โบรกแนะเลือกช็อป 25 หุ้นเด็ด ดัชนีมีโอกาสอ่อนตัว เน้นกลุ่ม laggard มีอัพไซด์สูง

ที่มา : Kaohoon.com

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเช้านี้ ณ เวลา 9.40 น. ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ 30.50 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ด้านตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวอยู่ในแดนลบตามตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐที่ปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไรและกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัว นักวิเคราะห์คาดวันนี้หุ้นไทยมีโอกาสอ่อนตัวลง แต่แรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติจะช่วยประคองตลาดหุ้น เก็งกำไร 25 หุ้น ได้แก่ BWG, SAT, TUF, AS, ROBINS, AP, SPALI, PTT, PTTEP, IRPC, BANPU, SIRI, CPF, MAJOR, STANLY, BTS, AMATA, HMPRO, LHBANK, HFT ,STA ,IVL, KTB, BAY, MINT และอาจเน้นกลุ่ม laggard แนะนำ LH (ประมูลที่สามย่าน 28ก.พ.) TCAP KK (รัฐอาจเพิ่มค้ำเงินฝาก) STEC (เพิ่มวงเงินสายสีแดง) KBS (ราคาน้ำตาลกำลังขึ้น)

บล.ฟิลลิประบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แนวโน้มตลาดวันนี้ : เทรดดิ้งในกรอบ 1130-1143 กลยุทธ์การลงทุน : ขึ้นขาย ลงซื้อ คาดตลาดหุ้นไทยจะกลับมาผันผวนในกรอบจำกัดมากขึ้น หลังจบประเด็นข่าวต่างๆ ที่เฝ้ารอไปแล้วทั้งเรื่องข้อตกลงเงินช่วยเหลือกรีซ และคำชี้ขาดของศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับพ.ร.ก. 2 ฉบับ ดังนั้น มองตลาดน่าจะพักตัวเพื่อมองหาปัจจัยใหม่ ทั้งนี้จะมีแรงสะสมหุ้นของต่างชาติอย่างต่อเนื่องเป็นตัวประคองการอ่อนตัวของตลาด โดยระหว่างทางน่าจะมีการเก็งกำไรหุ้นรายตัวตามข่าว รวมถึงการเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายการประกาศงบการเงินไตรมาส 4/54 และการจ่ายปันผลที่มักมีตามมามากขึ้น ทั้งนี้ มองกรอบการเคลื่อนไหวในวันนี้ของ SETI น่าจะอยู่ระหว่าง 1130-1143 จุดก่อน

กลยุทธ์การลงทุน : ระยะสั้นเน้นเทรดดิ้งแบบ “ขึ้นขาย ลงซื้อ” ไปก่อน แนวต้าน : 1143-1148 แนวรับ : 1133-1124

การจัดพอร์ตระยะสั้น* - หุ้น 50-75% : เงินสด 50-25%

ถือต่อในพอร์ต : BWG, SAT, TUF, AS หุ้นที่ปรับออก :PTTEP, PTT

หุ้นที่ปรับเข้า :. ROBINS เก็งกำไรทางเทคนิคในกรอบ 44.25-48.00 Cut loss 42.50

บาท

บล.ฟินันเซีย ไซรัสระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ ตลาดเริ่มอ่อนตัวลงแล้ว ดังนั้นสามารถเลือกหุ้นทยอยเข้าซื้อใหม่ได้!!

กลยุทธ์: หลังจากวานนี้แนะนำให้แบ่งส่วนขายทำกำไรบ้างเมื่อตลาดขยับขึ้น เพื่อรอลุ้นตลาดปรับตัวลง ดังนั้นช่วงถัดจากนี้จึงสามารถกลับมาพิจารณาเลือกหุ้นเข้าซื้อใหม่อีกครั้งได้เมื่อตลาดอ่อนตัวลง โดยหุ้นที่น่าสนใจได้แก่ CPALL, SAT, AP, SPALI, PTT, PTTEP, IRPC, BANPU เป็นต้น ขณะที่หุ้นที่ยังมี upside จากราคาตามพื้นฐานและน่าสนใจหาจังหวะเข้าซื้อด้วยเช่นกัน ได้แก่ SIRI(TP=2.30), CPF(TP=42), MAJOR(TP=17.30), STANLY(TP=220), BTS(TP=0.85) , AMATA(TP=22.10) และ HMPRO(TP=12.50)

หุ้นเด่นทางเทคนิค LHBANK, HFT, BLA (SBL)

แนวโน้ม เนื่องจากตลาดหุ้นทั่วโลกขยับขึ้นมารอรับข่าวบวกจากกรีซไปพอควรแล้ว จึงเริ่มมีแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมากดดันบ้างหลังข่าวจริงออกมา โดยคาดว่านักลงทุนบางส่วนเริ่มขายรับรู้กำไรก่อน เพื่อรอดูภาวะเศรษฐกิจและปัญหาหนี้ในยูโรโซนอีกครั้ง ทำให้ SET เริ่มปรับพักตัวลงไปเคลื่อนไหวเป็นลบด้วย อย่างไรก็ตามจากเม็ดเงินของนักลงทุนต่างประเทศที่ยังคงมีเข้ามาอยู่อย่างต่อเนื่อง จากสภาพคล่องในระบบที่มีสูง โดยเฉพาะในสัปดาห์หน้า (29 ก.พ.) จะมีการประชุม ECB ซึ่งคาดว่าจะมีการผ่อนเงื่อนไขการค้ำประกันกับแบงก์ที่จะกู้เงินผ่าน LTRO (เงินกู้ 3 ปีดอกเบี้ยต่ำ 1%) รอบสองได้ ก็จะยิ่งเพิ่มสภาพคล่องในระบบมากขึ้นอีก ดังนั้นจังหวะย้อนลงของตลาดจึงยังถือว่าเป็นโอกาสในการเลือกหุ้นเข้าซื้ออยู่

แนวรับ 1136-1132 , 1128-1125 จุด แนวต้าน 1140-1142 , 1145-1148 จุด

บล.กสิกรไทยระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ ตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐฯ ปิดลบ เนื่องจากข้อมูลทางเศรษฐกิจยูโรส่งสัญญาณว่าภาคบริการหดตัวลง นอกจากนี้ตัวเลขภาคอุตสาหกรรมจีนก็ยังอ่อนแอ อีกทั้งตลาดกังวลกับการที่ Fitch rating ปรับเครดิตกรีซลงจาก CCC เหลือเพียง C ซึ่งแสดงถึงกรีซมีโอกาสสูงมากที่จะผิดนัดชำระหนี้ (บางส่วน) ในเวลาอันใกล้นี้ จึงทำให้ตลาดมีแรงขายทำกำไรออกมา

การปรับขึ้นของหุ้นโลกในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ ถือเป็นการปรับขึ้นที่ดีที่สุดนับจากปี 2534 เป็นต้นมา ดังนั้นเรามองว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่ดัชนีทั่วโลกจะเกิดการพักตัวบ้างหลังปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้จากการที่ ECB ยังมีการปล่อยกู้ระยะยาว (LTRO) ในช่วงสิ้นเดือนและอิตาลีและสเปนมีพันธบัตรที่จะครบกำหนดในช่วง ก.พ.-มี.ค. ซึ่งอาจกลายมาเป็นข่าวบวกให้ตลาดได้ ทำให้ตลาดยังมีโอกาสปรับขึ้นไปเกินจุดสูงสุดเดิมเมื่อ ส.ค.54 ที่ 1148 อย่างไรก็ตามการเก็งกำไรควรบริหารความเสี่ยงโดยเน้นการซื้อในแบบ “ตั้งรับ” สำหรับหุ้นใหญ่ และหากจะซื้อดักให้เน้นหุ้นรองที่ยังไม่ขึ้นหรือวางกลยุทธ์ตัดขาดทุนได้ง่าย

กลยุทธ์การลงทุน: ตลาดอาจมีแรงขายทำกำไรบ้างตามตลาดตปท. วันนี้เราแนะนำนักลงทุนเก็งกำไรหุ้นที่ประเด็นเฉพาะตัวหรือ laggard แนะนำ LH (ประมูลที่สามย่าน 28ก.พ.) TCAP KK (รัฐอาจเพิ่มค้ำเงินฝาก) STEC (เพิ่มวงเงินสายสีแดง) KBS (ราคาน้ำตาลกำลังขึ้น) สำหรับหุ้นอื่นที่ยังปรับห่างจาก High รอบที่แล้วของ SET Index และเหมาะในเชิงเก็งกำไร ได้แก่ STA IVL, KTB, BAY, MINT, BANPU สำหรับนักลงทุนที่ต้องการทยอยลงทุนในหุ้นดีอาจเลือกทยอยสะสม BIGC ESSO MAKRO MINT HMPRO สำหรับนักลงทุนระยะกลางที่ลดพอร์ตทำกำไรไปแล้ว ให้ Wait and See หากจะซื้อกลับขอให้เป็นส่วนน้อย ส่วนพอร์ตที่ยังมีอยู่เน้น switch พอร์ตมาหาหุ้นปันผล การปรับขึ้นในระดับใกล้ 1150 จุด อาจพิจารณาทยอยลดพอร์ตลงบางส่วนอีกครั้ง

รวมแบบบ้านสวยๆ โมเดิร์น บ้านไม้ ไอเดียตกแต่งบ้าน ห้องนอน จัดสวน ฟรี

Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2555		0 comments
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2555 12:27:17 น.
Counter : 604 Pageviews.
Share Tweet