ทำไม การทำบล๊อค มันยากยังงี้นะ
 
มกราคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
22 มกราคม 2553

ตัดสินใจไปกับทัวร์ 4000 ปี ท่องเที่ยวTakayama & Shirakawa-go



ก่อนเดินทางท่องเที่ยว เป็นช่วงที่สนุก ตื่นเต้นในหาข้อมูล เตรียมการ จัดการเรื่องต่างๆ

ไม่เคยมีความคิดที่จะไปร่วมทริปกับผู้อื่นโดยการไปกับทัวร์เลย
ครั้งนี้เป็นครั้งแรก


เราเลือกไป Takayama, Kanazawa และ Shirakawa--go
จุดนัดกันที่ Yaesu North Gate, Tokyo Station

สมาชิกกลุ่มเรา มี 28 คน อีกกลุ่ม 32 คน แต่ละคนไม่น่าต่ำกว่า 65 ปี
จึงเป็นกลุ่มทัวร์ 4000 ปี


เดินตามธงฟ้า








ก่อนหน้านี้มีแผนการนั่งชินกันเซนทั่วญี่ปุ่น แต่ยังไม่มีโอกาส
เลยเก็บข้อมูลเรื่องรถไฟเพิ่มขึ้น

เดินมาเจอชินคันเซน จูจุ๊ปกันอยู่ แต่ไม่ใช่คันของเรา









ของเรามาแล้ว








Nagano Shinkansen (Asama 505) จะพาเราไปถึง Ueda Station, Nagano ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 20 นาที

กลุ่มเราติดป้ายฟ้า เดินตามธงฟ้า
อีกกลุ่มติดป้ายเขียว เดินตามธงเขียว

นั่งชินคันเซนโบกี้เดียวกัน เบอร์ห้า แต่ไม่....เห่อ นะคะ











ก่อนถึง Nagano ผ่าน Asama Mt. ชื่อเดียวกับชินคันเซนของเรา







จาก Ueda Station ไป Takayama

เราแยกกลุ่มธงฟ้าและกลุ่มธงเขียว ขึ้นรถบัสคนละคัน
สิ่งที่กลัวว่าต้องให้แนะนำตัวกัน ทำความรู้จักกันแบบภาคบังคับ ไม่เกิดขึ้น โล่งใจมาก

รู้สึกผ่อนคลาย ต่างคนต่างซึมซับบรรยากาศของตัวเอง








รถวิ่งตามทางหลวงแล้วเริ่มแยกเข้าทางย่อย







จอดแวะให้เข้าห้องน้ำ ยืดแข้งยืดขา ระหว่างทาง 1 ครั้ง







ผ่านเขื่อน ข้ามสะพาน ลัดเลาะไปตามทางระหว่างเขา
บางช่วงลอดอุโมงยาวถึง 11 กม.








ระว่างทาง วิวที่เห็นเริ่มขาวขึ้น ขาวขึ้น สวยขึ้น สวยขึ้น
มีหิมะหนาขึ้น หนาขึ้น







จาก Ueda Station ไป Takayama นั่งรถประมาณ 3 ชั่วโมงกว่า
แต่ถ้าจะคุยกับคนญี่ปุ่นต้องบอกว่าใช้เวลา 3 ชั่วโมง 17 นาที ระบุตัวเลขให้ชัดเจน ฮิฮิ


รถพามาถึง Takayama จอดที่ Takayama Betsuin Temple Storehouse
เวลา 12.15 น



















เรามีเวลา 2 ชั่วโมงอิสระ
หัวหน้าธงฟ้าแจกแผนที่เมือง และให้เกร็ดเล็กเกี่ยวกับการเดินเล่นในเมืองนี้
อาหารที่ชึ้นชื่อของเมืองนี้คือ เนื้อฮิดะ ราเมง และโซบะ

วันนี้อยู่ในช่วงที่มีพายุหิมะเข้าญี่ปุ่น จึงมีหิมะตกมากระหว่างเดินเล่น
ร้านรวงต่างๆเปิดไม่เยอะ แต่เราก็เพลิดเพลินกันมาก

บนถนนสายใหญ่ในเมืองชื่อ Kokubunji St. ลักษณะร้านต่างๆเป็นบ้านไม้แบบเก่า มีร้านอาหารเปิดอยู่บ้าง











เหล่าคุณลุง คุณป้า กระฉับกระเฉงกันมาก
แป๊บเดียวก็แยกย้ายสลายตัวไปตามซอกซอย

เราเดินมาจนเห็นร้านในซอยฝั่งตรงข้าม
ความรู้สึกมันบอกว่าต้องเป็นย่าน Little Kyoto แล้วก็ใช่จริงด้วย







ร้านต่างๆน่ารักมาก




















ร้านหมอฟัน วันนี้ปิดทำการ






เดินต่อ มีทั้งซ้าย และขวา


















แวะชม







แวะชิม
Nigorizake สาเกสีน้ำนม
ที่ร้านนี้บริการส่งถึงบ้าน ค่าส่งอย่างต่ำแค่ 600 เยน สะดวกมากไม่ต้องหอบหิ้วเอง












พิพิธภัณฑ์เล็กๆ







ที่มีป้ายบอกว่า เปิดตลอด 365 วัน






แต่วันที่เราไปนั้น เขาปิด เพราะมีสมาชิกเสียชีวิต

ทำให้คิดถึงเหตุการณ์เมื่อปีที่แล้ว ตั้งใจไปออนเซน ที่ Hakone
แต่เมื่อไปถึงกลับปิด
มานั่งคิดดูว่า ปีนึง มีตั้ง 365 วัน ทำไม เราถึงไม่มาในวันที่เหลือ 364 วันที่เขาเปิด
ทำมั๊ย ทำไม ถึงต้องมาในวัน 1 วันที่เขาปิดด้วยน๊า



















ช่วงที่เดินเล่น ได้เจอหนุ่มๆคนไทย 4 คนมาเที่ยวด้วย ทักทายกันเล็กน้อย

เราแยกมาหาอะไรรองท้อง
เจอร้านโซบะ Nogawa














ลองเทมปุระ โซบะ

เส้นโซบะที่นี่ เป็นเส้นเล็ก เหนียวหนึบดี







เดินต่อ ข้ามสะพานแดง Nakabasi Bridge







ถึงTakayama Jinja ในแผนที่บางฉบับเขียนว่า Historical Government House
สมัยก่อน ในยุคโชกุนรุ่งเรืองอำนาจ ใช้ที่นี่เป็นกองบัญชาการ


















เดินต่อ เจอร้านซูชิเนื้อวัว
หน้าตาเหมือนโอโทโร่เลย







นี่ก็อีกร้าน








ข้ามสะพานเขียว Yanagibasi Bridge







เดินตามถนนเส้นเล็ก มีแมวเหมียวกวักมือ หลายตัว








มาเจอร้านราเมง (มีสมาชิกในพันทิปบอกว่าร้านนี้มีราเมงเนื้อวัว)








เดินจนถึง Hida Kokubunji
ในแผนที่ฉบับภาษาอังกฤษใช้ชื่อว่า Nara-Period State-Support Temples

สัญลักษณ์ของที่นี่คือเจดีย์ 3 ชั้น
แต่กล้องกระป๋อง และฝีมือของเราทำให้ได้ภาพแค่นี้















ที่นี่มีศาลและรูปปั้น Sarubobo







ถึงที่หมายสุดท้าย Sakurayama Hachimongu Shrine
ศูนย์กลางการจัดงาน Takayama Spring Festival April 14th.- 15 th.
& Takayama Autumn Festival October 9th.-10th.





















เกือบใกล้เวลานัดแล้ว
เดินกลับ














ระหว่างทาง
สังเกตร้านค้า บนหลังคาหน้าร้าน จะมีรูปปั้นเทพเจ้า Daikokuten ตั้งไว้ด้วย
มีความเชื่อว่าเป็นเทพเจ้าที่ช่วยเรียกเงินเข้าร้าน








ร้านนี้ก็มี







เราไม่ได้ค้างคืนที่ Takayama เลยพลาดตลาดเช้า Miyagawa Asaichi
ที่พวกชาวบ้านนำของมาขาย ทั้งของกิน ของใช้และงานฝีมือ

เหล่าสมาชิก คุณลุง คุณป้า ตรงเวลากันดีมาก
รถเริ่มออกจาก Takayama มุ่งหน้าไปยังเมือง Kanazawa ที่เป็นที่พักทั้ง 2 คืน















ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงบนรถ หิมะยังตกตลอดทาง

เข้าที่พักที่ APA Hotel, Kanazawa-Chuo
ห้องค่อนข้างเล็กมาก เป็นแบบBusiness Hotel











วันรุ่งขึ้น ตามโปรแกรมเป็นเวลาอิสระ แต่เราเลือกข้อเสนอโดยจ่ายตังเพิ่มเพื่อพาเที่ยวทั้งวัน

อาหารเช้าที่โรงแรม เป็นบุฟเฟต์ขนาดเล็กๆ


























ทัวร์วันนี้เริ่มจากพาไปชมสวน Kenrokuen สวนแบบเซนที่มีชื่อ 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น
นอกจาก Koraku-en in Okayama and Kairaku-en in Mito

วันนี้อากาศหนาวมากกกก เดินไป หนาวสั่นไป
แถมกล้องกระป๋องมีปัญหาอีก หมดอารมณ์ชมสวนไปเยอะเลย











ก้อนหินหัวมังกร











เวลาที่หิมะตก มักจะค้างบนกิ่งไม้
ซึ่งอาจทานน้ำหนักไม่ไหว จนทำให้กิ่งไม้หักได้ ที่นี่จะมีเชือกช่วยพยุงกิ่งก้านต้นไม้












ก่อนกลับ แวะชม Winter Sakura
เป็นซากุระพันธุ์หนึ่งที่ออกดอกหน้าหนาว แต่เราก็มาช้าไป เหลือไม่กี่ดอก







ไปต่อ

Eiheiji วัดเซน ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่ง อยู่ที่เมือง Fukui, Fukui Prefecture
























ที่วัดนี้อยู่บริเวณหุบเขาอุดมด้วยต้นไม้ มีถึง 70 อาคาร เชื่อมด้วยทางเดินที่มีหลังคา

เข้าไปถึงเปลี่ยนรองเท้า พระนำไปในห้องฟังคำบรรยายอย่างย่อ
และปล่อยให้เดินชมอาคารต่างๆเอง ตามลูกศรที่ติดไว้

*****ถ่ายรูปสถานที่ได้ แต่ห้ามถ่ายรูปพระในวัด

















เราสามารถจะพักที่วัดนี้ได้ แต่ต้องติดต่อมาก่อน
มีค่าใช้จ่ายประมาณคืนละ 8,000 เยน รวมอาหารให้ด้วย

แต่ถ้าใครตั้งใจมาฝึกสมาธิ ปฏิบัติตามวิถีแห่งเซนแบบโซโตชู Sotoshu
นานหลายคืนราคาที่พักจะถูกลงประมาณคืนละ 2000 เยน


ตามคุณลุง คุณป้า
เดินเก่งกว่าเราซะอีก







ถึงแม้ว่าวัดจะเก่าโบราณ แต่มีระบบบางส่วนที่ทันสมัย
เช่น ระบบไฟฟ้า มีลิฟท์สำหรับคนพิการ
และที่เห็นคือ เครื่องปั๊มหัวใจฉุกเฉิน ที่แขวนไว้ช่วงระเบียงทางเดิน








มองไปด้านนอก







ใกล้ทางออกแล้ว











ออกจากวัด เดินไปรับประทานอาหารกลางวันแบบพระที่วัด
เรียกว่าshojin ryori แต่เรานั่งในร้านอาหารแทน








อาหารเซตนี้มี
ข้าว 1 ถ้วย
โซบะ 1 ถ้วย
เต้าหู้ขาว
ผักดองต่างๆ
ไข่หวาน แผ่นบุก













Tororo เป็นแป้งเหนียวๆหนืดๆเหมือนชีส ทำจาก Yamaimo
(Mountain Potato) ปอกเปลือกมัน แล้วบดเนื้อมันให้ละเอียด จนเหลวข้น
เวลารับประทานใช้ตะเกียบกวนให้เข้ากันอีกที่แล้วราดบนข้าว

ของหวาน รสชาติเหมือนพุดดิ้งทำจากงาดำ








แผ่นฟองเต้าหู้ห่อผักต่างๆนึ่ง นำมาใส่ลงในน้ำซุปใส เหนียวข้น
รสหวานอมเปรี้ยวเหมือนมิริน
















ออกจากวัด ทัวร์พาแวะร้าน Usagi no Ato แปลว่า กระต่ายในหมู่บ้าน







ทางร้านจะเลี้ยงกระต่ายให้เล่น เขาไม่ให้อุ้ม
แต่ให้เช่าถุงมือลูบเบาๆหรือป้อนอาหารเท่านั้น











ของในร้านจะมีแต่กระต่ายทั้งหมด และมีขนม















ขากลับรถแวะจอดให้ลงเดินเล่นในเมือง แล้วแต่ใครจะเลือก
Omicho Market ตลาดขายของ โดยเฉพาะอาหารทะเล
หรือ Korinbou ย่านห้าง ร้านดังๆ
กลับโรงแรมไปอองเซนข้างนอก ท่ามกลางหิมะโปรย











วันรุ่งขึ้น ทัวร์พาแวะร้านทำสินค้าปิดทองคำเปลว ได้ชิมชา โรยผงทอง







พวกเราใจลอยไปถึง Shirakawa-go แล้วจึงไม่มีใครสนใจสินค้าเท่าไร

จำไม่ได้ว่าใช้เวลาเท่าไร แต่ตื่นเต้นมากที่เห็นภาพหมู่บ้านระบบขาว-ดำ
หิมะโปรยไม่หยุด เหล่าคุณลุง คุณป้า เตรียมตัวกันคึกคัก

รถหยุดที่ศูนย์บริการข้อมูล
//shirakawa-go.org/english/e_map.html






ธรรมดาจะมีรถบัสพาวิ่งเข้าหมู่บ้าน จอดให้ขึ้น-ลง ได้หลายจุด
แต่วันนั้นหิมะหนาเกิน จึงงด







เราเดินไปแล้วก็ต้องขอบคุณที่รถหยุดวิ่ง เพราะได้เห็นภาพที่สวยมาก
















ผ่านร้านเนื้อเสียบไม้ปิ้ง หอมเชียว







The Historic Villages of Shirakawa-gō and Gokayama เป็นชื่อเต็ม
ที่จดทะเบียนขึ้นเป็นมรดกโลกกับ ยูเนสโก

อ่านเพิ่มเติม

//en.wikipedia.org/wiki/Historic_Villages_of_Shirakawa-g%C5%8D_and_Gokayama


บ้านที่นี่มี หลังคารูปทรงมือพนม
The Gassho-zukuri, "prayer-hands construction"

เป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน ทางหลักสถาปัตยกรรม เมื่อมีหิมะตกลงมา
ด้วยรูปทรงของหลังคา จะช่วยให้หิมะไหลลงมากองกับพื้นรอบบ้าน
เมื่อหิมะทับถมรอบบ้าน ก็เป็นเหมือนกำแพงที่ช่วยป้องกันความหนาวเย็น
แถมยังช่วยเก็บความร้อนให้อยู่ภายในบ้านอีกด้วย




















แวะเข้าดูในบ้าน ที่เปิดให้เข้าชม
หลังนี้ ประมาณ 3 ชั้น
ผ่านประตูบานเลื่อน ด้านซ้ายมือเป็นบันไดขึ้นข้างบน
มองข้ามไปเห็น บริเวณทำอาหาร และเป็นแหล่งให้ความร้อนในบ้านอีกด้วย












ชั้นบน เก็บของใช้ต่างๆ เป็นเครื่องไม้เครื่องมือในการเษตรกรรม และดำรงชีวิต

มีทั้งเครื่องนวดข้าว สีข้าว เครื่องมือเลี้ยงไหม สาวไหม เครื่องทอผ้า
ถังหมักมิโสะ ถังทำโชยุ
อานม้า รองเท้าสกี เกะตะ
สารพัดสิ่ง





ออกจากบ้านไปหาอะไรกิน






สั่งโซบะและอุด้ง ไม่อร่อย
สั่งสาเกสีน้ำนมมาดื่มแก้หนาวดีกว่า

ถ้วยทรงสูง
Amazake สาเกที่ทำจากข้าวหมัก รสชาติหวานนน ไม่ค่อยมีแอลกอฮอล์

ถ้วยเล็ก
Doburoku สาเกพื้นบ้านแบบ(แอบ)กลั่นเอง แรงดี









หิมะ ท่วมท้นจนเข้าวัดไม่ได้








เดินไปศาลเจ้า ไหว้พระขอพร








อยากจะลองเทียบตัวเองกับขนาดของต้นสน แต่ กลับลงไปจมในกองหิมะ
สูงเท่าช่วงสะโพก









การเที่ยวกับกลุ่มคุณลุง คุณป้า เหมือนแค่ผู้ร่วมยานพาหนะเท่านั้น
ต่างคนต่างมีกิจกรรมส่วนตัวกันเอง
จบทริปนี้ด้วยความสุขล้นเหลือ







 

Create Date : 22 มกราคม 2553
1 comments
Last Update : 27 กันยายน 2553 23:03:27 น.
Counter : 1696 Pageviews.

 

หิมะตกหนักเลยนะค่ะ หนาวมากไหมค่ะ

ภาพสวย ดูจุใจดีค่ะ

 

โดย: ก้าวไปตามใจฝัน 23 มกราคม 2553 11:52:57 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


teddy bear in the box
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ
สาวใหญ่วัยกลางคน
มีความสนใจหลากหลายด้าน แต่ไม่เชี่ยวชาญชำนาญด้านไหนเลยจึงเป็นแค่มือสมัครเล่นในทุกๆอย่าง

ชอบเย็บปักถักร้อย ประดิษฐ์ของต่างๆด้วยตัวเอง
ชอบทำอาหารคาว หวาน เป็นแม่ครัวสมัครเล่น
ชอบดื่ม
ชอบสนทนากับผู้อาวุโส ผู้รู้ด้านต่างๆ
ชอบปาร์ตี้กับหมู่มวลเพื่อนๆคุ้นเคย
ปลูกต้นไม้
ท่องเที่ยว
อ่านหนังสือ
ฟังเพลง Soft Rock, Pop
ละครเวที
ดูหนัง ประเภทหนังชีวิต ตลก สนุกสนาน
และอื่นๆอีกมาก
แม้กระทั่งเรื่องทำงาน ทำการ ก็เป็นมือสมัครเล่น ทำงานที่บ้าน
ล่าสุด เป็นนักเรียนและแม่บ้านสมัครเล่น

ขอบคุณที่เข้ามารู้จักกันค่ะ

[Add teddy bear in the box's blog to your web]