Japan2017 ฮอกไกโด ทุ่งลาเวนเดอร์ : DAY2
พระอาทิตย์ที่นี่ขึ้นตั้งแต่ตี 4 ตี 5กว่าๆ เราพ่อลูกก็ตื่นแล้ว ตารางการเดินทางของคณะเราวันนี้คือ เจ็ดโมงกินอาหารเช้า แล้วแปดโมงล้อหมุน อาหารเช้าของโรงแรมมีให้เลือกไม่มาก แต่กาแฟอร่อยดี น้องทัณฑ์กินไข่คน ครัวซองค์แล้วก็นม หม่ำเสร็จก็เตรียมตัวเช็คเอาท์
รูปปั้นระหว่างทางเดิน
 อาหารเช้าแสนอร่อย  วิวในโรงแรม สไตล์วิคเตอเรีย  น้องทัณฑ์บอกเหมือนบันไดใน Titanic  โบสถ์ในโรงแรม เมื่อคืนก็มีงานแต่งงานที่นี่
ป๊ากับม๊าอาสาไปเอารถที่จอดไว้ในอาคารจอดเมื่อคืน เดินไปถึงตึกก็มีเครื่องให้ใส่บัตร เราเอาบัตรที่ได้มาเมื่อวานเสียบลงไป จ่ายเงินตามจำนวนที่ปรากฏบนจอ เสร็จแล้วเครื่องก็คืนบัตรกับใบเสร็จมาให้ จากนั้นก็ขับรถขอเราลงมาได้เลย แล้วเอาบัตรเสียบกับที่กั้น พอมันกินบัตรไปที่กั้นก็เปิด แค่นั้นเองง่ายๆ แล้วเราก็วนรถไปรับคุณลุงกับคณะที่หน้าโรงแรม
จัดที่นั่งบนรถเหมือนเมื่อวาน แล้วไปคลองโอโตรุกัน ระหว่างทางเราเห็น Chocolate Factory ด้วย แต่แพลนไว้แล้วว่าจะมาวันหลังก็เลยไม่ได้แวะ ขับต่อมาชั่วโมงกว่า เราก็ได้ที่จอดรถเหมือนร้านริมทางให้ซื้อของฝากแล้วจะได้ส่วนลดค่าจอด แถมมีห้องน้ำสะอาดให้ใช้ด้วย เราเลยจอดรถไว้ที่นี่ เสร็จแล้วเราก็เดินไปที่คลองโอโตรุก่อน
พร้อมเดินทาง
 เข้าอุโมงค์  ในอุโมงค์  เกือบถึงแล้ว  จำไว้ว่าจอดรถแถวๆ นี้  คุณปู่คุณย่าเดินแก้เมื่อย  ท้องฟ้าสีฟ้าจัง  มุมโปรดคุณเกาทัณฑ์คือเครื่องกดน้ำ  เดิน เดิน เดิน   จะถึงแล้ว  หนุ่มลากเลื่อนพร้อมนำทาง ราคาโหดมากเราเลยไม่ขึ้น ฮา...  ถึงแล้ว 
ถ่ายรูปกับคลองแล้วกินไอติมกัน อุณหภูมิในจอบอก 26 องศา แต่ความรู้สึกจริงๆ มันร้อนกว่านั้น เดินกันแป๊บนึงก็กลับไปที่จอดรถแวะเข้าห้องน้ำซื้อของฝาก
26 องศาจริงหรือนี่?
 ถ่ายกับป๊า  ทัณฑ์ถ่ายเก็บไว้ดู  จัดไอติมก่อน  คนละอัน ของม๊ารสเมล่อน
แวะเอาของไปเก็บไว้ในรถแล้วเดินต่อ ชอปปิ้งริมถนนไปเรื่อยๆ เข้าร้านนู้น ออกร้านนี้อย่างสนุกสนาน คุณปู่ได้ข้าวกรอบๆ จากร้าน Kitataro ส่วนคุณย่าตอนแรกเล็งขนมไว้แต่หาพวกเราไม่เจอ เลยออกมาบ่นๆนิดหน่อยว่าจะซื้อขนม ป๊าเลยลากให้ไปเหมามา 2 กล่อง แล้วเดินชิมนู้น ชิมนี่ไปเรื่อยจนถึง Music Box ก็โชคดีมากเพราะ 11 โมงพอดี นาฬิกาไอน้ำด้านหน้าส่งเสียงให้เราฟัง เดินจนเที่ยงก็เตรียมหาของกิน ป๊าให้ทุกคนรอตรงหน้า Music Box ส่วนป๊ากับม๊าเดินกลับไปเอารถ ระหว่างเดินเจอร้านไก่ทอดพอดีเลยซื้อมา 6 ชิ้น ม๊าอยากกินเม่ลอนด้วยก็ซื้อมาแล้วขับรถไปรับทุกคนที่จุดนัดหมาย
เริ่มเดินกันอีกครั้ง
เข้าร้านแรก  คุณย่าได้ของก่อนเพื่อน มันคือหมวกสีม่วง  ร้านสีเขียว ไม่บอกก็รู้ว่าขายชาเขียวแน่ๆ  เดินไปก็เจอแต่ร้านไอติม  พักกดน้ำดื่มอีกแล้ว  ถึงร้าน KTTAKARO  ได้เอแคลร์กับชูครีม  จะถึงมุมฮิตแล้ว  ถึงเวลานาฬิกาไอน้ำพอดี  ข้างทางก็มีดอกไม้นะ  ให้คุณเกาทัณฑ์รอตรงนี้ 
เราขับรถจะไปตลาด Miyadori หาที่จอดรถจนน้องทัณฑ์หลับ วนรถอยู่พักนึงก็ได้ที่จอดแบบหยอดเหรียญ เราเดินไปที่ตลาดแต่ไม่ค่อยมีร้านเปิด เดินจนเจอร้านข้าวร้านนึงเป็นร้านอาหารแบบครอบครัว สั่งกันคนละจาน ระหว่างรออาหารป๊าก็เดินออกไปหาร้าน Donkey คุณเกาทัณฑ์อยากดูของเล่นปรากฎว่าที่นี่เล็กมาก ไม่ค่อยมีอะไรให้ดูเลย พอกินข้าวเสร็จก็ไป Furano ต่อ
ข้าวผัดของคุณเกาทัณฑ์
 อากาศร้อนแต่คุณลุงก็อยากกินราเมง เพราะเมืองนี้ขึ้นชื่อเรื่องราเมง สุดท้ายโดนเจ้าหมันแย่งไปกินครึ่งถ้วย  ตามด้วยข้าวแกงกะกรี่หมูทอดของม๊า  เกี๊ยวซ่าที่นี่อร่อย
ก่อนจะออกเดินทางต้องปรับที่นั่งของสมาชิกกันนิดหน่อย เพราะคุณปู่น่าจะเมื่อยมากหากนั่งแถวสอง เลยเปลี่ยนให้คุณปู่ขึ้นมานั่งข้างหน้าคู่คนขับ ป๊าลงไปนั่งแถวสองแทน สองข้างทางเริ่มเปลี่ยนไป เรามาถึงเมือง Furano ประมาณ 4 โมงเย็น มีเวลาก่อนเช็คอินน์ เลยถามว่าจะไปโรงงานไวน์หรือแยม คุณลุงเลือกแยม เราจิ้ม mapcode ให้นำทาง มันพามาทางเล็กลงเรื่อยๆ จนคิดว่าจะหลง แต่พอเลี้ยวไปก็เจออันปังแมน มีแยมให้ชิมเกือบครึ่งร้อยรสชาติ ส่วนใหญ่กวนจากผลไม้ป่าพวกเบอรี่ คุณย่ากับม๊าได้มา 7-8 ขวด แต่ที่นี่ไม่มีขนมปังขาย ซื้อของเสร็จก็ขับรถไปสวนด้านบน เขาทำเป็นสวนดอกไม้ขนาดใหญ่ สวยมาก อากาศก็ดีมากๆ ขนาดดอกไม้ยังไม่ค่อยออกนะ ถ่ายรูปเสร็จก็เช็คอินน์ที่ Furano Natulux
วิวเริ่มเปลี่ยนไป
 อุโมงค์เปิดด้านข้าง  ลูกศรแดงไว้ดูแนวถนนเวลาหิมะหนาจนมองอะไรไม่เห็น  เริ่มเห็นวิวที่ต่างออกไปเรื่อยๆ  ฟางหมุนๆ  ดูแผนที่ก่อน(อันนี้ดูง่าย)  คุณปู่ คุณหลานจูงมือเดินหาห้องน้ำ  เลือกแยมหลายสิบชนิด มีขนมปังจิ้มให้ชิม   ถ่ายเสร็จก็อัพรูป  ยานพาหนะคู่ใจ
คุณลุงรีเซฟชั่นของโรงแรมยิ้มแย้มแจ่มใสดีมากพอรู้ว่าเรามาจากเมืองไทย เค้าบอกว่าภูเก็ตไม่เคยไป ไปแต่เชียงใหม่ ไม่แน่คราวหน้าอาจจะไปเที่ยว โรงแรมนี้สวยดีกะทัดรัด แต่ห้องน้ำมีกลิ่นบุหรี่ เราเอาเครื่องกรองอากาศจัดการไป เค้ามีเกลือลาเวนเดอร์ให้ลองแช่ด้วย
ถึงแล้ว
 สวนเล็กหน้าโรงแรม ถ้าหน้าหนาวคงสวยมาก   เห็นผึ้งไหม  เห็นลาเวนเดอร์ปลูกเป็นพุ่มอยู่ทั่วทางเดิน  วิวจากห้อง  มองเห็นสวนสาธารณะเล็กๆ ด้านหน้าโรงแรม ตรงนั้นเป็นสถานีรถไฟด้วย  6 โมงเย็นก็เดินไปกินร้านปิ้งย่างข้างโรงแรม คุณลุงรีเซฟชั่นจองมาให้ จิ้มๆ เอา ปิ้งๆ ย่างๆ อร่อยดี แต่มันร้อนไปหน่อย น้ำจิ้มก็ธรรมดา กินเสร็จเดินเล่นย่อยอาหาร กับชมวิวเมือง เดินนิดเดียวก็ถึงแล้ว
 ร้านนี้แหละ  ปิ้งๆ ย่างๆ แป๊บเดียวก็เบื่อแล้ว มันร้อน  อิ่มแล้วเดินเล่นในเมืองดีกว่า ลุง ป๊า น้องทัณฑ์ไปด้วยกัน ส่วนคุณปู่คุณย่ากับม๊าแยกไปกินกาแฟของโรงแรมกับขนมที่ซื้อมาจาก Esta เมื่อคืน เห็นบอกว่ากาแฟของโรงแรมอร่อยดี ไม่แพงด้วย
  แสงตอนทุ่มกว่าๆ  ร้านค้าส่วนใหญ่ปิด   ถ่ายรูปคู่คุณลุง  เล็งร้านนี้ไว้ เผื่อซื้อขนมปังไว้กินในรถ  ศิลปะข้างกำแพง  ตรงสถานีรถไฟ Furano เล็กมาก  เดินกลับไปอีกทาง เพื่อไปซื้อของใน Seven  เกาทัณฑ์บอกว่าเห็นป้ายแล้วอยู่ตรงนู้น  ถึง Seven ก็หาขนมกิน เดินกลับถึงห้องประมาณเกือบ 2 ทุ่ม ถึงโรงแรมอาบน้ำนอน จบไปอีกวัน
| Create Date : 05 กันยายน 2560 |
| Last Update : 6 กันยายน 2560 11:09:32 น. |
|
2 comments
|
| Counter : 1578 Pageviews. |
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 399 คน [
