|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ตำนานแห่งรถเข็นไม้จำลอง
กับตัวอย่างการจดอนุสิทธิ์บัตรที่ไม่ถูกต้อง(แทบจะออกทะเล)
รายละเอียดของการประดิษฐ์
ชื่อที่แสดงของการประดิษฐ์ รถเข็นไม่โยกเยกตามพื้น

1.ลักษณะและความมุ่งหมายของการประดิษฐ์โดยย่อ เพื่อไม่ให้มีการกระฉอกหรือหกของอาหารบนรถเข็น เมื่อไปถึงทางที่ไม่ดีหรือทางที่เอียง เพื่อให้สามารถมีทางเลือกในการเดินทางได้มากขึ้น
2.สาขาวิทยาการที่เกี่ยวข้อง เรขาคณิตวิเคราะห์ ฟิสิกส์
3.ภูมิหลังของศิลปวิทยาการที่เกี่ยวข้อง การทำให้รถไม่สะเทือนอาจจะใช้โช๊คอัพก็ได้ แต่ในทางที่เอียงมากๆจะเกินความสามารถของโช็คอัพ เพื่อให้ตัวรถตั้งตรงอยู่ได้บนพื้นที่เอียง เราจะต้องออกแรงฝืนกำลังโช๊คอัพเสมอ และเนื่องจากรถยนต์เป็นยานพาหนะที่หนัก จึงจำเป็นต้องใช้โช๊คอัพ เพราะบังคับให้ตั้งตรงด้วยมือไม่ได้ แต่สำหรับรถเข็นมีทางออกอย่างอื่น
4.การเปิดเผยการประดิษฐ์โดยสมบูรณ์ ล้อทั้งสองข้างต้องสามารถเลื่อนขึ้นลงได้ตามพื้นที่ไม่สม่ำเสมอกัน เป็นการเลื่อนขึ้นลงแบบขนานกับด้านข้างของตัวถังรถ

โดยมีลูกล้อสองลูกต่อหนึ่งตำแหน่ง ล้อข้างหนึ่งจะมีทั้งหมดสี่ตำแหน่ง เพื่อขนาบให้การเลื่อนขึ้นลงของล้ออยู่ในกรอบ

โดยมีเชือกผูกระหว่างล้อทั้งสองข้างนั้น ซึ่งเชือกนี้ทำหน้าที่ยกตัวรถเอาไว้ โดยจะยกผ่าน ลูกล้อสองตัวซึ่งอยู่ที่ขอบล่างทั้งสองของตัวถังรถ

ดังนั้นการเลื่อนขึ้นลงของตัวถังรถเนื่องจากพื้นไม่ดี จึงเป็นไปโดยเฉลี่ยของการเลื่อนขึ้นลงของล้อทั้งสองข้าง เป็นการทำให้ความสะเทือนของพื้นเสมือนถูกหารสองเมื่อถึงตัวถังรถ แต่ด้วยระบบนี้จะทำให้รถคันนี้ไม่สามารถทรงตัวอยู่ได้ด้วยตัวเอง ผู้เข็นต้องจับให้ตั้งตรงอยู่เสมอ รถคันนี้จึงจำเป็นต้องมีระบบล็อคไม่ให้โยก การล็อคนี้จะสามารถบังคับได้ที่มือจับ เมื่อบีบแล้วล็อคจะคลาย ล้อจะสามารถเลื่อนขึ้นลงได้ เมื่อเราปล่อยมือจากตัวบังคับ มันจะทำการล็อคคืน ล้อจะไม่สามารถเลื่อนขึ้นลงได้ กลายเป็นรถเข็นธรรมดาทั่วไปในทันที เราจะล๊อคเมื่อถึงทางดีๆเรียบๆหรือเมื่อเวลาจอดไว้เฉยๆเท่านั้น เชือกเส้นนี้เมื่อทำเป็นรถเข็นคันใหญ่ของจริง ข้าพเจ้าจะใช้โซ่ของมอเตอร์ไซน์แทน เพื่อระบบล๊อคนั้นจะใช้แท่งเหล็ก(ซึ่งอาจจะเป็นกลอนประตู) แหย่ลงร่องของโซ่ ซึ่งจะเป็นการล๊อคที่มั่นคงกว่า

ขาตั้งของรถคันนี้มีทั้งหน้าและหลัง แต่เป็นขาตั้งที่เชื่อมถึงกัน สามารถพับเก็บขึ้นได้ โดยมียางหรือสปริงค์เป็นตัวดึงให้พับอยู่หรือดึงให้ตั้งอยู่ได้ โดยใช้เท้าของผู้เข็นเขี่ยขึ้นหรือลง

สาเหตุที่ต้องมีขาตั้งทั้งหน้าและหลัง เพราะล้อของรถคันนี้อยู่กึ่งกลางของตัวรถ ซึ่งโดยปกติ รถเข็นทั่วไปล้อจะค่อนมาข้างหลัง ซึ่งจะทำให้หนักหน้า และมีล้อหน้าเล็กๆอีกล้อเป็นตัวค้ำไว้เพื่อให้สามารถจอดโดยปล่อยวางได้เลย แต่ข้อเสียของมันคือ เมื่อเราจำเป็นต้องเข็นขึ้นเนิน ล้อหน้าจะติดได้ทำให้รถต้องเอียงมาข้างหลัง และข้าวของอาจจะหกได้ ดังนั้นมันจึงควรที่จะพับขึ้นได้โดยสะดวก แต่เนื่องจากรถของข้าพเจ้าล้ออยู่กลางรถ ทำให้รถสมดุล จึงไม่จำเป็นต้องมีล้อหน้า เวลาเข็นก็ไม่ต้องออกแรงกดตัวรถไว้

5.คำอธิบายรูปโดยย่อ ดังได้อธิบายไปทั้งหมดแล้วโดยสมบูรณ์
6.วิธีประดิษฐ์ที่ดีที่สุด เมื่อทำคันใหญ่ เชือกนั้นจะใช้สายโซ่แทนเพื่อความแข็งแรง และเพื่อทำแท่งเหล็กแหย่ลงร่องของโซ่เพื่อการล็อคที่มั่นคงยิ่งขึ้น ส่วนลูกล้อเหล่านั้นจะทำจากตลับลูกปืนทั้งหมด
ข้อถือสิทธิ์ 1.ถือสิทธิ์การวางลูกล้อ (ตลับลูกปืน) ทั้งหมดที่บังคับให้ล้อเลื่อนขึ้นลงในแนวขนานกับตัวถังรถได้ ข่างละ 8 ตัว รวมสองข้างเป็น 16 ตัว รวมกับ ลูกล้อสองตัวซึ่งอยู่ที่ขอบล่างทั้งสองของตัวถังรถ เป็น 18 ตัว 2.ถือสิทธิ์โครงสร้างสัดส่วนของตัวรถ 3.ถือสิทธิ์ขาตั้งแบบพับขึ้นได้นี้ ซึ่งติดเป็นแท่งเดียวกันทั้งข้างหน้าและข้างหลัง
บทสรุปการประดิษฐ์ 1.ทางปกติที่เคยไปก็จะไปได้ดียิ่งขึ้น สามารถลงหลุมบ่อในกรณีที่เลี่ยงไม่ได้ หรือจำเป็นต้องหลบรถลงข้างถนนโดยล้อข้างหนึ่งอยู่นอกถนนได้ หรือล้อข้างหนึ่งต้องขึ้นไปอยู่บนฟุตบาทโดยล้ออีกข้างอยู่บนถนน เพื่อเลี่ยงทั้งคนบนฟุตบาทและรถบนถนนได้ โดยข้าวของไม่หก 2.ทางที่ไม่เคยไปได้มาก่อนก็จะสามารถไปได้ ซึ่งอาจจะจำเป็นต้องไป เช่น ทางนั้นเป็นทางลัดไปถึงจุดหมายได้เร็วกว่า ดังเช่น การลงร่องระหว่างถนนไปถึงอีกเส้นโดยไม่ต้องอ้อมไกล ข้ามฟุตบาทหรือเกาะกลางถนนไปอีกฟากได้ หรือเข็นอาหารผ่านพื้นลูกระนาดเช่นไร่นาได้ เป็นต้น ปัญหาที่เกิดขึ้นของข้าพเจ้า ในการคิดรถคันนี้ขึ้นนั้น อยู่เพียงข้อ1 เท่านั้น แต่มองเห็นว่าหลักการนี้สามารถทำได้มากกว่านี้ จึงเกิดข้อ2 ขึ้นตามมา 3.ขึ้นลงที่ชันได้โดยไม่ต้องแหงนหน้ารถขึ้น เพราะไม่มีล้อหน้าเป็นตัวค้ำ และขาตั้งพับขึ้นได้ ซึ่งทางชันนั้นอาจจะเป็นเนินดินหรือสะพานตลอดจนบันใดที่ไม่ชันมากนัก ข้อจำกัด 1.รถช่วยบรรเทาความเอียงของพื้นทั้งด้านหน้าและด้านข้างได้ 30 องศาเท่านั้น ที่รถจะสามารถตั้งตรงอยู่ได้ ถ้าพื้นเอียงกว่านั้นก็จะส่งผลไปให้ตัวรถเอียงไปตามค่าความชันที่เหลือ เช่น ถ้าพื้นเอียง 45 องศา รถก็จะเอียงไป 45-30 = 15 องศาเท่านั้น แต่ควรจะหลีกเลี่ยงพื้นที่เอียงขนาดนั้น เพราะรถอาจไถลข้างลื่นลงก็ได้ 2.เมื่อคลายล็อคแล้วรถจะทรงตัวเองไม่ได้ ผู้เข็นต้องประคองรถอย่างระมัดระวัง 3.การขึ้นที่ชันมากๆแต่เตี้ยอย่างเช่น ฟุตบาท คันนา หรือขึ้นลงบันใด ควรใช้สองคนช่วยกัน คนหนึ่งต้องอยู่ข้างหน้า จับรถขึ้นในท่าถอยหลัง วิธีใช้ 1.นำขาตั้งขึ้นเมื่อจะเข็น 2.บีบคันบังคับที่มือจับเมื่อต้องการให้ล้อโยกขึ้นลงได้เมื่อถึงทางไม่ดีทั้งหลาย 3.เมื่อต้องการขึ้นฟุตบาทหรือขึ้นลงบันใด ควรช่วยกันเข็น 2 คน ทั้งข้างหน้าและข้างหลัง การขึ้นหรือลงนั้น ควรให้ล้อขึ้นหรือลงทีละข้าง เพื่อลดความรุนแรงและจะช่วยผ่อนแรงได้ทีละครึ่ง สำหรับฟุตบาท เมื่อล้อข้างหนึ่งขึ้นได้แล้ว และต้องการเข็นไปแบบนี้ตลอด ก็สามารถคลายตัวบังคับที่มือเพื่อให้ล็อคเลยก็ได้ คำแนะนำ ควรนำสิ่งของไว้ชั้นล่างให้เต็มเสียก่อน ที่เหลือจึงไว้ข้างบน เพราะการบังคับรถให้ตั้งตรงจะเบาแรงกว่าการวางของไว้ข้างบน และชั้นล่างนั้นการส่ายของรถเพราะพื้นไม่ดีที่จะทำให้กระฉอกนั้น จะน้อยกว่าข้างบนราวครึ่งหนึ่ง (ไม่ว่าจะเป็นรถของข้าพเจ้า หรือรถเข็นธรรมดาทั่วไปก็เช่นกัน) ดังนั้น ข้าวของที่เกรงว่าจะกระฉอกหรือหกที่ต้องระวังเป็นพิเศษ จึงควรไว้ชั้นล่างให้เต็มก่อนของอื่นๆ เพื่อลดโอกาสการกระฉอกลงด้วย เมื่อถึงที่หมายแล้วจึงค่อยยกขึ้นมาไว้ข้างบนตามปกติ
Create Date : 31 มกราคม 2549 |
Last Update : 1 มกราคม 2551 18:34:56 น. |
|
15 comments
|
Counter : 4564 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: Mr.Vop วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:9:05:08 น. |
|
|
|
โดย: loverpool วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:12:31:10 น. |
|
|
|
โดย: WebMaster Chomromdek.com IP: 61.91.118.99 วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:17:04:31 น. |
|
|
|
โดย: สมภพ IP: 58.9.151.218 วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:17:54:58 น. |
|
|
|
โดย: อีคิวศูนย์ IP: 202.44.14.194 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:19:27:47 น. |
|
|
|
โดย: Komi (komi_to ) วันที่: 22 มีนาคม 2549 เวลา:14:04:36 น. |
|
|
|
โดย: vagabundo IP: 140.116.202.4 วันที่: 18 เมษายน 2549 เวลา:22:04:08 น. |
|
|
|
โดย: สมภพ IP: 203.113.56.8 วันที่: 19 เมษายน 2549 เวลา:20:23:24 น. |
|
|
|
โดย: กลับมาแล้วคนดี IP: 202.28.25.77 วันที่: 2 พฤษภาคม 2549 เวลา:19:41:35 น. |
|
|
|
โดย: หนูอิน IP: 125.24.42.148 วันที่: 1 กรกฎาคม 2551 เวลา:19:35:51 น. |
|
|
|
โดย: เพีกรบขจย่าวส IP: 125.24.42.148 วันที่: 1 กรกฎาคม 2551 เวลา:19:39:38 น. |
|
|
|
โดย: เพีกรบขจย่าวส IP: 125.24.42.148 วันที่: 1 กรกฎาคม 2551 เวลา:19:39:57 น. |
|
|
|
โดย: oke IP: 118.173.39.128 วันที่: 12 กรกฎาคม 2552 เวลา:12:16:59 น. |
|
|
|
โดย: Kingkimson วันที่: 31 ตุลาคม 2553 เวลา:15:30:02 น. |
|
|
|
โดย: นภา IP: 110.164.150.163 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2553 เวลา:13:38:08 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
นครราชสีมา Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]

|
รูปภาพทั้งหมดในนี้ สามารถนำไปใช้ได้ฟรีนะครับ แต่ไม่ควรลบสัญลักษณ์แสดงความเป็นเจ้าของในรูปออกไป รูปใดไม่มีสัญลักษณ์ อยากให้ช่วยอ้างอิง จาก sompop.bloggang.com ด้วยครับ
|
|
|
|
|
|
|
|
มาให้กำลังใจ