ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 10.07 น. ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ 31.70 บาท ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียมีทั้งปรับตัวอยู่แดนบวกและลบ นักวิเคราะห์คาดดัชนีหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวแคบ มีลุ้นทำ QE3 ปลายไตรมาส 3/55 เก็งกำไร 9 หุ้นเด่น ได้แก่ TISCO, CK, CFRESH, SAT,IRPC, DTAC, CENTEL, QH, VNG

บล.ฟิลลิประบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แนวโน้มตลาดวันนี้: ยังไม่น่ารีบหลุด 1207-1200 กลยุทธ์การลงทุน: Selective trading

ตลาดหุ้นไทยพักตัวมา 2 วันติดต่อกัน มองวันนี้อาจมีพักตัวต่อ แต่ไม่น่ามากนัก แม้ว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอกว่าคาดของสหรัฐ อาทิ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก และยอดขายบ้านมือสองอาจกดดันตลาดอยู่บ้าง แต่ตลาดก็ยังมีความคาดหวังเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการเก็งกำไรผลประกอบการมาช่วยประคองตลาดได้ระดับหนึ่งเช่นเดียวกับเครื่องมือบางตัวทางเทคนิคที่ส่งสัญญาณขาย แต่ก็พบกว่าMACD ยังแข็งแรงเหนือ Zero line และ Signal line จึงมองไม่น่ารีบหลุดแนวรับแถว 1207-1200 ไปได้ง่ายนัก

กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น: การเก็งกำไรอาจต้องเพิ่มความระมัดระวังจากความผันผวนในระหว่างวันของตลาดมากขึ้น แต่ยังคงแนะนำSelective Trading ได้ต่อตราบเท่าที่ดัชนีไม่รีบหลุด 1200 จุด โดยเน้นหุ้นที่คาดมีผลประกอบการดี หรือมีปันผลระหว่างกาลในเกณฑ์ดีรองรับ แนวต้าน : 1220-1228 แนวรับ : 1207-1200

การจัดพอร์ตระยะสั้น* - หุ้น 50% : เงินสด 50%

ถือต่อในพอร์ต : TISCO, CK, CFRESH, SAT

หุ้นที่ปรับออก : JAS, AMATA

หุ้นที่แนะนำ :IRPC เก็งกำไร FV 4.90 บาท กรอบเทรดระยะสั้น มองต้าน 3.96 รับ3.74 Cut loss 3.70 บาท

บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ ลุ้นตลาดโลกเก็ง QE3 ในสัปดาห์หน้า แนวโน้มตลาด: หุ้นยุโรปและสหรัฐฯ ปิดบวกหลังนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป หลังจากรัฐสภาเยอรมนีได้อนุมัติให้มีการนำเงินจากกองทุนรักษาเสถียภาพการเงินยุโรป (EFSF) เพื่อให้ความช่วยเหลือภาคธนาคารของสเปน อีกทั้งตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดี และผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ประกาศออกมาดีกว่าคาด ทั้งนี้สัปดาห์หน้าความคาดหวังต่อ QE3 ยังน่าจะเป็นปัจจัยบวกหนุนตลาดทุนและสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก ก่อน Fed จะประชุมในวันที่ 31 ก.ค. อย่างไรก็ตาม ยิ่งเข้าใกล้เวลาดังกล่าวความผันผวนจะยิ่งปรับเพิ่มขึ้น การเข้าลงทุนระยะสั้นยังสามารถทำได้ แต่ในเชิงกลยุทธ์ให้เน้นแบ่งขายหุ้นลดพอร์ตบ้างเมื่อหุ้นปรับขึ้น โดยเฉพาะหากสามารถเข้าใกล้ high เดิมที่ 1248 จุด โดยคาดกรอบเวลาในการเก็งกำไรที่ปลอดภัยอย่างน้อยถึงสัปดาห์หน้า(27 ก.ค.) ก่อนที่เราอาจจะมาพิจารณาทบทวนกลยุทธ์อีกครั้ง

กลยุทธ์การลงทุนSET Index ปิดลบ แต่ยังไม่หลุด trailing stop ของเราที่ 1205-1210 จึงยังให้น้ำหนักของการลุ้นในเชิงบวกเพื่อขึ้นทดสอบ 1230-1250 แต่การเลือกหุ้นอาจต้อง selective มากขึ้น โดยเน้นหุ้นที่มีประเด็นเฉพาะตัว และราคายังไม่ไปมากนัก ซึ่งจะทำให้นักลงทุนมีความได้เปรียบเชิงต้นทุน อีกทั้งวางกลยุทธ์ง่าย

หุ้นแนะนำ DTAC CENTEL QH VNG

สำหรับนักลงทุนระยะกลาง: เมื่อ 15 มิ.ย. เราเพิ่มน้ำหนักการลงทุนขึ้นอีก 10%เป็น 60% และยังเตรียมเพิ่มน้ำหนักการลงทุนขึ้นอีก โดยยังคงประเมิน downside ของ SET Index ที่ 1050 จุด หุ้นที่อาจพิจารณาทยอยสะสม ได้แก่ TICON TCAP KK TISCO EGCO RATCH PS AP SIRI QH PF PTTGC PTT KTB NMG RS

KGI ประเมินหุ้นไทยวันศุกร์ทรงตัวหรือบวกเล็กน้อย แนะอยู่นอกตลาดหลังลดพอร์ตแล้ว ทั้งนี้ แรงซื้อกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีจะยังค้ำตลาดอยู่ หลังจากราคาน้ำมันสหรัฐฯ พุ่งแรงต่อเนื่อง รับข่าวความตึงเครียดในซีเรียที่รุนแรงขึ้น นอกจากนี้คาดว่าหุ้นกลุ่มสื่อสารจะสร้างฐานราคาและชะลอการลงหลังจาก นสพ. ลงข่าวเช้านี้ว่าสรรพสามิตอาจเก็บภาษีสื่อสารที่ 3% (ไม่ถึง 10% อย่างที่กังวลกัน) ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นถือว่าราคาหุ้นมือถือที่ร่วงมา 2 วันน่าจะรับข่าวไปมากแล้ว ยกตัวอย่างหุ้น ADVANC* ซึ่งนักวิเคราะห์คาดผลกระทบต่อราคาเป้าหมาย 55 บาทหากเก็บภาษี 10% นั่นคือหากเก็บ 3% จะมีผลกระทบ 16 บาทเท่านั้น นอกจากนี้ผลประกอบการของหุ้นธนาคารที่ออกมาเมื่อวานล้วนสูงกว่าคาด ไม่ว่า KTB* หรือ TCAP* ซึ่งจะช่วยจำกัดผลของการ Sell on Fact ได้ระดับหนึ่งแต่คงไม่ทำให้หุ้นพุ่งแรงในช่วงสั้น

ด้านปัจจัยเศรษฐกิจโลก สหรัฐฯ รายงานตัวเลขเศรษฐกิจไม่ดี โดยผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานขึ้นมาเกือบ3.9 แสนราย และยอดขายบ้านมือสองรวมทั้งดัชนีชี้นำล่วงหน้า LEI ต่ำกว่าคาด ซึ่งน่าจะเพิ่มความหวังต่อ QE3 ได้บ้าง แต่ค่าเงินยูโรฯ ยังอยู่ในทางอ่อนอยู่หลังจากสเปนประมูลพันธบัตรมีดอกเบี้ยสูงขึ้นมากและดอกเบี้ย 10 ปีในตลาดรองยืนเหนือ 7% ภาพรวมให้ติดตามการประชุมของ รมว.คลังยุโรปในคืนวันนี้ว่าจะมีการอนุมัติให้เงินช่วยเหลือสเปนในทันทีหรือไม่ หลังจากสภาล่างของเยอรมันผ่านหลักการให้ความช่วยเหลือสเปนแล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา

กลยุทธ์: สำหรับพอร์ตเทรดดิ้งแนะให้ชะลอการลงทุน หลังจากลดพอร์ตเหลือ 0% แล้ว เพื่อรอจังหวะกลับเข้าเทรดอีกครั้ง ส่วนพอร์ตลงทุนระยะ 3 เดือนยังให้ถือหุ้นตามน้ำหนักเดิม เพื่อรอปัจจัยกระตุ้นได้แก่ QE3 ที่เรามองว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปลายไตรมาส 3/2555

Create Date : 20 กรกฎาคม 2555
Last Update : 20 กรกฎาคม 2555 12:05:37 น.		0 comments
Counter : 2461 Pageviews.
Share Tweet