เห็นด้วยตา สัมผัสด้วยใจ เปิดรับประสบการณ์ใหม่ เที่ยวด้วยใจเที่ยวด้วยกัน

<<
ตุลาคม 2554
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
12 ตุลาคม 2554
 

วันสบายสไตล์สิงคโปร์ : Very Nice Trip at Singapore

8/10/2011
วันแห่งการรอคอยมาถึงซะที หลังจากที่จองตั๋วขาเก่าเจ้าประจำ Everyone Can Fly ไว้ชาติที่แล้วแต่สามารถบินได้ในชาตินี้ (อิอิอิ แอบเหนบนิดหน่อย) ระยะเวลาในการรอคอยไม่มากไม่น้อยเกือบปีเอง ทริปนี้ไปแค่ 3 วัน 2 คืน (สั้น ๆ แต่สนุกมากกกกก) ด้วยเหตุและปัจจัยว่าค่าครองชีพและอะไรต่อมิอะไรในสิงคโปร์แพงเหลือเกิน ทริปนี้มีผู้ร่วมขบวนการ 2 คน คือ เราและเพื่อนสาวขาลุยอีก1
เราเริ่มเดินทางกันในบ่ายวันที่ 8/10/2011 ด้วยเที่ยวบินที่ FD 3507 เวลาเครื่องออก 13.10 น. แต่เครื่องดีเลย์นิดหน่อยออกช้าไปครึ่งชั่วโมง (พอรับได้) สรุปว่าวันนั้นเครื่องออกจากสุวรรณภูมิประมาณ 13.45 น. หัวหน้าแอร์ฯ บอกว่าใช้เวลาในการบิน 2 ชม. 25 นาที ตามตารางเวลาเราจะถึงสนามบินนานาชาติชางกี ประมาณ 16.10 น. ถ้าคิดรวมกับเวลาที่ช้าไปก็น่าจะถึงสัก 16.45 น. แต่ที่ไหนได้พอไปถึงน่านฟ้าสนามบินเครื่องยังลงไม่ได้ เนื่องจากการจราจรหนาแน่มีเครื่องออกและลงเยอะมาก กัปตันเลยพาบินเล่นอีกครึ่งชั่วโมง นึกว่าจะบินต่อไปถึงอินโดนีเซียซะอีก (555) สรุปว่าวันนั้นเราลงเครื่อง landing ณ Changi Airport ก็ประมาณ 17.30 น. เสียเวลาเที่ยวไปอีกชั่วโมงครึ่ง


เราใช้เวลาที่ด้านตรวจคนเข้าเมืองไม่น่าจะถึงครึ่งชั่วโมง การเดินทางจากสนามบินเราใช้บริการ MRT ซึ่งถือว่าสะดวกมากกกกกกกกก (ลืมรถไฟฟ้าและรถใต้ดินบ้านเราไปได้เลย) เดี่ยวมันก็โผล่ขึ้นฟ้าสักพักมันก็มุดลงดิน(สิงคโปร์นายแน่มาก) การเดินทางในครั้งนี้เราได้รับความกรุณาจาก พี่นิตยา เพื่อนสมาชิกในห้อง Blueplanet แห่งพันทิพย์ ให้ยืมบัตร Ez-link 2 ใบ (เราไม่รู้จักพี่เค้าเลยและพี่เค้าก็ไม่รู้จักเราแต่ด้วยความที่เรามีหัวใจในการเที่ยวเหมือนกัน และอีกอย่างพี่เค้าอยู่ตั้งอุบลราชธานี แต่เราอยู่ นนทบุรี ขอบคุณพี่นิตยาจริง ๆ ค่ะ ) ด้วยบัตร Ez-link ทำให้การเดินทางในทริปนี้สะดวกมาก ๆ บัตรใบนี้ใช้ได้ทั้ง MRT รถเมล์ ใช้ในการข้ามไป Sentosa ใช้ซื้อของใน 7-11 และร้านต่าง ๆ ที่มีสัญลักษณ์บัตรใบนี้ (แจ๋วจริง)



เราทำการจองที่พักมาก่อนจากบริการของ Agoda เราพักกันที่ Asphodel Inn Hotel ย่าน Little India สนนราคาคืนละ 2,130 บาท โรงแรมนี้ใกล้สถานี Ferre Park (สายสีม่วง) ใกล้ห้าง City Square Mall และ Mustafa Center เรามาถึงที่พักกันก็ประมาณทุ่มกว่า ๆ เวลาที่สิงคโปร์เร็วกว่าไทย 1 ชม. Check in เก็บกระเป๋าเรียบร้อยก็ออกไปเดินเล่นที่ City Square Mall และ Mustafa Center แลหาอาหารมื้อแรกในสิงคโปร์กินกัน มื้อนี้เรากินอาหารจีน เป็นข้าวผัดและผัดหมี่ฮกเกี้ยนสไตล์จีน ๆ เลี่ยน ๆ เค็ม ๆ สนนราคาจานละ 5 เหรียญ อร่อยไม่อร่อยไม่รู้ แต่รู้ตัวว่าหิวมาก





เสร็จจากอหารมื้อแรกไปเดินต่อกันที่ Mustafa ตั้งใจมาเลยที่นี่เพื่อที่จะซื้อช๊อคโกแลตกับไปฝากลูกฝากหลาน ได้มาหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น เฟอเรโร่รอชเชอร์ กล่องใหญ่ 30 ลูก ราคากล่าองละ 13.50 เหรียญ แล้วต่าง ๆ อีกมากมาย หมดไปกับช๊อคโกเลตก็ 53 เหรียญ ได้รองเท้าแตะมา 1 คู่ อันเนื่องมาจากว่ารองเท้าที่ใส่ไปมันกัดแล้วรองเท้าที่ได้ก็มาจากไทยอีกด้วย Kito ราคาบ้านเราน่าจะ 99 – 129 บาท แต่ซื้อที่ Mustafa คู่ละ 9.90 เหรียญ (555) สบายใจ เราเดินเล่นวุ่นวายกันอยู่ที่ 2ห้างนี้อยู่พอสมควร กลับถึงห้องพักก็เกือบ 5 ทุ่ม อาบน้ำนอน พรุ่งนี้วางแผนกันไว้ว่าจะไป USS แต่เช้า
9/10/2011
เช้านี้อากาศสดชื่นแจ่มใสมาก เมื่อคืนฝนตกหนักมาก หลับสบายไม่มีตื่นกลางดึก ชาร์ตพลังกันเต็มที่เช้านี้พร้อมลุย เราออกจากที่พักตอน 8 โมง ขึ้นรถ MRT สายสีม่วงจากสถานี Ferre Park ไม่ต้องเปลี่ยนสายค่ะ มาลงที่ Habour Front (Vivo City) มาถึงแล้วจากนั้นก็ใช้บริการ Sentosa Express ข้ามไปเกาะ เพื่อที่จะเข้าไปใน USS




ได้เวลาสนุกกันให้สุดเหวี่ยงไปเลยกับ Universal Studio Singapore ก่อนมาเราได้ซื้อตั๋วเข้า Uss มาแล้วโดยซื้อผ่านบัตร Master Card จะได้ลดอีก 20 % ได้ที่ราคา 56.70 เหรียญ
ด้านหน้าก่อนเข้าไปก็จะมี Casino, Resort ร้านค้าขายพวกขนม ลูกกวาด ลูกอม ช้อคโกแลต และสินค้าของ Uss มากมาย แต่ไฮไลน์เลยคือใครมาแล้วไม่ได้ถ่ายรูปกับสัญลักษณ์ลูกโลกของ Uss ถือว่ามาไม่ถึง








วันที่เราไปเป็นวันอาทิตย์ตรงกับวันหยุดคนเยอะมาก คนมาจากหลาย ๆ ประเทศไม่ว่าจะเป็นมาเลเซีย อินโดนีเซีย โดยเฉพาะคนไทย วันนี้มาเพียบ Uss ที่นี่มีทั้งหมด 7 โซนใหญ่ ๆ


เราเริ่มกันที่โซน Madagascar การ์ตูนเรื่องดังที่ใคร ๆ ก็รู้จัก โดยนี้จะเป็นการร่องแก่งแบบเบา ๆ ไปดูพวกตัวการ์ตูนในเรื่องนี้กัน ก็สนุกดีค่ะเล่นได้ทุกเพศทุกวัย นอกจากนี้ก็ยังมีม้าหมุน มีรถไฟเหาะแบบหวาดเสียวนิดหน่อย (แต่ก็กรี๊ดสนั่นหวั่นไหวอยู่ 555) โซนนี้มีอะไรเล่นหมดค่ะ






ถัดจาก Madagadcar เราก็ไปกันต่อเลยที่ โซน Far Far Away เป็นการฉายหนังแบบ 4D โซนนี้ชอบ ๆ ถูกใจทุกวัยอีกเช่นกัน เรื่องที่ได้ดูกันก็เป็นเรื่องราวในการ์ตูนเรื่อง Shrek สนุกมาก ถ่ายรูปได้แต่ด้านนอก ข้างในโรงฉายห้ามถ่ายเด็ดขาด เค้าจะมีแว่นให้เราใส่เวลาดูหนัง





โซนถัดมาก็เป็น Lost World จากหนังเรื่องดัง Jurassic Park อันนี้ก็เล่นทุกอย่างที่ขวงหน้า สนุกอีกและโดยเฉพาะเครื่องเล่น โดยเฉพาะ Canapy Flyer สนุกดีค่ะ แต่เสียดายที่ไม่ได้เข้าไปดูโซน Water World เค้าจะแสดงแค่วันละ 2 รอบ 12.30 และ 16.30 เล่นเครื่องเล่นกันจนลืมรอบ 12.30 ช่างมันไม่ได้ดูก็ไม่เป็นไร





มาโซนที่ 4 Ancient Egypt ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหิว ข้าวเช้าก็ไม่ได้กินมากัน แต่ด้วยความสนุกลืมหิวกันไปเลยเรา 2 คน เป็นอีกโซนที่มันที่สุดและเราชอบมากที่สุด ชื่อ The Mummy มันเป็นรถไฟเหาะที่มันกระชากเดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลงแล้วมันเล่นอยู่ในที่มืดผจญภัยกับเหล่ามัมมี่ สนุกแบบมืด ๆ กรี๊ดกันสนั่นหวั่นไหวอีกแล้ว (555) นอกจากตรงนี้ก็จะมี Treasures Hunter เป็นแบบรถจิ๊บโบราณ ขนาดที่นั่ง 4 คน เหมือนให้เราพักสยองจาก The Mummy มานั่งชิว ๆ เล่น ๆ ที่โซนนี้พักใจ









ต่อจากโซนนี้ก็มาต่อกันที่ SCI-FI CITY โซนนี้ลูกสาวกำนันอย่างฉันขอผ่านไม่สามารถจริง ๆ มันเป็นรถไฟเหาะตีลังกาของแท้แน่นอน น่ากลัวอะ ยังไงก็ไม่ขอใช้บริการรถไฟขบวนนี้เด็ดขาด มาดูหน้าตามันละกัน จากการสังเกตด้วยสายตา เครื่องเล่นอันนี้น่าจะเป็นจุดที่ไม่มีคนต่อรอคิวยาวเหมือนกับอื่น ๆ (หลาย ๆ คนก็คงไม่กล้าเหมือนกัน 555) แต่ก็ยังมีเครื่องเล่นชิว ๆ เบาะ ๆ ให้ได้ใช้บริการกัน โซนนี้ไม่ค่อยถูกใจ เราก็เลยไม่กด Like ให้ละกัน







บ๊ายบาย รถไฟเหาะเราก็มาต่อกันที่โซน New York สีสันอย่างกับอยู่ New York อย่างไงอย่างงั้น (แอบเว่อนิด ๆ) โซนตรงนี้ไม่ได้เน้นที่เครื่องเล่นแต่จะเป็นการแสดงโดยเฉพาะใน Studio Universal เป็นการจำลองการถ่ายทำหนัง เหมือนจริงมาก ๆ น้ำกะเด็นมาซะเปียกหัวเปียกผมไปหมด แต่ก็สนุก





โซนสุดท้าย ท้ายสุด นี่เลย Hollywood โซนแห่งเสียงดนตรีและละคร ก็จะมีการแสดงจากเหล่าตัวละครดัง ๆ มาแสดงละครเพลง ให้นักท่องเที่ยวชมกันใช้เวลาตรงนี้ก็ประมาณครึ่งชั่วโมง การแสดงก็โอเคนะใช้ได้ แต่ก็ไม่ถึงกับชอบอะไรมากมาย




เที่ยวมันจนครบทุกโซน ท้องก็ร้องดังหิว ๆ หาข้าวกินก่อนละกัน อาหารที่ USS แพงมาก ๆ 1 ชุดก็สนนราคาอยู่ที่ 300 กว่าบาท ใน 1 set ประกอบด้วย ข้าวหน้าไก่ทอด+น้ำโค้ก 1 แก้ว+เยลลี่ผลไม้ (แพงไงก็ต้องกินแล้วอะเวลานั้น)


กินข้าวกันอิ่มแล้วจากนี้ก็จะเป็นการช๊อปและก็ช๊อปของที่ระลึกแบรนของ USS ทุกจุดที่เป็นโซนเครื่องเล่นและการแสดงจะมีร้านขายของที่ระลึกให้ได้จับจ่ายกันตามใจชอบ เราเลือกมาหาซื้อของที่ระลึกกันที่ Store ด้านหน้า จัดไป 3-4 อย่างพอหอมปากหอมคอ (555)


สรุปการเที่ยวใน USS สำหรับเราถือว่าคุ้มมากกับเงินที่จ่ายไปไม่เสียดายเลยสักบาทเดียว ถึงแม้ว่าจะมีเครื่องเล่นบางอย่างที่ไม่ได้เล่น (อันเนื่องด้วยจากใจยังไม่ถึงพอและเครื่องเล่นบางอย่างปิดปรับปรุง) การแสดงบางชุดที่พลาดไปไม่ได้ดู แต่ยังไงก็คุ้มอยู่ดี โอ้ยอยากบอกสนุกจริง ๆ




เที่ยวกันจนสะใจเราก็ยังไม่หมดแรงเพราะเรามีนัดกับเจ้า Merlion ถ้าไม่มาถ่ายรูปกับมันเดี๋ยวมันจะเสียใจ ก็เช่นเคยใช้บริการ MRT มาลงที่สถานี Marina Bay เห็นแล้วสวยจริง ๆ สิงคโปร์เป็นอีกเมืองที่น่าชื่นชมในเรื่องของการวางผังเมือง การก่อสร้าง สิ่งต่าง ๆ ที่รายล้อมอยู่นรอบ Marina Bay ทุกอย่างดูมันลงตัวไปหมด ไม่ว่าจะเป็น Merlion, Marina Bay Sands Hotel, Esplanade, Singapore Flyer, Singapore Science Centre, sands skypark ลงตัวมากมายต้องมาเห็นเอง สุดยอดจริง ๆ ทุกมุมที่เดินผ่านสามารถถ่ายรูปได้ทุกจุดจริง ๆ









เดินถ่ายรูปกันจนสะใจแล้วก็ไปต่อกันที่น้ำพุแห่งความมั่งคั่ง ณ Suntec City เราไปถึงเค้ายังไม่เปิดให้เข้าไปสัมผัสเราก็เลยไปหาข้าวเย็นกินกันก่อนที่ Food Court มีร้านอาหารให้เลือกมากมาย แต่คงหาอร่อยแซบถูกปากได้ยากหน่อย แต่ถ้ากินประทังหิวพอได้ มื้อนี้จัดไม่หนักเท่าไหร่ แต่ก็อิ่มมาก ๆ เช่นกัน










อิ่มแล้วก็ได้เวลาไปสัมผัสน้ำพุแห่งความมั่งคั่ง ขอพรได้ตามใจชอบอยากได้อะไรก็ขอไป วิธีคือเดินวนขวา 3 แล้วเอามือไปสัมผัสน้ำพุ เสร็จจากน้ำพุเราก็ไปต่อกันที่ย่านออร์ชาร์ด




จากตึก Suntec เราใช้บริการรถเมล์ใช้บัตร Ez-link แบบสบาย ๆ นั่งไปลงออร์ชาร์ด ลงไม่ถูกก็ถามคนขับ (555) ไปแวะดูสีสันยามค่ำคืนย่านนี้กันแวะห้าง Lucky Plaza ได้ของติดไม้ติดมือมานิดหน่อย ขึ้น MRT กลับที่พักมาถึงที่พักก็ 4 ทุ่ม วันนี้ก็แค่เริ่มตอน 8 โมง มาจบที่ 4 ทุ่ม (ปวดขาและเท้าสุด ๆ ไปเลย ฮันจีอุนสู้ตายค่ะ)






10/10/2011
ฝนตกหนักตั้งแต่เช้ามึดไม่มีทีท่าจะหยุดง่าย ๆ เช้านี้เราตั้งใจจะไปนมัสการพระเขี้ยวแก้วและซิ่งกันแถว Chinatown เก็บตกก่อนกลับบ้าน ตอนแรกตั้งใจจะ Check out ตอน 8 โมง แต่ฝนไม่หยุดเลย รอกันจนถึง 9 โมงฝนเริ่มซา ๆ เราก็เลยออกจากที่พักขึ้น MRT ไป Chinatown ออกจากสถานีก็จะเจอตลาดขายของต่าง ๆ มากมาย แต่ด้วยฝนยังตกอยู่ร้านเลยยังไม่เปิดกันมาก เราก็เลยจะไปไหว้พระเขี้ยวแก้ว ก่อนจะถึงพระเขี้ยวแก้ว ก็จะมีวัดแขกของคนฮินดู วัดพระเขี้ยวแก้วเป็นอาคารสถาปัตยกรรมแบบจีน (สวยมาก) ตรงข้ามวัดก็เป็นศูนย์อาหาร Maxwell







ไหว้พระกันเสร็จก็เดินเล่นไปเรื่อย ๆ ไปเจออาคารสีแดงแสบตา เรียกว่า Red Dot Museum จากนั้นก็หาข้าวกินกันมือนี้กินข้ามันไก่ มาสิงคโปร์ไม่ได้กินข้าวมันไก่เหมือนมาไม่ถึง (ไม่รู้จริงป่าว) 1 Set ราคา 4.50 เหรียญ มีข้าวมัน + ไก่ต้ม+ผักน้ำมันหอย+น้ำซุป









กินข้าวอิ่มและก็ไปเดินดูของฝากนิดหน่อยขึ้น MRT มาลงสนามบิน Terminal 2 จากนั้นก็นั่งรถ Sky train ที่ให้บริการในสนามบินมาลงที่ Terminal 1 ตรวจตั๋วเครื่องบิน หนังสือเดินทาง ใช้เวลาไม่ถึง 15 นาที เราก็เข้ามาเดินเล่นหาซื้อของกันต่อ ได้เสื้อลาย Merlion กลับมาอีก 2 ตัว ด้วยสนนราคา 39 เหรียญ สบายใจจริง ๆ แต่เงินไม่หมดนะยังเหลือตั้งร้อยกว่าเหรียญกลับบ้าน





ได้เวลาเรียกขึ้นเครื่องก็บ่าย 2 กว่า ๆ ไฟล์ที่เรากลับเครื่องออกเวลา 14.40 ตรงเวลามาก ๆ ใช้เวลาในการบิน 2.25 นาที แอร์ไฟล์นี้น่ารักมากประมาณ Star Airline มีทั้ง อั้ม พัชราภา หัวหน้าแอร์, นุ่น วรนาท, พิ้งกี้ สาลิกา และ ยาย่า ยาฆ่าหญ้า ส่วนนักบิน เคน ธีรเดช วงศ์พันพัว ผู้ช่วยนักบิน โดม ปะการัง ก็เป็นสีสันให้กับผู้โดยสารดีค่ะ บินกับหางแดงมาก็หลายต่อหลายไฟล์ ชอบไฟล์นี้มากที่สุดค่ะ (กด Like 100 รอบ) มาถึงสุวรรณภูมิเวลา 16.15 น.






ทริปนี้ลืมไม่ได้เลยที่จะขอบคุณที่รักที่ให้ Pocket Money นิดหน่อยไปเที่ยว และบ่นเราทุกวันว่า Crazy Travel lady (555) ขอบคุณสายการบิน Everyone Can Fly ซื้อชาติที่แล้วบินชาตินี้ในราคา 2,410 บาท ขอบคุณพี่นิตยา ที่ให้เรายืมบัตร Ez-link ไว้ใช้ในการเดินทาง ขอบคุณ Uss ถึงจะเสียเงินเข้าแต่ก็คุ้มค่ากับการรอคอย ขอบคุณ Asphodel Inn โรงแรมเล็ก ๆ น่ารัก ๆ ย่าน Little India ขอบคุณแหล่งช้อปปิ้งทุกแห่งที่เราได้ไปใช้บริการ ขอบคุณแหล่งท่องเที่ยวทุกที่ที่เราได้ไปเยือนและสัมผัส ขอบคุณคนสิงคโปร์ทุกท่านที่ให้ความช่วยเหลือตอบคำถามทุกครั้งที่เรามีปัญหาไปไหมาไหนไม่ถูกด้วยความเต็มใจ ขอบคุณจริง ๆ ประเทศสิงคโปร์ที่ทำให้เราเห็นมุมมองใหม่ ๆ บนโลกใบนี้เพิ่มมากขึ้นอีกเยอะ และสัญญาว่าจะไม่ลืมคุณเลยจริง ๆ สิงคโปร์


Create Date : 12 ตุลาคม 2554
Last Update : 12 ตุลาคม 2554 16:04:58 น. 5 comments
Counter : 4077 Pageviews.  
 
 
 
 
ขอบคุณมากๆๆค่ะ รีวิวน่ารักจิงๆๆ
จะเดินรอยตามบ้างนะคะ...
เพราะเพิ่งซื้อตั๋วในชาตินี้แล้วจะเดินทางในชาติหน้าบ้าง..ฮ่าๆๆ
(เอาบ้าง..)

ว่าแต่ezylink นี่ซื้อที่ไหนค่ะ แล้วเราเติมเงินเองใช่ไม๊ค่ะ??

 
 

โดย: white shoes IP: 49.49.54.156 วันที่: 12 ตุลาคม 2554 เวลา:19:42:13 น.  

 
 
 
เห็นแล้วอยากไปชม Universal Studio ที่นั่นจังเลยค่ะ
ภาพเยอะจุใจมาก ขอบคุณที่นำมาฝากกันนะคะ
 
 

โดย: diamondsky วันที่: 12 ตุลาคม 2554 เวลา:20:52:06 น.  

 
 
 
บัตรซื้อได้ที่สถานนีค่ะ ทุกสถานี MRT จะมีตู้เติมเงิน เติมขั้นต่ำ 10 เหรียญค่ะ
 
 

โดย: sitafighting วันที่: 13 ตุลาคม 2554 เวลา:7:44:31 น.  

 
 
 
universal น่าไปจริงๆ มีเพื่อนที่เคยไป ก็บอกว่าน่าสนุกดีเช่นกันคะ



by //www.facebook.com/nappage
 
 

โดย: nappage IP: 58.8.227.30 วันที่: 15 ตุลาคม 2554 เวลา:9:16:39 น.  

 
 
 
อยากไปจัง
 
 

โดย: โบนัท IP: 125.26.209.54 วันที่: 18 สิงหาคม 2555 เวลา:17:54:40 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

กินให้สุด อย่าหยุดเที่ยว
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Life is Journey Life is Travel
[Add กินให้สุด อย่าหยุดเที่ยว's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com