Group Blog
 
 
กันยายน 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
19 กันยายน 2551
 
All Blogs
 
-- กระต่ายขาวในเงาจันทร์ -- บทที่ 3

“อรุณสวัสดิ์ครับโอโต้ซัง” โยอิจิโค้งคำนับคุณลุงท่าทางใจดีคนหนึ่งที่กำลังจัดเรียงถ้วยชาอยู่หลังเคาท์เตอร์ไม้

“อรุณสวัสดิ์โยคุง ทำไมมาเช้าได้ล่ะปกติเวรไคไม่ใช่เหรอ” ชายชราทักยิ้มๆ

“วันนี้ไคมีสอบตอนเช้าครับ” เขาตอบพร้อมหยิบผ้ากันเปื้อนที่แขวนไว้ตรงราวไม้ออกมาสวม

“งั้นวันนี้คงมีแค่พ่อกับโยคุงสองคนสินะ แม่เค้าไปธุระที่ชิบะน่ะ”

“ครับ ไคบอกผมแล้วครับ แต่ช่วงบ่ายไคสอบเสร็จแล้วเห็นบอกจะเข้ามาช่วยน่ะครับ”

“เหรอ ถ้าได้อย่างนั้นก็ดี ช่วงนี้พ่อปวดหลังเหลือเกิน ยกอะไรไม่ค่อยได้เหมือนเดิม” ชายชราบอกก่อนจะยกถาดที่มีถ้วยชาเรียงอยู่ออกมาวางตรงโต๊ะสำหรับชงชา

“ผมยกให้นะครับโอโต้ซัง” ชายหนุ่มกุลีกุจอเข้าช่วย

“ไม่เป็นไรโยคุง พ่อยังไหว” ชายชราบอกใบหน้าเปื้อนยิ้ม หวนนึกไปถึงวันที่ทั้งสองหนุ่ม โยอิจิกับโคสึเกะเข้ามาสมัครทำงานในร้านใหม่ๆ ทั้งสองไม่มีอะไรที่เหมือนกันเลย คนหนึ่งเรียบง่ายในขณะที่อีกคนหนึ่งปรู๊ดปร๊าด โยคุงเป็นเด็กเจ้าชู้ ชอบเที่ยวกับสาวๆไปทั่วแต่ไคคุงนั้น ชายชราไม่เคยเห็นเดินกับผู้หญิงสองต่อสองสักที

“เข้าไปช่วยพ่อยกลังใบชาหลังร้านออกมาเรียงก็แล้วกัน แม่เขารีบไป ยังไม่ทันได้เอาออกมา”

“ครับ โอโต้ซัง” โยอิจิรับคำก่อนจะก้าวผ่านบังตาเข้าไปหลังร้าน

ในขณะที่ชายชราก้มๆเงยๆต้มน้ำและจัดเรียงกาน้ำชาอยู่นั้น สายตาก็เหลือบไปเห็นเด็กสาวสามคนมายืนเมียงมองอยู่หน้าร้าน ชายชราพอมองออกว่าเป็นคนต่างถิ่นจึงบอกอย่างใจดี

“ร้านเปิดสิบโมงนะหนู ยังเตรียมของไม่เสร็จ เดี๋ยวค่อยมาใหม่นะ”

“เอ่อ...อรุณสวัสดิ์ค่ะ” ลูกหว้านำทัพเพื่อนสาวเข้าไปหาคุณลุงท่าทางใจดี “คือ...หนูกับเพื่อนมาหาคนๆนึงค่ะ” เมื่อเห็นคุณลุงมีสีหน้าแปลกใจจึงรีบขยายความ “คือ..เมื่อวาน เพื่อนของหนูคนนี้น่ะค่ะ” ลูกหว้าดันไอซ์มายืนข้างหน้าก่อนพูดต่อ “เค้าหลงกับพวกหนู แล้วบังเอิญว่าคนที่ร้านนี้ใจดีมากเลยค่ะ ให้เพื่อนหนูนั่งรอในร้านแล้วพอเห็นพวกหนู เค้าก็รีบไปตามให้เลยค่ะ พวกหนูเลยซื้อขนมมาขอบคุณเค้าน่ะค่ะ”

คุณลุงใจดีพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนถาม “แล้วเค้าชื่ออะไรล่ะหนู”

สามสาวมองหน้ากันก่อนที่ไอซ์จะตอบเสียงแผ่ว “พวกหนูก็ไม่ทราบหรอกค่ะ คือเมื่อวานเค้าใส่ชุดการ์ตูนตัวเขียวๆเต้นอยู่น่ะค่ะ หนูเลยไม่เห็นหน้าเค้าแล้วก็ไม่ได้ถามชื่อไว้ด้วย”

“เมื่อวานเหรอ เอ...ใครมาทำงานเมื่อวานนะ เดี๋ยวลุงดูตารางให้นะ” คุณลุงค้นลงไปในลิ้นชักใต้เคาท์เตอร์ สักพักก็หยิบกระดานแข็งๆขึ้นมาดู

“ไม่ใช่ทาเคชิเพราะทาเคชิลาหยุดสองอาทิตย์ ไคคุงเข้ากะเช้า เวรบ่ายเมื่อวานในตารางเขียนว่าเป็นโยอิจินะ”

“เหรอคะคุณลุง ถ้าอย่างนั้นไอซ์ฝากขนมไว้ให้คุณโยอิจิด้วยนะคะ
ฝากบอกว่าพวกเราสามคนขอบคุณมาก” สาวผมม้ายื่นขนมให้คุณลุงแต่ชายชราไม่ยอมรับไว้

“วันนี้โยคุงมาแต่เช้าแล้วล่ะ หนูขอบคุณเค้าเองเลยจะดีกว่านะ โยคุง โยคุง” ชายชราไม่รอฟังคำตอบก็ตะโกนเรียกชายหนุ่มผู้อยู่ในหัวข้อสนทนาออกมาทันที


ไอซ์ชะเง้อมองไปทางหลังร้าน หญิงสาวถึงกับกลั้นใจรอเลยทีเดียว บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมต้องมีความคาดหวังอะไรแบบนี้ด้วย แล้วความคาดหวังนั้นคืออะไรเธอก็ตอบตัวเองไม่ได้อีกนั่นแหละ หญิงสาวรู้เพียงแต่ว่าเธอตื่นเต้นเหลือเกินที่จะได้พบเขา สุภาพบุรุษตัวเขียวที่ผ่านมาช่วยเธอไว้เหมือนกับเจ้าชายขี่ม้าขาว เพียงแต่เจ้าชายของเธอดันกลายเป็นเจ้าชายตัวเขียวเท่านั้นแหละ

ไม่นานนักชายหนุ่มผิวสีแทน ใบหน้าคม จมูกโด่งเป็นสันก็เดินผ่านบังตาออกมาจากหลังร้าน

โอโต้ซังผายมือมาทางสามสาวที่ยืนอยู่ก่อนบอก “มีคนมาหาแน่ะ”

เมื่อโยอิจิหันมาทางที่ทั้งสามยืนอยู่ ไอซ์เห็นสายตาแปลกใจระคนสงสัยของคนตรงหน้า แต่ชายหนุ่มก็รักษามารยาทด้วยการโค้งคำนับไปตามธรรมเนียม

นึกอย่างไรชายหนุ่มก็นึกไม่ออกว่าเคยเจอกับสาวสามคนนี้ที่ไหน น่ารักกันทุกคนขนาดนี้ โดยเฉพาะคนผมม้านั่น เขาไม่น่าจะลืมง่ายๆแน่นอน

เงียบกันอยู่ชั่วครู่ก่อนที่เมเม่จะเอ่ยทำลายความเงียบขึ้นมาอย่างเพ้อๆ

“คุณตัวเขียวของไอซ์หล่อจังเลยอ่ะ” สาวหมวยมองคนตรงหน้าตาเยิ้มก่อนบอกเพื่อนเป็นภาษาไทย

“ไม่ใช่หล่อธรรมดานะไอซ์” ลูกหว้ากลืนน้ำลายเอื๊อก “หล่อขาดบาดใจจริงๆเลย”

“ไหนลูกหว้าบอกไม่ชอบผมทองๆไง” เมเม่อดแขวะเพื่อนไม่ได้

“อันนี้เค้าเรียกน้ำตาลทองย่ะ สวยกำลังดี”

ก่อนที่เพื่อนๆจะพาเข้ารกเข้าพงไปมากกว่านี้ เมื่อเห็นชายหนุ่มทำหน้างงๆหญิงสาวคนเดียวที่ยังพอมีสติอยู่จึงรีบแย่งเพื่อนพูดขึ้น

“ไอซ์จะมาขอบคุณคุณน่ะค่ะที่เมื่อวานช่วยไอซ์ไว้ตอนที่หลงกันกับเพื่อน”

เท่านั้นเอง สายตาคมบาดลึกของเขาก็มีแววระลึกได้

“อ๋อ..คุณนั่นเอง” โยอิจิยิ้มกว้าง มองสาวผมม้าดวงตากลมโตอย่างตาไม่กระพริบ

ทำไม่ไคมันไม่บอกวะว่าสาวหลงทางน่ะ สวยซะขนาดนี้ ดูสิขนตายาวเป็นแผงเชียว โชคดีจริงๆที่เขามาเข้ากะเช้าแทนไค สงสัยคงจะเป็นพรหมลิขิตแน่นอน

เหมือนคนที่ถูกเขาจ้องมองจะรู้สึกตัว หญิงสาวขยับตัวอย่างขัดเขินแกมอึดอัด ชายหนุ่มยิ้มกรุ้มกริ่ม ตั้งใจพูดกับสาวผมม้าตรงหน้าโดยตรง

“ไม่ต้องขอบคุณหรอกครับ ผมชอบช่วยเหลือคนอื่นอยู่แล้ว เป็นนิสัยน่ะครับ” เขากล่าวเป็นภาษาญี่ปุ่นรัวเร็วก่อนจะส่งยิ้มแบบที่ละลายใจสาวมานักต่อนักมาให้ทำเอาลูกหว้ากับเมเม่มองตาเยิ้ม

“หล่อแล้วยังนิสัยดีอีกนะเม่” สาวผมสั้นหันมาหาแนวร่วม

“นั่นสิลูกหว้า ไอซ์โชคดีจัง”

ไอซ์หันมามองเพื่อนอย่างเอาเรื่อง ก่อนจะหันมาพูดกับเขาต่อ “ยังไงก็ต้องขอบคุณล่ะค่ะ ไอซ์กับเพื่อนซื้อขนมมาฝากค่ะ ของเล็กน้อยกรุณารับไว้ด้วยนะคะ”

หญิงสาวส่งขนมให้ชายหนุ่ม โยอิจิรับขนมจากมือนุ่ม อ้อยอิ่งเล็กน้อยก่อนจะปล่อยมือเมื่อสาวผมม้าพยายามจะชักมือออกก่อนจะมองเขาด้วยแววตาดุ
ดุเอาเรื่องแฮะ ชายหนุ่มคิดในใจแต่ยังรักษาสีหน้ายิ้มแย้มแสดงความจริงใจได้อย่างปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

หญิงสาวรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก เมื่อครู่นี้เขาจงใจจับมือเธอชัดๆ เธอค่อนข้างมั่นใจว่าเธอไม่ได้คิดไปเองแน่นอน เธอไม่น่ามาขอบคุณเขาด้วยตัวเองเลย พอเจอเขาตัวจริงแล้วมันไม่ใช่แบบที่เธอคิดไว้สักนิดเดียว

“ถ้าอย่างนั้นไอซ์ขอตัวนะคะ ขอบคุณอีกครั้งแล้วก็ลาก่อนค่ะ” ไอซ์โค้งคำนับก่อนจะลากเพื่อนสาวที่ยังยืนทำตาชวนฝันออกมาจากร้าน เธอได้ยินเสียงเรียกของเขาดังไล่หลังมาแต่ก็แกล้งทำเป็นไม่ได้ยินจนลูกหว้ากับเมเม่ต้องดึงเธอเอาไว้

“เฮ้ย..ไอซ์ คุณโยอิจิเขาเรียกไอซ์แน่ะ” หญิงสาวจึงจำต้องหยุดยืนเผชิญหน้ากับชายหนุ่มอีกครั้ง

“เอ่อ...ผมแค่อยากถามพวกคุณว่าจะอยู่ญี่ปุ่นอีกนานมั้ยครับ” เขาถามขึ้น สายตามองตรงมาที่สาวผมม้าอย่างจงใจ

“อีกห้าวันค่ะ” ลูกหว้ารีบตอบทำเอาหญิงสาวอยากจะตีแขนเพื่อนแรงๆสักที

“แล้วต้องการไกด์นำเที่ยวหรือเปล่าล่ะครับ”

ลูกหว้ากับเมเม่หันมามองหน้ากันก่อนจะตอบพร้อมเพรียง “ต้องการค่ะ”

ไอซ์อยากจะบอกเพื่อนเหลือเกินว่าเธออึดอัดกับชายหนุ่มแปลกหน้ามากแค่ไหน เพิ่งจะรู้จักกันไม่นานก็จะให้พาเที่ยวเสียแล้ว หญิงสาวอดแปลกใจตัวเองไม่ได้ ก็เมื่อวานเธอยังรู้สึกว่าเขาน่าคบ แล้วก็ไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับเธอ แล้วก็ตัวเธอเองอีกนั่นแหละที่เป็นคนรับปากจะออกไปทานข้าวกับเขาด้วยซ้ำ แต่วันนี้ความรู้สึกของเธอกลับเปลี่ยนเสียแล้ว หรืออาจจะเป็นท่าทีของเขาก็ได้ที่ดูเปลี่ยนไป ชายหนุ่มที่เธอพบวันนี้ต่างกันกับคุณการ์ตูนตัวเขียวเมื่อวานที่เธอพบอย่างสิ้นเชิง แต่เมื่อเพื่อนทั้งสองของเธอตกลงใจอย่างนั้น ไอซ์จึงปิดปากเงียบ ไม่พูดอะไรออกมาอีก

“ถ้าอย่างนั้นก็สองเสียง ผมถือว่าพวกคุณต้องการผมก็แล้วกันนะครับ เอ่อ..คุณ..”

“ชั้นชื่อลูกหว้าค่ะ แล้วคนที่ยืนตรงกลางหน้าจีนๆก็เมเม่ ส่วนคนข้างหลังคุณก็คงรู้จักแล้ว ไอซ์ค่ะ” โยอิจิยิ้มรับก่อนบอก “ผมชื่อโยอิจินะครับ”

“โยอิจิที่แปลว่าพระอาทิตย์ใช่มั้ยคะ” เมเม่อดถามไม่ได้

“ใช่ครับ” โยอิจิพยักหน้ารับก่อนเอ่ยปากถาม “แล้ววันนี้พวกคุณจะไปเที่ยวที่ไหนกันก่อนครับ”

“จะไปอาซากุสะวัดเซนโซจิตอนช่วงเช้าค่ะ ส่วนตอนบ่ายยังไม่ได้มีโปรแกรมอะไรพิเศษ อาจจะไปถ่ายรูปกับหอคอยโตเกียวค่ะแล้วก็นั่งรถชมเมือง” ลูกหว้าบอกเขาถึงโปรแกรมของพวกเธอ

“พวกคุณไปเที่ยววัดกันก่อนก็ดีเหมือนกันครับ เป็นสถานที่แรกที่ควรไปมากๆ ไปดูโคมไฟแล้วก็ประตูวัดนะครับ อ้อ..อย่าลืมเสี่ยงเซียมซีด้วยนะครับ หนึ่งร้อยเยนเท่านั้นรับรองแม่นมากๆ” ชายหนุ่มโฆษณาสรรพคุณเหมือนขายของ

“แล้วเดี๋ยวตอนบ่ายผมพาไปเที่ยวเอง แหม..เสียดายตอนเช้าผมไม่ว่างต้องทำงาน จริงๆก็ไม่ใช่เวรผมหรอกครับ ผมมาเข้ากะแทนเพื่อนอีกคนน่ะครับ”

“คุณใจดีจัง” เมเม่ออกปากชม

“ก็ธรรมดาครับ ช่วยกันได้ก็ช่วยๆกันไป” เขาบอกเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย ดูจากสาวทั้งสามคนแล้ว คนที่หน้าหมวยๆนี่ดูท่าจะชื่นชมเขามากกว่าใครเพื่อน แต่คนที่ชื่อไอซ์นี่สิ ดูเธอไม่ค่อยจะประทับใจในตัวเขาซักเท่าไหร่เลย ทั้งๆที่เธอเป็นคนที่เขาสนใจที่สุดแท้ๆ

“ให้พวกเรามาเจอคุณที่ไหนคะ มาที่ร้านนี้ดีไหม” สาวผมสั้นถาม

“อย่ามาที่นี่เลยครับ” ชายหนุ่มรีบปฏิเสธ

ยังไม่ได้เตี๊ยมกับไอ้ไคเลย

“ย้อนไปย้อนมาเปล่าๆ“ เขาบอกสาวๆเสียงทุ้มนุ่ม

“แล้วเอาที่ไหนดีล่ะคะ พวกเราก็รู้จักแค่แถวนี้กับตรงสวนสาธารณะข้างโรงแรมเท่านั้น” ลูกหว้าบอก

“ถ้าอย่างนั้นประมาณบ่ายโมงเจอกันที่สวนสาธารณะอูเอโน่ก็ได้ครับ พวกคุณรู้จักอนุสาวรีย์ท่านไซโต้ ทากาโมริใช่มั้ยครับ” เมื่อเห็นสาวผมสั้นส่ายหน้าจึงพูดต่อ “ที่เป็นรูปปั้นสีเขียวๆรูปผู้ชายสูงอายุใส่ชุดยูกาตะแล้วจูงสุนัขน่ะครับ”

“อ๋อ...” สามสาวร้องออกมาพร้อมกันพร้อมพยักหน้ากันอย่างพร้อมเพรียง “ถ้ารูปปั้นอันนั้นก็รู้จักค่ะ เดินผ่านกันมาหลายรอบแล้ว” ลูกหว้าบอกอย่างไม่ลังเล

“งั้นเดี๋ยวผมพาไปเที่ยวสวนสาธารณะตรงนี้ก่อน มีทั้งวัด สวนสัตว์แล้วก็พิพิธภัณฑ์ครับ ส่วนหอคอยโตเกียวไปตอนตอนกลางคืนจะสวยกว่า ไปชมไฟด้วยไงครับ” ชายหนุ่มกล่าวเป็นภาษาญี่ปุ่นรวดเดียวจบซึ่งคงมีแต่ลูกหว้าคนเดียวที่ฟังเข้าใจเกือบทั้งหมด สาวผมสั้นจึงต้องหันมาขยายความให้เพื่อนอีกสองคนฟัง

“เค้าเปิดให้ขึ้นตอนกลางคืนด้วยเหรอคะ” เมเม่อดสงสัยไม่ได้

“อ๋อ..เปล่าหรอกครับ แต่ปกติที่มาเที่ยวกันก็แค่ถ่ายรูปข้างล่างกันน่ะครับ ไม่ค่อยมีคนขึ้นซักเท่าไหร่ คล้ายๆที่ปารีสมั้งครับ ”

“เหรอคะ..ถ้างั้นเอาแบบที่คุณโยอิจิบอกก็ได้ค่ะ” ลูกหว้าพยักหน้ารับ

“งั้นเดี๋ยวเจอกันนะครับ” โยอิจิหันมาสบตาไอซ์ตรงๆแล้วจึงหันมาหาเพื่อนทั้งสอง “ผมขอไปทำงานก่อน” เขาโค้งคำนับก่อนจะเดินกลับไปทางร้านขายชาเขียวอีกครั้ง

ตลอดการสนทนานั้นไอซ์อดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมวันนี้โยอิจิถึงได้พูดรัวเร็วนัก ทั้งๆที่เมื่อวานเหมือนเขาจะพยายามพูดช้าๆเพื่อที่จะได้สื่อสารกับเธอได้ง่ายขึ้น แต่หญิงสาวก็ปัดความรู้สึกแปลกๆนั้นออกไปจากใจเพราะผู้ชายรูปหล่อคนนั้นไม่ได้อยู่ในความสนใจของเธออีกต่อไปแล้ว



“ออกทางออกไหนล่ะลูกหว้า มีตั้งหลายทางแน่ะ” ไอซ์หันไปถามเพื่อนที่เป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวของการมาเที่ยวในครั้งนี้หลังจากที่ทั้งสามผ่านช่องคืนตั๋วของรถใต้ดินสายกินซ่าออกมาแล้ว

“รู้สึกว่าจะเป็นทางนี้นะ จะใกล้กับวัดที่สุดแล้วล่ะมั้ง แต่ถ้าไม่ใช่ก็ไม่ต้องสรรเสริญลูกหว้านะ” สาวผมสั้นบอกก่อนจะเดินนำขึ้นบันไดไปพลางดูแผนที่ไปด้วย

“นี่แหละ ใช่แล้ว ผ่านสถานีตำรวจตรงนี้ไปก็ถึงแล้ว” เธอบอกอย่างมั่นใจก่อนจะเดินนำเพื่อนไป

“ดูนั่นสิ” เมเม่ชี้มือไปทางขอบถนนที่มีรถลากแบบโบราณสีดำจอดเรียงรายกันอยู่อย่างเป็นระเบียบรอให้คนมาใช้บริการนั่งชมรอบๆบริเวณวัด

สามสาวไม่รอช้า ตรงเข้าไปถามราคาทันที ต่อรองกันอยู่ชั่วครู่ก็ต้องล่าถอยเพราะราคาแพงเหลือใจจึงทำได้แค่ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกแทน

เมื่อทั้งสามเดินมาถึงประตูทางเข้าก็ต้องตกใจกับโคมไฟสีแดงอันใหญ่ยักษ์ด้านหน้าวัด

“นี่แหละ คามินาริมอนเกทหรือประตูสายฟ้าล่ะ” ลูกหว้าบอกเพื่อนพร้อมลากเมเม่ไปยืนยิ้มอยู่ข้างหน้าโคมไฟรอให้ไอซ์ช่างภาพประจำกลุ่มถ่ายภาพให้

“ยิ้มนะ” สาวผมม้าเล็งกล้องไปที่เพื่อนก่อนจะกดชัทเตอร์ไปหลายที ด้านซ้ายและขวาของประตูนั้นมีรูปปั้นของเทพเจ้าสายฟ้าและเทพเจ้าสายลมตั้งตระหง่านอยู่ ซึ่งทั้งสองสาวก็ผลัดกันยืนโพสต์ท่าถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน

“เม่ถ่ายให้ไอซ์บ้างเอามั้ย” สาวหมวยยื่นข้อเสนอ “แต่คงไม่สวยเท่าไอซ์ถ่ายหรอกนะ” เมเม่รีบออกตัว

“ไม่เป็นไรหรอก” หญิงสาวปฏิเสธยิ้มๆ

เธอชอบเก็บความทรงจำไว้ในภาพถ่าย ชอบถ่ายภาพแต่ทำไมไม่รู้ เธอกลับไม่ชอบถูกถ่ายภาพเสียเอง ต่างกับเพื่อนสาวสองคนของเธอ สองสาวนั้นชอบถ่ายรูปกันเป็นว่าเล่น แถมมีท่าโพสต์แปลกๆตามแต่จะคิดได้ตอนนั้นมาให้เธอได้หัวเราะอยู่เสมอ และเหมือนเพื่อนทั้งสองจะรู้นิสัยของไอซ์ดีจึงไม่มีใครเซ้าซี้อะไรอีก

“จะเอาเอกสารการท่องเที่ยวมั้ยลูกหว้า” ไอซ์ถามขึ้นเมื่อเหลือบไปเห็นป้าย Tourist Information ที่ตั้งอยู่ตรงหัวมุมถนนใกล้ๆกับประตูสายฟ้า

“ไม่เอาหรอก” ลูกหว้าส่ายหน้า “ตรงสถานีรถไฟแถวโรงแรมที่เราพักกันก็มี อาจไม่ใหญ่เท่าที่นี่ แต่ลูกหว้าดูแล้วนะ มีเอกสารเยอะพอสมควรเลยไม่ต้องแบกไปให้หนักด้วย แล้วอีกอย่างเดี๋ยวเราก็มีไกด์ชาวญี่ปุ่นแล้วนี่เนอะ”

“อย่าไปหวังพึ่งเค้าเลยน่า” สาวผมม้าบอกเบาๆด้วยไม่อยากทำลายบรรยากาศของเพื่อนแต่ดูเหมือนเพื่อนอีกสองคนจะไม่ได้รับรู้เท่าใดนัก

เมื่อถ่ายภาพด้านหน้ากันจนเป็นที่น่าพอใจแล้ว ทั้งสามสาวจึงเดินไปตามถนนเล็กๆที่ทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึกมากมาย มีทั้งพวงกุญแจ โคมไฟ พัดรวมไปถึงของเล่นเด็ก อีกทั้งขนมบรรจุกล่องเรียบร้อยแล้วและทั้งที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆร้อนๆใส่ถาดไว้เรียกลูกค้าเข้ามาชิมกัน
ใช้เวลากับการเดินชมเพียงไม่นานเพราะทั้งสามตกลงกันว่าจะเข้าไปเที่ยวภายในวัดกันก่อนจึงกลับมาซื้อของที่ระลึก

ไอซ์เหลือบไปเห็นเจดีย์ห้าชั้นอยู่ทางซ้ายมือ เธอจำได้ว่าเคยผ่านตามาในหนังสือท่องเที่ยวของลูกหว้าที่ยืมอานบนเครื่องบินว่าเป็นเจดีย์ที่มีความสูงยอดถึงห้าสิบสามเมตร จึงเรียกเพื่อนทั้งสองมาถ่ายรูปกันเป็นที่ระลึก

“เมเม่ ไอซ์” ลูกหว้าร้องเรียกเมื่อเดินผ่านประตูใหญ่ตรงกลางเข้าไปพกกับกระถางธูปใหญ่ตั้งเด่นอยู่กลางศาลาวัด

“เขาทำอะไรกันน่ะลูกหว้า” เมเม่ถามเมื่อเห็นนักท่องเที่ยวต่างก็จุดธูปแล้วใช้มือกวักควันธูปเข้าหาตัว

“เป็นความเชื่อน่ะว่าควันธูปจะนำโชคดีมาให้ ลองดูบ้างสิ” ลูกหว้าบอกก่อนจะลองใช้มือกวักควันธูปแล้วไล้ไปตามใบหน้าและศีรษะ สองสาวที่เหลือจึงทำตามอย่างว่าง่าย

“เผื่อไอซ์จะโชคดีกับเค้าบ้าง” เธอพูดยิ้มๆ

“แหม...ไอซ์ก็โชคดีอยู่แล้วนี่นา ดูสิโยอิจิมาอาสาพาเที่ยวเลยนะ หล่อด้วย แล้วเมเม่ก็มั่นใจนะว่าเค้าต้องสนใจไอซ์ชัวร์ๆไม่งั้นไม่มาเสนอตัวขนาดนี้หรอก”

“ไม่เห็นจะโชคดีตรงไหนเลย” หญิงสาวบอกเรียบๆก่อนจะเดินไปยังบ่อน้ำพุที่อยู่ด้านข้างของกระถางธูป “แล้วนี่อะไรน่ะลูกหว้า มีกระบวยด้วย”

“อ๋อ...เค้าให้เอาน้ำในนี้ล้างมือ ล้างหน้าแล้วก็บ้วนปากน่ะ ประมาณว่าจะช่วยชำระล้างให้จิตใจเราะสะอาดบริสุทธิ์ไง” ลูกหว้าบอกก่อนจะใช้กระบวยที่ทางวัดเตรียมไว้ให้ตักน้ำล้างมือ แต่ทั้งสามสาวไม่มีใครใจกล้าขนาดที่จะตักน้ำนั้นมาบ้วนปากหรือดื่มกินเลยสักคน เลยได้แต่ล้างมือแล้วก็เอาน้ำเย็นๆแตะไปแถวๆบริเวณใบหน้าเท่านั้น

“เข้าไปดูข้างในวัดกันดีกว่า” ลูกหว้าชวนเมื่อเดินมาถึงศาลาหลังใหญ่ของวัด มีบันไดทอดขึ้นไปเพื่อนมัสการเจ้าแม่กวนอิมเบื้องบน แต่เพราะทั้งสามไม่มีใครรู้วิธีในการนมัสการเจ้าแม่กวนอิมแบบญี่ปุ่นเลยจึงได้แต่เพียงนั่งลงกราบเฉยๆเท่านั้น

ทางขวามือของอุโบสถ ทางวัดทำเป็นตะแกรงขนาดใหญ่ครอบปากบ่อเอาไว้ มีนักท่องเที่ยวมากมายยืนพนมมือพร้อมกับโยนเหรียญลงไปในบ่อนั้น ทั้งสามจึงไม่รีรอ เปิดกระเป๋าสตางค์ควักเหรียญออกมาโยนกันบ้าง

“เค้าโยนเหรียญกันทำไมน่ะลูกหว้า” ไอซ์อดสงสัยไม่ได้

“อันนี้ไม่รู้จริงๆ เดี๋ยวกลับไปจะลองไปถามคนที่เคยมาดูหรือไม่ก็ search internet ดูอีกที แต่ลูกหว้าว่านะ อาจจะเป็นวิธีหาเงินบำรุงวัดอีกทางนึงก็ได้นะ”

“นี่ไงๆ เซียมซี” เมเม่ชี้ไปที่กระบอกไม้ทรงทึบ มีรูเล็กๆเพียงรูเดียวข้างบนซึ่งมีขนาดเท่ากับไม้เซียมซีที่จะออกมาได้เพียงหนึ่งแท่งเท่านั้นซึ่งวางอยู่ด้านหน้าของตู้ไม้ขนาดใหญ่ มีลิ้นชักนับร้อยใส่กระดาษทำนายไว้ภายใน

“ลองดูดีมั้ยพวกเรา ว่าจะแม่นเหมือนของบ้านเรารึเปล่า” สาวผมสั้นชวนแล้วไม่รอคำตอบ ลูกหว้าตรงเข้าไปใส่เงินทำบุญหนึ่งร้อยเยนตามที่ระบุไว้บนกล่องรับบริจาค หยิบกระบอกไม้ขึ้นมาอธิษฐานก่อนจะเขย่าเบาๆเพื่อให้แท่งไม้เซียมซีไหลออกมาจากกระบอกไม้นั้น

“ได้เบอร์อะไรน่ะลูกหว้า” เมเม่หยิบไม้เซียมซีไปจากมือเพื่อน

“เฮ้ย...ยังไม่ได้ดูเลย เอามานี่” ลูกหว้ารีบแย่งคืนมาก่อนจะอ่านตัวเลขภาษาจีนบนไม้นั้น

“เบอร์สามสิบสอง” สาวผมสั้นไล่นิ้วไปตามลิ้นชักไม้ก่อนจะหยิบกระดาษออกมาจากลิ้นชักหมายเลขเดียวกันกับแท่งเซียมซี เอาไปแอบอ่านอยู่คนเดียวตรงมุมบันได

“เมเม่ลองมั่งนะ” สาวหมวยหย่อนเหรียญหนึ่งร้อยเยนลงไปในกล่องแล้วเขย่ากระบอกเซียมซี

“เป็นไงบ้างเม่” ไอซ์ถามเมื่อเห็นเพื่อนหยิบกระดาษจากลิ้นชักเบอร์สามออกมาอ่าน

“ว้า...ไม่ค่อยดีเลยแฮะ รู้งี้ไม่เสี่ยงเซียมซีก็ดีหรอก” เมเม่บ่นกับไอซ์และลูกหว้าซึ่งฝ่ายหลังเพิ่งจะเดินมาสมทบเมื่ออ่านคำทำนายของตัวเองเสร็จ

“ถ้าไม่ดีนะเม่ เดี๋ยวเอาไปผูกไว้ตรงรั้วสีแดงๆนั่น เห็นมั้ย” สาวผมสั้นชี้มือไปทางรั้วไม้เตี้ยๆสีแดงที่ขึงด้วยลวดสามถึงสี่แถว ตามลวดแต่ละเส้นนั้นมีแผ่นกระดาษสีขาวผูกอยู่เรียงราย

“เค้าบอกว่าเราจะทิ้งโชคร้าย เคราะห์ร้ายไว้ที่นี่ ไม่ได้เอากลับไปด้วยเหมือนเป็นการสะเดาะเคราะห์กลายๆนั่นแหละ แล้วไอซ์ล่ะเสี่ยงเซียมซีหรือยัง” ลูกหว้าถามเมื่อไม่เห็นแผ่นกระดาษทำนายในมือเพื่อน

ไอซ์ส่ายหน้าน้อยๆก่อนบอก “ไม่เอาดีกว่า กลัวไม่ดีแบบของเม่ เดี๋ยวใจเสียน่ะ”

“โธ่เอ๊ย...จะกลัวอะไร ถ้าไม่ดีก็เอาไปผูกพร้อมกับเม่ก็ได้ ไปเร็ว มาทั้งทีแล้วเอาซะหน่อยน่า” เมเม่คะยั้นคะยอก่อนจะลากเพื่อนไปทางตู้เซียมซี

หญิงสาวจึงต้องตามใจเพื่อน หลังจากบริจาคเงินไปแล้วเธอจึงหยิบกระบอกไม้ขึ้นมาอธิษฐาน เขย่าอยู่นานกว่าแท่งไม้จะหล่นออกมา

“เบอร์ยี่สิบสอง” ไอซ์บอกเพื่อนพร้อมหยิบกระดาษออกมา

“เป็นไงมั่งอ่ะ” ลูกหว้าถามไอซ์จึงอ่านคำทำนายของเธอให้เพื่อนฟังเบาๆ



No.22
When spring comes trees and grasses ,flowers full bloom, the scene change better like this.
So do many fortunes come to you quickly, bringing you the greatest happiness, like a bamboo getting grow and more bright after the rainfall.
• The lost article will be found.
• The person you wait for will come soon.
• Your request will be granted later.



“โอ้โห...ของไอซ์ดีนะเนี่ย” เมเม่อุทานออกมา “ประมาณว่าฟ้าหลังฝนก็จะพบแต่ความสุขเหมือนเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิที่มีแต่สิ่งสวยงามใช่มั้ย”

“ใช่ๆๆ” ลูกหว้าพยักหน้ารับ “ของหายก็ได้คืน ใครคนที่รอก็จะได้พบ สิ่งที่ขอก็จะสมหวังด้วย ดีสุดๆเลยล่ะ”

“ไอซ์อธิษฐานเรื่องอะไรล่ะ เรื่องความรักหรือเปล่า สงสัยไอซ์จะสมหวังเรื่องความรักแน่ๆเลย กับโยอิจิใช่ม้า” เมเม่ล้อทำเอาเพื่อนสาวหน้าแดงเพราะเธอปฏิเสธไม่ได้ว่าเธออธิษฐานขอให้ได้เจอกับคนที่ใช่ที่รอมานานเสียที

โยอิจิเหรอ...หญิงสาวนึกในใจ ตอนแรกเธอก็แอบคิดอยู่บ้างเหมือนกันว่าเขาเป็นคนที่น่ารักมากทีเดียว แต่พอมาวันนี้ เจอกัน เห็นหน้ากัน เธอกลับไม่รู้สึกอบอุ่นเหมือนที่คุยกับเขาเมื่อวานนี้เลยแม้แต่น้อย ความรู้สึกอยากรู้จักกลับลดน้อยลง

สงสัยเธออาจจะคิดมากแล้วก็ปิดกั้นตัวเองเกินไป ความจริงเธอควรจะเปิดโอกาสให้กับตัวเองบ้าง ไม่แน่ว่าความรักที่เธอเฝ้าตามหา จริงๆแล้วอาจจะล้อมรอบตัวเธออยู่แล้วก็เป็นได้



Create Date : 19 กันยายน 2551
Last Update : 19 กันยายน 2551 21:29:31 น. 2 comments
Counter : 419 Pageviews.

 
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ

แล้วก็ขอบคุณ คุณ2in1 คุณerr_or คุณogod
คุณgagayear คุณอมิตตดา ด้วยค่ะที่แวะทักทายกัน^__^


โดย: totolly17 (totolly17 ) วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:21:37:32 น.  

 
ยังตามอยู่นะคะ ขอบคุณค่ะ


โดย: ogod IP: 76.170.137.66 วันที่: 25 กันยายน 2551 เวลา:21:45:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

totolly17
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add totolly17's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.