|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
|
|
|
|
|
|
|
RIP นะจ๊ะ ดิออร์ good girl ของแม่
29 มิ.ย. 50 เมื่อวานนี้ ดิออร์จากตาลไปเนื่องจากแพ้ยา(รักษาเชื้อรา) กะทันหันมากๆ เขาเพิ่งอายุ 1 ขวบ 4 เดือนกว่าๆจะ 5 เดือนในวันที่ 5 ก.ค. นี้เอง
ดิออร์เริ่มมีอาการของโรคผิวหนังมาก่อนหน้านี้เกือบ 1 เดือนแล้วค่ะ ตอนแรกพาไปรพส.พหลฯ 62 หมอก็แนะนำว่าให้ใช้เบตาดีนเจือจางทา แต่ก็ดูไม่ค่อยดีขึ้นสักที พอพาไปหาหมอตา ที่คลีนิคแห่งหนึ่ง หมอตาท่านเห็น ก็เลยให้พามาหาหมอผิวหนังประจำคลีนิคท่าน เมื่อพาไปหมอก็ดูแล้วให้ดิออร์ทานยารักษา ยามาแบบเป็นแคปซูลใสๆ มองเห็นตัวยาข้างใน ซึ่งเข้าใจว่าหมอแบ่งโดสมาแล้ว แต่ก็ยังเยอะไป เลยให้เราแบ่งครึ่งให้เองอีก เพื่อทานหลังอาหารเย็น ก็ทานยามาเรื่อยๆ 2 อาทิตย์เกือบๆ 3 อาทิตย์ได้ อ้อ หมอให้ยาบำรุงตับมาด้วย
เมื่อคืน พ่อว่าดิออร์หงายท้อง ทำท่าถีบจักรยาน ก็นึกว่าเป็นเพราะอึดอัด collar ที่ใส่กันดิออร์เลียแผลตัวเอง ก็เลยถอดออก เขาก็นอนหลับไป พอตาลถึงบ้านก็ให้ทานผลไม้ มีผิดปกติ ตรงที่อ้วกออกมา (แต่ก็ยังจะกินอ้วกคืน) แล้วพออุ้มไปนอนก็ตะกายออกมาหา จะมานอนบนตัก แต่ก็เหมือนหาที่นอนถูกใจไม่ได้ ก็ไม่คิดอะไร ป้อน nutri-cal ให้ เพราะเห็นว่าอ้วก แล้วตาลก็ไปนอน
ตื่นเช้ามา เด็กมาเคาะปลุกตอน 9.00 น. พ่อให้มาถามว่าหมอเปิดกี่โมง นึกว่าพ่อจะพาไปเอง ก้ไม่ใช่ ดูดิออร์ก็ออกแนวซึมๆ เลยไม่คิดอะไร โอ้เอ้ ป้อนข้าวปอร์เช่ ทักทายลอร่า กว่าจะได้ออกจากบ้านก็เกือบ 9.30 ถึงหมอที่รพส. 62 ก็เกือบ 10 โมง แต่ดิออร์ก็ชักตั้งแต่บนรถแล้ว ตาค้าง น้ำลายไหล ลิ้นเลียจมูก ขาตะกายไปมาเหมือนว่ายน้ำ ไปถึงหมอๆ ถามว่าชักนานยัง แล้วหมอก็เห็นแผลที่ผิวหนัง เลยบอกเรื่องยาไป หมอเลยบอกว่าคงแพ้ยา แต่ก็ไม่คิดว่าจะอาการหนัก หมอยังว่า ให้มารับตอนเย็นๆ อาจจะต้องมาให้น้ำเกลือทุกวัน พอบ่าย 2 กว่ามาถึงร้าน หมอก็โทรมารอบแรก กำลังคุยกะพี่ปุ๋ย+น้อหนุ่ยเรื่องดิออร์เข้ารพส. พอดี หมอว่า หยุดหายใจไปแล้ว แต่ปั๊มได้ อยู่ในตู้อบออกซเจน แต่ไม่รู้สึกตัว ให้ทำใจ ถ้าหยุดหายใจอีกก็.... แล้วทิ้งช่วงไม่ถึง 10 นาทีละมั้ง หมอก็โทรมาแจ้งว่า ดิออร์หยุดหายใจอีกแล้ว หมอคิดว่าเป็นเพราะแพ้ยาที่รักษาผิวหนัง แล้วสะสมมาถึงจุดนึง ก็รับไม่ไหว
สรุปว่า ยาทานที่ทำลายตับเค้าน่ะค่ะ มันคงสะสมมา จนเขาทนไม่ไหว ที่น่าเศร้าใจก็คือ หมอบอกว่า ดิออร์เป็นขี้เรื้อนซึ่งเป็นได้เมื่อร่างกายอ่อนแอ ไม่ใช่รา เพราะฉะนั้น ยาที่ทานไป ไม่มีประโยชน์อะไร กล่าวคือ ยาที่คร่าชีวิตดิออร์ เป็นยาที่ดิออร์ไม่มีความจำเป็นต้องทานตั้งแต่แรกแล้ว ...
ดิออร์ แม่ขอโทษนะ ที่ไม่เอะใจเร็วกว่านี้ ส่งหนูถึงมือหมอไม่ทัน อโหสิให้แม่ด้วยนะ ... ขอให้หนูไปสู่สุขคติ ถ้าจะเกิดใหม่ก็ขอให้แข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บทั้งปวง แม่รักหนูนะ ดิออร์เป็น good girl ของแม่เสมอ
เลี้ยงมาตั้งแต่ตัวเล็กกว่ากล่องทิชชู่
รูปสวยๆครั้งสุดท้ายของหนู รูปเดี่ยวสวยๆ เพื่อเอาไปทำ diary 4 lost dogs
รูปหมู่ รูปสุดท้ายของนู๋ ถ่ายกับพี่ลอร่าและน้องปอร์เช่
good bye,Dior. u'll always stay in mommy's heart.
หวังว่าดิออร์คงคอยแม่และทุกคนอยู่ที่ rainbow bridge นะจ๊ะ
"Just this side of Heaven is a place called the Rainbow Bridge. The Bridge connects Heaven and Earth. It is called the Rainbow Bridge because of its many colors. Just this side of the Rainbow Bridge is a land of meadows,hills, and valleys with lush green grass.
When a beloved animal dies who has been especially close to someone here, that pet goes to this place. There is always food and water and warm spring weather. All our specail friends are warm and comfortable. The old and frail animals are young again. Those who are maimed are made whole and strong again. All the animals who had been ill are restored to health and vigor, just as we remember them in our dreams of days and times gone by.
The animals are happy and content, except for one small thing: They miss someone very special to them who had to be left behind. They are not with their special person who loved them on Earth.
They all run and play together, but the day comes when one suddenly stops and looks into the distance. The bright eyes are intent; the nose twitches; the eager body quivers. Suddenly he begins to breakaway from the group, flying over the green grass, his legs carrying him faster and faster. You have been spotted, and when you and your special friend finally meet, happy kisses rain upon your face, your hands again caress the beloved head. And you look once more into the trusting eyes of your pet, so long gone from your life but never absent from your heart. Then you cross the Rainbow Bridge together..."
อ้างอิงจาก Living a Dog's Life: Jazzy, Juicy, and me แต่งโดย Cindy Adams หน้า 51-52
Create Date : 30 มิถุนายน 2550 |
Last Update : 24 มีนาคม 2551 15:59:22 น. |
|
11 comments
|
Counter : 500 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Elza IP: 124.121.160.159 วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:15:35:16 น. |
|
|
|
โดย: แม่ขุนช้าง IP: 58.9.3.102 วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:15:37:30 น. |
|
|
|
โดย: แม่ มิมิ กัสจี้ IP: 125.25.138.20 วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:15:39:24 น. |
|
|
|
โดย: Monkey D.Luffy IP: 222.123.69.48 วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:17:15:27 น. |
|
|
|
โดย: Ployly ค่ะ IP: 58.8.151.183 วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:17:39:01 น. |
|
|
|
โดย: Bee IP: 203.153.205.118 วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:17:43:01 น. |
|
|
|
โดย: windyz IP: 58.9.124.237 วันที่: 1 กรกฎาคม 2550 เวลา:17:33:43 น. |
|
|
|
โดย: Rockki IP: 124.121.74.15 วันที่: 9 กรกฎาคม 2550 เวลา:16:45:30 น. |
|
|
|
โดย: แป๋ม IP: 58.137.12.178 วันที่: 11 กรกฎาคม 2550 เวลา:15:50:49 น. |
|
|
|
โดย: Diego IP: 69.157.191.62 วันที่: 21 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:46:23 น. |
|
|
|
|
|
|
|
เห็นดิออร์ตั้งแต่เล็ก ๆจนโต
กระทันหันมาก ๆ เป็นกำลังใจให้นะคะ