Bloggang.com : weblog for you and your gang
แม้อากาศจะหนาวเหน็บเพียงใด เมื่อหัวใจเรามีเพื่อน แม้กายเราจะหนาว แต่หัวใจของเรา อบอุ่น...เสมอ...
Group Blog
ขอเชิญลงชื่อทักทายกันค่า..
อยากบอกให้เธอรู้...อยากเล่าให้เธอฟัง
กลอนกวี
เรื่องสั้น-เรื่องยาว
เพราะเธอใส่ใจ
หนังสือทำมือ
เพลงโปรด
รูปเราเอง
ธรรมะกับการเดินทาง
เรื่องยาว-เจ้าชายหิมะ
บันทึกสุขภาพ
หลักฐาน 7 คนไทยถูกทหารเขมรจับในเขตไทยแน่นอน
รวมคลิป พธม. ด้านวิชาการที่น่าสนใจ
โทรศัพท์มือถือ
<<
มีนาคม 2551
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
19 มีนาคม 2551
เจ้าชายหิมะ ตอนที่ 10
All Blogs
เจ้าชายหิมะ ตอนที่ 19
เจ้าชายหิมะ ตอนที่ 18
เจ้าชายหิมะ ตอนที่ 17
เจ้าชายหิมะ ตอนที่ 16
เจ้าชายหิมะ ตอนที่ 15
เจ้าชายหิมะ ตอนที่ 14
เจ้าชายหิมะ ตอนที่ 13
เจ้าชายหิมะ ตอนที่ 12
เจ้าชายหิมะ ตอนที่ 11
เจ้าชายหิมะ ตอนที่ 10
เจ้าชายหิมะ ตอนที่ 9
เจ้าชายหิมะ ตอนที่ 8
เจ้าชายหิมะ ตอนที่ 7
เจ้าชายหิมะ ตอนที่ 6
เจ้าชายหิมะ ตอนที่ 5
เจ้าชายหิมะ ตอนที่ 4
เจ้าชายหิมะ ตอนที่ 3
เจ้าชายหิมะ ตอนที่ 2
เจ้าชายหิมะ ตอนที่ 1
เจ้าชายหิมะ ตอนที่ 10
Pearly Dantean
ห้องสี่เหลี่ยมขนาดไม่ใหญ่นัก มีแสงสว่างรอดผ่านจากช่องด้านบนได้เพียงด้านเดียวเท่านั้น จึงทำให้ห้องมืดสลัว และดูอับ ๆ พื้นปูด้วยฟางแห้ง มีเตียงเก่า ๆ ตั้งอยู่ตรงมุมห้อง มีผนังอยู่เพียงสามด้าน ด้านที่เหลือประกอบด้วยไม้เป็นซี่ ๆ เรียงกันเป็นกรงขังดีดีนี่เอง
หญิงสาวเดินวนไปวนมาอยู่ในห้องขัง สมองครุ่นคิดอย่างหนัก เกิดคำถามขึ้นมาอย่างมากมาย คำพูดของชายหนุ่มคนนั้นจะเชื่อถือได้หรือไม่ คนที่ลอบเข้ามาหาเธอเมื่อสามวันก่อน เธอควรทำตามที่เขาบอกหรือไม่ แต่เธอไม่มีทางเลือกเอาเสียเลย หากทุกคำพูดที่เขาพูดนั้นเป็นความจริง เธอควรอย่างยิ่งที่จะช่วยเหลือเขา ที่สำคัญเธอไม่สนใจว่าเธอจะหนีรอดออกจากที่นี่ได้หรือไม่ ขอเพียงเธอได้มีโอกาสแก้แค้นให้พ่อแม่ของเธอ เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว เหลือวันนี้อีกเพียงวันเดียว เธอจะต้องเข้าพิธีเซค์แล้ว เธอจะทำอย่างไรดี?
มองดูไม้เล็กแหลมคมสามอันที่เขาให้ไว้ติดตัวเพื่อใช้ยามจำเป็น โดยเฉพาะเมื่อพบหัวหน้ากบฎริกเกอร์ แล้วรีบเก็บซ่อนอาวุธดังกล่าวเอาไว้ทันที เมื่อได้ยินเสียงโซ่ตรวนดังขึ้นจากการไขกุญแจประตูเหล็กด้านบน เสียงรองเท้าและการเดินหนัก ๆ ลงบรรไดหิน เสียงนั้นดังใกล้เข้ามา กุญแจโซ่ขนาดใหญ่หน้าห้องขังของเธอถูกไขให้เปิดออก ร่างยักษ์ของโจรหน้าตาดุดันโผล่หน้าเข้ามา
ข้าได้รับคำสั่งให้มาพาเจ้าไปตรวจร่างกาย และอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อรอเข้าพิธีเซค์ในวันพรุ่งนี้ สิ้นเสียงกร้าว เธอถูดฉุดกระชากลากตัวไปทันที
หลังจากอาบน้ำชำระร่างกายเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวถูกเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ขมุกขมอมและเต็มไปด้วยฝุ่นและขี้ดิน เป็นชุดสีขาวสะอาดตา ความงามของวัยสาว ผิวพรรณอันผุดผ่อง ทำให้เธอกลายเป็นหญิงงามในพริบตา
ดวงตาคู่งามนั้นสะดุจเล็กน้อยเมื่อถูกนำตัวมาตรวจร่างกาย เธอจำได้เขาคือคนที่ลอบเข้าไปพบเธอในห้องขังเมื่อสองวันก่อน ที่แท้เขาเป็นหมอในค่ายโจรนี่หรอกหรือ? แสงสว่างทำให้มองเห็นใบหน้าอันอ่อนโยนและความคมเข้มบนใบหน้าชายหนุ่มชัดเจน
โปรดนำมือของเจ้าออกมาวางข้างหน้า เสียงสุภาพที่เอ่ยขึ้น ทำให้หญิงสาวแปลกใจ ในความแตกต่างของกิริยาหมอโจรหนุ่ม ที่แตกต่างจากโจรคนอื่นโดยสิ้นเชิง
ทั้งคู่สบตากันครู่หนึ่งราวกับกำลังอ่านใจของกันและกัน
ซีนิธสังเกตสีเล็บทุกนิ้วของเธอเป็นเป็นมันเงาวับ และเป็นสีชมพูระเรื่อ แสดงถึงสุขภาพโดยรวมของเธอสมบูรณ์ดี แล้วยกมือแตะข้อมือของหญิงสาวแผ่วเบาด้วยความสุภาพเผื่อจับดูชีพจรการเต้นของหัวใจ และตรวจเบื้องต้นส่วนต่าง ๆ ของร่างกายจนเสร็จเรียบร้อย
สุขภาพของเจ้าแข็งแรงดี ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ทำอะไรด้วยสติ อย่าตื่นเต้นตกใจจนเกินไป สองประโยคสุดท้ายราวกับจะบอกบางสิ่งบางอย่างอยู่นัย ๆ
ขอให้เจ้าเชื่อข้านะ
สาวน้อยพยักหน้ารับ
วันใหม่เดินทางมาถึง บริเวณพิธีเซค์ผ้าสีขาวถูกขึงจนตึงล้อมรอบเป็นรูปสี่เหลี่ยม โต๊ะยันต์พิธีตั้งอยู่ด้านหน้าของกระโจมสีขาวซึ่งหันหน้าไปทางทิศตะวันออก มีทางเข้าออกได้อยู่เพียงทางเดียว ทหารโจรรายล้อมอยู่ด้านนอกของผ้าสีขาวเป็นพันนาย เมื่อดวงตะวันเคลื่อนตัวมาตรงศรีษะ เป็นเวลาฤกษ์ดีที่สุดที่จะประกอบพิธี
กระถางไฟถูกจุดขึ้นหมายถึงพิธีกรรมเริ่มต้นขึ้นแล้ว เสียงสวดมนต์ร่ายคาถาเสียงต่ำ ๆ ประสานเสียงกันดังคลอตลอดเวลาของเหล่านักพรต เพิ่มความขลังและศักดิ์สิทธิ์ เมฆหมอกสีเทาทะมึนเริ่มเคลื่อนตัวมาบดบังดวงอาทิตย์ให้หม่นมัว ลมพัดแรงจนใบไม้เอนลู่ไหวไปเป็นทางเดียวกัน เสียงลมอื้ออึงอล หวีดหวิว และเสียงใบไม้เสียดสีกันปะปนกับเสียงร้องโหยหวนของปิศาจดังกึกก้องทั่วสารทิศ ท้องฟ้าปรากฎสายฟ้าแลบแปลบปลาบ รอบนอกของพิธีเกิดฝนตกหนักอย่างบ้าคลั่ง
บรรดาระดับหัวหน้าโจรยืนเข้าแถวหน้ากระดานขนาบข้างซ้ายขวาลดหลั่นกันตามฐานะ หัวแถวด้านขวาปรากฏร่างของหนุ่มใหญ่ ขุนโจรวาร์เดอร์หัวหน้าโจรฝ่ายขวายืนนิ่งด้วยความสงบเมื่อมองจากภายนอก แต่ในใจเต็มไปด้วยความเป็นห่วงกังวลในตัวบุตรชายยิ่งนัก
หัวหน้ากบฏริกเกอร์ยืนนิ่งมองสาวน้อยในชุดสีขาวถูกนำเข้ามาในปรำพิธี เมื่อเดินมาใกล้ถึงโต๊ะยันต์พิธีศักดิ์สิทธิ์ ทหารโจรสองคนปล่อยมือจากแขนของหญิงสาว ก่อนถอยหลัง โค้งคำนับให้หัวหน้ากบฎอย่างนอบน้อม แล้วหันหลังเดินออกไป
เจ้าชื่ออะไร เสียงอันทรงพลังเอ่ยถาม
ชายหนุ่มใหญ่อยู่ในชุดขาวสะอาจตาเช่นกัน บุคลิกน่าเกรงขาม ผมสีน้ำตาลเข้มยาวประบ่า หยักโศกเล็กน้อย เพิ่มความคมเข้มของใบหน้าอันหล่อเหลา รอยยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปากทำให้เขาดูมีเสน่ห์ ดวงตาคมเข้มสีนิลที่ไม่เคยครั่นคร้ามหวาดกลัวต่อสิ่งใดคู่นั้น แฝงความเลือดเย็น และร้ายลึกซ่อนอยู่ข้างใน ถึงแม้เขาจะมีอายุเกือบ 60 ปี แต่ยังดูหนุ่มมากและเต็มไปด้วยพละกำลังความแข็งแกร่ง
หญิงสาวพยายามมีสติ แม้จะยังอดตื่นเต้นไม่ได้ ได้ยินเสียงเต้นรัวของหัวใจของตัวเองดังอยู่ตลอดเวลา
ข้าชื่อเพอลี่ แดนเทียน์
มหาโจรหนุ่มใหญ่สบตาของเด็กสาวอยู่ครู่หนึ่ง เธอรู้สึกแปลกเหมือนสูญเสียการควบคุมตนเอง หลังจากสบตาคมเข้มที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจคู่นั้นแล้ว ราวกับตกอยู่ใต้มนต์สะกด
หนุ่มใหญ่ยื่นมือขวาออกมาข้างหน้า
สาวน้อยวางมือของตนเองลงบนฝ่ามืออันใหญ่โตของบุรุษตรงหน้า เขาสัมผัสมือของเธอแผ่วเบา พาเดินไปหยุดอยู่หน้าโต๊ะทำพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ ความรู้สึกเพียงเสี้ยวหนึ่งเท่านั้นที่เธอรับรู้ความเป็นตัวของตัวเองได้ นอกนั้นไม่อาจฝืนความต้องการของบุรุษชุดขาวข้างกายได้เลย
ซีนิธ ท่านเตรียมพร้อมแล้วใช่มั้ย .?? ความรู้สึกเลือนลางที่หลงเหลือน้อยนิดเหมือนเป็นเพียงเส้นด้ายบางเบาแห่งความกังวลใจ
พิธีกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว ..
============
เจ้าชายแรร์เน็สได้แต่ยืนมองเจ้าหญิงเดินจากไป เมื่อเธอพยายามบอกความต้องการของตนเองว่าควรแยกทางกันตรงนี้ เขาเข้าใจผิดหรือเปล่า ? อยากให้เป็นเพียงการเข้าใจผิดเท่านั้น แต่ทำไมเธอถึงพยายามยืนยันความต้องการของตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า ความรู้สึกหนึ่งบอกตัวเองว่า เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะรั้งเธอเอาไว้ เกิดคำถามขึ้นในใจมากมาย ไม่เข้าใจตัวเอง ทำไมถึงรู้สึกไม่อยากให้เธอจากไปอย่างนี้ แต่ไม่อาจพูดถ้อยคำเพื่อรั้งให้เธออยู่ และเดินทางไปด้วยกันอย่างที่ใจคิด แต่ที่ทำได้คือ การหันหลังเดินจากเธอมา ตามที่เธอต้องการ
เจ้าชายเริ่มรู้สึกแปลก ๆ ความรู้สึกนั้นไม่อาจรู้ได้ว่าเรียกว่าอะไร แต่เป็นความรู้สึกดี รู้สึกสบายใจ ที่ได้อยู่ใกล้เธอ และความรู้สึกนี้ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อได้อยู่ใกล้ชิดกับเจ้าหญิงดวงตาสีเขียวสดใส ด้วยเกรงว่าอาจจะไม่สามารถควบคุมความรู้สึกนี้ได้ ความรู้สึกที่ว่า ไม่อยากให้เธอจากไป มันรู้สึกแย่ในหัวใจอย่างบอกไม่ถูก จึงตัดใจให้เธอเดินจากไป
เจ้ามีหน้าที่ต้องคอยดูแล และปกป้องคน ๆ หนึ่ง เสียงของบิดาดังขึ้นมาในหัวสมอง
นั่นสิ! เธอเป็นผู้อ่านคาถา หากถูกฝ่ายมืดจับตัวไป ความหายนะต้องอุบัติขึ้นบนโลกนี้แน่ ทำไมข้าถึงลืมคิดถึงข้อนี้นะ
อีกความคิดหนึ่งเริ่มให้เหตุผล ที่ควรแก่การยอมรับอย่างรวดเร็ว
และที่จริงแล้ว เขาต้องมาฆ่าผู้อ่านคาถา เป็นความผิดของเขา ที่ไม่อาจตัดใจฆ่าเธอได้ลง เขาต้องรับผิดชอบหากสิ่งใดจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ เจ้าชายหันหลังกลับ เดินกลับไปทางเดิมทันที
แรร์เน็ส .. เจ้าชายรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงของเจ้าหญิงเฟรนรี่จากที่ไหนสักแห่ง เงยหน้ามองท้องฟ้ากว้าง หันซ้ายหันขวา ราวกับจะค้นหาแหล่งที่มาของเสียง แม้จะรู้ดีว่าขณะนี้เขาและเธออยู่ห่างไกลกันเป็นกิโล แต่ทว่า ทำไมถึงได้ยินเสียงของเธอ และสัมผัสได้ถึงคลื่นเสียงนั้นบ่งบอกความตกใจกลัว และต้องการความช่วยเหลือจากเขา
สมองยังไม่ทันสั่งอะไร เท้ากลับไวกว่าความคิด เจ้าชายผมเทารีบวิ่งไปอย่างรวดเร็วราวสายลมกรด มุ่งหน้าไปตามเส้นทางเดิมที่เดินแยกจากเธอมา ต้นไม้สองข้างทางลู่เอนไปทางเดียวกันตามแรงความเร็วของการเคลื่อนที่ของเจ้าชาย
แรร์เน็สช่วยข้าด้วย!! เสียงเจ้าหญิงยังคงร้องตะโกนให้ได้ยิน ยิ่งทำให้หัวใจของเจ้าชายร้อนรน
โจรสิบกว่าคนวิ่งไล่ตามหลังเจ้าหญิงเฟรนลี่มาติด ๆ เมื่อเจ้าชายผมเทาวิ่งมาถึง รีบคว้ามือเจ้าหญิงพาวิ่งไปทันที ด้วยคิดว่าการปะทะกันอาจมีการบาดเจ็บล้มตาย ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเจ้าชายเลยที่จะเอาชนะสมุนโจรชั้นต่ำเหล่านั้น แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าสาวน้อยคนนี้ กลับรู้สึกไม่อยากประหัตถ์ประหารชีวิตของใครหากไม่จำเป็นจริง ๆ
วิ่งมาได้ซักพักใหญ่ เมื่อเหลียวหลังยังเห็นเหล่าโจรยังวิ่งตามมาอย่างไม่ลดละ แต่หนทางหนีเริ่มลาดชันขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากเป็นทางขึ้นเขา เจ้าหญิงรู้สึกเหนื่อยล้าเหลือเกิน ขาหมดแรงจนวิ่งไม่ไหว
แรร์เน็ส เจ้าหญิงรั้งมือเจ้าชายไว้ ก้มตัวลงต่ำพลางหอบหายใจถี่ ๆ มือข้างหนึ่งจับหัวเข่าของตัวเองไว้แน่น ใบหน้าของเธอแดงก่ำด้วยความเหน็ดเหนื่อย
ข้า ไป ไม่ ไหว แล้ว เจ้าหญิงพูดสลับกับการหายใจเข้าออกแรง ๆ
บุรุษผมเทาหันกลับมามองอาการเหนื่อยล้าของเจ้าหญิง รู้ดีว่าเธอคงไปไม่ไหวอีกแล้ว หันกลับไปมองพวกโจรที่ยังได้ยินเสียงเอะอะโวยวายตามมาอยู่ไม่ไกลนัก หันซ้ายหันขวามองหามุมหลบภัย มองเห็นพุ่มไม้หนาข้างหน้าผา น่าจะเป็นมุมหลบภัยที่ดี พวกโจรคงไม่สังเกตเห็นและต้องวิ่งเลยไปอย่างแน่นอน คิดดังนั้นแล้ว จึงรีบจูงเจ้าหญิงเข้าไปหลบในพุ่มไม้หนานั้น
ทุกอย่างก้าวต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นเพียงไหล่เขาแคบ ๆ ริมหน้าผาเท่านั้น หากพลาดพลั้งต้องตกหน้าผาตายสถานเดียว บริเวณนั้นยังระเกะระกะด้วยเถาวัลย์เรื้อยระโยงระยางอย่างยุ่งเหยิง มือขวาเลือกยึดจับเถาวัลย์ที่ดูมั่นคงและเหนียวแน่น เมื่อได้ที่เหมาะแล้วจึงนั่งลงซ่อนตัวอยู่หลังใบไม้หนา ๆ นั้น มือของเจ้าหญิงจับมือของเจ้าชายแน่นด้วยความกลัว ก้มหน้าซบกับต้นแขนแข็งแรงของบุรุษหนุ่มผมเทา พยายามไม่มองลงไปเบื้องล่าง
เสียงฝีเท้าโจรดังใกล้เข้ามาทุกที ทั้งคู่ต่างนิ่งงันอยู่ในความเงียบ และช่วยกันภาวนาให้เหล่าโจรวิ่งผ่านเลยไป โชคเข้าข้าง โจรวิ่งเลยไปอย่างที่เจ้าชายคาดการไว้ ทั้งคู่รอจนเสียงฝีเท้าโจรวิ่งไกลออกไปทุกที ๆ รอจนแน่ใจจึงค่อย ๆ ขยับตัว เดินออกมาจากไหล่เขาแคบ ๆ นั้น
ทันใดนั้น!
เท้าข้างหนึ่งของเจ้าหญิงกลับสะดุจรากไม้ แล้วลื่นลงจากไหล่เขานั้น มือของเจ้าหญิงคว้าตัวเจ้าชายไว้ได้ทัน แต่กลับเป็นการดึงให้ทั้งคู่ไถลตกลงมาจากหน้าผาอย่างรวดเร็ว มือของเจ้าชายยึดเถาวัลย์ไว้แน่น ทั้งคู่จึงยังไม่ถึงกับดิ่งพสุธาลงสู่เบื้องล่าง แต่ทว่ามือของเจ้าชายนั้นครูดกับเถาวัลย์จนได้แผลถลอกปอกเปิดไม่น้อย เท้าของเจ้าชายแรร์เน็สพยายามแตะแหง่นหินที่บังเอิญยื่นออกมาตามหน้าผาไว้เพื่อผ่อนน้ำหนักที่เจ้าชายต้องแบกรับทั้งตัวเขาเองและตัวของเจ้าหญิง
เจ้าห้ามปล่อยมือนะ เฟรนลี่ จับข้าไว้ให้แน่น ๆ นะ จ้องหน้าเจ้าหญิงเฟรนลี่ที่กำลังกอดเอวเจ้าชายอยู่ แล้วปล่อยมือข้างที่เหลือจากตัวเจ้าหญิง เพื่อใช้อีกมือช่วยยึดเถาวัลย์ไว้อีกข้างหนึ่งเผื่อผ่อนน้ำหนักที่หนักอึ้งขึ้นทุกขณะ
เจ้าหญิงแหงนหน้ามองหน้าเจ้าชายแห่งเรียว
.ข้าสร้างปัญหาให้กับเจ้าอีกแล้ว
นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่เจ้าหญิงคิดแยกทางกับเจ้าชายก่อนหน้านี้ น้ำตารื้นขึ้นมาคลอดวงตาคู่งามนั้นไว้ มองมือของเจ้าชายที่เกร็งยึดเถาวัลย์เอาไว้แน่น เส้นเอ็นอันเกิดจากการเกร็งข้อมือปูดโปนไปหมด เลือดสีแดงกำลังไหลรินลงมาจากฝ่ามือที่เต็มไปด้วยบาดแผลจากเถาวัลย์ แสดงให้เห็นถึงความยากลำบากที่ต้องโหนห้อยต่องแต่งสองคนเช่นนี้
เฟรนลี่ เจ้าอย่าคิดโง่ ๆ นะ
เจ้าชายมองดวงตาของเจ้าหญิงราวกับรู้สิ่งที่เจ้าหญิงคิดจะทำ แต่ยังไม่ทันคิดอะไรต่อ เถาวัลย์ดังกล่าวกลับขาดผึงลงทันที ไม่อาจต้านทานน้ำหนักของทั้งคู่ไว้ได้ ทั้งสองล่วงหล่นลงสู่เบื้องล่างอย่างรวดเร็ว แต่เนื่องจากเถาวัลย์มีความคดเคี้ยวพันกันยุ่งเหยิงกับเถาวัลย์เส้นอื่นที่ไม่เป็นอิสระจากกันอย่างเด็ดขาด ทำให้ทั้งคู่เลื่อนลงมาหยุดห้อยต่องแต่งอยู่กลางอากาศอีกครั้ง
ทั้งสองคนต่างแทบหยุดหายใจ หัวใจเกือบหยุดเต้นกับนาทีวิกฤตก่อนหน้านี้ แล้วหายใจออกเบา ๆ อย่างโล่งอก พักเหตุการณ์น่าหัวใจวายไว้ก่อนชั่วระยะเวลาหนึ่ง ค่อยรู้สึกหายใจได้ทั่วท้องขึ้น
ถ้าท่านเพียงคนเดียวคงเอาชีวิตรอดได้ ข้า ไม่อาจเป็นตัวถ่วงของเจ้าอีกต่อไป ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง ข้าจะไม่ลืมเจ้าเลย แรร์เน็ส
มือสองข้างของเจ้าหญิงเริ่มหมดกำลังลงเรื่อย ๆ กอดเจ้าชายไว้ไม่ไหวอีกแล้ว
เฟรนลี่!! เจ้าต้องไม่ปล่อยมือนะ!! เจ้าชายตะโกนเสียงลั่น แต่ไม่ทันขาดคำ มือทั้งสองข้างของเจ้าหญิงปล่อยมือจากร่างของเจ้าชาย ดิ่งลงสู่เบื้องล่างตามแรงดึงดูดของโลกทันที
เฟรนลี่!! เสียงเจ้าชายตะโกนก้องหุบเขา
รวดเร็วกว่าความคิดนึก เสี้ยววินาทีนั้น เจ้าชายปล่อยมือจากเถาวัลย์ทันทีเช่นกัน รีบกระโจนตามลงไป ชั่วพริบตาคว้าร่างบางนั้นไว้ได้ทัน กอดร่างในอ้อมแขนแน่น เอาตัวเองกันร่างของหญิงสาวเอาไว้ หากต้องกระทบกระแทกสิ่งใด ร่างของเขาจะคอยเป็นเสมือนเกราะที่คอยปกป้องคุ้มครองจากอันตราย
แทบหยุดหายใจไปชั่วระยะเวลาหนึ่งของการดิ่งพสุธาลงสู่พื้นโลก เหมือนไร้ตัวตน ไร้ความรู้สึก ไร้ความคิดนึก ร่างของเจ้าชายและเจ้าหญิงปะทะกับกิ่งก้านสาขาของต้นไม้สูงใหญ่ที่เป็นป่ารกครึ้มด้านล่าง ผ่อนแรงการเสียดทานของแรงโน้มถ่วงของโลก
เจ้าชายมีสติตื่นเต็มตลอดเวลา พยายามปกป้องร่างในอ้อมแขนให้เกิดการบาดเจ็บน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทั้งคู่ปะทะเข้ากับต้นไม้ใหญ่เต็มแรง ก่อนดิ่งลงสู่พื้นดิน โชคดีด้านล่างปกคลุมด้วยหญ้าอันอ่อนนุ่มที่ขึ้นหนาทึบในบริเวณนั้น ทำให้แรงกระแทกลดลง ทุกอย่างจึงสงบนิ่งหยุดการเคลื่อนไหว
สักพักใหญ่มือของเจ้าหญิงเฟรนลี่ขยับเล็กน้อยเมื่อเริ่มรู้สึกตัวขึ้นอย่างช้า ๆ
ข้าอยู่ที่ไหน .ข้าตายหรือยัง .ถ้าตายแล้ว ท่านพ่อท่านแม่อยู่ที่ไหน ได้โปรด มารับข้าด้วย .ข้าคิดถึงท่านเหลือเกิน
ความรู้สึกของเจ้าหญิงรู้สึกสับสน
เปลือกตาของเจ้าหญิงลืมค่อย ๆ ลืมขึ้น แล้วขยับใบหน้าขึ้นจากแผ่นอกกว้างของเจ้าชาย มองซ้ายขวาหน้าหลังอย่างงุนงง ยกมือจับหน้าตาตัวเองและส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย สัมผัสได้ถึงลมหายใจของความมีชีวิต หยิกตัวเองยังเจ็บอยู่
ข้ายังไม่ตายนี่
รีบก้มลงมองเจ้าชายที่นอนนิ่งอยู่เบื้องหน้า เสื้อผ้าของเจ้าชายขาดวิ่นเนื่องจากปะทะทั้งกิ่งไม้น้อยใหญ่ ทั้งครูดกับเปลือกไม้ เสี้ยนไม้ และหนามแหลมคมจากต้นไม้นานาชนิดจนถลอกปอกเปิดไปหมด ตามเนื้อตัวมีแต่ริ้วรอย และเต็มไปด้วยบาดแผลใหญ่น้อย
แรร์เน็ส!! เจ้าหญิงเขย่าตัวชายหนุ่ม พลางส่งเสียงเรียกชื่อเจ้าชายครั้งแล้วครั้งเล่า
เจ้าเป็นไงบ้าง!! ยกมือตบแก้มเจ้าชายถี่ ๆ ด้วยความหวังว่าเขายังมีชีวิตอยู่ แม้จะยังกังวลใจไม่น้อยเพราะตกลงมาสูงขนาดนั้น แถมเขายังช่วยปกป้องเธอจากการปะทะกับกิ่งก้านสาขาของต้นไม้สูงใหญ่โดยตรงอีกด้วย
แรร์เน็ส เจ้า ไม่เป็นไรใช่มั้ย เจ้าหญิงเริ่มใจคอไม่ดีเมื่อเรียกเท่าไหร่ ร่างนิ่งงันตรงหน้าก็ไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย
เจ้าตอบข้าหน่อย แรร์เน็ส อย่าเงียบแบบนี้ หญิงสาวใจเสีย น้ำเสียงเริ่มสั่น น้ำตาเริ่มคลอสองตาคู่งามนั้น สมองเริ่มคิดไปในทางร้าย ๆ มือสั่นเทาค่อย ๆ เคลื่อนไปที่ปลายจมูกของเจ้าชาย แต่ไม่กล้าที่จะเลื่อนเข้าไปใกล้ กลัวเหลือเกิน .กลัวว่า มันจะปราศจากลมหายใจของการมีชีวิต
เจ้าต้องไม่ตายนะ แรร์เน็ส พลางโผเข้ากอดร่างบุรุษผมเทาแน่น สัมผัสได้แต่ความเย็นจากกายบุรุษ ครู่หนึ่งเจ้าหญิงลุกขึ้นมามองหน้าเจ้าชายอีกครั้ง
แรร์เน็ส . มือเรียวแตะแก้มของเจ้าชายแผ่วเบา หยดน้ำใส ๆ ราวอัญมณีจากดวงตาของเจ้าหญิงร่วงผล็อย หล่นลงกระทบใบหน้าของเจ้าชาย แล้วปรากฏแสงสว่างเล็ก ๆ วาบหายไปใต้ผิวหน้ากร้านของบุรุษผมเทา
เจ้าจากข้าไปจริง ๆ เหรอ . เจ้าหญิงถามร่างที่นอนแน่นิ่งนั้น ด้วยเสียงสั่นเครือ
ไม่มีคำตอบใดใด มีแต่ความเงียบงัน
ไม่จริงใช่มั้ย!! เจ้าต้องฟื้น เจ้าตายไม่ได้นะ ทำไม!! ใคร ๆ ที่อยู่ใกล้กับข้าต้องมีอันเป็นไปอย่างนี้ ได้โปรดเถอะ ข้าขอร้อง!! เจ้าหญิงซุกหน้าลงบนแผ่นอกของเจ้าชายอีกครั้ง พลางร้องไห้ฟูมฟายด้วยความเศร้าโศกเสียใจเป็นที่สุด
ครู่หนึ่งเจ้าชายแรร์เน็สค่อย ๆ รู้สึกตัวขึ้นช้า ๆ เนื่องจากก่อนตกลงกระแทกพื้น ต้นคอของเจ้าชายกระแทกเข้าอย่างแรงกับขอนไม้ใหญ่ ยังผลให้เจ้าชายหมดสติไปนาน
ใครมาร้องไห้ฟูมฟายอะไรแถวนี้ เจ้าชายได้ยินเสียงเหมือนคนร้องไห้คร่ำครวญอยู่ใกล้เหลือเกิน
ดวงตาสีสนิมเหล็กลืมขึ้น กระพริบตาถี่ ๆ เพื่อปรับโฟกัสของภาพที่เห็นตรงหน้าให้ชัดเจนขึ้น พยายามลำดับเหตุการณ์ต่าง ๆ ก่อนหน้านี้ มองเห็นร่างของเจ้าหญิงร้องไห้จนตัวสั่นเทา มือสองข้างกอดตัวของเขาไว้แน่น ใบหน้าซบอยู่บนแผ่นอกของเขา
มือหนา ๆ เลื่อนมาตบแผ่นหลังของหญิงสาวที่เอาแต่ร้องไห้สะอึกสะอื้น
เฟรนลี่ .ข้าไม่เป็นไรแล้ว . พลางลูบหลังเจ้าหญิงอย่างปลอบโยน
แรร์เน็ส .!!! เจ้าหญิงผงกศีรษะขึ้นมามองหน้าบุรุษตรงหน้า
เจ้าของดวงตาสีเขียวมรกตยังคงจ้องมองบุรุษตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเองนัก
เจ้าชายไม่ปล่อยให้เจ้าหญิงมองหน้าเจ้าชายอยู่ในระยะใกล้ขนาดนั้นนานนัก รีบขยับตัว ใช้ศอกยันตัวเองลุกขึ้นนั่ง
เจ้ายังไม่ตายใช่มั้ย? จับมือเจ้าชายบีบไว้แน่นด้วยความดีใจ
ข้าไม่เป็นไรแล้ว มองใบหน้าเจ้าของดวงตาสีเขียวที่เปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา
หน้าเศร้า ๆ หม่นหมองของเจ้าหญิงเฟรนลี่เมื่อครู่คลายลง มุมริมฝีปากบางอันงดงามค่อย ๆ โค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มสดใสแห่งความดีใจเป็นที่สุด พร้อมดวงตาสีเขียวมรกตคู่นั้นเป็นประกายแจ่มใสอีกครั้ง รอยยิ้มแบบนี้ที่เขาอยากเห็นเหลือเกิน เจ้าหญิงโผเข้ากอดเจ้าชายแน่นด้วยความดีใจอย่างลืมตัว
ข้าดีใจเหลือเกิน ที่เจ้าไม่เป็นอะไรนะ แรร์เน็ส
บุรุษผมเทานิ่งอึ้งจนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ปล่อยให้เธอกอดเขาเอาไว้อย่างนั้น หัวใจซึมซับรับรู้ความรู้สึกที่แสนดีเหล่านั้นเอาไว้จนเต็มเปี่ยม
===============
ด้านนอกของพิธีเซค์ฝนกำลังตกหนัก ทะเลเมฆสีเทาทะมึนดำครอบคลุมพื้นที่ไว้ทุกทิศทุกทาง ทั้งเสียงฟ้าเสียงฝนคำรามกึกก้องกัมปนาท ราวกับระคนของเสียงปิศาจโหยหวน บานหน้าต่างที่ปราศจากแสงแห่งตะวันในยามบ่ายคล้อยหม่นมัวไปถนัดตา ละอองฝนสาดกระเซ็นเข้ามาในห้องบางเบา คราบของน้ำส้มแห้งกรังอยู่ในแก้วน้ำทรงสูงบนโต๊ะไม้ข้างเตียงนอน บนเตียงหนานุ่ม บุตรชายของขุนโจรฝ่ายขวานอนนิ่งอยู่บนเตียงนั้น ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ใช่คนที่จะนอนตื่นสายจนถึงเวลาบ่ายคล้อยเช่นนี้ มิหนำซ้ำวันนี้เขาจะต้องตื่นเพื่อทำภารกิจตามที่ได้ตั้งใจไว้ แต่ไม่อาจต้านทานฤทธิ์ยานอนหลับจากน้ำส้มคั้นที่ดื่มก่อนนอนไปเมื่อคืนนี้
ครู่ใหญ่ชายหนุ่มบนเตียงขยับตัวเมื่อฤทธิ์ของยานอนหลับหมดลง ลืมตาขึ้นมาด้วยความตกใจ รีบลุกพรวดขึ้นนั่ง
ตายล่ะ! ชายหนุ่มหันขวับ มองออกไปนอกหน้าต่างทันที เห็นม่านฝนหนาทะมึนหม่นมัวไปหมดทุกสารทิศ แสดงว่าพิธีเซค์ยังไม่สิ้นสุด แล้วลุกขึ้นจากเตียงอย่างรวดเร็ว แม้จะมีอาการมึนศีรษะอยู่ไม่น้อย ก่อนลุกขึ้นมองเห็นแก้วน้ำส้มที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงนอน หยิบขึ้นมามองพลางขมวดคิ้วย่นราวกับนึกอะไรบางอย่างออก แล้วกระแทกแก้วลงบนโต๊ะ รีบรุดออกจากบ้านทันที
ซีนิธ!! เจ้าจะไปไหน แคร์เซียรีบตะโกนตามหลัง พลางวิ่งเข้ามาดึงแขนบุตรชายของเจ้าของบ้านเอาไว้ ก่อนที่เขาจะก้าวพ้นประตูบ้านออกไป
ท่านใช่มั้ย? ซีนิธจ้องหน้าสาวใช้ วางยานอนหลับข้า! เขาพูดด้วยเสียงเกรี้ยวกราด
=============
Create Date : 19 มีนาคม 2551
Last Update : 19 มีนาคม 2551 23:51:47 น.
5 comments
Counter : 418 Pageviews.
Share
Tweet
รออ่านตอนต่อไปอยู่นะค่ะ ชอบมากเลยค่ะ
โดย: kae IP: 87.50.126.65 วันที่: 20 มีนาคม 2551 เวลา:6:00:40 น.
kae
ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ ที่ฝากข้อความทักทายคนเขียนนะคะ ดีใจมาก ๆ เลย ^ _ ^
ว่าแต่อ่านตั้งแต่ตอนแรกเลยหรือเปล่าคะ
โดย:
ริเศรษฐ์
วันที่: 20 มีนาคม 2551 เวลา:22:06:21 น.
อุ้ยยยอ่านค่ะอ่าน แต่มาคอมเม้นรวมยอดไว้ตอน10 อิอิอิ เพิ่งเปิดไปเจอเมื่อวานตอนมืดแระอะค่ะ เลยตามอ่านจนถึงตอนนี้ เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะ่ค่ะ
โดย: kae IP: 87.49.96.80 วันที่: 20 มีนาคม 2551 เวลา:22:52:21 น.
kae
แล้วนึกยังไงถึงตัดสินใจเข้ามาอ่านเรื่องนี้ละคะ เพราะเรื่องที่ลงวันหนึ่ง ๆ เยอะมาก ๆ เลย
เห็นค่าอ่านแล้ว ต้องรีบเอาตอนใหม่มาลงค่ะ แต่ก่อนจะนาน ๆ ลงทีหนึ่ง เพราะไม่รู้ว่ามีใครติดตามอ่านหรือเปล่า อีกอย่างเพิ่งหาคำสั่งทักทายเจอค่ะ อิอิ
ว่าแต่เรียนอยู่หรือทำงานแล้วละคะ
ขอบคุณนะคะ ที่เข้ามาทักทาย^ _ ^ ดีใจค่ะ
โดย:
ริเศรษฐ์
วันที่: 20 มีนาคม 2551 เวลา:23:06:49 น.
ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้ แต่ปกติเป็นคนชอบอ่านอยู่แล้วค่ะ ลองอ่านไปเรื่อยๆๆ อยู่ไกลบ้านว่างแระมันเหงาก้อได้ห้องนักเขียนนี่แหละค่ะ พอช่วยได้บ้างค่ะ ตอนนี้อยู่เกาะค่ะ อิอิ เกาะลูกเกาะผัว 5555555+++เป็นแม่บ้านค่ะ ช่วยมาลงต่อให้เรื่อยๆหน่อยนะค่ะ ขอบคุณไว้ล่วงหน้าเลยนะจ้ะ
โดย: kae IP: 83.93.206.162 วันที่: 21 มีนาคม 2551 เวลา:3:41:01 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
ริเศรษฐ์
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
ที่นี่คือบ้านแห่งมิตรภาพ
ตั้งอยู่ในหมู่บ้านกำหลาบความเหงา
ถนนน้ำใจ ตำบลยอมรับ ทั้งหนักทั้งเบา
อย่าลืมอำเภอเรา อำเภอจริงใจที่สุดตลอดกาล
อ้อ! จังหวัดเป็นกำลังใจให้ตลอด
หากเธอว่างแวะมาจอดอย่ารีบผ่าน
ระหัสไปรษณีย์ รอเธอมาเป็นเพื่อนอยู่นะ
รอพบพาน.....
ไงก็มาสาบานเป็นเพื่อนกัน
ข้อความทักทาย s
New Comments
Friends' blogs
ริเศรษฐ์
crimiee2
Webmaster - BlogGang
[Add ริเศรษฐ์'s blog to your web]
Links
สำนักพิมพ์สีม่วงอ่อน
ถนนนักเขียน
พจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน
พจนานุกรมไทย-อังกฤษ
ฟังเพลง
แปลไทยเป็นอังกฤษ
สุขภาพ
lovelyMthaiBlock
ดิกส์ไทย-อังกฤษ
risait-hi5
whiteflower-sanook
siambig-bestfriend
mymarket-befriend
http://befriend.plazathai.com/
คุยออนไลน์
sms free
คุยกับเจ้าบ้านออนไลน์
whiteflowerr-twitter
ดูทีวีย้อนหลัง
ฟังวิทยุออนไลน์
befriend.siam2web
สิริดา
เด็กดี
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.