วันนี้ผู้สูงอายุชาวไทยจะได้นั่งรถเมล์ครึ่งราคาตลอด 24 ชั่วโมง
แหม.. ผ่านกระแสวันดี 7-7-07 ไปแล้ว วันที่ 9 ก็ถือเป็นวันดีอีกวันหนึ่ง แต่เป็นวันดีสำหรับผู้สูงอายุชาวไทยครับ
ก็เรื่องมีอยู่ว่า ที่ประชุมกระทรวงคมนาคมมีมติเห็นชอบให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และรถร่วมขสมก. ลดหย่อนค่าโดยสารให้กับผู้สูงอายุ 50% ตลอด 24 ชม. มีผลบังคับในวันที่ 9 ก.ค. นี้ จากเดิมที่การลดหย่อนค่าโดยสาร 50% เฉพาะในช่วงเวลา 09.30-15.00 น. เท่านั้นไงครับ
แหล่งข่าวบอกว่า
"ที่ผ่านมากรมการขนส่งทางบกได้รับการร้องเรียนจากสหพันธ์ชมรมผู้สูงอายุกรุงเทพมหานครและจากหลายหน่วยงานให้พิจารณายกเลิกการกำหนดช่วงเวลาลดหย่อนค่าโดยสารสำหรับรถโดยสารธรรมดาและรถโดยสารปรับอากาศ เนื่องจากเกิดปัญหาข้อโต้แย้งการจัดเก็บค่าโดยสารระหว่างผู้สูงอายุและพนักงานจัดเก็บค่าโดยสารที่เดินทางก่อนและหลังในช่วงเวลาดังกล่าว"
นอกจากผู้สูงอายุแล้ว ปกติทาง ขสมก. ก็ได้ลดหย่อนค่าโดยสารให้กับนักเรียนมัธยมต้น 66% และนักเรียนมัธยมปลาย 33% นับว่าเป็นการบริการเชิงสังคมที่ดีอย่างหนึ่ง
ดีใจกันไหมครับ
แต่อย่างไรก็ตาม ผมว่าการที่ถูกร้องเรียนจากสหพันธ์ชมรมผู้สูงอายุฯ และจากหลายหน่วยงานเรื่องการเกิดข้อโต้แย้งการจัดเก็บค่าโดยสารระหว่างผู้สูงอายุและพนักงานจัดเก็บค่าโดยสารที่เดินทางก่อนและหลังในช่วงเวลา 09.30-15.00 น.นั้น ไม่น่าจะเอามาเป็นปัญหาใหญ่โตสำคัญอะไรนัก เพราะถ้าหากพิจารณาถึงความเหมาะสมและเรื่องสวัสดิการของคนไทย การลดหย่อยค่าโดยสารให้แก่ผู้สูงอายุตลอด 24 ชั่วโมง ดูจะน่าเหมาะสมเป็นอย่างมาก และถ้าต่อไปสามารถละเว้นค่าโดยสารทั้งหมดเต็มอัตราก็น่าจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง
มีเรื่องเล่าจากประสบการณ์จริงในชีวิตการนั่งรถเมล์เมื่อไม่นานมานี้ครับ วันหนึ่งผมนั่งรถเมล์ตรงป้ายเทเวศร์ พอมาถึงบางลำพูก็มีหญิงสูงอายุคนหนึ่งขึ้นรถแล้วก็มานั่งเบาะแถวด้านหน้าผม พอพนักงานเก็บค่าโดยสารเดินเข้าไปใกล้ยายคนนั้น ยายก็เอาบัตรประชาชนให้ดู แค่นันแหล่ะครับ พนักงานเก็บค่าโดยสารก็ตะหวาดใส่ยายไปว่า "รู้แล้ว !! ไม่ต้องเอามาให้ดูหรอก" แล้วยายก็เก็บบัตรอย่างงกๆ เงิ่นๆ...
กลับกลายเป็นว่า ผู้สูงอายุกลายเป็นบุคคลที่น่ารังเกลียดไปซะอย่างงั้น
จากเหตุการณ์ที่เล่ามา มันแสดงให้เห็นว่า ... นโยบายจากด้านบนขององค์กรนั้น ไม่เคยที่จะสนับสนุนกับการปฏิบัติงานและผลประโยชน์ของผู้ปฏิบัติงานในระดับล่างไงครับ เป็นที่รู้กันอยู่ว่าตั๋วรถเมล์หนึ่งใบนั้น มีค่าสำหรับกระเป๋ารถเมล์และคนขับครับ เพราะเขาจะได้เปอร์เซ็นต์จากค่าตั๋วนั้นด้วย... พอพูดอย่างนี้แล้วก็พอจะนึกอ๋อกันใช่มะครับ ว่ามันก็เป็นสาเหตุที่ทำให้รถเมล์เมืองไทยมันถึงได้ขับแข่งกัน ซิ่งไปซิ่งมา เพื่อไปรับผู้โดยสาร
ยังไงก็อยากให้กระเป๋ารถแมล์คิดถึงใจเขาใจเรา คิดว่าซะว่า ต่อไปเราก็ต้องเป็นคนแก่ไงครับ
โลกเราทุกวันนี้ ทางกายภาพมันก็ร้อนอยู่แล้ว อย่าใช้อารมณ์ให้โลกมันร้อนมากขึ้นอีกเล้ย
โดย ทายาทตระกูลหยี ต้นฉบับ นันทิดา แก้วบัวสาย
Create Date : 09 กรกฎาคม 2550 |
|
15 comments |
Last Update : 9 กรกฎาคม 2550 0:59:59 น. |
Counter : 870 Pageviews. |
|
|
|
ว่าแต่ลูกเพ่ไปรู้เรื่องพวกนี้มาจากไหนเนี่ย
หรือว่าเตรียมตัวไปอยู่บ้านบางแคอย่างที่บอกจิง ๆ
เพลงนี่เสียงเหมือนพี่ตู่เลยนะ
ขอให้หายเร็ว ๆ จะได้กลับมาเป็นดีโว่เหมือนเดิม