แม้อากาศจะหนาวเหน็บเพียงใด เมื่อหัวใจเรามีเพื่อน แม้กายเราจะหนาว แต่หัวใจของเรา อบอุ่น...เสมอ...
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2550
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
18 สิงหาคม 2550
 
All Blogs
 
เจ้าชายหิมะ ตอนที่ 4

“เจ้าเป็นหญิงหรือชายกันแน่?” แล้วจ้องหน้าคนชุดเทาที่นอนสงบนิ่งอยู่เบื้องหน้า ก่อนตัดสินใจพิสูจน์หาความจริง ค่อย ๆ เอื้อมมือหนา ๆ คลำหาบางสิ่งบางอย่างที่ควรจะมี

บุรุษหนุ่มชะงัก!! แล้วถอนมือกลับ

“เจ้า! เป็นหญิง!” เมื่อคลำไม่พบลูกกระเดือกบริเวณลำคอของร่างที่หมดสติ

บุรุษผมเทาได้แต่มองใบหน้าซีดขาวราวกับกระดาษอย่างครุ่นคิด สมองคิดอะไรไม่ออก รู้สึกสับสนอยู่ภายใน

“ทำไมข้าต้องห่วงเจ้าด้วยนะ” เจ้าชายแรร์เน็สถามตัวเอง หลังจากค้นหาสาเหตุของความรู้สึกนั้นเจอ

“จริง ๆ ข้าควรจะฆ่าเจ้าเดี๋ยวนี้” แล้วกระชับดาบขึ้นมาไว้ในมือ แม้จะรู้สึกอ่อนล้าเต็มทีก็ตาม แต่ทว่าอีกความคิดหนึ่ง กลับสวนทาง ความรู้สึกขัดแย้ง ลำบากใจกำลังแทรกซึมเข้าไปในหัวใจของเจ้าชาย หากต้องปลิดชีวิตร่างที่นอนแน่นิ่งคนนี้ แม้ช่วงเวลาที่ได้รู้จักกันอาจไม่นานแต่เหตุการณ์ต่าง ๆ บ่งบอกถึงจิตใจอันเต็มเปี่ยมด้วยความเมตตา และงดงาม ทุกสัมผัสของคน ๆ นี้เต็มไปด้วยความปรารถนาดีที่เจ้าชายเองก็รู้สึกและสัมผัสได้

“แต่เจ้าเป็นผู้อ่านคาถา ข้าต้องฆ่าเจ้า” เจ้าชายผมสีเทาขยับดาบในมืออย่างช่างใจ แล้วจ่อปลายดาบลงที่ลำคอของคนชุดเทา แต่อย่างไรก็ตาม ไม่อาจกล้าออกแรงตวัดปลายดาบฟันลงไปได้เลย ภาพเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ขณะต่อสู้กับมดยักษ์ที่หญิงสาวช่วยเหลืออย่างไม่คิดถึงชีวิตของตนเองเลยแม้แต่น้อยมันวนเวียนอยู่ในสมอง

ชายหนุ่มหลับตาลงอย่างคิดไม่ตก แล้วถอนหายใจแรง ๆ ก่อนตัดสินใจวางดาบลงข้างตัว

“มันต้องมีทางสิ! ทางที่ข้าไม่ต้องฆ่าเจ้า…เฟรนลี่” เจ้าชายคิดกังวล และเชื่อมั่นในความรู้สึกของตนเองว่าเธอจะต้องไม่ยอมอ่านคาถาบนดาบทองสีรุ้ง หากถูกฝ่ายอำนาจมืดจับตัวไป ที่สำคัญตอนนี้ยังไม่มีใครรู้ว่าดาบทองสีรุ้งนั้นอยู่กับใคร…?? ที่ไหน…??

เจ้าหญิงเฟรนลี่เริ่มรู้สึกตัว แล้วไอถี่ ๆ สำรอกน้ำที่เข้าไปออกมา ลืมตาขึ้น แล้วมองสิ่งรอบตัวอย่างช้า ๆ เมื่อมองเห็นบุรุษผมเทานั่งอยู่เบื้องหน้า จึงค่อย ๆ พยุงตัวเองลุกขึ้นแม้จะรู้สึกปวดร้าวระบมไปทั่วทั้งตัวด้วยความอ่อนเพลียและบอบช้ำ

“เจ้าฟื้นแล้วหรอ” เจ้าชายเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ความกังวลลดลงเมื่อเห็นหญิงสาวปลอดภัย

“เจ้าถูกมดยักษ์ทำร้าย!!” ภาพอันน่ากลัวนั้นยังจำได้ติดตา เมื่อเจ้ามดยักษ์ปักเขี้ยวจมมิดลงบนหน้าอกของเจ้าชาย เลือดแดงทะลักออกมาเป็นสายธารหลาก แล้วเข้าไปจับแขนบุรุษหนุ่มเขย่าอย่างร้อนใจด้วยความเป็นห่วง

“เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า?” เผลอยกมือเปิดเสื้อของชายหนุ่มดูอย่างลืมตัว มองบาดแผลบนแผ่นอกของเจ้าชายด้วยความรู้สึกแปลกใจ

เจ้าชายนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ที่อยู่ ๆ หญิงสาวก็โผเข้ามาหาในระยะประชิดตัวเช่นนี้

“ข้า…ไม่…เป็นไรหรอก” เสียงเจ้าชายแผ่วลงกว่าเดิม ราวกับเสียงกระซิบ ดวงตาสีสนิมเหล็กดูอ่อนระโหยโรยแรง

เจ้าหญิงมองแผลนั้นกำลังปิด และกำลังจะเลือนหายไปในที่สุด

“เจ้าอย่าห่วงไปเลย” บุรุษหนุ่มกระพริบตาอย่างเชื่องช้าด้วยความอ่อนล้า เปลือกตานั้นทิ้งตัวลงมาครึ่งหนึ่ง

“แผลกำลังจะหาย…” เจ้าหญิงมองอย่างไม่เชื่อสายตา แต่ก็ต้องเชื่อ ไม่ว่ามันจะหายด้วยเหตุใด วิธีไหนก็ตาม ความรู้สึกหนึ่งบอกเธอว่า บุรุษตรงหน้าคนนี้ ไม่ใช่คนธรรมดา แต่ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร เป็นอะไรก็ช่าง มันไม่สำคัญเท่ากับการที่รู้ว่าเขาปลอดภัย แล้วเงยหน้ายิ้มให้เจ้าชายอย่างดีใจที่สุด

เจ้าชายมองรอยยิ้มแย้มบนใบหน้าของคนที่อยู่ตรงหน้า ดวงตาสีเขียนสดใสคู่นั้นเป็นประกาย เป็นความรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก รอยยิ้มแบบนี้ไม่เคยได้รับจากใครมานานแล้ว รอยยิ้มที่อ่อนโยน รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความปรารถนาดี คนที่เคยยิ้มแบบนี้ให้เจ้าชายมีเพียงไม่กี่คนและต่างล้มหายตายจากโลกนี้ไปหมดแล้ว เจ้าชายนึกถามตัวเองอยู่ในใจ

เจ้าเป็นใครกัน ทำไมถึงเป็นห่วงข้า ดีกับข้าถึงเพียงนี้ ทั้งที่เราเพิ่งรู้จักกันเท่านั้น… เจ้าช่างเต็มไปด้วยความงดงามเหลือเกิน…

เมื่อเจ้าหญิงมีสติ รีบละมือออกจากร่างของชายหนุ่ม ปั้นสีหน้าไม่ถูก ที่เผลอไปถูกเนื้อต้องตัวบุรุษหนุ่มอย่างนั้น ได้แต่ก้มหน้าก้มตามองตัวเอง เห็นกระดุมเสื้อเม็ดบนเปิดออก รู้สึกใจหายวาบ ยกมือจับคอเสื้อไว้แน่น

“เจ้า!!” แล้วจ้องหน้าเจ้าชายนิ่งอย่างเคร่งเครียด แล้วรีบถอยตัวออกห่างอย่างรวดเร็ว แต่กลับช้าไป

“ไม่…..!! นะ!!” หญิงสาวกรีดร้องเสียงหลง เมื่อร่างเจ้าชายโน้มตัวเข้ามาใกล้ และเหมือนถูกบังคับให้ล้มลงกับพื้น

“………………..!!!!!!!”

เจ้าหญิงเฟรนลี่ตกใจสุดขีด เนื่องจากยังไม่ทันตั้งตัวบวกกับความตกใจ เซล้มลงตามแรงน้ำหนักของร่างเจ้าชายที่เทลงมาอย่างไม่ได้ยับยั้ง

“อย่านะ!! เจ้าจะทำอะไรข้า ทำแบบนี้กับข้าไม่ได้นะ ออกไปนะ ออกไป” เจ้าหญิงตะโกนโหวกเหวกโวยวายด้วยน้ำเสียงแหบพร่าอย่างอ่อนแรง

“ปล่อยข้านะ!” พยายามใช้กำลังที่มีเหลือเพียงน้อยนิดนั้นขัดขืนอย่างสุดกำลังจนเหนื่อยล้า พอหยุดการเคลื่อนไหว จึงรู้ว่า อีกฝ่ายหยุดการเคลื่อนไหวเช่นกัน ไม่ขยับเขยื้อนอะไรอีกเลย และดูเหมือนจะหยุดขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวนานแล้ว

เจ้าหญิงเฟรนลี่รวบรวมกำลังทั้งหมดพยายามขยับตัวออกมาจากร่างของเจ้าชายที่หมดสติ แล้วหายใจออกอย่างโล่งอก มองร่างสูงของเจ้าชายที่แน่นิ่งอยู่กับพื้น

“บ้า!! จะสลบก็ไม่บอกกันซักคำ ใครจะไปรู้ล่ะ” นึกขำและอายตัวเองที่โหวกเหวกโวยวายอยู่คนเดียว ว่าแล้วก็ค่อย ๆ พลิกร่างเจ้าชายแรร์เน็สให้นอนให้ท่าสบายที่สุด

“เจ้าเป็นอะไรมากหรือเปล่า ทำไม…” เจ้าหญิงพึมพำเบา ๆ อย่างเป็นห่วง ใบหน้าสวยนั้นแฝงความกังวลใจอย่างเห็นได้ชัด เมื่อมองใบหน้าเยือกเย็นของบุรุษหนุ่มอันซีดขาว ขอบตาและริมฝีปากกลายเป็นสีเดียวกับผมสีเทานั้น

“ข้าจะช่วยอะไรเจ้าได้บ้าง…” เอื้อมมือจับเสื้อของเจ้าชายที่ยังเปียกชื้นอยู่ คิดว่าควรจะเปลี่ยนเสื้อให้ใหม่ก่อนที่จะป่วยไข้ไปมากกว่านี้

เจ้าหญิงเฟรนลี่เดินสำรวจกระท่อม สภาพกระท่อมเก่า ๆ รกร้าง เต็มไปด้วยฝุ่นหนา ๆ และใยแมงมุมระโยงระยาง แถมยังผุพังอีกต่างหาก มือเอื้อมไปตบฝุ่นหนาบนหีบใหญ่ใบหนึ่งตรงมุมกระท่อม และปาดหยากไย่สีขาวออก เมื่อหีบเหล็กถูกเปิดออกด้านในมีเสื้อผ้าเก่า ๆ อยู่ 2-3 ชุด มีผ้าห่มสีตุ่น ๆ อยู่ผืนหนึ่ง จึงรีบจัดการกับเสื้อผ้าเปียก ๆ ของตัวเอง แล้วนำชุดใหม่ไปเปลี่ยนให้บุรุษผมเทาที่นอนนิ่งอยู่บนพื้น

“คนอะไรตัวหนักชะมัด” เจ้าหญิงเฟรนลี่บ่นเบา ๆ ขณะประคองร่างไร้สติของชายหนุ่มขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนเพื่อเปลี่ยนเสื้อให้ นึกถึงตอนที่ตัวเองแบกร่างเจ้าชายหนีหมดยักษ์ แบกเข้าไปได้ยังไง ตอนนั้นเอาพละกำลังมาจากที่ไหน

เสียงฝนตกดังกระหน่ำอยู่ภายนอก เสียงฟ้าคำรามเปรี้ยงป้างสนั่นหวั่นไหว สองมือต้องคอยยกขึ้นปิดหู น้ำฝนเริ่มรั่วซึมลงมาจากหลังคาซอมซ่อใกล้ผุพังเต็มที

“ตายล่ะ หลังคารั่ว!” รีบลากร่างเจ้าชายที่ไร้สติให้หลบฝนมาอีกมุมหนึ่งของกระท่อม เปลี่ยนไปหลายมุมจนพบมุมที่ฝนรั่วน้อยที่สุด

อากาศทั้งเย็นและชื้น ลมด้านนอกยิ่งโหมพัดเข้ามาให้หนาวเหน็บ รู้สึกเหนื่อยและอ่อนเพลีย เจ้าหญิงห่อตัวด้วยความหนาว ยกมือขึ้นมาถูกันไปมาและเป่ามือให้อุ่นขึ้น มือสั่นเทาและเริ่มชาหยิบผ้าห่มสีตุ่น ๆ ออกมาคลี่ พลางมองร่างที่นอนแน่นิ่งอยู่ข้าง ๆ ด้วยความห่วงใยว่าเขาจะหนาวหรือเปล่า จะห่มคนเดียวก็กระไรอยู่ แต่จะห่มร่วมกับบุรุษ มันก็ไม่เหมาะ ไม่งาม คิดวกวนจนสับสนไปหมด จะทำอย่างไรดี เพราะผ้าห่มมีอยู่ผืนเดียว ได้แต่ถอนหายใจแล้วถอนหายใจอีก

“เฮ้อ…แบ่งกันก็ได้” เมื่อตัดสินใจได้แล้ว จึงห่มผ้าห่มให้เจ้าชาย

“เจ้าห้ามทำอะไรข้านะ” เจ้าหญิงเฟรนลี่กำชับร่างไร้สติของชายหนุ่มข้างตัว ก่อนจะล้มตัวลงใต้ผ้าห่มสีตุ่น นอนหันหลังให้จนม่อยหลับไปอย่างอ่อนเพลีย

=============

ควันไฟจาง ๆ ลอยตัวอ้อยอิ่งอย่างเชื่องช้า ราวกับไว้อาลัยอย่างเศร้าสร้อยและคอยส่งวิญญาณของเหล่าทหารที่ต้องบาดเจ็บล้มตายในสนามรบ สภาพศพร่างชายหนุ่มฉกรรจ์นอนพลิกคว่ำหงายดาดเดื่อนเกลื่อนพื้นดินอันแห้งแล้ง บ้างถูกฟันด้วยดาบ บ้างถูกแทงด้วยหอกและหลาว บ้างยังมีลูกธนูปักคาอยู่ตามร่างกาย เลือดแดงไหลจนแห้งเหือดเกรอะกรังตามที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอาวุธ พื้นดิน และร่างไร้วิญญาณ ลมพัดกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง แมลงวี่ แมลงวันเริ่มบินว่อน อีแร้งบินคอยบนท้องฟ้าเตรียมลงมาลิ้มรสอาหารอันโอชะ

ร่างสูงในเครื่องแบบเต็มยศของเจ้าชายแห่งเรียวขาดวิ่น เนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผลลึกฉกรรจ์ เลือดยังไหลซึมตลอดเวลาไม่ยอมหยุด ลมหายใจแผ่วเคลื่อนไหวช้าลงและช้าลง ร่างนั้นถูกประคองเดินซวนเซไกลออกไป…ไกลออกไป…ด้วยความหวัง แม้จะเป็นความหวังน้อยนิดเหลือเกินก็ตาม ทิ้งภาพความสูญเสียเลือดเนื้อ และชีวิตไว้เบื้องหลัง




Create Date : 18 สิงหาคม 2550
Last Update : 18 สิงหาคม 2550 19:28:50 น. 0 comments
Counter : 470 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ริเศรษฐ์
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ที่นี่คือบ้านแห่งมิตรภาพ
ตั้งอยู่ในหมู่บ้านกำหลาบความเหงา
ถนนน้ำใจ ตำบลยอมรับ ทั้งหนักทั้งเบา
อย่าลืมอำเภอเรา อำเภอจริงใจที่สุดตลอดกาล
อ้อ! จังหวัดเป็นกำลังใจให้ตลอด
หากเธอว่างแวะมาจอดอย่ารีบผ่าน
ระหัสไปรษณีย์ “รอเธอมาเป็นเพื่อนอยู่นะ”
รอพบพาน.....
ไงก็มาสาบานเป็นเพื่อนกัน
ข้อความทักทาย s
New Comments
Friends' blogs
[Add ริเศรษฐ์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.