทศกาลของชาวญี่ปุ่นแท้ๆซึ่งจัดขึ้นปีละครั้งแบบนี้

เมื่อดอกไม้ไฟชุดใหญ่นับร้อยดอกชุดสุดท้ายถูกจุดขึ้นพร้อมกับเสียงปรบมือของผู้คนเบาบางลง ผู้คนก็ทยอยแยกย้ายกันกลับ ตามถนนเส้นเดิมที่หญิงสาวเดินผ่านอย่างสบายๆขามานั้น บัดนี้อัดแน่นไปด้วยผู้คนจากทั่วทุกสารทิศทั้งนักท่องเที่ยวและชาวญี่ปุ่นเอง

ไอซ์รู้สึกตัวว่าโดนเบียดจากกลุ่มวัยรุ่นด้านหลัง ทำให้เธอห่างออกมาจากลูกหว้ากับเมเม่มากพอสมควร หญิงสาวพยายามที่จะเดินเกาะกลุ่มกับเพื่อนไว้ แต่คุณป้าชาวจีนข้างหน้าเธอก็หยุดรอเรียกสามีกับลูกชายข้างหน้าขวางเธอไว้พอดี ทำให้ไอซ์ไม่สามรถเดินต่อไปได้ เธอเห็นหลังของโยอิจิกับลูกหว้าอยู่ไวๆก่อนที่ทุกคนจะกลืนหายไปกับฝูงชน


ท่ามกลางผู้คนมากมายที่เดินปะปนกันอยู่นั้น ไคสามารถมองเห็นสาวผมม้าคนนั้นได้อย่างง่ายดาย อาจจะเป็นเพราะสายตาเขาไม่เคยห่างจากเธอเลยก็ได้ เขาเห็นเธอมองซ้ายมองขวาอย่างตกใจ เพียงไม่กี่วินาที ไคก็ถึงตัวเธอและคว้าข้อมือเธอไว้แน่น

“อยู่นี่ ไม่ต้องตกใจ”

เมื่อเธอหันมาเห็นเขาก็ถอนใจอย่างโล่งอก

“จะหลงกับเพื่อนตลอดเลยใช่มั้ยเนี่ย” เขาล้อแต่ก็ต้องรีบกลบเกลื่อนเมื่อหญิงสาวตรงหน้าจ้องมองมาด้วยแววตาสงสัย “โยอิจิเล่าให้ฟังน่ะ”

หญิงสาวพยักหน้าเหมือนรับรู้ “แล้วคนอื่นอยู่ที่ไหนกันคะ”

“ผมก็ยังไม่รู้เหมือนกัน แต่เดี๋ยวโทร.ถามโยคุงก็ได้ว่าอยู่ตรงไหนแล้ว ผมกับโยอิจิมีโทรศัพท์ ไม่หลงกันหรอก” หญิงสาวได้ยินเขาพูดโทรศัพท์นัดหมายอยู่ครู่หนึ่งจึงวางสาย นึกแปลกใจที่เธอฟังเขาพูดไม่ค่อยเข้าใจนัก หากแต่พอเขาหันมาพูดกับเธอ สำเนียงที่รัวเร็วนั้นหายไปเหลือแต่เสียงพูดทุ้มนุ่ม ฟังง่ายเหมือนเคย

“โยคุงบอกให้ไปเจอกันที่สถานีรถไฟใต้ดินตรงช่องขายตั๋วเลย ถ้ารอกันบนถนนเส้นนี้ไม่มีทางเจอ เดี๋ยวผมพาคุณไปเอง”

ตลอดเวลาที่เดินด้วยกันนั้น หญิงสาวรู้สึกได้ว่า แม้ผู้คนจะแน่นขนัดและเบียดเสียดมากเพียงไร แต่ผู้ชายตรงหน้าก็พยายามกันไม่ให้เธอโดนเบียดหรือชนมากนัก เขามักจะให้เธอเดินด้านในของถนนเสมอ

ไคพาเธอเดินย้อนกลับไปทางที่เคยผ่านเมื่อขามาเลียบริมน้ำไปยังสถานีรถใต้ดิน ไอซ์อึกอักก่อนจะเรียกคนตัวสูงที่เดินนำหน้าเบาๆ

“ไค...คือว่า...คุณไม่ต้องจูงมือไอซ์แล้วก็ได้” เมื่อเขาหันกลับมาเธอจึงบอกยิ้มๆพร้อมกับชูมือที่เขาจับไว้แน่นให้ดูเป็นหลักฐาน

ไคปล่อยมือเธอออกทันทีราวกับเป็นของร้อน หันหลังกลับแล้วบอกเสียงเย็น “ขอโทษ...ผมไม่ได้ตั้งใจ แค่กลัวคุณจะหายไปอีกก็เท่านั้น”

“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ” หญิงสาวพยายามจะอธิบาย แต่คนใจน้อยก็ไม่ได้อยู่ฟัง กลับเดินลิ่วนำเธอห่างออกไปหลายช่วงตัว

ไอซ์พยายามกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามคนตัวสูงที่เหมือนไม่ได้เดินเร็วอะไร แต่ขายาวที่ก้าวอย่างสม่ำเสมอนั้น ทำให้คนตัวเล็กอย่างเธอก้าวตามไม่ทัน จนเธอเริ่มหอบนั่นแหละ เขาจึงผ่อนฝีเท้าลง

“ไม่รอกันเลยไค...เดี๋ยวไอซ์ก็หลงอีกหรอก” เสียงตัดพ้อแต่สรรพนามเปลี่ยนไปแล้ว

“ไม่หลงหรอก มองอยู่”

“ไคมีตาหลังเหรอ” เธอแกล้งยั่ว เขาจึงหันมามองเธอตาขุ่น คิ้วขมวดกันจนเป็นปม

“แล้วจะเอายังไง” น้ำเสียงชายหนุ่มเริ่มรวน

“ก็แค่กลัวหลงอีกอีกรอบน่ะ เดี๋ยวเดินอยู่ ไคเกิดหายไปอีกแล้วจะทำยังไงล่ะ”

ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ “งั้นจับชายเสื้อเอาไว้ละกัน คงไม่รังเกียจขนาดนั้นใช่มั้ย แค่เสื้อน่ะ”

ไอซ์เห็นเขาเริ่มเกเรแบบเด็กๆก็อดขำออกมาไม่ได้ มือก็รีบคว้าหมับที่ชายเสื้อเชิร์ทของคนตัวสูงไว้เหมือนกลัวเจ้าของจะน้อยใจหนีหายไปอีก

ภาพชายหนุ่มตัวสูงเดินกอดอกอย่างงอนๆ มีสาวผมม้าตาแป๋วเกาะชายเสื้อไปด้วยตลอดทางทำเอาคนที่ผ่านไปมาแถวนั้นแอบยิ้มตามไปด้วยไม่ได้


“ซายูริ...นั่นมันไค เพื่อนสมัยเด็กที่เธอแอบชอบไม่ใช่เหรอ เดินอยู่กับใครน่ะ” สาวญี่ปุ่นในชุดกิโมโนสะกิดเรียกเพื่อนพลางชี้ให้ดู

หญิงสาวร่างสูงโปร่งราวกับนางแบบหันขวับไปตามที่เพื่อนชี้ก่อนเอ่ยเสียงแผ่ว “ใช่ไคจริงๆด้วย มากับใครน่ะ ไม่เห็นเคยเห็นหน้าเลย”

ซายูรินึกแปลกใจระคนอิจฉาเพราะชายหนุ่มที่เป็นเพื่อนกับเธอมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมด้วยกันนั้น ไม่เคยไปไหนมาไหนกับใครสองต่อสองอย่างนี้สักครั้ง แม้กระทั่งตัวเธอที่คิดว่าไคให้ความสนิทสนมด้วยเป็นพิเศษนั้นก็ยังต้องไปเที่ยวกันเป็นกลุ่ม เพื่อนชายของเธอถึงจะยอมไปด้วย เขาสามารถรักษาระยะห่างได้อย่างคงเส้นคงวา แม้ว่าเธอจะพยายามสักเพียงไหนที่จะลดช่องว่างนั้นให้แคบลงก็ตาม

แม้กระทั่งงานเทศกาลในวันนี้ เธอโทร.ไปชวนเขาตั้งหลายหนให้ออกมาดูดอกไม้ไฟด้วยกัน แต่คำตอบก็เหมือนเดิมทุกครั้ง

“เรายังไม่รู้จะว่างหรือเปล่าเลยซายูริ ไม่อยากให้คอยเก้อน่ะ ชวนคนอื่นไปดีกว่านะ”

แล้วนี่อะไร ทำไมไคคุงถึงมาเดินอยู่กับสาวแปลกหน้าที่งานเทศกาลที่เธอใฝ่ฝันจะมากับเขาสองคนอย่างนี้ได้

“เป็นอะไรหรือเปล่าซายูริ เธอโอเคมั้ย” เสียงเพื่อนสาวปลุกเธอให้ตื่นขึ้นจากภวังค์

“ไม่เป็นไร เราไปต่อกันเถอะ”

“อยากตามไปดูมั้ย” คำถามมีแววเห็นใจ

ซายูริหันมามองหน้าเพื่อนก่อนส่ายหน้าน้อย “อย่าเลย เราไม่อยากให้ไคคิดว่าเราไปยุ่งเรื่องของเค้าน่ะ ไว้รู้เรื่องจริงๆก่อนว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใครแล้วค่อยว่ากันอีกที”

หญิงสาวพยายามกลั้นน้ำตาที่จวนเจียนจะไหล ก่อนจะหันไปมองร่างสูงที่ค่อยๆก้าวห่างออกไปปะปนกับผู้คนมากมายจนลับตา


“นั่นอะไรน่ะไค” หญิงสาวกระตุกชายเสื้อให้เขาหันมาเมื่อเห็นมีลังกระดาษใหญ่บ้างเล็กบ้างกองอยู่ตามพุ่มไม้เป็นระยะๆ

ชายหนุ่มหันมามองก่อนอธิบาย “ความจริงตรงนั้นคือบ้านของพวก homeless น่ะ เขาจะอาศัยนอนกันตามม้านั่งริมทางเดินหรือในสวนสาธารณะ ถ้าวันไหนยึดพื้นที่บนม้านั่งไม่ได้ก็จะปูกล่องกระดาษกันตามพื้นแบบนอนกันอย่างที่เห็นนี่แหละ”

“ไม่น่าเชื่อนะคะว่าขนาดประเทศที่เจริญแล้วและดูมีระเบียบวินัยอย่างญี่ปุ่นจะมีคนไร้บ้านด้วย” ไอซ์พึมพำ

“ความเหลื่อมล้ำทางสังคมไม่เลือกประเทศหรอกครับ แค่ประเทศไหนมีวิธีจัดการได้ดีกว่ากันเท่านั้นเอง” ไคหันมาบอกเรียบๆก่อนจะสังเกตเห็นว่าหญิงสาวห่อไหล่เป็นระยะๆ

“หนาวเหรอ” ชายหนุ่มถาม แม้ว่าเดือนกรกฎาคมนั้นจะถือเป็นหน้าร้อนสำหรับประเทศญี่ปุ่น แต่ในตอนกลางคืน กลางที่โล่งแบบนี้ ลมก็แรงพอสมควร

ไคถอดเสื้อเชิร์ทตัวนอกที่สวมทับเสื้อยืดคอกลมอีกทีส่งให้ก่อนสั่ง “ใส่ซะ สะอาดไม่ต้องกลัว”

ไอซ์รับมาอย่างว่าง่ายก่อนถามเสียงกลั้วหัวเราะ “แล้วไคไม่หนาวเหรอ”

คนตัวสูงส่ายหน้า “ชินแล้ว ไอซ์มาจากประเทศเมืองร้อนอาจจะไม่ชินกับลมแรงๆ”

หญิงสาวคลุมไหล่ด้วยเสื้อเชิร์ทบางๆตัวที่เขายื่นให้ ไอร้อนจากตัวคนใส่ยังไม่จางหาย ทำเอาหญิงสาวรู้สึกร้อนที่ใบหน้า ลมยังคงพัดแรง... แต่เธอกลับรู้สึกอุ่นขึ้นอย่างประหลาด

“ไคกับโยอิจิรู้จักกันนานรึยัง” หญิงสาวถามขึ้นเมื่อเดินไปได้สักพัก

“ตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยปีหนึ่ง ถึงตอนนี้ก็สี่ปีแล้ว”

“ทำไมสนิทกันล่ะ นิสัยไม่เห็นเหมือนกันเลย”

“คงเพราะ...โยคุงมีอะไรหลายอย่างที่ผมไม่มีมั้ง โยคุงเป็นเหมือนพระอาทิตย์เหมือนชื่อเค้านั่นแหละ อยู่ที่ไหนก็เป็นจุดศูนย์กลางของทุกอย่าง ร้อนแรงแต่ว่าก็อบอุ่น ผมเองยังอดชื่นชมเค้าไม่ได้เลย”

หญิงสาวเหมือนเห็นแววตาเศร้าๆแว่บหนึ่งแล้วก็จางหาย

“แต่ไคก็มีข้อดีของตัวเองเหมือนกันนะ แต่ไคอาจจะมองไม่เห็นมันเองก็ได้”
“ผมคงเป็นดวงอาทิตย์อย่างโยอิจิไม่ได้หรอก เป็นได้ก็แค่พระจันทร์เท่านั้นล่ะมั้ง ให้แสงสว่างได้ แต่ยังไงก็ไม่อบอุ่นพอ”

“แต่แสงของพระจันทร์ก็นวลตาดีนะ มองได้นานด้วยไม่มีเบื่อ ไม่แสบตาแผดร้อนเหมือนแสงของดวงอาทิตย์ จริงมั้ยไคคุง”

ประโยคสุดท้าย หญิงสาวหันมายิ้มให้ชายหนุ่มตรงๆ เป็นยิ้มที่ไครู้สึกว่าดอกไม้ไฟกว่าสองพันดอกที่ถูกจุดขึ้นในค่ำคืนนี้ ยังระยิบระยับได้ไม่ถึงครึ่งของรอยยิ้มของหญิงสาวตรงหน้าเขาเลย


เมื่อทั้งสองเดินมาถึงจุดนัดหมายนั้น โยอิจิ ลูกหว้าและเมเม่มารออยู่ก่อนแล้ว สองสาวนั่งกินข้าวห่อสาหร่ายที่ปั้นเป็นรูปสามเหลี่ยม มีไส้ต่างๆอยู่ตรงกลางกับชาเขียวที่หนุ่มผมทองไปซื้อมาให้จากร้าน Lawson ซึ่งเป็นร้านมินิมาร์ทชื่อดังของญี่ปุ่นกันอย่างเอร็ดอร่อย

“ซื้อมาเผื่อไอซ์ด้วยครับ เผื่อจะหิว” โยอิจิส่งข้าวปั้นกับขวดชาเขียวให้หญิงสาว ก่อนจะโยนอีกถุงหนึ่งให้เพื่อน ชายหนุ่มผมทองเหลือบมองเสื้อเชิร์ทที่สาวผมม้าใช้คลุมอยู่แว่บหนึ่ง ประกายแปลกๆเกิดขึ้นในแววตา แต่ก็ทำเฉยเสีย ไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกมาแม้แต่น้อย

เมื่อทุกคนจัดการกับ ‘ของว่าง’ กันเรียบร้อยแล้ว โยอิจิก็พาคณะทัวร์ย่อยๆของเขาขึ้นรถไฟใต้ดินกลับไปที่โรงแรมของสามสาว

“ตกลงพรุ่งนี้ผมกับไคมารับที่โรงแรมตอนเก้าโมงเช้านะครับ ต้องออกเช้าหน่อยเพราะถึง Sanrio Puroland จะอยู่ในโตเกียวแต่ก็ค่อนข้างไกล เป็นเขตทามะเลยล่ะครับ” โยอิจิบอกโปรแกรมคร่าวๆสำหรับรายการเที่ยวของวันพรุ่งนี้ซึ่งเป็นสวนสนุกสัญชาติญี่ปุ่นแท้ๆที่ผ่านการรีเควสโดยตรงจากเมเม่ผู้คลั่งไคล้คิตตี้ โดยชายหนุ่มไม่ลืมหนีบเพื่อนชายให้ร่วมอยู่ในโปรแกรมเหมือนเคย ซึ่งคราวนี้ไคคุงก็ไม่ได้มีท่าทีขัดขืนอะไร

“เดี๋ยวก่อน...ไค” หญิงสาวเรียกเขาไว้ก่อนที่คนตัวสูงจะก้าวออกไปจากล็อบบี้เล็กๆของโรงแรม

ไคหันมาทำหน้างงก่อนจะเข้าใจเมื่อเธอถอดเสื้อของเขาออกส่งคืนให้

“ขอบคุณนะ” หญิงสาวยิ้มให้ ชายหนุ่มเพียงแต่ยิ้มรับไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา

เมื่อเขารับเสื้อคืนไปจากเธอนั้น ไอซ์เห็นบางอย่างหล่นออกมาจากกระเป๋าเสื้อของเขา ประกายเพชรวิ้งๆนั้นบ่งบอกให้รู้ว่าเป็นเครื่องประดับบางอย่างของผู้หญิงแต่เป็นอะไรนั้นเธอก็เห็นไม่ถนัด หญิงสาวตั้งใจจะเก็บให้ แต่ไคก็ก้มลงเก็บมันใส่กระเป๋าอย่างรวดเร็ว แก้มขาวๆของเขาแดงระเรื่อขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

‘มีแฟนแล้วนี่เอง ถึงได้มีกิ๊บผู้หญิงอยู่ในกระเป๋าเสื้อ’ ไอซ์อดร้สึกวูบลึกๆในใจไม่ได้

“ไปก่อนนะ” ชายหนุ่มก้มหน้างุด “พรุ่งนี้เจอกัน”

ไครีบเปิดประตูออกไปก่อนที่จะถูกหญิงสาวซักถามอะไร เขาไม่รู้เลยว่าเธอเห็นกิ๊บรูปกระต่ายของเธอหรือยัง แต่สังเกตจากสีหน้าแล้วคงยังไม่น่าจะเห็น แต่คงรู้ว่าเป็นกิ๊บผู้หญิงแน่ๆ

ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือก ก่อนจะเดินไปหาโยอิจิที่ยืนรออยู่ที่บันไดทางลงรถไฟ


วันนี้ไอซ์ตื่นเช้ากว่าทุกวัน หญิงสาวอาบน้ำแต่งตัวเสร็จตั้งแต่ยังไม่แปดโมงเช้าดี นั่งเล่นนอนเล่นในห้องรอเพื่อนๆอาบน้ำจนเบื่อจึงตัดสินใจลงมาเดินเล่นบริเวณรอบๆโรงแรม

เธอจำได้ว่าหลังโรงแรมที่พักอยู่นั้นมีสระน้ำขนาดใหญ่ ดอกบัวนับพันดอกชูขึ้นเหนือน้ำรับแสงแดยามเช้า ผีเสื้อตัวเล็กๆนับร้อยบินฉวัดเฉวียนไปมา หญิงสาวอยากจะเก็บภาพเหล่านี้ไว้แต่ถ่ายจากตรงที่เธอยืนอยู่กลับเห็นเป็นรั้วเหล็กกั้น ภาพออกมาไม่ได้อย่างใจนึก เธอจึงปีนขึ้นไปบนแท่งคอนกรีตขนาดใหญ่ที่ถูกกองทิ้งอยู่ แล้วพยายามโน้มตัวไปข้างหน้าให้ได้มากที่สุดเพื่อจะเก็บภาพดอกบัวดอกใหญ่ที่มีผีเสื้อตัวจ้อยบินวนเวียนอยู่รอบๆ

“ดอกบัวแบบนี้ที่นี่เรียกว่าฮาสึ” เสียงคุ้นหูดังขึ้นข้างหลังทำเอาหญิงสาวตกใจจนเกือบหน้าคะมำแต่ยังดีที่แขนแข็งแรงของคนตัวสูงคว้าเอวบางไว้ได้ทัน

“ตกใจหมดเลยไค” หญิงสาวแกล้งส่งค้อนวงเล็กๆไปให้เมื่อรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นเป็นใคร

“ปีนขึ้นไปทำไมบนนั้น อันตรายนะ”

“ก็คงไม่อันตรายหรอกถ้าไคไม่แกล้งน่ะ ปล่อยไอซ์ลงได้แล้ว” เธอเริ่มอุทธรณ์เมื่อผู้ชายตรงหน้าไม่ยอมคลายวงแขนออกจากเอวของเธอ ใกล้กันแค่คืบอย่างนี้ทำเอาหญิงสาวใจเต้น

ไคไม่ยอมปล่อยให้เธอเป็นอิสระ แต่กลับอุ้มร่างบางลงมาจากคอนกรีตที่เด็กซนปีนขึ้นไป เมื่อเธออยู่ข้างล่างอย่างปลอดภัยแล้วนั่นแหละ เขาจึงคลายวงแขนออก

“บอกได้หรือยัง ปีนขึ้นไปทำไม”

“ไปถ่ายรูปน่ะไค ถ่ายจากตรงนี้ภาพไม่สวย”

“ตัวเตี้ย” ไคบอกยิ้มๆทำเอาคนฟังหน้าเหวอไม่นึกว่าเขาจะกล้าล้อเธออย่างนี้ ความจริงเวลาเขาอารมณ์ดีไม่นั่งเก๊กหน้าขรึมคงจะน่ารักไม่น้อย

“ส่งกล้องมา จะถ่ายให้”

“ไคถ่ายรูปเป็นด้วยเหรอ” ไอซ์ลังเลแต่ก็ส่งกล้องให้แต่โดยดี

“เคยเรียนมาบ้างน่ะ เอาดอกบัวกับผีเสื้อใช่มั้ย” ชายหนุ่มกดชัทเตอร์ไปหลายทีก่อนจะส่งกล้องคืนให้หญิงสาว

ไอซ์กดดูภาพที่เขาถ่ายแล้วก็ต้องยอมรับว่าไคมีฝีมือในการถ่ายภาพอยู่ไม่น้อย เธอแกล้งเล็งกล้องไปที่เขาก่อนจะบอกให้เจ้าตัวยิ้ม

“ไม่เอา ไม่ชอบ” ไคบอกก่อนจะเอามือใหญ่มาปิดหน้ากล้องไว้ไม่ให้เธอถ่ายภาพได้

“ทำไมไม่ชอบล่ะ ไคยิ้มแล้วน่ารักออกเสียดายแต่ว่าไม่ค่อยยิ้ม” แล้วก็เป็นอย่างที่เธอคาด คนตัวสูงออกอาการขัดเขินอย่างเห็นได้ชัด

“ทานข้าวเช้ารึยัง ถ้ายังจะพาไปทานใกล้ๆ” ชายหนุ่มรีบเสเปลี่ยนเรื่องพูด กลัวคนตัวเล็กจะจับอาการได้

หญิงสาวแอบยิ้มทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับแก้มแดงๆของเขา “ยังเลยไค แล้วทำไมไคมาคนเดียวแต่เช้าเลยล่ะ ไม่มาพร้อมโยอิจิเหรอ”

“โยคุงต้องไปส่งรายงานที่มหาวิทยาลัยก่อนน่ะ แต่เดี๋ยวเก้าโมงจะมาเจอที่นี่เลย” ไคเลือกตอบเฉพาะคำถามสุดท้าย ไม่อยากบอกให้สาวตรงหน้ารู้ว่าจริงๆแล้วเขานอนไม่หลับจนต้องลุกมาแต่เช้า เมื่อตื่นมาแล้วก็เลยมาแถวๆนี้เลยต่างหาก

ชายหนุ่มพาเธอเดินเลียบสระบัวขนาดใหญ่อ้อมไปอีกทางจากที่เธอถ่ายรูปอยู่ ไม่นานก็เจอกับร้านค้าคล้ายๆตลาดนัดตอนเช้า มีผู้คนเดินซื้อของกันบางตา ส่วนใหญ่จะเป็นคนสูงอายุหรือพวกแม่บ้าน

“คนหนุ่มคนสาวยังไม่ตื่นกันหรอกเวลานี้” ไคอธิบายยิ้มๆเมื่อเห็นแววตามีคำถามของหญิงสาวเมื่อมองไปรอบๆ

“แสดงว่าไอซ์กับไคไม่ใช่วัยหนุ่มสาวแล้ว” เธอบอกล้อๆทำเอาเขาอดยิ้มไปกับเธอไม่ได้

เขาพาเธอไปนั่งที่ร้านแผงลอยร้านหนึ่ง มีโต๊ะเล็กๆสามสี่ตัวตั้งอยู่ขนานไปกับสระบัว กลิ่นกาแฟที่เพิ่งคั่วใหม่ๆลอยมาแตะจมูก

“ไอซ์อยากทานอะไร เป็นพวกข้าวกับซุปของญี่ปุ่นหรือว่าขนมปังหวาน”

“ไอซ์เอาขนมปังละกัน” เธอบอกง่ายๆ “เอากาแฟด้วยนะไค ห้อมหอม”

ไม่นานทั้งคู่ก็มีกาแฟอยู่ในมือคนละแก้ว กับขนมปังหวานในจานสำหรับทั้งสองคนอีกคนละจาน ขนมปังของไอซ์นั้นเป็นไส้ถั่วแดงนุ่มละเอียด หวานกำลังพอดี ยิ่งเมื่อทานคู่กันกับกาแฟดำรสเข้มแล้วเข้ากันได้อย่างลงตัว

“ของไคเป็นไส้อะไรอ่ะ” หญิงสาวยื่นหน้ามาถามสายตาอยากรู้อยากเห็น

“ไม่บอก ต้องลองชิมเอง” ไคเลื่อนจานขนมปังนุ่มๆหอมๆที่ยังไม่ได้รับการแตะต้องตรงหน้ามาให้

“ไม่เอา ของๆไค ไคต้องกินก่อนสิ จะให้ไอซ์มากินก่อนได้ไงล่ะ”

“ความจริงผมสั่งมาให้ไอซ์ชิมทั้งสองอันนั่นแหละ อร่อยทั้งสองแบบเลยรับรองได้ โอโต้ซังกับโอก้าซังที่ร้านที่ผมทำงานชอบมากถ้าวันไหนมาเช้าหน่อยก็จะซื้อติดมือไปฝากให้ท่านทานคู่กับน้ำชาน่ะ”

ไอซ์มองสบตาคนตรงหน้าก่อนบอก “ไคคุงเป็นคนใจดีนะเนี่ย รู้ตัวมั้ย”

“เพราะผมยกขนมปังให้ไอซ์ใช่มั้ย” แววตารู้ทันจนหญิงสาวรีบโวยวาย

“ไม่ใช่ซักหน่อย แต่แหม...ไหนๆไคก็คะยั้นคะยอให้ชิมซะขนาดนี้แล้ว ไอซ์ก็ไม่เกรงใจล่ะนะ” คนไม่เกรงใจหยิบขนมปังตรงหน้าขึ้นมาบิแบ่งเป็นสองส่วน ส่งครึ่งหนึ่งให้คนตรงหน้าก่อนจะวางอีกครึ่งหนึ่งที่เหลือลงในจานของตัวเอง

“แบ่งกัน เป็นขนมปังร่วมสาบานไง” เมื่อเห็นชายหนุ่มทำหน้างงจึงอธิบายต่อ “เป็นความเชื่อเล่นๆของพวกเราน่ะเหมือนทำบุญร่วมกันไงเกิดชาติหน้าก็จะได้เจอกันอีก”

ไคพยักหน้ายิ้มๆก่อนจะหยิบขนมปังขึ้นมามองเหมือนของแปลก ที่คิดอยากจะปฏิเสธว่าอิ่มข้าวมาจากบ้านแล้วนั้นหายไปจนหมดสิ้น

“ถ้าอย่างนั้นผมคงจะได้เจอไอซ์อีกแน่ๆ”

ชายหนุ่มมองขนมปังในมือยิ้มๆก่อนจะตัดสินใจส่งเข้าปากในคำเดียว

เมื่อทั้งสองจัดการกับขนมปังหวานและกาแฟรสเข้มเรียนร้อยแล้ว ไอซ์จึงเลือกซื้อขนมปังหวานหลายแบบไปเผื่อลูกหว้ากับเมเม่ด้วย

“เผื่อโยอิจิด้วยดีมั้ย” สาวผมม้าหันมาถาม

“อือ...ก็ดีครับ โยคุงรีบออกไปแต่เช้า คงยังไม่ได้ทานอะไรเหมือนกัน” ไคหยิบขนมปังสองสามอย่างที่คาดว่าเพื่อนน่าจะชอบส่งให้คนขาย ไม่ยอมให้หญิงสาวจ่ายเงินเองจนเธอต้องประท้วง

“ไค...ให้ไอซ์จ่ายเถอะ ของเพื่อนไอซ์ทั้งนั้น”

“โยคุงก็เพื่อนผมเหมือนกัน”

“แต่ไคเลี้ยงไอซ์แล้วนี่ เพื่อนไอซ์ ขอไอซ์จ่ายเหอะนะ” เมื่อเห็นชายหนุ่มทำเฉยจึงส่งเงินก่อนยิ้มให้ ยิ้มแบบที่ไม่รู้เลยว่ายิ้มแบบนี้แหละที่ละลายใจคนตรงหน้ามาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง

“งั้นส่วนนี้ของเพื่อนไอซ์นะ ไคก็ออกของโยอิจิไป ไม่ต้องเลี้ยงสาวอื่นหรอก เลี้ยงไอซ์คนเดียวก็พอแล้วล่ะ”

แม้ไคจะรู้ว่าคนตัวเล็กตรงหน้าแกล้งแซวเล่น แต่เขาก็อดรู้สึกไปกับคำพูดของเธอไม่ได้ หญิงสาวจะรู้บ้างหรือเปล่าว่าอย่าว่าแต่จะไปเลี้ยงสาวอื่นเลย ต่อให้สายตาของเขา เขาก็จะไม่มีไว้มองใครอีกเลยนอกจากเธอคนนี้คนเดียวถ้าเธอจะยิ้มอย่างเมื่อครู่ให้เขาตลอดไป










 

Create Date : 30 กันยายน 2551
4 comments
Last Update : 30 กันยายน 2551 20:30:11 น.
Counter : 566 Pageviews.

 

ขอเชียร์ไคจนออกนอกหน้า

 

โดย: 2in1 IP: 124.121.157.128 2 ตุลาคม 2551 13:06:36 น.  

 

ขอแบบไคคุงหนึ่งที่ค่ะ 5555+
น่ารักดีจริง ๆ ค่ะ อ่านแล้วอมยิ้มแก้มตุ่ย

 

โดย: อมิตตตา (Siraprapa_p ) 5 ตุลาคม 2551 12:32:25 น.  

 

ขอแปะไว้ก่อนนะค้า เคลียร์งานหัวฟู

แล้วจะมาเก็บอ่านย้อนหลังเลย

 

โดย: err_or 6 ตุลาคม 2551 16:36:27 น.  

 

มาตามอ่านย้อนหลังค่ะ
รีบมาลงต่อเร็วๆเน้อ ลุ้นๆให้ไอซ์ จำได้ว่าไค คือคนที่สวมแมสค็อต น่ารักจัง

 

โดย: ogod IP: 61.7.171.118 7 ตุลาคม 2551 15:35:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


totolly17
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add totolly17's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.