อมยิ้มนิดนิด
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?]









Google



all webpantip

Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2556
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
29 พฤศจิกายน 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add อมยิ้มนิดนิด's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 

จิ่วไจ้โกว Oct 2013 วันแรก ดอนเมือง-ฉงชิ่ง-เฉินตู

25 ตุลาคม 2556

ออกจากบ้านตี 4 ประมาณ ครึ่งชม.ก็ถึงดอนเมือง ค่าแท๊กซี่ 125 บาท

หลังจากเช็คอินแล้วก็เข้าไปด้านในเลย เพราะคนไม่ค่อยเยอะ
ต้องเข้าไปรับของจากเค้าน์เตอร์ที่คิงเพาเวอร์ก่อน
และเผื่อพี่สาวจะอยากดูอะไรเพิ่ม แล้วก็เดินไปที่เกทเลย

แถวๆเกท ก็เลยไปรับน้ำฟรีจากทรูแบลคการ์ดมา 3 แก้ว ของแดรี่ควีน
พอเดินกลับมาก็มีประกาศแจ้งเปลี่ยนเกท นึกว่าจะมานั่งชิวๆสบายๆซะหน่อย
เลยต้องหอบหิ้วน้ำ 3 แก้ว ย้ายเกท ลงไปด้านล่าง ไปนั่งรอซักพักก็ได้ขึ้น shuttle bus ไปขึ้นเครื่อง

ไฟล์ท FD2556 06.20-10.20 ดอนเมือง - ฉงชิ่ง 


รอบนี้เราซื้อที่นั่งให้ของหลานกับพี่สาว แถวที่ 7
ส่วนของเรา ไม่อยากนั่งติดปีก ไม่ได้ซื้อที่นั่งไว้ เลยได้ที่นั่งแถว 25

บนเครื่อง หลังจากเทคออฟแล้ว..
พระอาทิตย์กำลังขึ้น แสงสีทองเต็มท้องฟ้า



ก้อนเมฆเรียงตัวกันสวยเชียว



มื้อเช้า เป็นไก่ย่างดาด้าและน้ำจิ้มแจ่ว
คุณแอร์ขาไปทำงานโปรมาก เอาน้ำจิ้มมาให้พร้อมตัดมาให้ด้วย
ข้าวเหนียวและไก่ อุ่นมากำลังพอดี



น้ำที่มาพร้อมเซ็ทอาหาร ถ้วยเล็กนิดเดียว ส่วนแก้วใหญ่นั่นถือขึ้นมาเองจากด้านล่าง

วิวท้องฟ้าช่วงเช้าสวยจริงๆ



พอไปถึงที่ฉงชิ่ง ก็ผ่านด่านตม. รับกระเป๋า แล้วเดินออกจากสนามบิน ไปทางซ้ายมือ
(เดินตามรีวิวนี้ไปเลยค่ะ //topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2012/10/E12840204/E12840204.html)
เพื่อเดินไปขึ้น รถไฟฟ้า เพื่อไปลงที่สถานี Chongqingbei ค่ารถคนละ 5 Y

ไปหาตู้กดตั๋วมา ได้ตั๋วมาก็ไปขึ้นรถไฟกันโลดค่ะ



ไปถึงสถานีรถไฟประมาณ 11.30 น. คาดหวังว่าจะได้ตั๋วรอบเที่ยง..

ปรากฎว่า อาเจ๊ที่เค้าน์เตอร์ขายตั๋ว บอกว่ารอบเที่ยงไม่ทันแล้ว บ่ายสองก็ไม่มี
มีรอบห้าโมงเย็น แล้วก็ไม่กด รอบอื่นให้เราดูอีกเลย โทษฐานที่พูดกันไม่รู้เรื่อง..

แล้วรอบที่เราหาข้อมูลมาก็ไม่มีด้วย เค้าเปลี่ยนเวลาใหม่หมด
แต่เราอ่านกันไม่ออกว่ามีไปไหนบ้าง รอบกี่โมง



ภาพอาจจะไม่ค่อยชัด ใช้ไอโฟนถ่ายมา
ระหว่างที่เรากำลังเลือกรอบ อาแปะที่ยืนด้านหลังก็พยายามจะซื้อตั๋วก่อนเราให้ได้
อาเจ๊คนขายตั๋วก็ดุอาแปะไปรอบนึง แต่ก็ไปทำให้ก่อน ระหว่างที่เรามึนงง กับรอบที่อาเจ๊หาให้

สรุป เราก็ได้ตั๋วมารอบ 17.00 น.เป็นแบบไม่มีที่นั่ง ใช้เวลาประมาณ 2.30 ชม. ถึงเฉินตู



หลังจากได้ตั๋วแล้ว เราก็หาโทรศัพท์เจออาหมวยใจดี เค้าเพิ่งลงจากเครื่องมาพร้อมกัน
หลานเลยเข้าไปขอให้เค้าใช้โทรศัพท์เปิดเน็ทเพื่อหาเบอร์โทรของที่พัก traffic inn ที่เฉินตู
เพื่อยืนยันห้องพักที่จองไว้ เพราะทีแรกเมล์บอกเค้าว่าเราจะเข้าไปไม่เกิน 5 โมงเย็น
กลายเป็นว่าเราหาตั๋วไปไม่ทัน กว่าจะไปถึงก็ไม่ต่ำกว่า 2 ทุ่ม กลัวเค้าไม่เก็บห้องไว้ให้
แล้วเราก็ทำข้อมูลมาแค่วิธีการเดินทางไปให้ถึงที่พัก ไม่ได้คิดเผื่อเหตุฉุกเฉินแบบนี้
เลยลืมจดเบอร์โทรของที่พักออกมาเก็บไว้ อันนี้เก็บไว้เป็นบทเรียนสำหรับครั้งต่อไป

อาหมวย เปิดเน็ทหาเบอร์โทรของ traffic inn ให้แล้ว ยังใช้โทรศัพท์ของเค้าโทรบอกให้ด้วย

ขอบคุณอาหมวยใจดี ที่ช่วยเหลือ กระเหรี่ยงไทย 3 คนในครั้งนี้มากๆ

พอจัดการเรื่องตั๋วและที่พักแล้ว ก็ไปเดินดูแถวๆนั้นนึกว่าจะหาอะไรกิน
แต่ไปเห็นที่ฝากกระเป๋า ก็เลยฝากไว้ ราคาใบละ 10 Y 3ใบ ก็จ่ายไป 30Y
เก็บใบฝากไว้ดีดีด้วยนะคะ เพราะต้องใช้ตอนมารับกระเป๋าคืน



ตอนนี้ตัวเริ่มเบา เลยให้หลานดูสถานีที่จะไป Jeifangbei เพื่อไปหาอะไรกินกันก่อน และเดินเล่นฆ่าเวลา




เดินชมเมือง



แถวๆหอนาฬิกา



แล้วก็เดินเข้าไปใต้ตึก Suning เป็นเหมือนฟู้ดเซ็นเตอร์ เห็นเค้าทานกันเลยสั่งมาลองดูบ้าง
เกี๊ยวน้ำชามนี้ 10Y




เค้ามีเนื้อปิ้งย่างขายด้านหน้าทางเข้าด้วย แต่วันนี้ยังไม่ได้ลองชิม



วิวระหว่างเดินทางกลับไปสถานีรถไฟ



ทางเดินระหว่างเปลี่ยนขบวนรถ



ไปถึงสถานีรถไฟ ก็ไปรับกระเป๋าคืน เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย
แล้วก็ไปต่อแถว เข้าไปที่ waiting hall
ต้องใช้ตั๋วรถไฟ และพาสปอร์ตด้วยนะคะ
สแกนกระเป๋าก่อนเข้าด้วยค่ะ ห้ามเอามีดไปด้วยเด็ดขาด เค้ามีบอกไว้ด้วยค่ะ



ค่าตั๋วรถไฟหัวกระสุนคนละ 96.5 Y
ทีแรกเข้าใจว่าเพราะของพวกเราเป็นแบบไม่มีที่นั่งเลยราคาลดลงมาหน่อยนึง
เพราะที่หาข้อมูลมา จะราคาคนละ 98 Y
แต่สรุปว่า เพราะเราซื้อตั๋วชั้น 3 เลยเป็นราคานี้นะคะ จะมีที่นั่งหรือไม่มีก็ราคาเดียวกันค่ะ

พอใกล้เวลารถออก เค้าจะให้เข้าไปรอด้านในอีกทีค่ะ ช่วงนี้ต้องไปยืนรอ



หลังจากนั้น ก็จะมีพนักงานมาเปิดประตูให้เข้าไปได้ค่ะ จากตั๋วของเราเป็นตู้ที่ 14 ค่ะ
เดินไปหาตู้ที่จะขึ้นได้เลยค่ะ พวกเราไม่มีที่นั่งเลยต้องรีบไปขึ้นรถค่ะ กะจะไปหาที่วางกระเป๋า
เพราะกระเป๋าเดินทาง 3ใบ คงจะเกะกะน่าดู
แต่พอขึ้นรถไฟไปแล้ว คนจีนที่เค้าขึ้นไปก่อน ก็บอกว่า เอาถังน้ำที่เค้าคว่ำไว้มานั่งแทนเก้าอี้ได้
แล้วพนักงานบนรถก็ใจดีค่ะ บอกให้หนุ่มๆ ขยับที่นั่ง ให้พวกเราเอากระเป๋าวางหลบไว้แทนค่ะ

ทีแรกนึกว่าจะต้องยืนไปจนถึงเฉินตูซะแล้ว ..

ไปถึงเฉินตู ด้วยความกลัวว่าจะไม่มีตั๋วรถกลับอีก เลยเดินไปหาที่ซื้อตั๋วขากลับไว้ก่อนค่ะ
แล้วค่อยไปที่พัก เดินตามรีวิวด้านบนไปเลยค่ะ แต่พอดีไปถึงเกือบสองทุ่มแล้ว
ตอนเดินเข้าที่พักเดินเลยไปหน่อย ยังดีที่มองย้อนกลับมาเห็นป้ายโรงแรม
ไม่งั้นคงเดินเลยไปอีกไกล พอเริ่มดึก อากาศก็ยิ่งเย็นลงไปอีกค่ะ

เช็คอินเข้าที่พักแล้ว น้องพนักงานก็พาไปที่ห้องเป็นแบบดอร์ม 4 คน
มีสาวชาวต่างชาติอยู่ในห้องอยู่แล้วคนนึง
เรา 3 คน ทักเค้าเค้าก็เฉยๆ ผิดวิสัยการอยู่ห้องรวมแบบนี้มากๆ
เราเลยไปจัดการธุระส่วนตัวกัน แล้วก็ต้มน้ำเพื่อกินมาม่า
โดยยกออกไปกินนอกห้องเพราะเกรงว่ากลิ่นจะไปรบกวนเธอคนนั้น..
พออิ่มก็ออกไปเดินสำรวจร้านเซเว่น..ได้ขนมปังถั่วแดง มาเผื่อไว้สำหรับพรุ่งนี้เช้า ..


ตอนที่เราเข้าห้องพักมาเราเห็นเธอไม่ได้เปิดแอร์..เราก็เลยไม่ได้เปิดแอร์นอน
แต่คืนแรกอากาศก็ค่อนข้างเย็นอยู่แล้วก็เลยไม่ได้สนใจอะไร..

คืนนี้เข้านอนกันแบบสลบมาก..
เพราะตื่นกันมาแต่เช้า กว่าจะเข้านอนอีกทีเกือบเที่ยงคืน..




 

Create Date : 29 พฤศจิกายน 2556
1 comments
Last Update : 30 พฤศจิกายน 2556 11:27:24 น.
Counter : 2087 Pageviews.

 

ลุยจัง

 

โดย: tuk-tuk@korat 29 พฤศจิกายน 2556 15:40:21 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.