Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2549
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
27 พฤษภาคม 2549
 
All Blogs
 
น้ำฝนกลางใจ (๑๑)



ไร่ไม้หนาว
คืนเดือนมืด

พ่อและแม่ที่แสนคิดถึ้ง คิดถึง

พ่อกับแม่เป็นอย่างไรบ้างค่ะ ส่วนลูกสาวพ่อกับแม่สบายดี กินอิ่ม นอนหลับ และแข็งแรงดีค่ะ ที่กรุงเทพเป็นอย่างไรบ้างค่ะ หน้าฝนปีนี้น้ำท่วมสนามหญ้าบ้านเราหรือเปล่าเอ่ย

เมื่อเดือนที่แล้วที่ไร่มีฝนตกชุกทุกวันจนกระทั่งดินอิ่มตัวด้วยน้ำ ดีที่พวกเราเตรียมปรับพื้นที่ไว้ก่อนจึงไม่มีน้ำไหลบ่าหน้าดินและการชะล้างดินตะกอนเกิดขึ้นเวลาฝนตกหนัก แต่ยังไม่วายที่จะเกิดความเสียหายเพราะน้ำป่าที่เอ่อท้นตลิ่งจนท่วมบริเวณหุบเขาตอนล่าง ทำให้ดอกไม้แถบนั้นถูกน้ำท่วมตายเกือบหมด ฝนเองเพิ่งเห็นน้ำป่าคราวนี้เองจ้ะ มันมาแรงและเร็วมากไม่ทันตั้งตัวเลย โชคยังดีที่พวกเราช่วยกันกั้นน้ำไว้ไม่ให้ทะลักเข้าเรือนเพาะชำและสำนักงานได้ทัน น้ำท่วมคราวนี้เลยทำให้เอกศักดิ์ถึงกับปวดหัวเพราะทำให้ส่งดอกไม้ออกได้ไม่ครบจำนวน พอน้ำลดพวกเราเลยค่อนข้างยุ่งหน่อย ต้องช่วยกันปรับดินและเอาต้นกล้าใหม่ไปลง แต่ทุกคนตั้งอกตั้งใจทำงานกันดีไม่มีบ่นเลยค่ะ ที่นี่คนงานรักพ่อเลี้ยงกันทั้งนั้น เพราะเขาเป็นคนใจกว้าง มีน้ำใจ เปล่านะคะ... ฝนไม่ได้ชมเพื่อนตัวเอง ฝนได้ยินคนงานเขาพูดกันต่างหาก

สองอาทิตย์ก่อนพ่อเลี้ยงกัณฑ์เจ้าของไร่กุ่สุมาที่ถัดจากไร่เรามาหาเอกศักดิ์เพื่อนของเขา แล้วพลอยชวนฝนลงไปกินข้าวในเมืองด้วยกัน นาน ๆ ฝนถึงจะได้เข้าเมืองเสียที ส่วนมากเอกศักดิ์จะชวนเข้าไปเที่ยวซื้อของในเมืองเหมือนกัน แต่ขี้เกียจนั่งรถนาน ๆ เลยปฏิเสธเกือบทุกครั้ง เอกศักดิ์ก็พลอยไม่เข้าไปด้วย กลับใช้ให้เจ้าวีกับอ้อนเป็นคนไปซื้อของใช้ให้แทน ฝนจึงใช้วิธีฝากซื้อเอาค่ะ แต่คราวนี้ขัดคำชวนของพ่อเลี้ยงกัฑณ์ไม่ได้ เลยจำต้องยอมลงไปกับพวกเขาด้วย

พวกเราไปนั่งเล่นกินอาหารค่ำกันที่แพริมแม่น้ำสายหลักเชิงดอย คราวนี้ฝนได้กินอาหารเหนือแบบขันโตกเต็มยศ ของเขาทั้งน้ำพริกอ่อง น้ำพริกหนุ่ม ไส้อั่ว หมูยอ อร่อยจัง เลยเจริญอาหารเป็นพิเศษ สวาปามเข้าไปจนท้องกาง กินอิ่มก็เริ่มเคลิ้มเพราะลมแม่น้ำยามค่ำพัดเอื่อย ๆ เย็นชื่นใจ ส่วนสองหนุ่มนั่นเขาก็คุยไปดื่มไป ฝนไม่ได้สนใจมัวแต่นั่งดูนักท่องเที่ยวฝรั่งที่มาล่องแม่น้ำพายเรือแคนูผ่านไปเรื่อย ๆ นึกอยากเล่นสนุกแบบเขาบ้าง ไม่รู้ว่าเขาไปเริ่มต้นล่องมาจากตรงไหน จนเริ่มมืดค่ำป่านนี้แล้วยังไม่ถึงจุดหมาย

กำลังนั่งมองเพลิน ๆ ก็ถึงกับตกใจ เพราะเรือแคนูลำหนึ่งแทนที่จะล่องอยู่กลางลำน้ำกลับลอยเลียบมาตามฝั่งแล้วเกิดปะทะเข้ากับตัวแพโดยพายหลบไม่ทันทำให้ทั้งเรือทั้งคนมุดหายเข้าไปใต้ท้องแพอย่างรวดเร็วต่อหน้าต่อตาฝน พร้อมกับได้ยินเสียงโวกเวกโวยวายร้องเรียกให้ช่วยเป็นภาษาฝรั่ง ฝนถึงกับตกใจทำอะไรไม่ถูก ดีที่เอกศักดิ์ไวมาก รีบวิ่งไปอีกฟากของแพทางปลายน้ำแล้วกระโดดลงน้ำหายไปเลย คนบนแพก็พากันตกใจร้องให้ช่วยเสียงขรมไปหมด กระแสน้ำยามค่ำที่กำลังเชี่ยวกราก และความมืดที่ปกคลุมโดยรอบทำให้ฝนยิ่งรู้สึกว่าพื้นน้ำเบื้องล่างน่ากลัวมาก เพียงอึดใจก็เห็นเรือแคนูลอดผ่านแพออกมา พร้อมกับชายหนุ่มฝรั่งเพียงคนเดียวที่นอนแนบกับท้องเรือมา พอพ้นออกมาได้เขาลุกขึ้นตะโกนร้องเรียกเพื่อนสาวที่หล่นลงไปน้ำอย่างกระวนกระวาย แต่ไม่นานนักเอกศักดิ์ก็ลอยตัวขึ้นมาพร้อมกับรั้งร่างอีกคนตามขึ้นมาด้วย พ่อเลี้ยงกัณฑ์เลยเข้าไปช่วยรับตัวสาวแหม่มขึ้นมาจากน้ำ พร้อมกับโยงเชือกเรือแคนูของหนุ่มฝรั่งคนนั้นติดไว้กับแพให้เขาตามขึ้นมาพักด้วย พอขึ้นกันมาได้พวกเขากอดกันกลมเลยค่ะ เพราะฝ่ายผู้หญิงเสียขวัญร้องไห้ไม่ยอมหยุด

พวกเขาเล่าให้ฟังว่าไม่ทันสังเกตเห็นแพที่ตั้งยื่นเข้ามาในลำน้ำเพราะมันมืด พอเข้ามาใกล้ถึงได้เห็นแต่ก็พายเบี่ยงออกไม่ทันเพราะกระแสน้ำแรงมาก แล้วเขาไม่สวมเสื้อชูชีพกันด้วยนะจ๊ะ โชคดีที่ไม่มีใครจมน้ำตาย ท่าทางทั้งคู่คงลืมประสบการณ์มาเที่ยวเมืองไทยคราวนี้ไม่ลงแน่ ขนาดฝนยังถึงกับใจหายใจคว่ำหมดเลย เจอแบบนี้ไอ้ความอยากที่ฝนอยากล่องแพเมื่อครู่หายไปในพริบตา เอกศักดิ์เองยังยอมรับว่าอันตรายมาก ถ้าช่วยไม่ทันไม่รู้แหม่มจะถูกกระแสน้ำพัดไปถึงไหนแล้วยิ่งมืด ๆ อยู่ด้วย งานนี้เขาเลยกลายเป็นพระเอกอย่างไม่ตั้งใจ ฝนยังอดนึกชมในใจไม่ได้ว่าเพื่อนฝนนะเก่งและกล้า แต่ไหงคนกล้าพอขึ้นจากน้ำแล้วกลับมาอ้อนขอให้เช็ดหัวเช็ดตัวให้ก็ไม่รู้ ฝนเลยพลอยได้หน้านิดหนึ่งเพราะเป็นลูกสมุนคอยช่วยเหลือพระเอกไงจ๊ะ

แม่อ่านแล้วอย่าเพิ่งใจหายใจคว่ำไปกับฝนด้วยนะคะ เพราะเรื่องตื่นเต้นยังไม่หมดแค่นั้น อาทิตย์ที่แล้วฝนเพิ่งไปเที่ยวน้ำตกในป่ามาจ้ะ แอบหนีเจ้านายไปเที่ยวกับเจ้าวีและอ้อน ขับมอเตอร์ไซค์ขึ้น ๆ ลง ๆ เขากันไปเพราะช่วงหน้าฝนทางมันลำบากเป็นหลุมเป็นบ่อ ตรงไหนเป็นหลุมใหญ่ ๆ พวกเราต้องลงจูงรถกันแทน ทางดีหน่อยก็ค่อยขับกันต่อไป ครั้นจะยืมรถกระบะของคนงานไปก็กลัวรถเขาจะเจ๊ง หรือถ้าเกิดรถติดหล่มขึ้นมาคงหาคนไปยืนบนหลังกระบะเพื่อขย่มเอารถขึ้นตอนเราเร่งเครื่องไม่ได้เสียด้วย ดีไม่ดีต้องเดินกลับมาตามคนงานในไร่ไปช่วยอีกต่างหาก ไม่ได้เที่ยวกันพอดี ถ้าจะให้ดีก็ต้องเป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อของที่ไร่ ซึ่งเราไม่อยากไปขอพ่อเลี้ยง (จะหนีเที่ยวจ้ะ)
กว่าพวกเราจะไปถึงน้ำตกกันก็เล่นเอาเหนื่อย เพราะเดินจูงมอเตอร์ไซค์กันมากกว่าจะได้ขี่ แต่สนุกและมันมาก ไม่เคยขี่มอเตอร์ไซค์ขึ้นเขาลงห้วยแบบนี้มาก่อนเลย เวลาลมตีหน้าแต่ละทีรู้สึกปลอดโปร่งเย็นหัวมากเลย

แต่พอไปถึงน้ำตก ฝนก็หายเหนื่อยทันทีเหมือนกัน น้ำในแอ่งเป็นสีเขียวมรกตสวยน่าเล่นมาก นาน ๆ ทีฝนถึงจะเห็นน้ำตกเป็นสีเขียวแบบนี้ ที่นี่มีแอ่งน้ำตั้งหลายแอ่งให้เลือกลงเล่นกัน แต่ด้วยความซุกซน พวกเราก็พากันเล่นมันทุกแอ่งเลยจ้ะ ทีนี้ละเกิดเจอดีจนได้ เพราะระหว่างทางขึ้นไปยังน้ำตกชั้นบน ก้มหน้าก้มตาเดินขึ้นเขากันอยู่ดี ๆ เจ้าวีดันร้องเฮ้ยขึ้นมา ฝนยังเอ็ดมันอีกว่าร้องทำไม แต่พอวีชี้ไปข้างทางเท่านั้นแหละ สติฝนกระเจิงไปเลยจ้ะ เพราะเห็นงูตัวใหญ่เท่าขายาวเป็นวาสีดำเมื่อมเข้าให้ ทั้งฝนทั้งเจ้าวีพร้อมใจกันหันหลังกลับโดยไม่ต้องมีใครบอก พลางฉุดมืออ้อนที่กำลังยืนนิ่งขึงอยู่กับที่วิ่งหน้าตั้งกลับลงมาอย่างไม่คิดชีวิต วิ่งกันไว้ก่อน ไม่ทันได้หันกลับไปมองหรอกว่าที่จริงแล้วเจ้างูตัวนั้นมันก็วิ่ง เอ๊ย... คลานหนีพวกเราไปคนละทิศละทางเหมือนกัน กว่าจะถึงตีนเขาก็พากันหอบหมดเรี่ยวหมดแรงไปตาม ๆ กัน

โชคดีที่ขากลับพวกเราโบกรถขนวัวได้ เจ้าของรถเขากำลังจะเข้าไปไปรับซื้อวัวในหมู่บ้านชาวเขาถัดขึ้นไปจากไร่ของเรา เลยได้พลอยอาศัยขนเอามอเตอร์ไซค์ขึ้นกระบะท้ายที่เต็มไปด้วยหญ้าแห้งสำหรับไว้ให้วัวกิน ส่วนพวกเราก็ยืนเกาะกรงโยกไปเยกมาตามจังหวะรถที่วิ่งไปตามหลุมตามบ่อจนถึงไร่ ละอองฟางเต็มหัวเต็มหูไปหมด พอพวกคนงานเห็นเราเข้าเท่านั้นแหละ หัวเราะขำกันซะท้องคัดท้องแข็ง ล้อพวกเราว่าเป็นวัวที่เขาเอามาส่ง ยิ่งอีตาพ่อเลี้ยงด้วยแล้วถึงกับหัวเราะเสียงดังกว่าใคร น่าโมโหจริง ๆ

เฮ้อ...โม้จนเหนื่อยหมดแรง สงสัยต้องไปนอนก่อนดีกว่านะจ๊ะ ตอนนี้ดึกมากแล้ว กลัวพรุ่งนี้ตื่นสายจะโดนหัวหน้าเอ็ดเอา

พ่อกับแม่รักษาสุขภาพดีดีนะคะ รักและคิดถึงที่สุดเล้ย

น้ำฝน

ปล คิดถึงดุกดิกด้วยจ้ะ




Create Date : 27 พฤษภาคม 2549
Last Update : 27 พฤษภาคม 2549 19:04:23 น. 0 comments
Counter : 191 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธราธร
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




หากมิเริ่มเพียงก้าว
เจ้าตรองดู
ฤาหาญสู้
อุปสรรคอีกนับพัน
Friends' blogs
[Add ธราธร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.