~ลัลล้า@ภูเก็ตลัดเลาะตามหาดดูพระอาทิตย์ตกดินที่แหลมพรหมเทพ~ วันที่สามเราเริ่มต้น ทานอหารเช้าแบบคนภูเก็ตกานน อิอิ พาไปหม่ำร้านบุญรัตน์ ติ่มซำเจ้าอร่อยของเมืองภูเก็ตจ๊า ติ่มซำเข่งละ 12 บาท เค้าจะจัดมาให้เป็นชุดๆเลย เอาติ่มซำเกือบทุกอย่างมาวางเสิร์ฟบนโต๊ะ แล้วแต่เราจะเลือกกิน แล้วก็จะคิดเงินเฉพาะเข่งที่เราหม่ำไปเท่าน้านจ๊า ช่วงเช้าคนที่ร้ายติ่มซำคึกคักมากๆ ตอนที่เราไปนี่เจ็ดโมงกว่าๆ พร้อมหม่ำแล้น สู้ตายๆๆ หุหุ สั่งโจ๊กมาหม่ำด้วยจ๊า โจ๊กที่นี่เสิร์ฟพร้อมโรยหน้าด้วยหอมทอด แปลกดีๆ น้ำจิ้มติ่มซำจ๊า ไม่ใช่จิ๊กโฉ่วเหมือนที่เคยกินน่ะ มีสองรสชาดให้เลือก แต่ไม่คุ้น เลยจิ้มกินกับพริกดองน้ำส้มมานโลด เหอๆ แก้เลี่ยนๆ อย่าลืมไปลองทานกันน่ะจ๊ะ อาหารเช้าแบบภูเก็ตๆ ชอบมากๆ กินเพลินไปเลย สรุปที่เค้าเสิร์ฟมาทั้งหมดไม่มีคืนสักจาน กินเรียบเพราะอยากลอง มื้อนั้นไปแค่สองร้อยแปดบาท มีติมซำ 11 เข่ง โจ๊ก แล้วกาแฟ 1 แก้ว ส่วนน้ำชามีเติมให้ฟรีตลอดจ๊า ร้านบุญรัตน์ติ่มซำ อยู่ซอยดิลกอุทิศ 2 ใกล้โรงแรมรอยัลซิตี้ค่ะ แผนที่ร้านน่ะจ๊ะ หลังจากหม่ำอิ่มหนำสำราญ ก็ขับรถกลับโรงแรม ยังคุยกับเอ้กว่าจะนอนโรงแรมในเมืองน่ะวนๆๆในเมืองนี่หลายรอบแล้วว กลับถึงที่พักก็เดินเล่นบนหาดหน้าโรงแรม แล้วก็ไปนอนพักผ่อนกันแป๊บนึง เอ้อระเหยในโรงแรมซักพัก ได้เวลาเที่ยงก็เช็คเอ้าท์ค่ะ เด๋วจะหามื้อเที่ยงกินต่อในเมือง สาวภูเก็ตอย่างป้าทรายแนะนำร้านระย้าจ๊า ปล.โอ้ววว กินอีกแล้น ทุกท่านคงคิดงี้ ชิมิค๊าๆๆ 555แบบรวบยอดเอาตอนสำคัญคือหม่ำๆๆ มาฝากเท่านั้น อิอิ เราขับรถกลับไปตัวเมืองอีกรอบ ขยันจริ๊ง ก็ขับวนๆ เก็บรอบเมืองภูเก็ตอีกรอบจ๊าผ่านตึกสวยๆ บ้านงามๆอีกรอบ แล้วนี่ก็ไม่ควรพลาดชมเลยน่ะจ๊ะ สถาปัตยกรรมชิโน โปรตุกิส ชิโน = จีน โปรตุกิส = โปรตุเกส แต่เดิมที่นี่เค้าเป็นเมืองเหมืองแร่ ซึ่งจะมีชาวจีน ฮกเกี้ยนและชาวโปรตุกิสอาศัยอยู่มากมายจ๊า คนภูเก็ตแต่เดิมเค้าเรียกบ้านแบบนี้ว่า อั้งหม้อลาวจ๊า หรือคนทั่วๆไปเรียกคฤหาสน์อ่ะจ๊า สวยมากๆ บ้านชินประชา และอีกลังอยู่ติดกัน อีกหลังที่อยูติดกัน ม่รู้เป็นเครือญาติกันป่าว ชื่อคล้ายๆกัน จากนั้นก็ได้เวลาหม่ำมื้อเที่ยงแล้วจ๊า วันนี้เราจะไปหม่ำร้านอาหารพื้นเมืองกันที่ร้าน "ระย้า" อยู่ในตัวเมืองนั่นหล่ะจ๊า ร้านจัดบรรยากาศแบบไทยๆ เดิมๆเลย ชอบมากๆอ่ะ เหมือนมีมนต์ขลัง หุหุ ดูเครื่องเสียง ยังเป็นแบบโบราณ วินเทจๆๆ มาดูหน้าตาอาหารที่สั่งมาน่ะค่ะ "หมูฮ้อง" แล้วก็แกงปูใบชะมวง ทานกับเส้นหมี่คุณป้าเจ้าของร้าน แนะนำมาค่ะ ว่าพลาดไม่ด้ายยย มาร้านนี้ต้องกินๆๆ ทานคู่กันแบบนี้ๆๆ ซูม ซูม น่าหม่ำมากเลยเนื้อปูเป็นก้อนๆสดด้วยจ๊า น้ำพริกกุ้งเสียบ ทานกับผักสดๆๆ เค้าจัดมาน่ากินมากกก ผักนี่น่ากินสุดๆๆ "สะตอผัดกะปิกุ้งสด" จานนี้เราว่าเค้าผัดไม่จัดจ้านเท่าไหร่ สู้ที่ร้านปากน้ำไม่ได้ อาหารก็อร่อยเกือบทุกอย่างน่ะ โดยเฉพาะหมูฮ้องอร่อยมากกก อาหารมื้อนี้แพงเพราะค่าแกงปูใบชะมวงจ๊า 350 บาท 555 แต่ก็ได้ปูเป็นก้อนๆอ่ะน่ะ แต่เราสองคนกินไม่หมด ตั้งเก็บกลับบ้าน เสียดายๆๆ ทิ้งไม่ได้ จากนั้นก็ว่าจะไปหาเค้กหม่ำที่ร้าน Anna แต่เค้าเปิดเป็นรอบๆไป ไปไม่ทันร้านเค้าปิดก่อน จากนี้ไปต้องขับรถนาน หากาแฟกระแทกปากก่องดีกว่า KOPI โกปี้ เป็นภาษาจีน แปลเป็นไทยว่า กาแฟ สั่งมอคค่าปั่นไปจ๊า เย็นชื่นจายยยย จากนั้นก็แวะไปซื้อของฝากกันที่ร้านนี้เลยจ๊า หลังจากนั้นเรามีโปรแกรมจะขับรถเที่ยวลัดเลาะริมหาดเมืองภูเก็ตกัน ต้องทำเวลาเล็กน้อยเพราะ โปรแกรมวันนี้จะจบด้วยการไปชมพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพ เริ่มที่นี่จ๊ะ อนุสาวรีย์ท้าวเทพกษัตรีฯ จะมีทางเลี้ยวเข้าหาดสุรินทร์ เราจะเลาะไปเรื่อยๆเลยจ๊า ต้องอาศัยกางแผนที่ไปด้วยจ๊าจะได้ไม่หลง หาดแรกที่เราได้ไปเจอคือหาดสุรินทร์ จริงๆในหนังสื้อเค้าจะให้ไปเริ่มที่หาดป่าตองจ๊า แต่ซะมีเดี๊ยนขยันค่ะ จะไล่ตั้งแต่หาดสุรินทร์นี่เลย บริเวณหน้าหาดสุรินทร์จ๊า จากนั้นเราก็ขับรถต่อไปอีกนิดก็เจอกับสถานที่ สุดฮิตที่คนชอบมาเที่ยวกัน Phuket Fantasea เคยมาแล้วเมื่อทริปก่อน เราว่าดีน่ะ โอเคเลย ตอนแรกคิดว่าทำไม๊ ทำไมมันช่างแพงนักค่าเข้าเนี่ย แต่พอได้ดูการแสดง ความอลังการของเค้า ขอบอกว่าดูแล้วลืมหายใจไปเลย คนไทยนี่สุดยอดมากๆ แต่ถ้าไม่ได้แวะไปหาดสุรินทร์ รู้สึกว่าจะมีทางเข้าอีกทางที่ขับรถง่ายแต่ไม่แน่ใหมือนกันว่าท างไหน จากนั้นก็เจอกับหาดกมลาจ๊า วันที่เราไปฟ้าไม่ค่อยเปิดหล่ะ เมฆจะคึ้มๆทั้งวันแต่ฝนไม่ตกน่ะ เหมือนมันมีหมอกๆๆอ่ะจ๊า ขับรถไปเรื่อยๆก็จะขึ้นเขา ลงเขาเล็กน้อย แต่ก็เห็นทะเลตลอดสวยมากๆจ๊า จะมีป้ายบอกตลอดทางอ่ะจ๊า ไม่ต้องกลัวหลง จุดมุ่งหมายเรา แหลมพรหมเทพอีก 22 กิโลฯ จากนั้นก็จะถึงหาดกะหลิม ที่นี่จะเงียบสงบ เป็นหาดที่ติดกับกับป่าตองแต่ความคึกคักจะต่างกันเลยจ๊า จากนั้นก็ผ่านหาดป่าตองแต่ไม่ได้เก็บภาพมาน่ะจ๊ะ เพราะคงเห็นวันอื่นๆที่ผ่านๆมาแล้วโน๊ะ จากป่าตองเราใช้เส้นทางไปแหลมพรหมเทพโดยผ่านหาดกะรน และกะตะ เพื่อจะได้ผ่านจุดชมวิวสามอ่าวด้วยจ๊า จากป่าตองไปกะรนจะผ่านเจ้าวงเวียนเนี้ยอ่ะจ๊า ==หน้าหาดกะรน== ลงไปยืดเส้นยืดสายกันซ้าหน่อย หุหุ หลังจากนั้นก็ขับตรงไปหาดกะตะ เท่าที่ขับรถเที่ยวตามหาดไปเรื่อยๆ เราว่าหาดกะตะเนี่ยลงตัวที่สุด ผู้คนไม่เยอะเท่าป่าตอง แต่ยามค่ำคืนก็ไม่เงียบเหงา จากนั้นก็ขับรถตรงไปตามทางเรื่อยๆเลยจ๊า ก่อนถึงแหลมพรหมเทพพักใหญ่ๆก็จะถึงจุดชมวิวสามอ่าว อ่าว อ่าววว จากจุดนี้จะมองเห็นหาดสามเเห่ง หาดที่อยู่ใกล้ตัวมากที่สุด คือหาดกะตะน้อย ถัดไปเป็นหาดกะตะ และหาดกะรนตามลำดับ ชายหาดดังกล่าวมีลักษณะเป็นอ่าวเว้าแหว่ง โค้งเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวติดต่อกันสามอ่าว เฮ้อ เมฆหมอกบดบัง ฟ้าไม่เปิดเล้ยยยย แต่ก็ยังดีที่ฝนม่ายตก ทริปนี้จบที่แหลมพรหมเทพจ๊า จริงๆ แนะนำเพื่อนๆ ว่าให้วางแผนเที่ยวให้คุ้มค่าอ่ะจ๊า แต่เราตามใจตัวเองมากไปโหน่ย เลยขับรถอ้อมๆหล่ะจ๊า ถ้าเอาแบบตามโปรแกรมจริงๆ แนะนำให้เอาวันแรกของเราไปเป็นวันที่สามจ๊า แล้วเอาวันที่สามมาเป็นวันแรก อิอิ งงมั้ยอ่ะ ไปทุกที่ชาวต่างชาติจะเยอะมากกก แต่ที่แหลมพรหมเทพคนไทยเยอะกว่าไม่ค่อยเห็นชาวต่างชาติให้เห็นเ ท่ไหร่ ด้านหลังเรือใบ เรียงรายเต็มไปหมดจ๊า สวยดี บรรยากาศง๊าม งาม ไม่แน่ใจว่าด้านหลังจะเป็นหาดไนหานหรือป่าววว == แหลมพรหมเทพ== จบทริปนี้ด้วยจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดในภูเก็ตจ๊า   Create Date : 31 สิงหาคม 2551 4 comments Last Update : 31 สิงหาคม 2551 22:18:13 น. Counter : 2541 Pageviews. Share Tweet

อยากกลับไปภูเก็ตอีกจังค่ะ   โดย: นู๋ที 1 กันยายน 2551 9:55:11 น.

แวะมาเที่ยวภูเก็ตอีกน่ะครับ คนภูเก็ตยินดีต้อนรับ อิอิ //yutphuket.wordpress.com/   โดย: คนภูเก็ต (phuketport ) 1 กันยายน 2551 15:02:07 น.

พาเที่ยวซะทั่วเหมือนไปด้วยตัวเองเลยนะคะเนี่ย อาหารกลางวันหน้าตาน่าทานอย่างแรงซะด้วย ปล. จขบ.น่ารักจังเลยค่ะ   โดย: nLatte 2 กันยายน 2551 10:32:19 น.

บล็อคนี้น่ารักดีค่ะ หมี่หุ้นแกงปูน่าทานจริงๆ เคยทานแต่ไม่ใช่ที่ร้านระย้า   โดย: กางเกงยักษ์ลอยฟ้า 22 มิถุนายน 2552 12:23:24 น.