วันนี้เราจะไป...เพชรวารินทร์ รีสอร์ท
จั่วหัวกันไว้ก่อนว่าวันนี้จะเดินทางไปไหน เพราะไม่อย่างนั้น กว่าจะไปถึงผู้ที่ติดตามอ่านตั้งแต่ต้น อาจจะหลงทิศ หลงทาง ว่ายาย จขบ. จะพาไปไหนกันแน่ เพราะบ้าน้ำลายเหลือเกิน
ได้มีโอกาสไปสำรวจที่พัก สำหรับจัดสัมมนาประจำปีของบริษัทฯ ไปตั้งแต่เดือนนู้นน ของปีที่แล้ว ถือว่ามีงานที่ดี มีโอกาสได้เดินทาง เก็บรายละเอียดเพื่อนำมาประกอบการพิจารณา ดังนั้น ก่อนที่เราจะออกเดินทางไปยังที่หมาย เราต้องแวะไปทำงานอื่นให้กับบริษัทฯก่อน วันนี้ออกมาพร้อมน้องบัญชี ไปกันสองหญิงนี่ล่ะ จะบอกว่าสองสาว ก็ไม่สาวแล้วน่ะนะ..มากับบัญชี ก็ต้องเป็นเรื่องเงินทอง เราแวะไปเก็บเช็คกันก่อนที่ รง.ลูกค้า ซึ่งขากลับเราต้องผ่านร้านนี้
ร้านโปรด ข้าวหมกไก่ ก๋วยเตี๋ยวแกง..เฮ้อ..ถ้ารู้ว่าจะผ่านร้านนี้ เราคงไม่กินไรมาก่อนแน่นอน น้องเค้าสั่งข้าวหมก กะน้ำเก็กฮวย น่ากิ๊น น่ากิน ทั้งที่อิ่มแสนอิ่ม ก็สุดจะห้ามใจกับ วุ้นมะพร้าว น้ำมะพร้าว พร้อมกะลูกชิ้นปิ้ง อีก 20 ไม้ ไม่ได้ คิดดูเหอะ ถ้าไม่อิ่มมาก่อนจะขนาดไหน ..เรื่องกินนี่ไม่ยอมใครเลยจริงๆ
ขับๆไป ในรถอากาศเริ่มร้อน ทั้งที่เปิดแอร์ เอ๊ะยังไง...ก็เลยแวะพาตรวจสภาพกันหน่อย เดินทางกัน 2 หญิง ที่ไม่มีความรู้เรื่องเครื่องยนต์ด้วยกันทั้งคู่ จอดให้ช่างดูหน่อยเหอะ..ก็นอกจากจอดให้ช่างจัดการให้กลับมาเย็นเหมือนเดิม เราก็ยังแวะกันเรื่อยไปแหละ..เพราะว่าไม่ได้รีบร้อนอะไร แจ้งทางรีสอร์ทไว้แล้ว
เส้นทางผ่านอุโมงค์ต้นไม้ และเลาะเลียบคลองชลประทานที่มีดอกซอมพอแสด ปลูกอยู่เลียบคลองชลประทาน ดอกซอมพอแสด บอกแบบนี้บางคนอาจจะงง..ว่าเอ๊..ดอกอะไร ก็ หางนกยูงแหละค่ะ เวลาเห็นดอกไม้ จะคิดถึงภาษาถิ่นก่อน แล้วถึงจะคิดออกเป็นภาษากลาง..
กว่าจะมาถึงที่พักได้ ก็บ่ายโข...เออ.. ก็ไม่ได้รีบไม่ใช่เหรอคะ..แหะๆ พักหลังๆมานี่ ชอบดองเค็ม..ดองเอาไว้ พอไหไหนเค็มได้ที่ ก็เปิดออกมารีวิว แต่รับรองว่าแต่ละไหที่เปิดออกมาสะอาด ไม่ปนเปื้อนเมลานีน..หุหุ สำหรับไหนี้ก็...เพชรวารินทร์รีสอร์ท.. 248 หมู่ 11 ต.กลัดหลวง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี เคยเห็นรีวิวในห้องนี้แหละ ตอนปี 48 ตอนนั้น ป้ายรีสอร์ท ยังไม่มีต้นไม้เยอะขนาดนี้เลยนะ
ช่วงนี้ฝนตกแทบจะทุกวัน เผื่อใครที่เบื่อทะเล อยากไปนั่งเล่น นอนเล่น ในเรือนพักแบบไทยๆ ที่แวดล้อมไปด้วยต้นไม้เขียวๆ และ ไปนั่งอ่านหนังสือ มองสายน้ำ อ่ะ ก่อนจะร่ายยาวไปกว่านี้
ติดต่อห้องพักกันเลยแล้วกัน..อาคารพะเนินทุ่ง โถงกว้าง หลังคาสูง..โปร่ง สบาย
มีส่วนรับรองลูกค้าติดต่อห้องพัก
ถ้าสัมภาระลูกค้าที่เข้าพักเยอะหน่อย ก็มีเจ้าเหลืองนี่ไว้ค่อยบริการ เพราะส่วนห้องพักต้องอ้อมตัวอาคารพะเนินทุ่งลงไปด้านล่าง
แต่วิสกี้มิได้ใช้บริการเจ้าเหลือง ด้วยว่ามีกระเป๋าเสื้อผ้าแค่ใบเดียว และ มีสองขาอันแข็งแรงประหนึ่งขาโต๊ะสนุ๊ก ไว้บริการตัวเอง ตรงตัวกะคอนเซ็ปต์ของตัวเอง ไม่สวย แต่มีสมอง(น้อยๆ) และ เป็นมิตรกะสิ่งแวดล้อม ทางเดินลง มีสองแบบ อย่าเพิ่งงงและสงสัย ว่าวิสกี้ถ่ายรูปบันได้มาทำไม
ก็จะเอามาเล่าแหละ ว่าบันไดสองแบบนี้ต่างกันยังไง เป็นบันไดที่ขึ้นลงจุดเดียวกัน ทำไมต้องทำ 2แบบ แบ่งตามคนใช้งานคะ ด้านที่ทาสีครั่ง สำหรับลูกค้าใช้ และ อีกด้านที่เป็นซีเมนต์ไม่ทาสี สำหรับพนักงาน..มียังงี้ด้วย
วันนี้เราจะพักกันที่เรือนนี้ เรือนกรรณิการ์.. แล้วทำไมตัวเองต้องถ่ายรูปเรือนพักให้ติดคาคบไม้แบบนี้ด้วยนะ ไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ แต่ ..นี่ล่ะ เรือนหลังนี้แหละ ภายในมีสองเตียง..(ไม่กล้าบอกว่าเตียงคู่หรือเตียงเดี่ยว เพราะยังสับสนความหมายเรื่องเตียงคู่-เตียงเดี่ยว)
เอาเป็นว่า มีสองเตียง กะอีกหนึ่งม้านั่งบุผ้านุ่มขาว...แล้วกัน ง่ายๆ ทีวี ตู้เย็น..มาตรฐานห้องพักมีครบห้องน้ำ ก็ทั่วๆไป มีห้องกระจก น้ำร้อน น้ำเย็น ที่ลืมถ่ายรูปมาให้ชมกัน ถ่ายแต่มุมกระจก กะเสื้อคลุมอาบน้ำ มาให้ชมกัน
ระเบียงหน้าบ้าน มีที่ให้นั่งหย่อนใจ ชมนก ชมไม้ เก้าอี้ไม้เบาะผ้าหนานุ่ม ขาวสะอาด ...คิดถึงหนังสือเล่มโปรด กับมุมๆนี้..ฮ้า
ระเบียงมีสองระดับ ถ้าไม่ชอบอะไรแบบนุ่มตูด..ก็ย้ายตูดมานั่งตรงนี้ ..ม้านั่งแข็งๆ
และ พอค่ำมืดตรงนี้ก็เป็นจุดนั่งรับน้ำค้างเพราะนอกชายคา มาถึงก็บ่ายแก่แล้วน่ะนะ..พอทำนู่นนิดนี่หน่อย ก็เย็นย่ำค่ำแล้ว...พรุ่งนี้เช้า ค่อยว่ากันใหม่เรื่องรูปภาพ อาบน้ำ..ไปหาอะไรกินกันก่อน สำรวจสถานที่แล้วต้องสำรวจรสชาติอาหารด้วย
วันนี้วิสกี้ ขอแปลงร่างเป็นเจ้าตัวเขียวแล้วกัน เพราะมากับคนไม่ดื่ม...มันเหง๊า...เหงา หากต้องชงอยู่คนเดียว หุหุ เรียกว่า เอนอิงพิงเขนย กันตอนกินข้าวนี่ล่ะ เพราะนั่งกับพื้น มีหมอนสามเหลี่ยม ทำให้คิดถึงละครทีวีที่ดังตอนนี้ นางทาส ก็เลยคุยกันสนุกๆ ว่าสมมุติว่าพี่เป็น คุณหญิงย้วย แล้ว น้องก็เป็นคุณหญิงย้อย นะ (มากันสองคน ก็ฮากันไป)..
เป็นหญิงที่บริโภค ได้แมนมาก..เราเลยมีหน้าตาอาหารมานำเสนอ ดังนี้
บริเวณโดยรอบของห้องอาหาร ก็ประมาณนี้ ..ชอบมุมนี้ที่ซู๊ด..ชอบของที่อยู่ในโหล อยากชิม..ไม่รู้มีสูตรไหนบ้าง ที่ชินๆหูกันก็ โด่ไม่รู้ล้ม ช้างกระทืบโรง อันนี้คนเข้าใจสรรพคุณกันเยอะ คงไม่ต้องอธิบาย แต่เคยได้ยินกันบ้างหรือปล่าว กับสูตร ฮ่อสะพายควาย..ฮ่าๆ พอคุยกันเรื่องยาดอง ก็ทำให้คิดถึงสูตรนี้ขึ้นมา...เอาไว้ลองไปหาข้อมูลเพิ่มเติมกันดูเอาเองนะคะ..ทิ้งไว้ให้คิด แต่..วันนี้วิสกี้คงจะชิมไม่ไหวล่ะ เพราะสงสารเพื่อนร่วมห้อง ที่จะต้องทนดมกลิ่นที่ระเหยออกมาทางลมหายใจ คนไม่ดื่ม ก็เหม็นล่ะสิ ใช่มั้ย..
มีมุมของหวานเอาใจสาวๆ แต่เราจะบอกเสมอ ไม่ถูกกะเรา
อาหารเกลี้ยงจาน ก็นะ หนังท้องตึง หนังตาหย่อน..แถมมียานอนหลับขวดเขียว..กลับไปห้องพัก เอนหลังกันเหอะ..มีน้องผู้ชายตามมาส่ง ฉายไฟนำทาง เราก็ไม่รู้ว่าที่เค้าตามมาส่ง เพราะเป็นห่วงสวัสดิภาพของเรา หรือ เป็นห่วงสวัสดิภาพของผู้เข้าพักคนอื่นๆก็ไม่รู้นะ ฮ่าๆ..เอาเป็นว่าเค้าห่วงเรา คิดงี้ดีกว่า ยิ้มได้ ว่าเออ เราคงยังดูเป็นหญิงที่น่าเป็นห่วง (ห่วงว่าจะไปทำร้ายคนอื่น..น่ะสิ) เพราะหัวถึงหมอนก็ไม่ต้องพูดไรกันแล้ว อ้อ..มีเสียงหรีดหริ่ง เรไร ทั้งคืน
เช้าแล้ว..
ด้านข้างอาคารพะเนินทุ่ง จะมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ..ที่ทำให้นึกว่า ทำไม๊..ทำไม เราไม่ติดชุดว่ายน้ำมาด้วยนะ ปลอดคนซะขนาดนี้ การได้แหวกว่ายอยู่ในสระที่เห็นคงแบบ..อื้อฮื้อ...สุขสำราญมิใชน้อย
อาหารเช้า จัดบริเวณ สระว่ายน้ำข้างอาคารพะเนินทุ่ง พอดีว่า เราไปวันธรรมดา อาหารเลยจัดเป็นชุด แทนบุปเฟ่ต์ โต๊ะถูกจัดระเบียงด้านข้างของตัวอาคาร ที่ทำให้มองเห็นสภาพสวยงามโดยรอบ หน้าตาอาหารเช้า ประมาณนี้แหละเครื่องดื่มร้อนๆขนมปังหลากแบบแล้วก็โปรตีนล้วนๆ โปรดจานนี้แหละ...น้องเค้าได้แต่กินขนมปัง ก็ขอขนมปังเพิ่ม
หลังจากอิ่มท้อง เราก็พากันเดินเยี่ยมชมสถานที่ ว่ามีอะไรยังไงบ้าง ภายในรีสอร์ท ค่อนข้างกว้างขวาง มีสะพานเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ของรีสอร์ทที่อยู่อีกฝั่งแม่น้ำ และมองเห็นว่า มีการก่อสร้างเพิ่มเติม จนถึงตอนนี้ คงเสร็จไปแล้ว บริเวณริมแม่น้ำมีชุดม้านั่งพร้อมร่ม จัดวางไว้เลียบตลอดแม่น้ำ
มุมม้านั่งสบาย มีทุกหนทุกแห่ง ทั่วทั้งรีสอร์ท สำหรับการพักผ่อนจริงๆเลย ห้องพัก ก็มีทั้งพักเดี่ยว และ พักรวมเป็นหมู่คณะ ส่วนที่พักรวมเป็นหมู่คณะฯ จะเป็นชั้นล่างของส่วนที่เป็นร้านอาหาร (เรือนทองหลาง) บ้านพักแต่ละหลัง เป็นบ้านไม้ บรรยากาศไทยๆ แต่กิจกรรมภายในรีสอร์ท มีแค่สปา และ นวดแผนไทยเท่านั้น ต้องบอกว่า ที่นี่เน้นการมาเพื่อพักผ่อนจริงๆ
สำรวจทุกอย่างได้ตามที่ต้องการแล้ว ก็สรุปว่า ปีนี้ คงเลือกที่นี่แหละ เพราะเงียบ สงบ สวยงาม อาหารอร่อย การดูแลพื้นที่ภายในจัดแต่งเรียบร้อย พนักงานสุภาพ ตอนเดินกลับจากกินข้าวเมื่อคืน พนักงานที่เดินตรวจตราบริเวณโดยรอบ ยังเดินเป็นเพื่อน ฉายไฟ จนถึงห้องพัก ที่ยังไม่รู้ว่าด้วยความเป็นห่วงความปลอดภัยของเรา หรือ เป็นห่วงความปลอดภัยของผู้เข้าพักคนอื่น...ฮ่าๆ...ก็คงต้องเก็บข้าวของกลับ กทม.แล้วล่ะ..ได้ทุกอย่างตามที่ต้องการแล้ว
อ้อ..เกือบลืม เรื่องข้อขัดข้อง โซนเรือนพัก จะรับคลื่นของดีแทคไม่ได้ค่ะ รับได้เฉพาะ เอไอเอส แต่ส่วนต้อนรับอาคารพะเนินทุ่ง ไม่มีปัญหาเรื่องการใช้งานนะคะ
ขากลับ เราก็แวะรายทางมองหาของฝากตามรายทาง ก็เก็บภาพของฝากเมืองเพชรมาฝากกัน ผลไม้หลากหลายชนิด น้ำตาลสด มะนาว นะ...ยิ่งทำให้รู้สึกว่า จะมีบ้านไหนเมืองไหนอุดมสมบูรณ์แบบบ้านเราไหมหนอ..เที่ยวเมืองไทย สุขใจทุกครั้งที่ได้ไป เหมือนดังสโลแกน...เที่ยวเมืองไทย ไม่ไปไม่รู้...ใช่มั้ยๆ...ช่ายยย
Create Date : 04 กรกฎาคม 2552 |
|
8 comments |
Last Update : 5 กรกฎาคม 2552 10:55:13 น. |
Counter : 8558 Pageviews. |
|
|
|
ยินดีต้อนรับสู่เมืองเพชรบุรีค่ะ
ถ้าทราบก่อนหน้านี้จะทำอาหารทะเลไปฝากเจ้าคร๊าาา