365วันของฉันมีแต่เรื่องการเดินทาง
<<
ธันวาคม 2559
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
12 ธันวาคม 2559

9 ที่เที่ยวอินเทรนด์กาญจนบุรีที่พลาดไม่ได้ในปี 2560



 

จังหวัดกาญจนบุรี เมืองที่ตอบโจทย์การท่องเที่ยวได้ครบรถ คุณจะพบหลากหลายความสุข สนุกที่นี่ ทั้งเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ความน่าอัศจรรย์ของธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวที่ถูกสร้างขึ้น ไปจนถึงอาหารการกินที่แสนอร่อย

1 สังขละบุรี

 

"สังขละบุรี" หนึ่งในอำเภอยอดนิยมสุดฮอต กระแสความแรงยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหน้าหนาว นักท่องเที่ยวชอบเดินทางไปหาความสนุก พักผ่อนอย่างมีความสุขในบรรยากาศเย็นสบาย

 

ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรีประมาณ 215 กิโลเมตร ไปตามทางหลวงหมายเลข 323 เส้นทางนี้ตัดผ่านภูเขาเลียบทะเลสาบเขื่อนวชิราลงกรณ์ มองเห็นความสวยงามตลอดเส้นทาง ณ จุดที่ลำน้ำสามสายมาบรรจบกันรวมเรียกว่า "สามประสบ"

ที่นี่มีชาวมอญอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก จึงสามารถพบเห็นวิถีชีวิตประเพณีเก่าแก่แบบดั้งเดิมของชาวมอญ สถานที่ท่องเที่ยวก็มีหลากหลาย ทั้งวัดวังวิเวกการาม เป็นวัดจำพรรษาของ "หลวงพ่ออุตตมะ"  สะพานมอญหรือสะพานอุตตมานุสรณ์ เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ข้ามลำน้ำซองกาเลีย ไฮไลท์ในการชมวิวสังขละ

การชม "เมืองบาดาล" ในอดีตเป็นวัดเก่าของหลวงพ่ออุตตมะ ตัววัดถูกน้ำเข้าท่วมในช่วงที่สร้างเขื่อน ทำให้จมอยู่ใต้น้ำมานานกว่า 30 ปีแล้ว กลายเป็นอีกหนึ่งอันซีนไทยแลนด์

2 พระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถคันธารราฐอนุสรณ์

 

ชื่นชมความงามและสืบสานทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา พระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถคันธารราฐอนุสรณ์ พระพุทธรูปปางขอฝนที่มีความงดงามด้านพุทธศิลป์ ศิลปะแบบคันธาระอันสมบูรณ์

พระพุทธรูปสำริดที่ได้รับการหล่อให้มีเนื้อบางและมีขนาดความสูงถึง 32 เมตร ซึ่งนับเป็นผลงานการสร้างพระพุทธรูปที่สะท้อนความเจริญของนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยมากที่สุดแห่งยุค

 

องค์พระตั้งอยู่ภายในอาณาบริเวณพื้นที่กว่า 320 ไร่ อันเป็นที่ตั้งของวัดทิพย์สุคนธาราม ณ ตำบลดอนแสลบ อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี ได้รับการออกแบบให้เป็น “พุทธอุทยาน” แวดล้อมด้วยพันธุ์ไม้ในพุทธประวัติ และสวนสวยเขียวขจีเป็นการสร้างเสริมระบบนิเวศน์และสภาพแวดล้อมที่ดีให้แก่พื้นที่

 

หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของกาญจนบุรีที่จะทำให้คุณประทับใจ

3 จามจุรียักษ์

 

ตื่นตากับความอลังการของต้นจามจุรียักษ์ที่ยืนต้นตระหง่านท้าทายกาลเวลาได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ มายาวนานกว่า 100 ปีอันเป็นความงามที่หาชมได้ยากแล้วในปัจจุบัน โดยต้นจามจุรีหรือก้ามปูยักษ์ต้นนี้ สามารถวัดขนาดของลำต้นได้เท่ากับ 10 คนโอบ รัศมีทรงพุ่มของต้นประมาณ 25.87 เมตร มีเส้นผ่านศูนย์กลาง ของร่มเงายาวประมาณ 51.75 เมตร สามารถวัดความสูงของต้นจากพื้นดินสู่ยอดได้ประมาณ 20 เมตรเลยทีเดียว

ความใหญ่โตที่มาพร้อมกับการแผ่กิ่งก้านสาขาสวยงามเกินคำบรรยายนี่เอง ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวแทบทุกคน เมื่อเดินทางมาเยือนจังหวัดกาญจนบุรีแล้ว ต้องแวะเวียนไปถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกคู่กับจามจุรีต้นนี้ราวกับ

 

ที่นี่คืออีกสัญลักษณ์หนึ่งของเมืองกาญจน์ไปแล้วโดยปริยาย

4 เมืองมัลลิกา ร.ศ.124

 

หากเปรียบเทียบ จ.กาญจนบุรี เป็นหญิงสาวๆ หลายคนคงคุ้นชินกับสาวน้อยคนนี้ในฐานะผู้หญิงที่มีหลากหลายบุคลิกให้เลือกค้นหา ไม่ว่าคุณจะหลงเสน่ห์ของกาญจนบุรีในมุมไหน รับรองว่าจากนี้ คุณจะหลงรักกาญจนบุรีมากขึ้น เมื่อหญิงสาวคนเดิมกำลังจะเผยมุมใหม่ให้ทำความรู้จักด้วยการเปิดตัวสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ อย่าง "เมืองมัลลิกา ร.ศ.124" แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมในยุคอดีตที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งเดียวในไทย และแห่งเดียวของโลก

สำหรับผู้มาเยือน เพียงก้าวผ่านประตูเมืองจำลองเข้ามา จะรู้สึกเหมือนราวกับได้เดินทางข้ามมิติมาสู่อีกช่วงเวลาหนึ่ง บนพื้นที่ 60 ไร่ภายในเมืองมัลลิกา ร.ศ.124 ประกอบด้วยเรือนไทย 4 ประเภท แต่ละเรือนจะสะท้อนภาพสถานะของผู้อยู่อย่างชัดเจน เริ่มจาก เรือนเดี่ยว เป็นเรือนชาวบ้าน เป็นที่อยู่ของชนชั้นกรรมมาชีพ ชาวนา มีหน้าที่ผลิตปัจจัยพื้นฐานในการยังชีพ ด้วยการทำไร่ ทำนา ทำสวน ปลูกผัก ณ เรือนนี้ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับภูมิปัญญาชาวบ้านอย่างแท้จริง ตั้งแต่การเก็บเกี่ยวผลผลิตเพื่อส่งต่อไปใช้ในเรือนครัว กระบวนการสีและตำข้าวแบบโบราณเพื่อให้ได้ข้าวสาร

 

เมืองมัลลิกา ร.ศ.214 พร้อมเปิดให้บริการรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศให้คุณได้ไปแต่งชุดไทยเดินเล่นอย่างสนุกสนาน เพิ่งเปิดเมื่อ 29 ตุลาคม 2559 บัตรเข้าชม ราคา 250 บาท/ท่าน เบอร์ 034-540884-86

5 น้ำตกไทรโยคใหญ่

 

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคนมาเที่ยวเป็นจำนวนมากในแต่ละปี ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เพราะสามารถเดินทางได้ทั้งทางบก และทางน้ำ บางคนมาเที่ยวแพล่อง ก็จะต้องแวะมาที่น้ำตกไทรโยคนี้ เพราะเป็นน้ำตกที่แปลกกว่าน้ำตกที่อื่นๆ ตรงที่น้ำตกจะไหลจากลำธารแล้ว ท้ายสุดจะมาลงยังชะง่อนหินสุดท้ายสู่ลำน้ำแควน้อย

น้ำตกนี้เป็นที่มาของเพลงเขมรไทรโยค ที่บรรยายให้เห็นถึงน้ำใส มองเห็นปลาแหวกว่าย เสียงสายน้ำที่พวยพุ่ง เสียงนกป่าและนกยูงทอง จนเป็นที่เลื่องลือถึงความงดงามของน้ำตกไทรโยค

เมื่อน้ำตกไหลลงสู่ลำน้ำแคว สายน้ำจะไหลลงมาจากผาสูงเกือบสิบเมตรจากส่วนบนที่ปกคลุมด้วยแมกไม้น้อยใหญ่ พวยพุ่งลงสู่แม่น้ำแควน้อย ดั่งกระโจนลงสู่ลำน้ำ นี่เองคือที่มาของคำว่าน้ำตกเขาโจน นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก มีน้ำตลอดปี และมีน้ำมากในช่วงฤดูฝน

6 "ช่องเขาขาด" หรือ "ช่องไฟนรก"

 

เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางรถไฟสายไทย-พม่า (เส้นทางรถไฟสายมรณะ)ตลอดเส้นทางรถไฟสายไทย-พม่า มีหลายจุดที่มี ภูเขา หน้าผา หรือหุบเหว ขวางอยู่จึงต้องขุดให้เป็นช่องเพื่อที่รถไฟสามารถวิ่งผ่านไปได้ซึ่งที่ช่องเขาขาด หรือ ช่องไฟนรก เป็นจุดที่ใหญ่ที่สุดบนเส้นทางนี้ การขุดเจาะช่องเขาขาดเริ่มในเดือนเมษายนปีพ.ศ. 2486 ปรากฏว่างานล่าช้ากว่ากำหนดจึงมีช่วงที่เร่งงานซึ่งแรงงานแต่ละกะต้องทำงานถึง 18 ชั่วโมงโดยงานส่วนใหญ่ล้วนใช้แรงคนทั้งสิ้น เช่นการสกัดภูเขาด้วยมือ ซึ่งเป็นการทำงานที่ทารุณยิ่ง เนื่องจากต้องปีนลงไปสกัดในช่องเขาซึ่งบางช่วงสูงถึง 11 เมตร จนแทบไม่มีอากาศหายใจ

 

ทั้งยังต้องทำงานท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าวในช่วงเดือนมีนาคม ในภาวะขาดแคลนน้ำและอาหาร เมื่อเจ็บป่วยแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ก็ไม่เพียงพอต่อการพยาบาลต้องดูแลกันตามมีตามเกิด เชลยศึกและกรรมกรที่ช่องเขาขาดต้องทำงานตอนกลางคืนด้วยแสงไฟจากคบเพลิงและกองเพลิงทำให้สะท้อนเห็นเงาของเชลยศึกและผู้คุมวูบวาบบนผนังทำให้ที่นี่ได้รับการขนานนามว่า "ช่องไฟนรก" หรือ Hellfire Pass ในภาษาอังกฤษ

7 ถ้ำกระแซ ถือเป็นจุดชมวิวที่โด่งดัง และเป็นที่รู้จักเป็นอย่างดี เพราะถือว่าเป็นจุดที่สวยที่สุด และอันตรายที่สุดของเส้นทางรถไฟสายกรุงเทพฯ - น้ำตก หรือที่เรียกกันว่า "เส้นทางรถไฟสายมรณะ” (The Death Railway) ในแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติแวะเวียนมาเพื่อมาชมวิวเส้นทางรถไฟสายมรณะบริเวณถ้ำกระแซนี้ เป็นจำนวนมาก ด้วยเส้นทางที่คดโค้งเลี้ยวเลาะไปตามริมผา

สำหรับผู้ที่ต้องการมาเที่ยวชม สามารถมาได้ทั้งทางรถยนต์ และทางรถไฟ เพราะบริเวณถ้ำกระแซยังเป็นสถานีรถไฟ สำหรับจอดรับส่งผู้โดยสารด้วย

            8 ริเวอร์แคว จังเกิ้ลราฟท์

 

แพห้องพักจากวิถีชีวิตชาวมอญสู่ที่พัก  ห้องพักขนาด 28 ตารางเมตรบนแม่น้ำแคว ท่ามกลางธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกภายใน ถูกออกแบบโดยใช้ภูมิปัญญาชาวมอญ ให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและลืมชีวิตที่วุ่นวาย

            ที่ริเวอร์แคว จังเกิ้ลราฟท์ ใช้ตะเกียงในการให้แสงไฟแทนไฟฟ้า เพื่อให้ความรู้สึกเหมือนใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติอย่างแท้จริง มีระบบทำความเย็นด้วยภูมิปัญญาชาวบ้านโดยอาศัยกระแสน้ำแคว ที่ไหลเวียนใต้ที่พักจนรู้สึกเย็นตลอดทั้งวัน ทุกห้องพักมีห้องน้ำในตัวไม่ต่างจากโรงแรมทั่วไป พร้อมถังดักสิ่งปฏิกูลด้านล่าง รวมถึงระเบียงด้านหน้าพร้อมเปลให้นอนชมธรรมชาติ

            มีชานไม้ไผ่ เป็นจุดพักผ่อนหย่อนใจชั้นเยี่ยมที่ครอบครัวออกมานั่งพูดคุยสังสรรค์ได้อย่างเงียบสงบ บนลำน้ำเเควน้อยเเห่งนี้ พร้อมรับกลิ่นไอป่ารับออกซิเจนบริสุทธิ์ในวันผักผ่อน กลางคืนยังมีโรงละครบนแพอีกด้วย

            9 ร้านกาแฟไร่คุณหญิง

 

ไม่ใช่สถานที่เที่ยวแต่แนะนำว่าไม่ควรพลาด เพราะมีโอท็อปของดีที่ใครๆก็อยากมาชิม โรงงานกาแฟชื่อดังของกาญจนบุรี ที่เปิดเป็นร้านอาหารรองรับนักเดินทาง ริมถนนหมายเลข 323 สายแก่งเสี้ยน-ทองผาภูมิ บรรยากาศสไตล์ลูกทุ่ง ๆ ห้อมล้อมด้วยทุ่งนา อากาศเย็นสบาย

เด็ดที่สุดคือกาแฟขี้ชะมด ราคาแก้วละ 500 บาท 1,000 บาท และ 1,500 บาท  ได้บำรุงสุขภาพสุดๆ ส่วนอาหารจานเดียวก็อร่อยมาก ทั้งข้าวผัดกะเพราไข่ดาว ข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ ข้าวผัดอเมริกัน ไส้อั่ววุ้นเส้น เต้าหู้ทรงเครื่อง ยำปลาช่อนทอด ต้มยำไก่ไทยใบมะขาม ไก่ผัดใบยี่หร่า

 

สำหรับกาแฟขี้ชะมด คุณสุรเชษฐ ยุทธสุนทร เจ้าของร้านเล่าว่า ให้ชะมดกินเมล็ดกาแฟสด ๆ จากต้น แล้วให้ถ่ายออกมา แล้วนำมูลชะมดที่ได้ไปทำความสะอาด อบ คั่ว บด นำเฉพาะไส้ในของเม็ดกาแฟที่ร่างกายของชะมดได้หลั่งสารต่างๆที่มีสรรพคุณบำรุงสุขภาพเข้าไปแล้ว มีสรรพคุณแก้เคล็ดขัดยอก เวียนศีรษะ และอีกหลายอย่าง ได้ชะงักนัก

 

คนไม่ทานกาแฟอย่างดิฉันก็ลองทานมาแล้วไม่เกิดอาการใจสั่นหรือนอนไม่หลับ

 

อย่าลืมไปเที่ยว 9 ที่อินเทรนด์ไม่ควรพลาดของกาญจนบุรีกันนะคะ

ขอบคุณท่านผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี “ศักดิ์ สมบุญโต” พานำเที่ยว และพาไปชิมกาแฟขึ้ชะมดแก้วละ 1,500 บาท และขอบคุณคุณฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทยร่วมแนะนำร้านและร่วมพาชิม

ขอบคุณคุณดวงกมล จันสุริยวงศ์ นายกสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัยพาไปเซอร์เวย์กาญจนบุรีและพักที่แพจังเกิลราฟท์

ติดตามข่าวสารการท่องเที่ยวได้ที่ Facebook Travelista นักเดินทาง นักข่าวสาวที่อยู่ในแวดวงท่องเที่ยวกว่า 30 ปี




Create Date : 12 ธันวาคม 2559
Last Update : 12 ธันวาคม 2559 19:17:47 น. 1 comments
Counter : 5248 Pageviews.  

 
ขอบคุณที่แบ่งปัน


โดย: Kavanich96 วันที่: 13 ธันวาคม 2559 เวลา:2:44:41 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

travelistaนักเดินทาง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]




Travelista นักเดินทาง หรือสาธิตา โสรัสสะ อดีตหัวหน้าข่าวเศรษฐกิจเครือเนชั่น เป็นนักข่าวสายท่องเที่ยวยาวนานเกือบ 40 ปี เดินทางมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก มีผลงานเขียนพ็อคเก็ตบุ๊คท่องเที่ยว 34 เล่ม ปัจจุบันเป็นอุปนายกสมาคมการตลาดท่องเที่ยวไทย และประธานมีเดียแอนด์บล็อกเกอร์ คลับ (คลับของบล็อกเกอร์) เคยได้รับรางวัลบล็อกเกอร์ยอดเยี่ยมปี 59 ,ช่างภาพหญิงยอดเยี่ยมจากจีนปี 60 , สื่อมวลชนยอดเยี่ยมปี 64 และผู้บริหารสื่อออนไลน์ยอดเยี่ยมปี 65 ไอดีไลน์ tatravel โทร 081-817-2805
[Add travelistaนักเดินทาง's blog to your web]