|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
*~หรั่ง ร็อคเคสตร้า~*
คงจะดีไม่น้อยถ้าแต่ละคนปันพื้นที่ในหัวใจให้กับ ธรรมะ ดังเช่นผู้ชายคนนี้ หรั่ง ร็อคเคสตร้า หรือ ชัชชัย สุขาวดี หรั่ง ร็อคเคสตร้า ซึ่งหลายคนรู้จักเขาในฐานะ ร็อคเกอร์ ผู้มีน้ำเสียงเป็นเอกลักษณ์ที่สามารถถ่ายทอดทุกบทเพลงออกมา ได้อย่างละเมียดละไมและทรงพลัง เรียกเสียงปรบมือกึกก้องมาแล้วทุกเวทีคอนเสิร์ต แม้ในยามที่บ้านเมืองกำลังตกอยู่ในภาวะ ความไม่ไว้วางใจถึงศีลธรรม และความผิดชอบชั่วดีของผู้นำ อันพึงมีต่อประเทศชาติ หรั่งก็หาญกล้าขึ้นมาขับขานบทเพลงปลุกใจ บนเวทีพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย โดยไม่หวั่นเกรงภัย เพื่อช่วยกระตุ้นจิตสำนึกให้คนไทยออกมาแสดงความรู้สึกร่วมกัน ในการปกป้องสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อันเป็นที่รักยิ่ง ผมคิดว่าทุกวันนี้คนเราควรจะมีความ รับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม ซึ่งผมถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้บ้านเมืองอยู่รอด โดยเฉพาะผู้นำประเทศ ต้องยึดหลักเรื่องนี้ไว้ประจำตัว เพราะถ้าขาดสิ่งนี้เมื่อไร บ้านเมืองก็จะมีแต่ความวุ่นวาย ดังนั้น มนุษย์ทุกคนควรจะแบ่งพื้นที่ในห้องหัวใจ ไว้สำหรับการนำหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า มาใช้ในการดำเนินชีวิต โดยเฉพาะเรื่องของศีลธรรม เพราะเป็นตัวการสำคัญในการควบคุมจิตใจ ให้เกิดสำนึกผิดชอบชั่วดีต่อสังคม เพราะถ้าเมื่อไรก็ตามที่เรามีศีลธรรมอยู่ในหัวใจแล้ว ก็จะไม่เกิดอารมณ์ รัก โลภ โกรธ หลง มากเกินไป จนนำไปสู่กิเลสในชีวิตยากที่จะหาทางแก้ไขได้ หรั่งเล่าว่าถึงแม้ชีวิตในวัยเยาว์ของเขา แทบจะไม่ค่อยได้เข้าไปฟังเทศน์ฟังธรรมที่วัดเท่าไรนัก ด้วยต้องจากถิ่นเกิดสุราษฎร์ธานี มาตั้งแต่อายุ 13 ปี เพราะต้องเดินทางมาศึกษาที่โรงเรียนดุริยางค์ทหารเรือ กรุงเทพมหานคร เพื่อเรียนวิชาการทางด้านดนตรีและเก็บเกี่ยวความรู้ ที่ได้รับให้เกิดความชำนาญมากที่สุด เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการประกอบวิชาชีพต่อไป ผมเข้ามาเรียนที่โรงเรียนดุริยางค์ทหารเรือ ก็ได้เล่นกลอง ทรัมเปต เฟรสช์ฮอร์น คีย์บอร์ด และเรียบเรียงเสียงประสาน จนพอรู้งานอยู่บ้าง จากนั้นจึงได้รับบรรจุใน ตำแหน่งนักร้องประจำวงซิมโฟรี ออเคสตรา ราชนาวี ของกองทัพเรือไทย ในขณะที่เขาได้รับการบรรจุ ให้เป็นนักร้องประจำวงซิมโฟนีของกองทัพเรือไทยอยู่นั้น เขาก็มีโอกาสได้รับใช้ประเทศชาติหลายครั้ง ด้วยการใช้เสียงเพลงร้องปลุกใจคนให้เกิดความรักชาติร่วมกัน แต่ก็ยังไม่มีโอกาสที่จะได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับในเรื่อง ของศาสนามากนัก กระทั่งเขาได้รวมตัวกับเพื่อนๆทำผลงานเพลงในชื่อ ร็อคเคสตร้า ออกมา ซึ่งเนื้อหาส่วนใหญ่โดดเด่นไปทาง การนำหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนามาใช้เป็นชื่อเพลงแทบทั้งสิ้น เพื่อให้คนฟังได้ตระหนักในหลักธรรมคำสอน ผลงานเพลงชุดแรกๆของผม ส่วนใหญ่ จะมีชื่อเพลงเพียงแค่พยางค์เดียวเท่านั้น เพลงแต่ละชื่อก็จะเน้นไปที่เรื่องคำสอน ทางศาสนาแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเพลง โลง ที่ถ่ายทอดออกมาเพื่อบอกให้ทุกคนรู้ว่า คนเราไม่ว่าจะเป็นเศรษฐีร่ำรวย หรือว่า ยาจกผู้ต่ำต้อย ก็ไม่สามารถหลีกหนีกฎของธรรมชาติคือการเวียนว่ายตายเกิดไปได้ หรือเพลง วิ่ง วิ่ง วิ่ง ที่หลายคนชอบกันนักหนานั้น ผมก็พยายามที่จะสอดแทรกเนื้อหาทางธรรมเข้าไปให้คนทั่วไปได้รับรู้ว่า ในโลกใบนี้เราสามารถวิ่งหนีอะไรได้ทุกอย่าง แต่ไม่สามารถวิ่งหนีความจริงไปได้ เพราะฉะนั้นทางที่ดีเราต้องมีสติ และพิจารณาปัญหาโดยละเอียด เพื่อแก้ไขปัญหาที่เข้ามาให้ผ่านไปได้อย่างชาญฉลาด หรั่งเล่าถึงการควบคุมสติของตัวเอง ที่เขาใช้เป็นหลักยึดจนถึงปัจจุบันนี้ว่า หลังจากที่เขาได้มีโอกาสทำผลงานเพลงและได้ร้องเพลง เกี่ยวกับหลักคำสอนทางศาสนาแล้ว จึงเป็นตัวจุดประกายที่ทำให้เขารู้ว่า การที่คนเราหันมายึดหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าในการดำเนินชีวิต ก็จะทำให้ใช้ชีวิตอย่างมีสติมากขึ้น เขาจึงเลือกการควบคุมสติของตัวเองด้วยการไปนั่งเจริญวิปัสสนาที่วัด เพื่อช่วยให้เขารู้เท่าทันจิตใจตัวเองมากยิ่งขึ้น และไม่ไหลไปตามกิเลสต่างๆ ทุกครั้งเวลาที่ผมว่างจากการร้องเพลง ผมก็จะหาโอกาสไปทำบุญที่วัด และก็หาวันหยุดยาวๆ เพื่อใช้สำหรับการทำวิปัสสนาเจริญสมาธิ เพราะหลังจากที่ผมมีโอกาสได้ ไปนั่งสมาธิแล้วทำให้รู้สึกว่า แท้จริงแล้วชีวิต ของมนุษย์มีเพียงแค่ 2 ช่วงเวลาเท่านั้นคือ เวลาของการเป็นผู้ให้ และเวลาของการเป็นผู้รับ อยู่ที่ว่าเราจะเลือกให้ตัวเองอยู่ใน ช่วงเวลาไหน แต่สำหรับร็อคเกอร์รุ่นเก๋าคนนี้ เขาเลือกที่จะให้ตัวเองอยู่ในช่วงเวลาของการเป็นผู้ให้ โดยเขาให้เหตุผลที่น่าฟังว่า การเป็น ผู้รับ ถือเป็นความสุขอย่างหนึ่งในชีวิต แต่ถ้าเมื่อใดก็ตามที่เป็น ผู้ให้ ก็จะถือว่าสิ่งนั้นมีค่าและเป็นกำไรของชีวิต เพราะสิ่งหนึ่งที่จะได้รับกลับอย่างที่ไม่มีวันใช้หมด คือ ความสุขทางใจที่ได้เป็นผู้ให้ การที่เราวิ่งวนตามกิเลสตัณหาต่างๆ ที่เข้ามารุมเร้าในแต่ละวัน ถ้าเราไม่รู้เท่าทันตัวเองก็จะตกเป็นทาสของมัน เพราะฉะนั้นเราจึงจำเป็นที่จะต้องทำตัวเองให้เบาที่สุดก่อนที่จะลาโลกนี้ไป ด้วยการละลายกิเลสที่อยู่ในใจให้หมดไป ชีวิตของเราบนโลกใบนี้ไม่มีอะไรที่เป็นของเราอย่างแท้จริง เพราะฉะนั้นจึงไม่ควรไปยึดติดอยู่กับภาพหลอนต่างๆ แต่ควรเปลี่ยนมาเป็นผู้มอบสิ่งดีๆให้ กับชีวิตของคนอื่นบ้าง เพราะความต้องการที่จะละลายกิเลส ที่มีอยู่ภายในใต้จิตสำนึกให้หมดไปในที่สุด ร็อกเกอร์เปี่ยมคุณค่าผู้นี้จึงได้น้อมนำ กระแสพระราชดำริ เศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นองค์ต้นแบบในการทำความดีของเขา มายึดหลักในการดำเนินชีวิต และสร้างสรรค์สิ่งดีๆสู่สังคมที่เขาอาศัยอยู่ให้ได้รับความสุขเช่นกัน หรั่งบอกว่าขณะนี้เขากำลังทำโครงการ We Love The King We Love Thailand ซึ่งเป็นการนำเสนอในรูปแบบของรายการวิทยุ และศูนย์การสอนการแสดงดนตรี เพื่อปลุกกระแสแห่งความรักชาติ และร่วมส่งเสริมผู้ที่มีแนวคิดและประพฤติตนเป็นคนดี ในทุกภาคส่วนของสังคม อีกทั้งยังยกย่องให้เกียรติผู้กระทำความดี เพื่อให้เป็นสังคมอุดมปัญญา ภายใต้ปรัชญาแห่งความพอเพียง อันนำไปสู่ความสงบร่มเย็นของบ้านเมืองต่อไป ในโครงการนี้ นอกจากเขาจะทำตัวเป็น แบบอย่างในการใช้ชีวิตอย่างพอเพียงแล้ว ยังขยายต่อความคิดนี้ให้กับชาวบ้านที่อยู่ในต่างจังหวัด ให้เกิดความพอเพียง ด้วยการเข้าไปให้ความรู้กับชาวบ้าน เกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้พวกเขามีชีวิตอยู่อย่างเพียงพอ สามารถอุ้มชูตัวเองและประเทศชาติได้ในอนาคต และเนื่องในวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ที่จะมาถึงนี้ หรั่ง ได้ฝากไว้ว่า ขอเชิญชวนให้ชาวไทยทุกคนร่วมกันสืบทอดพระพุทธศาสนา ด้วยการเข้าวัดไปร่วมทำบุญและฟังธรรม ซึ่งการทำบุญนี้ ไม่ได้หมายความว่าต้องใช้เงินทองมหาศาล แต่ควรใช้จิตใจที่สะอาดเข้าไปรับรสพระธรรม เพื่อเป็นแสงใจส่องทางให้ทุกคนก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมีสติ
Create Date : 01 เมษายน 2552 |
|
1 comments |
Last Update : 31 สิงหาคม 2553 10:37:09 น. |
Counter : 855 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: Um'sure 22 กันยายน 2552 19:08:13 น. |
|
|
|
|
|
|
|