สุภารัตถะ บล็อก
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2548
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
4 ตุลาคม 2548
 
All Blogs
 
ที่ยึดเหนี่ยว

เรื่องสั้น ที่ยึดเหนี่ยว
โดย สุภารัตถะ


ความเงียบเป็นสิ่งเคียงคู่เขาเสมอ ราวกับมันพอใจจะอยู่กับเขาไปชั่วนิรันดร์กาล คงมีแต่แววตา พอจะทำให้คนอื่นทราบว่า เขายังสัมผัสและรับรู้สิ่งกระทบภายนอก กระนั้นมันก็ยังกลอกกลับไปมาน้อยกว่าความเป็นจริงอย่างดวงตาคนอื่นๆ เป็น จนคนทั่วไปอดคิดไม่ได้ว่า ใจของเขาคงแน่วนิ่ง เป็นผลให้ดวงตาและปากของเขาไม่ต่างไปจากวันที่ไร้สายลม แน่นอน สวรรค์ไม่ได้ส่งเขามาให้มีลักษณะพิเศษเช่นนี้ตั้งแต่เกิด กาลเวลาต่างหาก..ยัดเยียดมันให้กลายเป็นเขา ซึ่งก็ใช่ว่า จะยัดเยียดสิ่งเหล่านี้ให้กับทุกคนได้ บางคนกลายเป็นคนเพ้อพก บ้างก็น่าเกลียดอัปลักษณ์ไปพร้อมๆ กับรูปร่างน่าตาอันแปรเปลี่ยน แต่บางคนกลับรักษาสภาพซากศพให้คงความสวยงามดีอยู่ แม้จิตใจภายในจะถึงกาลอวสานเน่าเฟะเป็นผุยผงนานแล้ว..

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

“ษา ษา ..” ชื่อของดอกไม้งามซึ่งจะกลายเป็นดอกอุตพิดในยามที่ความชั่วร้ายเข้าครอบคลุมโลก แต่ก็ยังเป็นดอกไม้งามสวยสดเสมอในวันท้องฟ้าโปร่ง เขาเรียกชื่อคนรักผู้ทำให้ความทุกข์ในกาลเวลาแห่งอดีตและอนาคตไม่ปรากฏ นอกเสียจากเป็นเพียงสิ่งสมมุติที่แอบเคียงคู่ขนานไปกับความจริง ใครๆ ก็รู้ ถ้าเราอยู่กับปัจจุบันได้เวลาจะดับลงทันที ใครอยากจะไปอดีตหรืออนาคตกันเล่า? แค่ปัจจุบันก็มากมายไปด้วยความวุ่นวายนัก ความสุขหลอกลวงผู้คนได้ถึงปานนั้น และทันทีที่ตื่นจากมัน เขาจะบาดเจ็บเป็นทวีคูณ ปัจจุบันอันจอมปลอม

“จ๊ะ พี่ซอง” เสียงแห่งต้นเหตุที่เสมือนทำให้กาลเวลายุติ ขานตอบ เธอสวยสมพอจะทำให้เขา หนุ่มน้อยหน้าเข้ม จมอยู่กับปัจจุบันอันเป็นเพียงปัจจุบันสมมุติของความลุ่มหลง

ความโศกเศร้ารันทดในวัยเด็กหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย อนาคตไม่อยากนึกถึง ขอให้โลกหยุดเขากับเธอไว้ทีเถ่อะ ซองขอร้องกับผู้ใด ไม่มีใครรู้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลกหรือ ทันทีที่ไม่สมมาดปรารถนา มนุษย์กลับตราหน้าสิ่งที่เคยนึกว่าศักดิ์สิทธิ์เป็นเพียงปีศาจปลอมแปลง อันทำลายศรัทธาผู้คนครั้งแล้วครั้งเล่า

เสียงขานตอบ เร้าให้ซองนึกถึงสาวคนรักด้วยมายาแห่งความสาว แต่เมื่อเจ้าตัวก้าวเข้ามาในห้อง ปอยผมหงิกงอของหล่อนต่างหาก กลับสื่อสารเรียกให้ซองมองมัน และเมื่อมองมัน เขากลับเห็นต้นคอและช่วงไหล่นวลเนียนแทน และเมื่อมองช่วงไหล่และต้นคอ มันกลับไม่ใช่สิ่งที่เขามองเห็น สิ่งยังไม่เห็น นั่นหละที่เขาสัมผัสถึง มันชักนำเขาให้จินตนาการในสิ่งอันเป็นไปก่อนได้อย่างแยบยล เขากลืนน้ำลาย นึกถึง เนินอก แผ่นหลัง และสะโพกของหล่อน เขาเห็นทะลวงล่วงไปก่อนขนาดนั้น และทันทีที่เขาถอดเสื้อผ้าหล่อน เขากลับไม่อยู่ในอาการของการมอง เพราะขณะลามเลียไปตามส่วนต่างๆ ของหล่อน เขาจะไม่เห็นเรือนร่างนั้น แต่จะพะวงไปถึงความรัญจวนของหล่อนแทน คำเรียกหาแต่ชื่อเขาจากปากของหล่อน เธอจะครวญครางและรักเขายิ่งกว่าใคร เขาล่วงหน้าการกระทำของตัวเองไปอีก ด้วยความคิดชั่วอัสนีบาตชักพา มันล้ำหน้าและสั่งให้เขาก้าวตามเสมอ ใครกันเคยอยู่กับบทรักอย่างเป็นปัจจุบันได้บ้าง

แม้แต่อนาคตที่กำลังจะเกิดกับเขาในภายภาคหน้าก็เช่นกัน มันเป็นไป.. ด้วยหนทางเกินกว่าจะตระหนักรู้ตอนนี้ได้ ความไม่แน่นอนคือสิ่งแน่นอน

และเธอคนนี้ เป็นดังฟางเส้นสุดท้ายของความสุข ความเชื่อมั่นที่ยังสร้างศรัทธาในการดำรงชีวิตของชายหนุ่มวัยฉกรรจ์ ประดุจเป็นหวังเดียวช่วยชุบเลี้ยงชีวิตให้ชุ่มชื่น ให้ทุกข์ในอดีตหรืออนาคตยุติความวิตกขื่นขม เมื่อสวรรค์ส่งผู้เปรียบดังนางฟ้าอย่างวรรณษามาให้

แต่บุพเพสันนิวาสแห่งรัก มีมหัศจรรย์ไม่มากไปกว่าการพานพบอันกระสัน ความอ่อนหวานและความอิ่มเอิบไปด้วยปิติ อันตรธานแทบไม่หลงเหลือ ทันทีหากทั้งสองตัดสินใจร่วมชีวิต ตาที่บอดไปด้วยความรัก กลับยิ่งมืดบอดไปด้วยความจริง ซึ่งซุกซ่อนไปด้วยความหวาดระแวงและกินแหนงแคลงใจ

เพราะหากแม้นทุกคนรู้ว่า ด้วยเหตุที่ตนกระทำสิ่งหนึ่งลงไป จะก่อผลอันสุดคาดคิดติดตามมา อย่างจะเป็นเหตุเป็นผลต่อกันจริงๆ หรือเป็นเหตุผลแบบจอมปลอมก็ตามแต่ เพียงแค่รู้มันเท่านั้น เขาอาจจะไม่ลงมือทำในสิ่งเป็นต้นเหตุนั่นเลย

หลังจากวรรณษา หายไปกับหนุ่มลิเก เพื่อนในวัยเด็กซึ่งซองชวนมากินข้าวที่บ้าน อดีตต่างๆ ก็พากันชักชวนแวะเวียนกลับมา เพื่อกระทำการเยาะเย้ยเขาเกือบทุกลมหายใจ จนแทบไม่มีเวลาได้พักผ่อน ต้องง่วนอยู่กับความผิดหวังชั่วทุกวินาทีแม้ในยามหลับตา ร่างกายผ่ายผอมและอิดโรยราวซากศพ เขาลืมปัจจุบัน

ก็วรรณษาไม่ใช่หรือ คือศรัทธาของเขา โลกยังไม่ทอดทิ้งเขา โลกสอนความรัก หรือที่แท้สอนความเป็นจริงซึ่งจะติดตามมาหลังความหลอกลวง สิ่งแรกหรือสิ่งหลังกันที่สำคัญ ซองควรขอบคุณบทเรียนใด ระหว่างความสุขกับความผิดหวัง อันใดลวงอันใดจริง หรือไม่มีสิ่งใดจริงทั้งไม่มีสิ่งใดลวง

“ผมรู้ ผมรู้..” เขาพึมพำเบาๆ เข้าใจถึงการตามหาความหวังนอกตัว อันจะทำให้เจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผมรู้.. เขาตอบรับราวเสียงตัวเองนั้นอยู่ในดินแดนแสนไกล เมื่อเพื่อนบ้านผู้หวังดีแวะเวียนมาปลอบใจ และบอกให้ตัดขาดจากนังแพศยานั่นเสีย เขาขอบใจเพื่อนบ้านอย่างเลื่อนลอย จากนั้น ซองก็ถีบตัวเองถอยไปจมอยู่กับอดีตจนแยกไม่ออก

“แม่ครับ แม่จะอยู่กับหนูไปจนวันตายใช่ไหม” เด็กชายซองกอดรัดแม่ ด้วยเรี่ยวแรงแห่งความอ้างว้างหวาดหวั่น ต้องการความรักอย่างเด็กทุกคนในโลกต้องการ ดวงตาดำกลมโตแอบซ่อนความกลัวอยู่หลังม่านน้ำตา เขาซุกไซ้ใบหน้าไปกับอกแม่ สะอื้นจนแทบสิ้นเสียง แม่เป็นศรัทธาแรก โลกประทานมาให้ และเอามันกลับคืนอย่างรวดเร็วด้วยไข้หนัก แม้จะอยู่กับเขาจนวันตาย แต่ไม่ใช่วันที่ซองตาย ส่วนความตายของแม่ก็มาเร็วเสียเหลือเกิน แม่จากไปทั้งๆ มือยังลูบไล้อยู่บนศีรษะเด็กน้อย นัยน์ตาค้างอย่างสิ้นหวัง เด็กตัวเล็กๆ จะแบกชีวิตอยู่ในโลกเพียงลำพังอย่างไรได้ ถ้าไม่มีใครหยิบยื่นความรักให้กับเขา

“น้าครับ น้าบอกว่าจะอยู่ดูผมสมหวังในชีวิต” ซองเด็กหนุ่มทวงสัญญา มองดูน้าที่หายใจรวยริน ศรัทธาที่สองกลับแปรเปลี่ยนไปตามการเกิดดับแห่งกฎไตรลักษณ์ เหลือเพียงแต่คำสอน พยุงชีวิตของเขามาตลอด โดยเขาเองไม่รู้ตัว

“อย่าพึ่งคนอื่น ต้องพึ่งตัวเอง แกยังโชคดีกว่าเด็กอีกหลายคน ที่ขาดพ่อแม่และไม่มีใครในโลกเลย ต้องเร่ร่อนอยู่ในสวรรค์ของคนอื่นแต่เป็นอเวจีสำหรับมัน ตอนนี้แกเป็นหนุ่ม ช่วยตัวเองได้แล้ว” น้ายิ้มระโหย เตือนซอง ไม่อยากจากไปด้วยความตาย เพราะหลานไม่มีใครอีก โชคดีอยู่บ้าง ก็ตรงที่ซองขณะนี้ไม่เป็นเด็กๆ อย่างตอนแม่เขาตาย เธอฝากหลานให้ทำงานที่สุขาภิบาลของหมู่บ้าน ทิ้งกระต๊อบวิมานน้อยข้างป่าช้าหลังนี้ไว้ให้

จากนั้นมา ความรักก็กลับกลายเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อถือ ขาดความแน่นอนและไม่ควรฝากความหวัง กระทั่งมาพบกับวรรณษา เธอกระตุ้นความรักอีกแบบให้บังเกิดขึ้นเต็มเปี่ยม ชดเชยความรักอีกแบบซึ่งซองต้องเก็บมันไว้ในลิ้นชักของความฝัน และต้องเผชิญความจริงตามลำพัง เขามีศรัทธาขึ้นอีกครั้งกับโลกที่กลายเป็นสีชมพู แต่ที่สุด.. ความรักอันแอบซ่อนกามารมณ์จากหญิงสาว ก็เป็นเพียงลมลวงอันน่าชัง ความรักประเภทใดกัน.. เป็นความจริง!!

ซองดูแก่กว่าวัย ทั้งที่ไม่ควรเป็นเช่นนั้น ไม่ยอมไปทำงานที่สุขาฯอีก หลังจากวรรณษาหนีไป นานหลายปี เขากลับไปอยู่ในอดีตแห่งปัจจุบัน ซ่อนตัวหลีกเร้นอยู่ในป่าช้าติดเนินเขา มีถ้ำลึกลับซึ่งตอนนี้มีเพียงเขาคนเดียวเป็นผู้ค้นพบ ชาวบ้านปลงชีวิตน้ำเน่าของซอง และเรียกผู้ถูกความรักทอดทิ้งคนนี้ว่า “คนป่าช้า” ทุกคนรู้ว่าเขาอยู่ที่นั่น แต่ไม่รู้ว่าอยู่ในส่วนไหนของมัน

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

แล้ววันหนึ่ง.. ซองก็ยอมกลับบ้าน เขาพาตัวพิลึกพิลั่น หน้าตาคล้าย ลา แพะ และตัวเงินตัวทองผสมกัน กลับมาด้วย เขาพบมันบริเวณซอกเล็กๆ ในถ้ำ นำมาเลี้ยงด้วยความสงสาร ท่าทางเปลี่ยวเหงาของมันทำให้คิดถึงตัวเอง มันขาดความรักไม่ต่างไปจากเขา เขายังโชคดีมีอดีตคนรักถึงสามคน แต่ตอนนี้มันกับเขาล้วนไม่มีใคร จึงไม่แตกต่างกันนัก

หลังจากเจ้าตัวพิลึกพิลั่นมาอยู่กับซองในหมู่บ้าน ข่าวการกลับมาของเขาก็แพร่ออกไป

“คนป่าช้า กลับบ้านแล้วโว้ย” ลุงเวกเพื่อนบ้านที่อยู่ไม่ไกล เห็นซองกลับมาอยู่บ้าน หน้าตาดูอิ่มเอิบมีความสุข
“มันมีดีโว้ย หน้ามันละอ่อนกว่าตอนอยู่กับอีษาอีก” ลุงปล่อยข่าวไปทั่ว

“ถึงมันจะเปลี่ยนไป เป็นคนไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา แต่กูว่ามันมีความสุขว่ะ..” ลุงยังโพนทะนาเป็นที่อัศจรรย์ยิ่ง ถึงการกลับบ้านของซอง..

แต่ใครจะสนใจข่าวของเขา มากขนาดแวะเวียนมาหาจนหัวบันไดบ้านไม่แห้งอย่างนั้นเล่า ความลึกลับอันใดทำให้ทุกคนใคร่คิดถึงซอง หรือไอ้การที่ลุงเวกถูกหวยสองตัวบน โดยบอกคนในหมู่บ้านว่า สหายที่เขาพามานั่นแหละเป็นผู้บันดาลโชคลาภให้ คนป่าช้าจึงกลับมาเป็นตำนานพิสดารแห่งหมู่บ้าน กับฉายาใหม่ว่า “ซองและสหาย” ตามที่เขาเรียกเจ้าตัวพิลึกพิลั่นเช่นนั้น ทั้งคู่เสมือนเป็นผู้อยู่เหนือความทุกข์ทั้งปวง เป็นดังที่พึ่งของผู้ยังตกอยู่ในห้วงทุกข์

ซองยังคงเงียบขรึม ไม่พูดถึงอดีต ไม่ว่าใครจะเอ่ยถามอะไร อย่างไร ก็เพียงเลี่ยงหลบเหมือนไม่ได้ยิน ไม่มีใครโกรธ..หรือเพราะล้วนอยากมาพบเจ้าสหายมากกว่า การทักทายเขาก็อาจเพียงเพื่อเป็นพิธีที่เรียกว่าไม่ให้เสียมารยาท แม้ซองจะไม่มีมารยาทตอบกลับก็ช่าง แถมยังกลายเป็นท่าทีซึ่งผู้คนเกรงใจด้วยซ้ำ แม้วรรณษา ก็พาร่างอับเฉาโรยรามาขอโชคลาภจากมัน เจ้าสหายอิ่มหมีพลีมัน ทุกวันมันจะมายืนอยู่บนเนินดินเพื่อให้คนกราบไหว้บูชา และพวกเขาจะปัดเนินดินข้างๆ มัน เพื่อดูเลขจะมาปรากฏด้วยศรัทธาของความหวังอันไม่เคยเหือดแห้ง มันยืนอยู่ได้นานเป็นชั่วโมงเพื่อละเลียดอาหาร ก่อนจะหายไปหัวเราะตามลำพังที่ไหนสักแห่ง มันไม่ต้องการซอกเล็กๆ ซ่อนตัวด้วยความเคว้งคว้างอีกต่อไป

ส่วนซอง.. มีของฝากมากมายแยกจากที่ชาวบ้านนำมาให้สหาย เขามองความเป็นไปของผู้คนด้วยความนิ่งงัน น้ำหน้าอย่างเขามีสิทธิ์เวทนาคนอื่นหรือ? แม้แต่เจ้าเพื่อนลิเกเก่าที่ดูแก่เซอะ ก็มานั่งยกมือปะหลกๆ เพื่อขอเลขเด็ดจากสหาย ซองอยากระเบิดเสียงหัวเราะ แต่ทำได้เพียงนิ่งเงียบ สงสารผู้คนซึ่งยังต้องการสิ่งพึ่งพิง ซองคิดถึงน้า น้าเป็นผู้เตือนสติให้ได้คิด เขาไม่ต้องการพึ่งใครอีก นอกจากลมหายใจของตัวเอง..



Create Date : 04 ตุลาคม 2548
Last Update : 10 มิถุนายน 2549 9:11:18 น. 0 comments
Counter : 304 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

suparatta
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




..วัชรปรัชญาปารมิตาสูตร..
..ท่านนาคารชุนะ..
วิภาษวิธี..เกริ่นนำ..ตอนจบ..

๐ สมุดเยี่ยมและบ่นได้..
**ทางลัด**
๐ สารบัญทักทาย(ทั้งหมด)
๐ ชวนคุย&ฟังเพลงปี48(ทั้งหมด)
๐ นอนดูจันทร์..(ส่วนตัว)

**log in หน่อยน่า..



Google.co.th
Friends' blogs
[Add suparatta's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.