|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
|
|
|
|
|
|
|
มงคลที่ 8
มงคลที่ 8 มีศิลปะ
เราปลูกมะม่วง จะอิ่มจะรวยอยู่ที่ผลของมัน ช่วงแรกที่ปลูก มีลำต้นกิ่งใบ
เป็นเพียงระยะเตรียมตัวเพื่อที่จะได้ผล เช่นเดียวกัน ความรู้ทุกอย่างหรือ
ความเป็นพหูสูตที่เรามีอยู่ เป็นเพียงการเตรียมตัวเท่านั้น จะช่วยเราได้จริง
ต่อเมื่อเรามีศิลปะ สามารถนำออกมาใช้ได้อย่างดีเท่านั้น
ศิลปะคืออะไร
ศิลปะ แปลว่า ฉลาดทำ คือทำเป็นนั่นเอง
พหูสูตนั้นเป็นผู้ฉลาดรู้ เรียนรู้ในหลักวิชา รู้ว่าอะไรเป็นอะไร รู้ว่าอะไรทำ
อย่างไร ส่วนศิลปะ เป็นความสามารถในทางปฏิบัติ คือสามารถนำความรู้นั้น
มาใช้ให้บังเกิดผลได้
คนที่มีความรู้นั้น ไม่ใช่ว่าจะมีศิลปะทุกคน เช่นรู้วิธีหุงข้าว ว่าจะต้องเอาข้าว
สารใส่หม้อซาวข้าว แล้วใส่น้ำยกขึ้นตั้งไฟ น้ำเดือดสักพักก็รินน้ำข้าวออก
ดงให้ระอุอีกครู่หนึ่ง ก็คดข้าวออกมากินได้ นี่คือหลักวิชา แต่คนที่รู้เพียงเท่า
นี้ ไม่แน่ว่าจะหุงข้าวกินได้ทุกคน อาจจะได้ข้าวดิบบ้าง แฉะบ้าง ไหม้บ้าง
เพราะไม่มีศิลปะในการหุงข้าว ฉลาดรู้แต่ยังไม่ฉลาดทำ
เรื่องอื่นๆ ก็เช่นกัน ไม่ว่าจะทำอะไร ถ้ารู้แต่ทฤษฏีอย่างเดียวแต่ไม่มีศิลปะ
ในการทำ ก็จะได้ผลงานที่ไม่ดีนัก
ประเภทของศิลปะ
ทางกาย คือฉลาดทำการช่างต่างๆ เช่น ช่างทอ ช่างเครื่อง ช่างทางศิลป์
ต่างๆ รวมทั้งฉลาดในการทำอาชีพอื่นๆ เช่น ทำไร่ ทำสวน เขียนหนังสือ
ตลอดจนถึงการยืน เดิน นั่ง นอน อย่างมีมารยาท การแต่งตัวให้เหมาะสม
การแสดงความเคารพ การสำรวมกาย ก็จัดเป็นศิลปะทั้งสิ้น
ทางวาจา คือฉลาดในการพูด มีวาทศิลป์ รู้จักเลือกพูดแต่สิ่งที่ดีเป็น
ประโยชน์ สามารถยกใจของผู้พูดและผู้ฟังให้สูงขึ้นได้
ทางใจ คือฉลาดในการคิด มีสติสัมปชัญญะ สามารถควบคุมความคิดให้คิด
ไปในทางที่ดี คิดในทางสร้างสรรค์ คิดในทางที่ยกระดับจิตใจให้สูงขึ้น
กล่าวโดยย่อ คือ ศิลปะ หมายถึง คิดเป็น พูดเป็น ทำเป็น
องค์ประกอบของศิลปะ
สิ่งที่ทำแล้วจัดว่าเป็นศิลปะ ต้องประกอบด้วยองค์ 6 ดังนี้
1 ทำด้วยความประณีต
2 ทำให้สิ่งของต่างๆ มีค่าสูงขึ้น
3 ทำแล้วส่งเสริมให้เกิดความคิดสร้างสรรค์
4 ทำแล้วไม่ทำให้กามกำเริบ
5 ทำแล้วไม่ทำให้ความคิดพยาบาทกำเริบ
6 ทำแล้วไม่ทำให้ความคิดเบียดเบียนกำเริบ
คุณสมบัติของผู้สามารถมีศิลปะ
1 ต้องมีศรัทธา มีความเชื่อมั่นในสิ่งที่จะทำว่าเป็นสิงดีจริง มีประโยชน์ มีใจ
รักที่จะทำ และมีความตั้งใจมั่นว่าจะต้องทำให้เสร็จ
2 ต้องไม่เป็นคนขี้โรค รู้จักระวังรักษาสุขภาพของตัวเอง
3 ต้องไม่เป็นคนขี้โม้ขี้คุย คนโอ้อวด ไม่มีใครอยากสอน ไม่มีใครอยาก
แนะนำ คนพวกนี้มัวแต่อวด มัวแต่คุย จนไม่มีเวลาฝึกฝีมือตัวเอง
4 ต้องไม่เป็นคนขี้เกียจ มีความมานะพากเพียร อดทน
5 ต้องเป็นคนมีปัญญา รู้จักพินิจพิจารณา ช่างสังเกต
วิธีฝึกตนให้มีศิลปะ
1 ฝึกตนเองให้เป็นคนช่างสังเกต รู้จักหาจุดเด่นของสิ่งรอบตัว
2 ตั้งใจทำงานทุกอย่งที่มาถึงตนให้ดีที่สุด อย่าดูถูกงาน อย่าเกี่ยงงาน
3 ตั้งใจทำงานทุกอย่างด้วยความประณีต ละเอียดลออ
4 ตั้งใจปรับปรุงงานให้ดีขึ้นเสมอ ไม่ทำอะไรอย่างชุ่ยๆ ขอไปที
5 หมั่นใกล้ชิดกับผู้มีศิลปะอย่างแท้จริงในสายงานนั้นๆ
6 ฝึกสมาธิอยู่เสมอ เพื่อให้ใจสงบผ่องใส เกิดปัญญาที่จะฝึกและปรับปรุง
ตนเอง ให้มีคุณสมบัติของผู้มีศิลปะได้
ข้อควรระวัง
อย่าเอาแต่จับผิดผู้อื่น ไม่เช่นนั้นตัวเราจะกลายเเป็น ศิลปินนักติ คือ ดีแต่ติ
ผลงานของผู้อื่นเรื่อยไป ติคนอื่นไว้มาก เลยไม่กล้าแสดงฝีมือ เพราะกลัว
คนอื่นจะติเอาบ้าง สุดท้าย เลยกลายเป็นคนไม่มีผลงาน ทำอะไรไม่เป็น
อานิสงส์การมีศิลปะ
1 ทำคนให้เป็นคน
2 ทำคนให้ดีกว่าคน
3 ทำคนให้เด่นกว่าคน
4 ทำคนให้เลิศกว่าคน
5 ทำคนให้ประเสริฐกว่าคน
6 ทำคนให้สูงกว่าคน
7 ทำคนให้เลี้ยงตนได้
8 ทำคนให้ฉลาด
9 ทำคนให้มั่งคั่งสมบูรณ์
10 ทำคนให้ประเสริฐ
11 ทำคนให้ได้รับความสุขทั้งโลกนี้ และโลกหน้า
12 ทำโลกให้เจริญทั้งด้านวัตถุและจิตใจ
ผู้มีศิลปะแม้เพียงอย่างเดียว ก็สามารถเลี้ยงชีพได้โดยง่าย ( พุทธพจน์ )
จากหนังสือ มงคลชีวิต ฉบับ ธรรมทายาท โดยพระสมชาย ฐานวุฑฺโฒ
Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2552 |
|
1 comments |
Last Update : 28 มกราคม 2554 13:37:22 น. |
Counter : 980 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: เก๋งค่ะ IP: 118.175.78.193 23 มกราคม 2553 14:41:07 น. |
|
|
|
|
|
|
|