|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
ชีวิตใหม่
กว่าพี่ตะวันจะได้ชีวิตนี้มา... โอย แม่แสนลำบาก เพราะแม่เอง มีโรคประจำตัวมากมาย จนไม่อยากบรรยาย เอาเป็นว่า เห็น ๆ ที่น่าเป็นห่วงน่าจะเป็นโรค "ลมชัก"
ซึ่งตอนที่แม่ตั้งท้องลูกชายแม่คนนี้ มิได้วางแผนไว้ล่วงหน้า ทุกคน ต้องบอกว่าทั้งตระกูล โดยเฉพาะญาติฝ่ายแม่ ตกอกตกใจ กันเป็นแถบ ๆ เพราะไม่แน่ใจว่าปลอดภัยขนาดไหน
แม่ปรึกษากับคุณหมอชัยชนม์ ที่โรงพยาบาลจุฬาฯ ก็ได้ความว่า ไม่เป็นไรมาก แค่ต้องระวัง และทานยาให้น้อยที่สุด หมอหยุดยาเกือบทุกตัว เหลือไว้แต่เพียงยากันชัก ซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องเก็บเอาไว้ พร้อมให้คำแนะนำว่า ให้เลือกเอา "ระหว่างแม่ชักระหว่างท้อง แล้วลูกขาดอากาศหายใจในท้อง.. ตาย" กับ "ลูกมีความเสียงในการเป็นเด็กปากแหว่ง กระดูสันหลังไม่ปิด" ซึ่งเป็นความเสียงที่ต่ำที่สุดในการเกิด ต่อ 1,500 คน
แต่แค่นั้นยังไม่ทำให้แม่สบายใจได้ แม่ฝากท้องที่โรงพยาบาลนนทเวช ที่เมืองไทย เพราะคิดว่าคงไม่ปลอดภัยทั้งแม่ และลูกหากคลอดอยู่ที่ประเทศลาว เพราะเราไม่ใช่แข็งแรงมาก แม่เทียวไป เทียวมา ระหว่างเวียงจันทร์ และกรุงเทพฯ ทุกเดือนเพื่อพบหมอตามนัด โดยไม่กล้าที่จะเลื่อนนัดแม้แต่นิดเดียว
แต่ช่วงระหว่างที่ท้องได้ประมาณสี่เดือน แม่ปัญญาอ่อนเอง คิดมาก เกินเหตุ กลัวลูกจะเกิดมาปากแหว่ง เพดานโหว่ หยุดค่ะ แอบหยุดกินยากันชัก โดยมิได้ปรึกษาใครแต่อย่างใด
แม่จำได้วันนั้นไปหาป้าน้อยหน่า ที่ธนาคารกรุงเทพฯ สีลม รอป้าหน่าเลิกงานตามปกติ พอตอนกลับบ้าน ระหว่างที่เดินผ่านหน้าโรงพยาบาลคริสเตียน สีลม (เลือกถูกเวลา) แม่ก็ชัก กระแด่ว กระแด่ว หน้าโรงพยาบาลพอดี
ทุกคนพาแม่เข้าโรงพยาบาล หมอพยายามที่จะขอตรวจวัดระดับยา ที่อยู่ในร่างกายว่าทำไมถึงชักได้ ทั้ง ๆ ที่กินยากันชักไว้แล้ว ถ้าระดับยาต่ำไปต้องปรับยาเพิ่มขึ้น อะไรทำนองเนี่ย
แม่รีบเฉลยอย่างแผ่วเบาว่า ไม่ต้องตรวจหรอก อย่างไรซะ ระดับยาต้องด่ำกว่าแน่นอน เพราะหยุดกินยา มาได้ 3 วันแล้ว แค่นั้นละ ทุกคนถึงบางอ้อ
แม่ถูกควบคุมให้กินยา อย่างเข้มงวด แต่ถึงไม่เข้มงวดก็ไม่กล้าเสียงอีกแล้ว พ่อของลูก ไม่กล้าแสดงความดีใจออกมา เพราะกลัวลูกไม่ปลอดภัย เค้าขอร้องแม่ไว้ว่า ให้จนกระทั่งถึง weeks ที่ 18 ที่หมอจะทำการ Test ในเบื้องต้นว่ามีความเสี่ยงที่จะผิดปกติหรือไม่ ถ้ามีถึงจะทำการตรวจด้วยการเจาะถุงน้ำคร่ำ
ผลตรวจออกมา ลูกมีความเสี่ยงต่ำมาก และลูกเป็นเด็กผู้ชาย แม่จำได้วันที่ฟังผล แม่กำลังเดินทางกลับกรุงเทพฯ เพื่อไปพบหมอ ฟังผล แต่แม่ให้ป้าน้อยหน่าโทรศัพท์ถามกับ เพื่อนที่ทำงานอยู่ในห้องแล็ปให้ เพื่อทราบผลล่วงหน้า (ไม่อยากลุ้น) พ่อของลูกจับหนังสือประเภทแม่และเด็ก การเลี้ยงลูกทั้งหลาย ทั้งแหล่ ที่ตอนแรกไม่กล้าหยิบจับขึ้นมาอ่าน แต่คราวนี้อ่านตลอดทาง เกือบตลอดเวลาที่ว่าง ทั้งภาษาอังกฤษ ฝรัง่เศส อินเตอร์เน็ต ขอให้เธอว่างเถอะ
จนกระทั่งลูกได้ 5 เดือน แม่ได้รับการทำอัลตร้าซาว์นด อีกรอบ เป็นการตรวจอย่างละเอียด เพื่อยืนยันอีกครั้งว่าลูกแม่สมบูรณ์ และแข็งแรง ซึ่งหมอก็บอกแม่ว่า ต่อให้ลูกไม่สมบูรณ์ ตามกฎหมายไทย หมอไม่มีสิทธิ์ตัดสินเอาออกนะจ๊ะ
แต่ลูกแม่แข็งแรงที่สุด จนถึงปัจจุบันนี้ แม่ว่าลูกแม่กินอะไรเข้าไปเน่ย แข็งแรงเหลือเกิน (เกินไป)
Yaowanart Boonpook THOMÉ
Create Date : 29 พฤศจิกายน 2552 |
|
4 comments |
Last Update : 30 พฤศจิกายน 2552 22:22:33 น. |
Counter : 782 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: หม่ามี๊ IP: 203.144.144.164 23 มกราคม 2553 12:31:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: ป้าน้อยหน่า IP: 110.164.111.240 30 มกราคม 2553 0:10:04 น. |
|
|
|
|
|
|
|