เป็นธัญพืชที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอุดมไปด้วยวิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี3 วิตามินบี5 วิตามินบี6 วิตามินบี9 และวิตามินไบโอติน โคลีน ไอโนสิตอล กรดพาราอะมิโนแบนโซอิก สารเหล่านี้จะช่วยบำรุงประสาทให้เป็นไปอย่างปกติ นอกจากนี้ในงายังมีกรดไขมันไลโนเลอิกอยู่มากด้วยเช่นกัน ซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการเจริญเติบโต และสามารถเก็บความขุ่มชื้นของผิวหนังได้ดี กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า งามีแคลเซยมมากกว่าพืชผักชนิดอื่นถึง 40 เท่า มีฟอสฟอรัสมากกว่าพืชผักอื่นๆ 20 เท่า ซึ่งธาตุทั้ง 2 ชนิดนี้เป็นแร่ธาตุที่สำคัญมากๆ ในการเสริมสร้างกระดูก งา เป็นอาหารที่มีแร่ธาตุมาก ที่สำคัญคือธาตุเหล็ก ไอโอดีน สังกะสี แคลเซียม ฟอสฟอรัส โดยที่สารอาหารแต่ละชนิดให้ประโยชน์ดังนี้
ธาตุเหล็ก บำรุงเลือด
ธาตุไอโอดีน ป้องกันโรคคอพอก
ธาตุสังกะสี บำรุงผิวหนัง
ใน#งายังมีกรดไขมันไลโนเลอิกอยู่มาก ซึ่งกรดไขมันนี้จำเป็นต่อการเจริญเติบโต จำเป็นต่อความชุ่มชื้นของผิวหนัง เพราะเป็นส่วนประกอบของผนังเซลล์ ไลโนเลอิกยังช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือดอีกและที่สำคัญงายังเป็นอาหารต้าน#มะเร็งด้วย นักวิทยาศาสตร์หลายท่านกล่าวว่า สารเซซามอลที่มีอยู่ในงานั้นป้องกันมะเร็งได้ และยังทำให้ร่างกายแก่ช้าลงอีกด้วย คุณค่าทางโภชนาการในงา 100 กรัม
พลังงาน 528 กิโลแคลอรี
ไขมัน 52.8 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 19.8 กรัม
เส้นใย 5.4 กรัม
โปรตีน 17.2 กรัม
แคลเซียม 750 มิลลิกรัม
โพแทสเซียม 674 มิลลิกรัม
วิตามินเอ 5 IU
วิตามินบี1 0.72 มิลลิกรัม
วิตามินบี2 0.17 มิลลิกรัม
ไนอาซีน 5.1 มิลลิกรัม
สรรพคุณทางยาของงา คือเมล็ด งามีไขมันช่วยให้ร่างกายอบอุ่น เป็นยาบำรุงกำลัง เป็นยาระบายอ่อนๆ ส่วน น้ำมันงาใช้ทาผิวทำให้ผิวหนังชุ่มชื้นป้องกันผิวแตก
Line ID THAIHERBWEB และ THAIHERBWEB1
เบอร์โทร 0973199029, 0805842717, 021387031, 0863515214