Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
--กระต่ายขาวในเงาจันทร์--
เรื่องสั้น
กลอนพาไป
<<
ธันวาคม 2551
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
9 ธันวาคม 2551
--กระต่ายขาวในเงาจันทร์--บทที่11
All Blogs
-- กระต่ายขาวในเงาจันทร์ -- บทที่ 13
-- กระต่ายขาวในเงาจันทร์ -- บทที่ 12
--กระต่ายขาวในเงาจันทร์--บทที่11
-- กระต่ายขาวในเงาจันทร์ -- บทที่ 10
-- กระต่ายขาวในเงาจันทร์ -- บทที่ 9
-- กระต่ายขาวในเงาจันทร์ -- บทที่ 8
-- กระต่ายขาวในเงาจันทร์ -- บทที่ 7
-- กระต่ายขาวในเงาจันทร์ -- บทที่ 6
-- กระต่ายขาวในเงาจันทร์ -- บทที่ 5
-- กระต่ายขาวในเงาจันทร์ -- บทที่ 4
-- กระต่ายขาวในเงาจันทร์ -- บทที่ 3
กระต่ายขาวในเงาจันทร์--บทที่ 2
-- กระต่ายขาวในเงาจันทร์ -- บทที่ 1
--กระต่ายขาวในเงาจันทร์--บทที่11
บทที่ 11
เราไม่ต้องเข้าไปข้างในได้มั้ย แต่ไปเที่ยวตรง Marine Park เลยได้มั้ยไค ซายูริเริ่มโยกโย้อีกครั้งเมื่อทุกคนเดินทางมาถึงส่วนที่เป็นทางเข้าของ Tokyo Sea Life Park
สามสาวจากเมืองไทยมองหน้ากันแล้วจึงหันไปทางชายหนุ่มคนเดียวในที่นี้เหมือนรอว่าเค้าจะตัดสินใจอย่างไร
ผมอยากจะเข้าไปเที่ยวในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำมากกว่า ไม่ได้มาตั้งนานแล้ว ซายูริเคยมาตั้งหลายครั้งแล้ว เข้าไปช่วยผมอธิบายหน่อยได้มั้ยล่ะ ชายหนุ่มพยายามใช้ไม้อ่อน ด้วยความที่เป็นเพื่อนกันมานานจึงไม่อยากหักหาญน้ำใจเท่าใดนัก และอีกอย่างเค้าก็ไม่อยากทิ้งเพื่อนไว้ข้างนอกเพียงลำพัง
ซายูริอยากนั่งชิงช้าสวรรค์อันนั้นนี่นา เธอชี้มือไปที่ลานกว้างที่มีชิงช้าสวรรค์อันใหญ่ไว้ดึงดูดนักท่องเที่ยว มีเด็กๆซึ่งมากับครอบครัวและคู่หนุ่มสาวต่อคิวรอกันอยู่เป็นจำนวนมาก
วันหลังเราค่อยมากันใหม่นะ วันนี้เข้าไปเที่ยวในนี้ก่อนก็แล้วกัน ไคพูดไปเพื่อตัดบท
แต่คำว่า เรา ที่ชายหนุ่มพูดออกไปแม้ว่าจะไม่ได้มีความหมายอะไรลึกซึ้ง แต่ในความรู้สึกของหญิงสาวอีกคนหนึ่งที่ยืนอยู่ใกล้ๆนั้น กลับไปกระทบใจเข้าอย่างจัง
ไคกับซายูริคงออกไปเที่ยวด้วยกันบ่อยๆสินะ
ไปในที่ที่เธอไม่เคยไป กับสังคมที่เธอไม่เคยรู้จัก
ไอซ์มองภาพของชายหนุ่มตัวสูงที่ตอนนี้มีสาวญี่ปุ่นร่างสูงโปร่งเหมาะสมกันเกาะเกี่ยวแขนไว้พร้อมใบหน้าที่เปลี่ยนจากความบึ้งตึงเมื่อครู่มาเป็นดวงหน้าที่ระบายยิ้มสดใสเมื่อไคสัญญาว่าจะพามาเที่ยวกันสองคนแล้วรู้สึกวาบลึกในใจ
นี่เธอคงจะชอบไคเข้าแล้วจริงๆใช่มั้ย ไม่ใช่แค่รู้สึกดีกับความอบอุ่นที่เขามีให้อย่างที่พยายามบอกตัวเอง ไม่อย่างนั้นเธอคงมองภาพตรงหน้าได้อย่างไม่รู้สึกอะไร
แต่ความรู้สึกเจ็บแปลบแบบนี้ทำให้เธอไม่สามารถปฏิเสธตัวเองได้อีกต่อไปว่าจริงๆแล้วเธอรู้สึกกับชายหนุ่มตัวสูงจมูกโด่งคนนี้เช่นไร
ลูกหว้าเห็นสีหน้าของเพื่อนก็พอจะมองออก แม้ไอซ์จะไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่ด้วยความที่คบกันมานานจึงทำให้สาวผมสั้นรับรู้ความรู้สึกของเพื่อนได้บ้าง
ไค...ถ่ายรูปกับลูกหว้าหน่อย สาวร่างเล็กรีบวิ่งตึ๊กๆๆตามตามชายหนุ่มไปทันทีที่เห็นว่าเขาถูก เพื่อน ลากไปตรงที่ซื้อบัตรผ่านประตู
ไม่พูดเปล่า ยังดึงมือหนุ่มญี่ปุ่นให้มายืนยิ้มอยู่ข้างๆรูปปลาจำลองที่มีขนาดสูงกว่าคน ข้างๆปลาตัวนั้นมีเส้นวัดความยาวของปลาติดตามแนวดิ่งคล้ายที่วัดส่วนสูงของคนให้นักท่องเที่ยวมายืนเทียบขนาดและถ่ายรูปเก็บไปเป็นที่ระลึก
ไคทำหน้าปั้นยาก ยืนยิ้มแห้งๆข้างปลายักษ์นั้น ส่วนอีกข้างหนึ่งเป็นสาวผมสั้นยิ้มหน้าบาน เขย่งตัวเต็มที่เพื่อไม่ให้ดูเตี้ยกว่าปลานั่นมากเกินไปนัก ปากก็เรียกเพื่อนเสียงดัง หน้าตาบ่งบอกว่าอยากจะถ่ายรูปกับปลายักษ์เสียเต็มประดา
ไอซ์ ไอซ์ มาถ่ายรูปให้ลูกหว้ากับไคหน่อย
คนที่ถูกเรียกจึงไม่มีทางเลือก จะทำเป็นไม่เห็นก็ไม่ได้ ต้องเดินมาเก็บภาพเพื่อนสาวกับปลายักษ์และชายหนุ่มกลับไปเป็นที่ระลึก
ไอซ์ถ่ายกับไคบ้างมั้ย ลูกหว้าถามขึ้น กุลีกุจอรับกล้องมาจากเพื่อน
ยังไม่ทันที่ไอซ์จะได้ตอบอะไร ซายูริก็ชิงเดินเข้ามายืนข้างๆปลาตัวนั้นแทนที่ไอซ์เสียก่อน
ซายูริก็อยากถ่ายรูปกับปลาเหมือนกัน ถ่ายให้หน่อยนะ บอกเหมือนสั่ง
ได้สิคุณซายูริ เดี๋ยวลูกหว้าถ่ายให้ ไคน่ะ...ออกมาสิ คุณซายูริเค้าอยากถ่ายรูปกับ ปลา น่ะ ไคไปยืนเกะกะเค้าทำไม คนพูดทำหน้าเฉย กวักมือเรียกหยอยๆให้ชายหนุ่มเดินออกมา
เอาเข้าไป...แสบไม่ใช่เล่นนะลูกหว้า
ไคส่ายหน้าขำๆในพฤติกรรมของหญิงสาวร่างเล็กที่เค้าเริ่มจะเอ็นดูเหมือนน้องสาว
ซายูริหุบยิ้ม ทำหน้าหงิกใส่ เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ลูกหว้ากดชัทเตอร์พอดี
ว้า...ไม่สวยเลยคุณซายูริ ทำไมไม่ยิ้มล่ะคะ อยากถ่ายรูปกับปลาก็ยิ้มกับมันหน่อยสิ รูปออกมาจะได้สวยๆน่ะ
ไม่ถ่งไม่ถ่ายมันแล้ว ซายูริเดินกระทืบเท้าออกมาสวนกับเมเม่ที่เพิ่งไปเอาโปสการ์ดรูปปลาต่างๆที่ทางพิพิธภัณฑ์จัดทำขึ้นเป็นที่ระลึกแจกฟรีให้แก่นักท่องเที่ยวตรงมุมประชาสัมพันธ์มา
คุณซายูริโมโหอะไรเหรอลูกหว้า สาวหมวยถามงงๆ
อ๋อ...เปล่า พอดีเค้าอยากถ่ายรูปกับปลาแล้วลูกหว้าถ่ายให้ไม่สวยน่ะ เลยหงุดหงิด
แค่นี้ไม่เห็นต้องโกรธเลยนี่นา อย่าเสียใจเลยนะลูกหว้า มาถ่ายให้เมเม่แทนละกัน รับรองไม่บ่นซักคำ พูดจบก็รีบเข้าไปยืนยิ้มกับเจ้าปลายักษ์ตัวปัญหาอย่างสบายอารมณ์
ลูกหว้าอดขำกับพฤติกรรมของเพื่อนไม่ได้ เธอส่ายศีรษะแต่ก็ยอมทำตามคำขอของเพื่อนแต่โดยดี
ความจริงแล้วพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งแรกของญี่ปุ่นตั้งอยู่ที่สวนสัตว์อูเอโน่นะครับ เปิดเมื่อปี 1882 แต่ปัจจุบันนี้ถ้านับกันจริงๆทั่วประเทศญี่ปุ่นก็มีเป็นร้อยแห่งแล้วล่ะครับ Tokyo Sea Life Park ที่เรากำลังจะเข้าไปชมนี้ก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของสวนสัตว์อูเอโน่ ประมาณว่าเป็นเครือกันอะไรแบบนั้น จากที่แต่ก่อนจะเน้นไปที่การแสดงปลาให้หลากหลายสายพันธุ์ และเน้นที่ปริมาณ ก็กลับกลายมาเป็นให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ของสัตว์น้ำทุกชนิดให้เหมือนจริงตามธรรมชาติด้วย เรียกว่าไม่ใช่แสดงแต่ปลาอย่างเดียวแล้วนะครับ แต่แสดงให้ดูถึงสภาพความเป็นอยู่ของสัตว์น้ำแต่ละชนิดด้วย ไคอธิบายถึงประวัติคร่าวๆเท่าที่พอรู้มาของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้ให้ทุกคนฟัง
ข้างในที่เรากำลังจะเข้าไปนะครับ จะเป็นโดมแก้วขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ระดับเดียวกับน้ำทะเลเลยล่ะครับ ข้างหลังก็จะเป็นวิวของอ่าวโตเกียว สวยมากๆเลย
ไคเก่งจัง รู้เรื่องเยอะดี ไปเป็นไกด์ได้สบายเลย เมเม่ออกปากชมทำเอาชายหนุ่มออกอาการเขิน
ยิ่งเมื่อเห็นรอยยิ้มบางๆของสาวผมม้าด้วยแล้วไม่เสียแรงเลยที่นั่งอ่านข้อมูลพวกนี้ในอินเตอร์เน็ทอยู่ค่อนคืน
แหม...ไม่ขนาดนั้นหรอกเมเม่ เดี๋ยวเราเดินเข้าไปกันเลยละกัน จากตรงนี้เดินเข้าไปก็ไม่ไกลแล้วละครับ
ชายหนุ่มชะงักนิดหนึ่งเมื่อสังเกตเห็นว่าหญิงสาวผมม้า...คนที่เขามีใจให้นั้นเป็นคนเดียวที่ไม่มีหมวกใส่
ลูกหว้าเตรียมตัวมาพร้อม ใส่หมวกแก๊บเก็บผมเผ้าซะเรียบร้อย
เมเม่นั้นแม้จะไม่ได้เตรียมหมวกมาแต่ก็แวะร้านขายของที่ระลึกซื้อหมวกรูปปลาทะเลมาใส่เข้ากับบรรยากาศการเข้าชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำได้เป็นอย่างดี
ส่วนซายูริยิ่งไม่ต้องเป็นห่วง เธอเป็นคนที่ระวังเรื่องความสวยความงามและกลัวแดดเป็นที่สุด ทำให้มีร่มอยู่ในกระเป๋าถืออยู่เสมอ
ไอซ์...ร้อนมั้ยชายหนุ่มออกปากถามอย่างเป็นห่วง
ไม่เป็นไรไค ไม่ต้องเป็นห่วง เธอส่ายหน้า
ไม่ห่วงได้ยังไง เดี๋ยวไอซ์ไม่สบาย ไม่พูดเปล่า เขาคว้าหมวกแก๊บของตัวเองสวมลงบนศีรษะของหญิงสาวทันที เมื่อเห็นเธอทำท่าจะปฏิเสธแถมจะถอดหมวกออกคืนก็แกล้งทำตากรุ้มกริ่มใส่
สงสัยไอซ์อยากให้ผมถอดแจ็คเก็ตออกมาบังให้ตลอดทางใช่มั้ยเนี่ยถึงได้จะถอดหมวกออก
หญิงสาวหยุดกึก หน้าแดงขึ้นมากะทันหัน
จำโยอิจิมาใช่มั้ยถึงได้พูดอะไรแบบนี้ได้น่ะ
ผมพูดแบบนี้เฉพาะกับ บางคน เท่านั้นแหละ พูดหน้าตาเฉยแถมยังส่งยิ้มให้อีกต่างหาก
ไอซ์มองสบตาคนตัวสูงที่ยืนยิ้มอยู่ข้างๆแล้วก็ต้องหลบตา ไม่กล้าถามต่อว่า บางคน ของผู้ชายอย่างไคน่ะ มีความหมายลึกซึ้งมากขนาดไหน
อาจจะเฉพาะกับคนที่ผมรู้สึกดีด้วยก็ได้ เมื่อไม่ถามก็ตอบให้เองเสร็จสรรพ
เมื่อเห็นหญิงสาวยังเงียบจึงแกล้งก้มหน้าลงมาใกล้
ไอซ์ไม่อยากรู้เหรอว่าเป็นใครน่ะ
ไม่อยาก
จริงเหรอ ถามเสียงยั่วเย้า
หญิงสาวค้อนขวับ รีบเดินหนีคนตัวสูงทันที แว่วเสียงหัวเราะอย่างอารมณ์ดีลอยไล่หลังมา
แม้ว่าไอซ์จะเดินเร็วแล้วก็ตาม แต่ชายหนุ่มก้าวยาวๆเพียงไม่กี่ก้าวก็ตามมาทัน
ไม่รอกันเลย เสียงเหมือนตัดพ้อแต่สาวตาพราวระยับ
สาวผมม้าหันไปตามเสียงแล้วก็อดไม่ได้ ต้องส่งค้อนวงใหญ่ไปให้อีกหนึ่งทีแต่ก็ยอมลดระดับความเร็วในการเดินลง
ทั้งสองเดินกันไปเงียบๆ ไม่ได้พูดจาอะไรกันอีก แต่ก็มีรอยยิ้มระบายอยู่ทั่วใบหน้า
เดินเคียงคู่กันไปได้ซักระยะก็ต้องชะลอฝีเท้าลงเมื่อมีเสียงเรียกจากด้านหลัง
ไค...รอซายูริด้วย
ชายหนุ่มหยุดเดิน หันมามองหน้าเพื่อนสาวแทนคำถาม
ซายูริร้อนน่ะ แล้วก็ไม่มีหมวกด้วย ขอยืมหมวกของไคได้มั้ย ถามทั้งๆที่เห็นว่าตอนนี้ใครเป็นคนสวมหมวกใบนั้นอยู่
ได้สิ ไคตอบเรียบๆ หยิบหมวกจากไอซ์มาส่งให้เพื่อนสาวที่ยิ้มรับหน้าบาน สบตาหญิงสาวอีกคนอย่างท้าทาย
แต่...ผมขอยืมร่มของซายูริก็แล้วกันนะ
ไคคว้าร่มไปจากมือเธอมากางให้สาวผมม้าแทนแล้วแตะหลังเบาๆให้ออกเดิน ไม่รอฟังคำทัดทานหรือเสียงเรียกใดๆจากเพื่อนสาวของเขาอีก
ซายูริจึงทำได้แค่พียงกระทืบเท้าอย่างขัดใจ แต่จะออกอาการอะไรมากก็ไม่ได้เพราะจากการที่คบกับไคมานานทำให้หญิงสาวรู้ว่าชายหนุ่มตัวสูงนั้นเริ่มจะไม่พอใจเธอมากขึ้นทุกที
โอย...เจ๋งมาก รักไคที่ซู้ด... ลูกหว้าแทบจะกระโดดตบมือกระทืบเท้าเมื่อเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด
เป็นอะไรไปลูกหว้า จะดีใจอะไรกันนักนะ ก็แค่ไคเค้าแลกร่มกับหมวกกันเท่านั้น
เท่านั้นเองที่ไหน มันบอกได้ชัดๆเลยยังไงล่ะว่าพ่อยอดชายนายไคของลูกหว้า เอ๊ย...ของไอซ์น่ะ แคร์ใครมากกว่ากันน่ะสิ
แค่เอาร่มไปกางให้เนี่ยนะ ก็คุณซายูริก็ได้หมวกของไคไปแล้วนี่นา แล้วมันยังไงอีกล่ะ
เคยรู้อะไรบ้างไหมเนี่ยเมเม่เนี่ย ไม่พูดแล้ว ขี้เกียจคุยกับเม่ ขี้เกียจอธิบาย พูดจบก็เดินดุ่ยๆตามไปประกบซายูริที่กำลังจะเข้าไปแทรกแทนเพื่อนสาวของเธอ
เอ๊...ลูกหว้า มาว่าเม่ทำไมล่ะ เมเม่รีบเดินตามสาวผมสั้นไปทันทีแต่ยังไม่วายบ่นกระปอดกระแปด ส่ายหน้าอย่างระอาไปด้วย
ดูสิ...บ่นไม่ชอบคุณซายูริแต่ก็ไปเดินไม่ห่างเค้าเลย
ผมขอโทษนะที่ซายูริเสียมารยาท ไคบอกเมื่อเดินกันมาได้พักหนึ่ง
หญิงสาวไม่ได้ตอบอะไร เธอทำเพียงยิ้มน้อยๆให้เขาเท่านั้น
ความจริงซายูริก็ไม่ได้เป็นคนที่แย่อะไรเท่าไหร่หรอกนะ เค้าเป็นลูกคนเดียว พ่อแม่ตามใจตลอดเลยเอาแต่ใจไปหน่อย อยากได้อะไรก็ต้องเอาให้ได้
รวมทั้งผู้ชายที่เดินอยู่ข้างๆเธอตอนนี้ด้วยใช่มั้ย...ไอซ์นึกต่อเองในใจ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสาวญี่ปุ่นคิดกับไคอย่างไร ไคเองก็น่าจะดูออก
เพียงแต่ไคคิดอย่างไรนั้น เธอไม่อยากจะเดา ไม่สิ จริงๆแล้วไม่อยากจะรู้เลยด้วยซ้ำ
เธอไม่มีพี่น้อง ย้ายมาอยู่แถวบ้านผมตอนจะเข้าเรียนโรงเรียนมัธยม แม่เค้าเลยฝากให้ไปโรงเรียนด้วยกันซะเลย เค้ายังไม่มีเพื่อนตอนนั้นก็เลยติดผมแจเลย ไปไหนก็ขอตามไปด้วยทุกที ผมมีแต่เพื่อนผู้ชาย ไม่ค่อยได้คุยกับเพื่อนผู้หญิงจะมีก็แต่ซายูรินี่แหละเป็นเพื่อนผู้หญิงคนเดียวที่มี
ไคกับซายูริคง...สนิทกันมาก เปรยเรียบๆเหมือนไม่แสดงวามรู้สึกแต่เสียงที่ปร่างแปร่งในตอนท้ายกลับทำให้ชายหนุ่มข้างๆหน้าบาน
ไคหันมามองหน้าหญิงสาว พยายามซ่อนยิ้มอย่างสุดความสามารถ
ไอซ์กำลังหึง...นี่เค้าไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองมากไปใช่มั้ย อาการแง่งอนแบบนี้มันเหมือนกับเธอกำลังงอนเขาอยู่เลย
ไคยิ้มอะไร เสียงที่เคยหวาน ยามนี้หางเสียงสะบัดนิดๆ
เปล่า
ก็เห็นอยู่ว่ายิ้ม เธอมองเขาขวางๆ ชายหนุ่มสังเกตเห็นใบหน้าซับสีเลือดจนแก้มนวลเป็นสีแดงระเรื่อ ความกล้าของชายหนุ่มก็เพิ่มมากขึ้น
ยอมรับก็ได้...ว่ายิ้ม
ไครวบรวมความกล้ามองลึกเข้าไปในดวงตาคู่หวานนั้น
แต่ไอซ์อยากรู้แค่ยิ้มอะไรแค่นั้นน่ะเหรอ...ไม่อยากรู้เหรอ...ว่ายิ้มเพราะใคร
ชายหนุ่มอมยิ้มกับภาพหญิงสาวที่ก้มหน้ามองพื้นเหมือนกับมีอะไรน่าสนใจมากมายอยู่ตรงนั้น
ก่อนอื่น ผมต้องบอกก่อนว่า ผมกับซายูริเป็นแค่เพื่อนกันจริงๆ แน่นอนว่าอาจจะสนิทกันบ้างเพราะเรียนด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก แต่ก็ไม่มีอะไรมากกว่านั้นเลย
ไม่เห็นจำเป็นต้องอธิบายให้ไอซ์ฟังนี่
ฮื้อ...ฟังก่อน อย่างเพิ่งรีบตัดบทเลย เขาบอกเสียงอ้อนๆ เหลือบมองเห็นลูกหว้ากำลังพยายามดึงซายูริไปดูธงที่ตั้งเรียงกันเป็นแถวยาวตลอดทางอย่างกับเป็นของที่น่าสนใจที่สุดในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้ก็ว่าได้
เมื่อโอกาสมาถึงขนาดนี้แล้ว จะปล่อยให้ผ่านไปก็น่าเสียดาย
แต่ที่อยากบอกให้ไอซ์รู้ไว้ก็เพราะ...ไม่อยากให้ไอซ์เข้าใจอะไรผิดๆ
ไคเริ่มขยับตัว ลังเลในท่าทีของหญิงสาวเมื่อไม่เห็นเธอเอ่ยอะไรตอบมา...หรือเขาจะคิดไปเองคนเดียวจริงๆ
มือไม้ก็ดูเกะกะไปหมด ไม่รู้ว่าควรจะเอาไปวางไว้ตรงไหน
การบอกรักสาวซักคนมันยากว่าเรียนแพทย์จนจบเสียอีก
แต่เมื่อเห็นหญิงสาวลอบยิ้มอายๆ ไคก็ใจชื้นขึ้น กล้าที่จะรุกมากขึ้นเท่าที่คนขี้อายอย่างเขาพอจะทำได้
เพื่อนก็คือเพื่อน ความรู้สึกมันหยุดอยู่แค่ตรงนั้น ไม่มากไม่น้อยไปกว่านั้น ไม่เหมือนกับคนที่เรารู้สึกพิเศษด้วย แม้จะบอกตัวเองตั้งกี่ครั้ง...ว่าให้เป็นแค่เพื่อนกัน...แต่ใจมันก็ไม่ยอมทำตามซักที
ไคยิ้มอย่างอบอุ่นให้เมื่อหญิงสาวผมม้ามองสบตาเขาตรงๆ
แต่คราวนี้...ไม่มีใครหลบตา
ผมรู้...ผมไม่ได้เป็นคนที่น่าสนใจอะไรนักหนา...แล้วเราก็เพิ่งรู้จักกันไม่นาน ผมแค่อยากให้ไอซ์ลองพิจารณาดูว่าคนอย่างผมนี่...พอจะมีโอกาสเป็นคนพิเศษของไอซ์ได้บ้างมั้ย
ไคมองลึกเข้าไปในดวงตาของหญิงสาวสูดลมหายลึกอีกครั้ง
ผมไม่ได้หมายความว่าถ้าไอซ์ตกลงแล้วไอซ์ต้องมาเป็นแฟนผมวันนี้พรุ่งนี้เลยหรอกนะ แต่อยากให้เราลองคบกันในแบบที่พิเศษมากกว่าเพื่อนทั่วไปดูก่อน อยากให้ไอซ์ลองมองผมในแบบผู้ชายคนนึงที่พร้อมจะดูแลผู้หญิงของเขาไม่ใช่แค่เพื่อนคนนึงที่ดูแลกัน
ไคส่ายหน้าเมื่อเห็นหญิงสาวขยับจะพูดอะไร
ไอซ์ยังไม่จำเป็นต้องตอบผมตอนนี้หรอกนะ ลองดูผมไปก่อน แล้วก่อนกลับเมืองไทย ผมจะมาถามไอซ์ใหม่อีกที
แม้หญิงสาวจะค่อนข้างแน่ใจในคำตอบของตัวเองอยู่แล้ว แต่เมื่อชายหนุ่มโอกาสเธอกลับไปคิด ไม่ใช่รีบร้อนเร่งเร้าให้ตัดสินใจในทันทีเหมือนหลายคู่ที่เคยเห็นมา แล้วท้ายสุดจึงพบว่ายังไม่ใช่คนที่ตามหา จึงต้องเลิกรากันไปอย่างเจ็บปวด สาวผมม้าจึงพยักหน้ารับ ยิ้มน้อยๆก่อนเอ่ยเสียงแผ่ว
อย่าลืมมาทวงคำตอบก็แล้วกัน
ทั้งคู่ออกเดินไปยังทางเข้าพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำอีกครั้ง ตามทางลาดยาวที่ทอดไปสู่จุดหมายเหมือนทางเดินของเธอกับเขา เพียงแต่ทางเดินนี้ยังไม่ใครสามารถบอกอนาคตได้เท่านั้น
แต่คงไม่ผิดใช่มั้ย ถ้าเธอจะลองให้โอกาสทั้งเธอและเขาได้ทำคามรู้จักและเรียนรู้กันมากขึ้น แม้มันอาจจะไม่เป็นอย่างที่หวังไว้ก็ตาม
ชายหนุ่มจากไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงรอยยับย่นของผ้าปูที่นอนเหมือนจะคอยเตือนให้ได้รู้ว่าเขามาหาเธอจริงๆเมื่อคืนนี้ ไม่ใช่เพียงแค่ฝันไป
มิกิลูบมือไปตามผ้าลื่นที่บัดนี้เย็นชืด ไม่อบอุ่นเหมือนคืนที่ผ่านมา หญิงสาวพยายามตัดใจละสายตาออกจากบริเวณนั้นแล้วก็ต้องสะดุดกับแผ่นพับที่ตกอยู่ข้างโต๊ะหัวเตียง ลายมือหวัดๆที่คุ้นตานั้นไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครเป็นคนเขียน
มิกิอ่านรายละเอียดต่างๆอย่างใจเย็นก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือมากด
มีอะไรให้ช่วยหน่อย เธอกรอกเสียงไปตามสาย กวาดตาไปตามรายละเอียดสำคัญในแผ่นพับนั้นแล้วจึงบอกรายละเอียดต่างๆให้ปลายสายได้รับรู้
หญิงสาวกดวางสาย ปาดน้ำรื้นที่ขอบตาออกแล้วยิ้มให้กับตัวเองในกระจก เป็นยิ้มที่เยือกเย็นและคงจะมีแต่เจ้าตัวเท่านั้นที่รู้ว่ามันมีความหมายเช่นไร
เมื่อทุกคนลงมาถึงหน้าโดมแก้วก็พบกับบันไดเลื่อนที่เลื่อนลงให้นักท่องเที่ยวได้รู้สึกเหมือนได้ดำดิ่งสู่ห้วงท้องทะเลลึก
โอ้โห...สวยจังเลยไค ข้างนอกนี่เป็นน้ำทะเลหมดเลย มีแค่ตรงนี้ที่เป็นตัวตึกน่ะ เมเม่รู้สึกเหมือนได้ลงไปใต้ทะเลเลยล่ะ
ซายูริขยับจะพูดอะไรแทรกขึ้นมาแต่เมื่อเห็นแววตาดุที่ส่งมาจากไคจึงต้องเฉยเสีย
คนสร้างก็คงคิดอย่างนี้เหมือนกันครับลูกหว้า ถึงได้หนีมาขุดทะเลกันตรงนี้ เราเลยต้องเดินกันไกลหน่อย
ไกลแค่ไหนก็ไม่เป็นไรหรอก เม่เดินได้
แต่ซายูริเมื่อย คนพูดอดไม่ได้ที่จะต้องหาเรื่อง
สามสาวจากเมืองไทยแกล้งทำเฉยเหมือนไม่ได้ยินคำกล่าวนั้น จะมีก็แต่ลูกหว้าที่แกล้งเหลือบตามองรองเท้าบูทสูงยาวแค่เข่านั้นแล้วส่งสายตาไปให้เหมือนเห็นใจ
จะเข้าห้องน้ำข้างในก่อนก็ได้นะครับ เดี๋ยวจะได้เที่ยวกันทีเดียวเลยไม่ต้องแวะอีก ไคแนะนำ สาวๆจึงพร้อมใจกันเดินไปตามป้ายที่บอกทาง
เป็นไง เมื่อเข้าห้องน้ำเสร็จและเห็นไคอยู่ตามลำพัง ลูกหว้าก็รีบกระแซะเข้ามาถาม
อะไรเป็นไง ชายหนุ่มคนเดียวในวันนี้แกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้ อ๋อ...ปลาน่ะเหรอ...ก็สวยเหมือนที่เคยมาดูปีที่แล้วเลย นี่ลูกหว้าดูสิ ลองอ่านป้ายที่ติดไว้ข้างๆตู้ปลาแต่ละตู้นะ ไคชี้ไปที่ตู้โชว์ขนาดต่างๆที่จัดเรียงเป็นรูปครึ่งวงกลมเรียงตามถิ่นที่อาศัยของปลาแต่ละคาบสมุทร ในความมืดจะเห็นเพียงความสว่างเรืองรองของตู้ปลาที่จัดแสดงเท่านั้น
ที่ป้ายเนี่ย จะบอกรายละเอียดทั้งหมดไว้เลยทีเดียวว่าเป็นปลาน้ำลึกหรือน้ำตื้น อยู่แถบมหาสมุทรอะไร มีพืชพรรณชนิดไหนหรือสัตว์น้ำอะไรอาศัยอยู่ได้บ้าง บอกแม้กระทั่งอุณหภูมิของน้ำเลยนะ
เหรอ... ลูกหว้าแกล้งลอยหน้าลอยตา งั้นเดี๋ยวไคช่วยอธิบายรายละเอียดพวกนี้ให้คุณซายูริฟังอีกทีก็แล้วกัน เดี๋ยวลูกหว้าไปปล่อย...เอ๊ย...ไปเรียกออกมาจากห้องน้ำก่อน จะได้บอกให้รู้ได้ว่าไคกำลังดูปลาอย่างเพลิดเพลินอยู่ตรงนี้
แหม...ลูกหว้าก็..ไม่เอาน่า.ผมล้อเล่น ชายหนุ่มรีบดึงมือเล็กเอาไว้
ผมก็บอกไอซ์ไปแล้วล่ะว่าผมรู้สึกดีกับเค้า อย่าเพิ่งถามไม่งั้นจะไม่เล่านะ
ไครีบโบกมือห้ามเมื่อเห็นเธอทำตาโต อ้าปากเหมือนจะถามอะไรบางอย่าง ทำให้ลูกหว้าต้องรีบปิดปากตัวเองทันที
ผมบอกให้ไอซ์ลองดูผมไปเรื่อยๆก่อน ให้มองผมอย่างผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่ใช่คนที่เป็นแค่เพื่อน
แล้วไอซ์ว่ายังไงล่ะ
ยังไม่ว่ายังไงทั้งนั้น ตอบหน้าตาเฉยทำเอาลูกหว้าหน้าเหวอ
.แล้วทำไมไม่ตอบล่ะ
ผมบอกเค้าว่ายังไม่ต้องตอบตอนนี้ก็ได้
อ้าว... คราวนี้ถึงกับอุทานเสียงดัง แล้วไคไปถามเค้าหาอะไรล่ะ ถ้าไม่อยากได้คำตอบอ่ะ
ไคยิ้มน้อยๆให้สาวร่างเล็ก
ให้ไอซ์เค้ามีเวลาได้ตัดสินใจให้แน่ใจก่อนไงว่าผมพอจะเป็นใครคนนั้นให้เค้าได้รึเปล่าน่ะ
ไคคุงเป็นคนดีจังนะ
ไม่ใช่หรอก ไคส่ายหน้ายิ้มๆ
อะไรไม่ดีมีอีกเยอะเลย ถึงได้อยากให้แน่ใจก่อนไง
ไอซ์นี่โชคดีจังที่มีคนดีๆมาชอบ เสียงลูกหว้าบอกเศร้าๆเหมือนจะพูดกับตัวเองมากกว่า
ผมไม่ใช่คนดีอะไรนักหรอกน่า แต่ผมเชื่อว่าซักวันลูกหว้าก็ต้องมีคนดีๆผ่านเข้ามาเหมือนกัน
คำพูดที่ดูรู้ว่าพูดเพื่อปลอบใจ แต่ก็ทำให้หญิงสาวยิ้มออกมาได้
นั่นสินะ อาจจะยังไม่ถึงเวลาของลูกหว้าก็ได้ อีกหน่อยฟ้าก็คงส่งเนื้อคู่ลูกหว้าให้ลอยตุ้บลงมาแปะอยู่ข้างหน้าลูกหว้าเองล่ะเนอะ
ไคยิ้มกว้างขึ้น
แต่ที่ผ่านมาที่ลูกหว้าคอยช่วยเชียร์เนี่ย จะไม่ลืมเลย
เปลี่ยนจากคำชมเป็นอย่างอื่นได้มั้ยล่ะ
ข้าวซักมื้อเป็นไง
แถมของหวานด้วยนะ ไม่วายต่อรอง
ตกลง ไคพยักหน้ารับคำพร้อมยื่นมือให้จับ ลูกหว้าบีบมือใหญ่นั้นเบาๆ ยักคิ้วแผลบ
ดีล
ถ้าลูกหว้ามีอะไรให้ผมช่วยบ้างก็บอกได้น้า เผื่อไปแอบชอบหนุ่มๆที่ไหนน่ะ
หญิงสาวเงียบไปนิดหนึ่ง ส่ายหน้า ยิ้มเหงาๆให้ไค
เรื่องของลูกหว้ามันคงเป็นไปไม่ได้หรอกไค...แต่ถ้าลูกหว้าจะขออะไรจากไคน่ะ... สาวผมสั้นกล่าวเสียงจริงจัง
ลูกหว้าขอได้มั้ย...ถ้าไอซ์เค้า...ตอบตกลงกับไคน่ะ ช่วยดูแลเพื่อนลูกหว้าให้ดีด้วย อย่าทำให้เค้าต้องเสียใจ...เด็ดขาดเลยนะ
ไคพยักหน้า รับรู้ได้ถึงแรงของมือเล็กที่บีบมือเขาแน่นขึ้นโดยที่เจ้าของมือนั้นอาจไม่ทันได้รู้ตัว
++++++++++++++
Create Date : 09 ธันวาคม 2551
Last Update : 9 ธันวาคม 2551 23:37:00 น.
2 comments
Counter : 570 Pageviews.
Share
Tweet
ขอบคุณทุกคนที่แวะอ่านนะคะ ดีใจมากเลย
คุณ อมิตตดา (Siraprapa_p ) ขอบคณที่ชอบไคนะคะ แต่ไม่รักโยอิจิซะแล้วเหรอ...
คุณ xyz ^______^
คุณ ayuruka ขอโทษที่ให้รอนาน หวังว่ายังตามอ่านอยู่น้า
เจอกันใหม่ตอนหน้านะคะ
โดย:
totolly17
วันที่: 9 ธันวาคม 2551 เวลา:23:43:11 น.
อ้ายยยย ค้างๆๆ สรุปว่าลูกหว้ามีความลับอะไรกันแน่เนี่ยยย
อิอิ ในที่สุดไคก็เอ่ยปากสักที รอลุ้นอยู่เลย
จะตามอ่านตอนต่อไปนะคะ
โดย:
ayuruka
วันที่: 12 ธันวาคม 2551 เวลา:1:49:05 น.
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
totolly17
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
Friends' blogs
Siraprapa_p
gagayear
ดอกหญ้าเมืองเลย
Clear Ice
ตัว(Z)
err_or
pigasso
ประภาคารดาว
Webmaster - BlogGang
[Add totolly17's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
คุณ อมิตตดา (Siraprapa_p ) ขอบคณที่ชอบไคนะคะ แต่ไม่รักโยอิจิซะแล้วเหรอ...
คุณ xyz ^______^
คุณ ayuruka ขอโทษที่ให้รอนาน หวังว่ายังตามอ่านอยู่น้า
เจอกันใหม่ตอนหน้านะคะ