ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.40 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 30.93 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ด้านตลาดหุ้นเอเชียมีทั้งปรับตัวอยู่ในแดนลบและบวก นักวิเคราะห์คาดหุ้นไทยผันผวน และอาจอ่อนตัวลงหลังจากตลาดหุ้นไทยปิดทำการ ทำให้ยังไม่ได้สะท้อนข่าวเรื่องความกังวลต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ แนะนำเลือกลงทุน 17 หุ้นเด่น ได้แก่  HEMRAJ, SIRI, AP, DTAC, INTUCH, BCP, AMATA, SAT, AH, STANLY, STEC, CK, ITD, CPF, AS, TUF, KH

บล.ฟิลลิประบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แนวโน้มตลาดวันนี้ : อยู่ข้างอ่อนตัวต่อ กลยุทธ์การลงทุน : ทยอยขาย

ตลาดหุ้นสหรัฐที่อ่อนตัวต่อเนื่องติดต่อกันเป็นวันที่ 4 บนความกังวลการฟื้นตัวเศรษฐกิจ คาดส่งแรงกดดันต่อตลาดหุ้นในเอเซียและตลาดยุโรปในวันนี้ เนื่องจากหลายตลาดได้ปิดทำการเทศกาลอีสเตอร์ก่อนหน้าทำให้ยังไม่สะท้อนรับข่าว ทั้งนี้ดัชนี VIX ที่พุ่งขึ้น 12.63% สู่ระดับ 18.81 และปรับ ตัวขึ้นราว 21.4% แล้วในเดือนเม.ย. แสดงถึงความผันผวนของตลาดที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง คาด SETI มีแนวโน้มเชิงอ่อนตัวเช่นกันในวันนี้ขณะวอลุ่มบางเนื่องจากมีวันหยุดยาวไปก่อนหน้าอีกทั้งในสัปดาห์นี้มีวันทำการเพียง 3 วันก่อนหยุดเทศกาลสงกรานต์ โดยปัจจัยที่ต้องจับตาได้แก่การที่นักลง ทุนต่างชาติกลับมามียอดขายในวันพฤหัสที่ผ่านมา รวมถึงความเคลื่อน ไหวทางการเมืองในส่วนของการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาแก้ไขรัฐ ธรรมนูญวาระ 2 ในวันที่ 10-11 เม.ย.

กลยุทธ์การลงทุน : เน้นด้านทยอยขาย แนวต้าน : 1194 แนวรับ: 1177

การจัดพอร์ตระยะสั้น* - หุ้น 50% : เงินสด 50%

ถือต่อในพอร์ต : SAT, AS, TUF, CPF, KH

บล.ฟินันเซีย ไซรัสระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ ช่วงนี้รอดูแรงซื้อก่อน แล้วเลือกหุ้นทยอยเข้ารับได้ แต่จำกัดพอร์ตไว้บ้าง...

กลยุทธ์: เนื่องจาก FSS ยังคาดว่า SET จะอยู่ในช่วงแกว่งตัวผันผวน แต่ก็ให้น้ำหนักเชิงบวกกับสภาพคล่องในตลาด และแรงซื้อของนักลงทุนต่างประเทศที่ยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเราจึงยังแนะนำให้รอเลือกหุ้นเข้ารับเฉพาะเมื่อตลาดปรับตัวลง โดยหุ้นที่แนะนำ ได้แก่ หุ้นกลุ่มสื่อสาร (DTAC, INTUCH) กลุ่มอาหาร กลุ่มบันเทิง กลุ่มโรงพยาบาล กลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ (SAT, AH, STANLY) กลุ่มค้าปลีก รวมทั้งหุ้นกลุ่มรับเหมา (STEC, CK , ITD) และหุ้นกลุ่มแบงก์ เพื่อลุ้นผลประกอบการ 1Q12  นอกจากนี้เรายังแนะนำซื้อ CPF ราคาเป้าหมาย 42 บาท

หุ้นเด่นทางเทคนิค   BCP, AMATA, KBS (SBL)

แนวโน้ม สัปดาห์ที่แล้ว SET ยังไม่สามารถขยับขึ้นต่อได้ หลังไต่ระดับขึ้นไปถึงจุดสูงสุดเดิมแถว 1214 จุดแล้ว ก็ยังมีแรงขายกดดันให้ปรับตัวลงค่อนข้างแรงในช่วงบ่าย ทำให้สุดท้ายแล้วดัชนีปิดสิ้นสัปดาห์ที่ 1182.41 จุด ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าถึง 14.36 จุด เนื่องจากไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามาหนุน ขณะที่ผลการประมูลพันธบัตรของสเปนก็ออกมาแย่ ทำให้นักลงทุนไม่ไว้วางใจต่อวิกฤติเศรษฐกิจของสเปน และยูโรโซนอีกครั้ง ขณะที่สัปดาห์นี้ FSS คาดว่า SET จะยังถูกแรงขายกดดันต่อเนื่อง หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเพิ่มขึ้นต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้พอควร รวมทั้งตลาดหุ้นไทยจะมีวันทำการน้อยวัน เนื่องจากวันหยุดในเทศกาลสงกรานต์ช่วงท้ายสัปดาห์ด้วย ดังนั้นเราจึงยังแนะนำให้รอหาจังหวะเลือกหุ้นเข้าซื้อเฉพาะเมื่อตลาดปรับตัวลงเท่านั้น ขณะที่ช่วงบวกขึ้นยังน่าแบ่งส่วนขายทำกำไรตามรอบบ้าง เพื่อลดความเสี่ยง

แนวรับ  1180-1177 , 1173-1170 จุด    แนวต้าน  1188-1190 , 1194-1196  จุด

KGI ประเมินตลาดหุ้นไทยวันอังคารปรับลดลง รับรู้การอ่อนตัวของตลาดหุ้นโลกเมื่อวันที่ 6 เม.ย.และ 9 เม.ย. หลังจากสหรัฐฯ รายงานยอดจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 1.2 แสนตำแหน่ง ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 2.0 แสนตำแหน่ง และแม้ว่าอัตราว่างงานจะลดลงเหลือ 8.2% แต่เกิดจากแรงงานสหรัฐฯ ส่วนหนึ่งถอดใจและเลิกหางานทำแล้ว ด้านตัวเลขเศรษฐกิจของจีนก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะสร้างความผันผวนให้ตลาด หลังจากเมื่อวานนี้จีนรายงานเงินเฟ้อเดือน มี.ค. ที่ 3.6% สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 3.3% และยังเป็นปัจจัยที่สร้างความสับสนต่อตลาดว่าจีนจะออกนโยบายผ่อนคลายได้หรือไม่ ทั้งนี้ตัวเลขสำคัญของจีนในสัปดาห์นี้ได้แก่ GDP ไตรมาส 1/2555 ที่จะรายงานในวันที่ 13 เม.ย. นี้ (แต่ตลาดหุ้นไทยจะหยุดทำการในช่วงเทศกาลสงกรานต์) ภาพรวมหุ้นใหญ่ยังแกว่งลง กลุ่มพลังงานมีแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจและกลุ่มธนาคารจะทยอย XD ใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า อย่างไรก็ดี ความหวังที่เพิ่มขึ้นว่าเฟดจะออกมาตรการ QE3 หลังตัวเลขเศรษฐกิจไม่ดี จะจำกัดทางลงของหุ้นโลกและหุ้นไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเฟดจะมีประชุมในวันที่ 24-25 เม.ย. นี้ ซึ่งมีโอกาสพอควรที่ถ้อยแถลงของเฟดจะเปลี่ยนไปอีกครั้ง เมื่อเทียบกับในรายงานจากการประชุมครั้งก่อน ณ วันที่ 13 มี.ค. ที่ว่าไม่น่าจะมี QE3 แล้ว

กลยุทธ์: ยังคงแนะให้เลี่ยงหุ้นกลุ่มพลังงานต้นน้ำและกลุ่มธนาคาร สำหรับหุ้นใหญ่ที่แนะนำซื้อไปแล้วเช่น TOP*, BBL* และ IVL* นั้นเราแนะนำให้ถือต่อไปก่อน แม้บรรยากาศลงทุนยังไม่เอื้อแต่มองว่าความเสี่ยงทางลงต่ำ ส่วนหุ้นแนะนำซื้อยังเป็นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เช่น HEMRAJ, SIRI และ AP เนื่องจากมีแนวโน้มที่ตลาดจะปรับเพิ่มประมาณการกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ได้อีกในอนาคต

Create Date : 10 เมษายน 2555
Last Update : 10 เมษายน 2555 11:29:24 น.		0 comments
Counter : 578 Pageviews.
Share Tweet