 |
|
|
 |
 |
|
|
| | 1 | 2 | 3 |
| 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
| 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
| 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
| 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
| |
|
 |
|
|
|
Dream come true in Egypt Bye Bye Habibi
ก่อนจะ bye bye Egypt เราก็ได้ไปเที่ยว The Mosque of Muhammad Ali at the Citadel เป็นมัสยิดโบราณที่ยิ่งใหญ่ในไคโร Muhammad Ali เป็นมัสยิดที่มีชื่อเสียงของอิสลามมิกชนเป็นอย่างมาก ภายในของ Muhammad Ali ทำจากหินอลาบาสเตอร์ หรือเรียกอีกชื่อว่า Alabaster Mosque สร้างขึ้นในระหว่างปี ค.ศ. 1830 1848 เบ็ดเสร็จใช้เวลาในการสร้างรวมทั้งหมด 18 ปีด้วยกัน ทั้งนี้นอกจากเป็นมัสยิดที่ยิ่งใหญ่ในไคโรแล้วยังเป็นป้อมปราการใจกลางเมืองอีกด้วย
บรรยากาศด้านในสวยสมคำล่ำลือ ยิ่งมีแสงไฟส่องประกายกระทบกับหินและสีทองด้วยแล้วยิ่งทำให้ The Mosque of Muhammad Ali at the Citadel ที่สวยงามอยู่แล้วกับสวยงามมากยิ่งขึ้นไปอีก โอ้ยไม่รู้จะบรรยายยังไงเอาเป็นว่าสวยสุด ๆ ก็แล้วกัน
ด้านหน้าทางเดินเข้า The Mosque of Muhammad Ali at the Citadel ก็จะมีร้านขายของที่ระลึกซึ่งเล็งไว้แล้วว่าขากลับออกมาต้องไม่พลาดที่จะแวะเยี่ยมคนขายเพื่อปะทะการต่อรองราคา ก่อนจะไปสนามบินก็ได้ต่อราคาจริง ๆ อันนี้สุด ๆ ไปเลย ไอ้แหวนฝังหัวมุกมา 1 วง จากราคาเดิมตั้งไว้ที่ 20 us แต่ความสามารถล้นเหลือของลูกสาวกำนันในครั้งนี้555สรุปแล้วได้มาในราคาวงละ 7 us สุดยอดไปเลย และอีกชิ้นนึงที่มาอียิปต์แล้วต้องไม่พลาดซื้อกลับไปก็คือ ผ้าคลุมจะคลุมอะไรก็ตามแต่ใจปรารถนาละกันค่ะ ผืนนี้ก็ได้มาในราคา 7 us อันนี้ได้ลดไม่มากจากราคาเดิมอยู่ที่ 14 us ไม่กล้าต่อแล้วคนขายบอกว่า last price พร้อมกับทำตาถลนออกมานอกเบ้า (นึกว่าฉันจะกลัวหรือไง) พอดีตอนนั้นเค้าเรียกขึ้นรถแล้วเดี๋ยวไม่ทันเที่ยวบิน อะไปก็ไป
เราเดินทางจาก The Mosque of Muhammad Ali at the Citadel ก่อนที่จะไปสนามบินเพื่อรับประทานอาหารกลางวันก่อนจะขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพฯ เมื่อกินกันเสร็จเรียบร้อยก็ได้เวลาไปสนามบินไคโร Cairo International Airport สภาพสนามบินไม่ใหญ่โตมากมาย ให้เทียบกับสุวรรณภูมิบ้านเราแล้ว สุวรรณภูมิกินขาดทั้งความใหญ่โตมโหฬารและความสวยงามเทียบไม่ได้ (ในสายตาฉันนะ) ก็เข้าแถวทำการชั่งน้ำหนักกระเป๋าตรวจตั๋วเครื่องบินก็ใช้เวลาพอสมควรเพราะคณะทัวร์เราไปกันร่วม 60 กว่าชีวิต ขากลับนี้เราก็ยังคงใช้บริการจอง Qarta Airway ตามเดิมของเค้าดีจริง ๆ อาหารอร่อยบริการประทับใจ
มีเรื่องเม้าท์นิดหน่อยขอบอกก็พอดีสวยโดนใจหนุ่มเจ้าหน้าที่สนามบิน แหมจะไม่ให้เรากลับเมืองไทยชวนเราอยู่ซะที่ไคโร หน้าตาหล่ออยู่นะแต่ไม่เอาอะค่ะขอบายไม่ชอบแขก แต่เราก็รอดมาได้ พอดินเข้ามาในตัวสนามบินด้านในแค่นั้นหล่ะวิญญาณนักช๊อปก็ผุดออกมาทันที โอ้แม่เจ้า Duty Free Egypt ต้องเข้าไปเดินโฉบซะหน่อย ไอ้ที่ว่าเดินโฉบเนี่ยเข้าไปประมาณ 5 รอบ ได้ของออกมาทุกรอบ (555)
ขนาดจะกลับบ้านอยู่แล้วเชียวยังไปเออเหรอจนได้ เรื่องมีอยู่ว่าพี่ไกด์เค้าบอกว่าชาอียิปต์รสชาติดีอย่าลืมซื้อกลับบ้านไปด้วยนะ ไอ้เราก็มาแล้วต้องไม่พลาดเดินหากันใหญ่ในร้าน ก็ได้กันกลับมาคนละ 3- 4 กล่อง สบายใจ แต่มันยังไม่จบเท่านั้น พอเราเข้ามานั่งกันในส่วนที่จะรอขึ้นเครื่องน้องออมก็บอกว่าอยากลองเปิดดู she ก็เลยแกะซะเลยปรากฏว่าสิ่งที่เราทั้งหลายคือยาเส้น ไม่ใช่ชาอียิปต์อย่างที่เราคิดกันไว้ นี่แหล่ะโทษฐานของการไม่ยอมอ่านถึงว่าทำไมมันถูกจัง (555555555555555) สบายใจไม่ได้โดนแขกหลอกนะแต่เซ่อเอง ซ่าจะซื้อดีนัก
วันนั้นกว่าจะได้ขึ้นเครื่องก็นานอยู่ ขากลับไม่ตื่นเต้นและรู้แล้วว่าเป็นยังไงอารมณ์ขึ้นเครื่องบินเนี่ย ก็ก่อนจะไปถึงสุวรรณภูมิเราก็ต้องแวะเปลี่ยนเครื่องที่โดฮาก่อนนะคะ ขึ้นไปนั่งได้สักพักแอร์สาวสวยหนุ่มหล่อก็เอาอาหารชุดมาประเคนให้ถึงที่นั่ง และก็เป็นอีกมื้อนึงที่ได้ลิ้มลองเนื้อแกะ ที่เลือกกินเนื้อแกะก็เพราะว่าเนื้อไก่มันหมดเอาวะแกะก็แกะ เอออร่อยดีเหมือนกัน กินเสร็จเท่านั้นแหล่ะความง่วงก็ถามหาหลับดีกว่าค่ะ เราใช้เวลาในการเดินทางจากไคโรมาที่โดฮาประมาณ 4 ชม. เสียงจากในเครื่องบินบอกว่าให้เตรียมตัวเพราะเครื่องจะลงแล้ว ตื่น ๆ เตรียมตัวลง (โหยังง่วงอยู่เลย) ก็ลงมาตรวจหนังสือเดินทางใช้เวลาอีกประมาณ 1 ชม. ปรากฏว่าขึ้นเครื่องบินได้แล้วเหมือนตัวประหลาดถือของกันพะรุงพะรัง ไอ้ที่ว่าตัวประหลาดก็เพราะเครื่องลำนี้กำลังรอพวกเราและคนอื่น ๆ ที่ต้องมาเปลี่ยนขึ้นลำนี้ ก็แหมคนนั่งอยู่บนเครื่องบินเพียบเลย รวมทั้งนักกีฬาไทยที่ไปแข่งเอเชี่ยนเกมส์นะกรุงโดฮาประเทศกาตาร์ ได้เห็นนักกีฬาไทยหลายคนดีใจจัง
ได้เวลาหลับต่อพะย่ะค่ะ หลับได้นิดนึงแอร์สาวก็เอาอาหารมาให้อีกและ แต่รอบนี้ขอบายค่ะก็พึ่งจะกินมาจากเครื่องลำที่แล้วกินไม่ลงแล้ว ความง่วงและอาการอยากหลับอย่างเดียวเท่านั้นในตอนนี้ที่ฉันต้องการ มันรู้สึกง่วงมาก ๆ สรุปว่าหลับยาวเลยจริง ๆ มารู้ตัวอีกที่ตอนเพื่อนร่วมทริปปลุกบอกว่าเครื่องจะลงสุวรรณภูมิแล้ว อันนี้หลับลึกหลับจริง อย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน
Things to Try Before you die ( อยากทำอะไรก่อนตายบ้าง) คำตอบคือไปอียิปต์แล้วก็ได้ไปแล้วจริง ๆ พอตอนนี้นึกย้อนกลับมาถามตัวเองว่า 6 วันที่อยู่ในอียิปต์รู้สึกอย่างไรบ้าง สนุก อิสระกับชีวิต ไม่ต้องคิดอะไร เที่ยวเที่ยวเข้าไป ชีวิตเป็น ของเรา นี่แหล่ะคอนเซปการใช้ชีวิตแบบลูกสาวกำนัน และแล้ว Dream Come True Egypt ก็จบลงไปแบบ Happy Ending : Salam Habibi
| Create Date : 19 เมษายน 2553 |
| Last Update : 19 เมษายน 2553 15:17:42 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 688 Pageviews. |
|
 |
|
|
|
|
|
| กินให้สุด อย่าหยุดเที่ยว |
 |
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [
