เห็นด้วยตา สัมผัสด้วยใจ เปิดรับประสบการณ์ใหม่ เที่ยวด้วยใจเที่ยวด้วยกัน

<<
มกราคม 2563
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
23 มกราคม 2563
 

หนาว ๆ ฟิน ๆ อินซัปโปโร

Day 1
ซัปโปโรคือจุดหมายปลายทางของพวกเราในทริปนี้ ด้วยความที่อยากเจอหิมะขาว ๆ ฟู ๆ พวกเราเลยเลือกมาซัปโปโร ทริปหนาวนี้ที่ซัปโปโรไปกันทั้งหมด 6 วัน 5 คืน สมาชิก 5 คนด้วยกัน ผู้ใหญ่ 4 เด็ก 1 รอบนี้เราใช้บริการสายการบิน Hong Kong Airlines ราคารวม 12,020 บาท ก่อนจะไปนี่โดน HX เปลี่ยนไฟล์บินทั้งไปและกลับ เวลาที่เปลี่ยนไม่มีปัญหากับการเดินทางรับได้ เราเที่ยวกันตั้งแต่ 30 พ.ย. – 5 ธ.ค. 62 รวมแล้ว 5 คืน 6 วัน



การเดินทางเริ่มจากสนามบินสุวรรณภูมิไปเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินฮ่องกง รอเปลี่ยนเครื่องประมาณ 2 ชม.ครึ่ง สำหรับเราถือว่าเวลาประมาณนี้โอเคเลย



มาถึงสนามบินฮ่องกงล้างหน้าแปรงฟัน หาอาหารเช้ากินก่อนเลย เพราะบนเครื่อง HX ไฟล์ดึกจะแจกแค่แซนวิสแฮมชีสในตำนานเท่านั้น อาหารที่ซื้อในสนามบินก็หน้าตาประมาณนี้ หมดไปกี่ HKD จำไม่ได้แต่รวม ๆ แล้วก็อร่อยพอใช่ได้นะ











นั่ง ๆ เดิน ๆ เล่นในสนามบินประมาณสัก 2 ชม.ครึ่ง ประมาณ 8.30 เจ้าหน้าที่สายการบินก็เรียกขึ้นเครื่อง จุดหมายต่อไปของเราคือ New Chitose Airport เครื่องออกตรงเวลา เราใช้เวลาจากฮ่องกงไป Chitose ประมาณ 5 ชม.ครึ่ง เครื่องขึ้นไปได้ไม่ถึง ชั่วโมงเหล่าแอร์สาว ๆ ก็ได้เวลาเสริฟอาหาร มื้อนี้ถือว่าผ่านอยู่นะอร่อยดี มีให้เลือกระหว่างแบบฝรั่งกับแบบจีน







กินอิ่มดูหนังกันไปเพลิน ๆ เรามาถึง New Chitose Airport กันประมาณบ่าย 3 กว่าใช้เวลาในการผ่าน ตม. เกือบ 1 ชม. เสียเวลาต้องมากรอกใบ ตม. เพราะบนเครื่องหมด และนักท่องเที่ยวก็เยอะมาก แล้ววันนั้นน้องก็ดันไปลืมกระเป๋าใบใส่ของไว้ตรงที่กรอกใบ ตม. แต่ก็ได้รับความช่วยเหลือเป็นอย่างดีจากเจ้าหน้าที่ของสายการบินฮ่องกงแอร์ไลน์ ได้กระเป๋าคืนมาเราก็ไปต่อกันได้
เราใช้วิธีขึ้นรถไฟด่วน Rapid Airport Express เข้า Sapporo ง่าย ๆ เลยใช้บัตร ICOCA ที่มีอยู่แล้วและเติมเงินเพิ่มเข้าไป ส่วนของเด็กที่อายุ 6 ปีขึ้นไปซื้อบัตร KITACA สำหรับเด็กเลยจ้า ไปซื้อกับเจ้าหน้าที่นะ ซื้อกับเครื่องไม่ได้เพราะต้องยื่น Passport ให้เจ้าหน้าที่ลงทะเบียน เราใช้เวลาประมาณ 45 นาทีเราก็มาถึง Sapporo Station
จาก Sapporo Station เราก็ต่อสาย Namboku Line ไปอีก 2 สถานี ไปลงที่ Kita-juhachi-jo Station เพราะเราจองที่พักกับ AirBNB ไว้แถวนี้ ที่พักเราชื่อ 402 New Hostel Casa Dell’ Amico แนะนำเลยจ้า ที่พักดี ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัวคือดี หาง่าย ใกล้รถใต้ดิน เดินทางสะดวกมาก









วันนี้คือวันเดินทางจริง ๆ มาถึงที่พักเก็บของออกไปหามื้อเย็นกินกัน เดินไปเจอร้านนึงคือพนักงานพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย ดีนะได้อากู๋ทรานสเลทช่วยไว้ กว่าจะคุยกันรู้เรื่องคือไม่ได้กิน เพราะโต๊ะถูกจองหมดแล้ว บึ๋ย ๆๆๆ  มื้อนี้เลยต้องพึ่งอาหารในมินิมาร์ทและ 7-11 ที่เดินไม่ไกลจากที่พัก ซื้อมากินที่ห้องพัก อาหารเค้าหน้าตาดีอร่อยใช้ได้เลยนะ แค่ซ้อในมินิมาร์ทนี่ก็หมดไปหลายพันเยนอยู่นะ กินอิ่ม อาบน้ำ รื้อกระเป๋า พักผ่อน พรุ่งนี้พร้อมลุยซัปโปโร



















Day 2
เช้าแล้วหนาวมาก เมื่อวานมาถึงซัปโปโรคือมึดแล้ว ไม่เห็นอะไรนอกจากแสงไฟสลัวและเดินบนหิมะและน้ำแข็ง ที่ยังเหลือค้าง ๆ ไว้จากการตกมาก่อนหน้าที่เราจะมา มื้อเช้าของเราก็อาหารที่ซื้อจากเมื่อคืน เวฟกินกันสบาย ๆ เพราะซื้อกันมาเยอะเว่อร์ กินกันอิ่มเราก็ออกจากที่พักกันประมาณ 8 โมง วันนี้เราจะไปเที่ยวกันที่ Hokkaido Shrine/ Sapporo Jogai Market/ Shiroi Koibito Park : Chocolate Factory/ Tanuki Koji/ Susukino
ออกจากที่พักก็ได้กลิ่นอากาศบริสุทธิ์สดชื่น ซึ่งมันต่างกับอากาศบ้านเรามากมาย เช้านี้หน้าที่พักเราขาวไปด้ววยหิมะที่ตกค้างไว้ ก็ขาว ๆ หนาว ๆ เย็น ๆ สภาพแบบนี้คือต้องเดินระวังมาก ๆ เพราะลื่นล้มได้ทุกสถานการณ์







เริ่มกันที่ Hokkaido Shrine หรือศาลเจ้าฮอกไกโด เป็นที่แรกที่เราจะเริ่มเที่ยวในซัปโปโร การเดินทางในซัปโปโรง่ายมาก เพราะสายรถไม่ยุ่งยากซับซ้อนเท่าแถวโตเกียวหรือโอซาก้า รถไฟใต้ดินสาย Tozai สถานี Maruyama Koen Exit 2,3 เดินจากสถานีไปอีกเกือบ 1 กม. ตลอดการเดินไปศาลเจ้าก็จะผ่าน Maruyama Park ถ่ายรูปสวย ๆ วนไป เพลิน ๆ แป๊ปเดียวก็ถึงศาลเจ้า


















ออกจากศาลเจ้าฮอกไกโดเจอฝนเบา ๆ แต่หนาวมาก แอบหลบฝนอยู่สักครึ่งชั่วโมงเสียเวลาเที่ยว พวกเราก็เที่ยวท่ามกลางฝนนี่แหล่ะ พราะจุดหมายต่อไปนี่พลาดไม่ได้ เราก็จะไปหาปลาสด ๆ กินกันที่ Sapporo Jogai Market Market การเดินทาง : Maruyama Koen St. Nijuyonken Station Exit 5 เดินอีก 700 เมตร ตลาดปลาโจไกจะเป็นประมาณตลาดปลาค้าส่ง แต่ก็มีร้านขายของฝากของทั่วไป มีทั้งของสด ของแห้ง และร้านอาหาร ไม่รู้จะบรรยายยังไงก็อาหารทะเลเค้าสดจริงไรจริง ใครที่ชอบอาหารทะเลสด ๆ ปลาสด ๆ ต้องมาชิม















เดินชมตลาดกันทั่วแล้วก็ได้เวลากิน ร้านที่เราเลือกกันเป็นร้านที่ขายทั้งอาหารสดและอาหารแห้ง ของฝากต่าง ๆ มากมาย และก็มีแบ่งโซนเป็นร้านอาหารด้านใน ชื่อร้านเหรอ!! มีนะแต่อ่านไม่ออก เราเลือกกินข้าวหน้าต่าง ๆ ตามภาพเลยจร้า กินข้าวแล้วก็ต่อด้วยสตรอเบอรี่สดช่ำชื่นใจ มื้อนี้อร่อยทั้งข้าวและสตรอเบอรี่





อิ่มแล้วไปกันต่อที่ Shiroi Koibito Park : Chocolate Factory การเดินทาง : Nijuyonken Station Exit 5  Miyanosawa Station Exit 5 เดินอีกประมาณ 700 เมตร Chocolate Factory เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะกับทุกวัย เอาแบบว่าตั้งแต่เด็กยันแก่ แต่พอมาถึง Chocolate Factory นี่ฝนตกหนักกว่าเดิม แบบว่าเซ็งนะ แต่ทำไงได้ห้ามอะไรห้ามได้ ห้ามฟ้าห้ามฝนนี่ห้ามไม่ได้จริง ๆ ข้าง ๆ Chocolate Factory ก็จะเป็นสนามซ้อมฟุตบอลของทีม Consadole Sapporo ทีมที่เจ ชนาธิปสังกัดอยู่ ฝนตกอดถ่ายรูป ค่าเข้าชม Chocolate Factory ผู้ใหญ่ 600 เยน เด็ก 200 เยน ก็ถือว่าโอเคนะ เค้าจัดแสดงได้ดี และได้เห็นขั้นตอนการทำขนามของเค้า ทางออกก็จะเป็นร้านขายขนมของฝากมากมาย คุกกี้ใส้ช๊อคโกแลตของนางอร่อยมากกกกกกก คือต้องซื้อกลับบ้านไม่นั้นพลาดมาก



















อิ่มอร่อยกับขนมมากมายที่ Chocolate Factory เราก็เดินทางไป Tanuki Koji และ Susukino การเดินทาง: Maruyama Koen St. Odori St.  Susukino St. Exit 1 Tanuki Koji จะเป็น  แหล่งช้อปปิ้งและร้านอาหาร ส่วน Susukino จะเน้นไปที่ร้านอาหารนั่งดื่มนั่งดริ้งกันไป
มาเที่ยวซัปโปโรช่วงหน้าหนาวไม่ดีอย่างเดียวคือมืดเร็วมากประมาณ 4 โมงเย็นคือมืด แล้วพอแสงหมดอากาศมันก็จะหนาวมาก ยิ่งวันนี้เจอฝนความหนาวเลยบวกเข้าไปอีก









มื้อเย็นวันนี้เราไปหาราเมงกันที่ Ramen Alley ทั้งซอยจะมีแต่ร้านราเมงทั้งหมด ร้านไหนคนเยอะเราไม่กิน 555++ เพราะขี้เกียจรอคิวก็ข้างนอกมันหนาว เดินไปเจอร้านนึงเห็นมีกลุ่มคนญี่ปุ่นนั่งกันอยู่ เป็นร้านเล็ก ๆ หน้าร้านเป็นรูปไก่ เราก็เลยเรียกร้านกุ๊กไก่ละกัน ร้านนี้อยู่เกือบสุดซอย บอกเลยอร่อยจริง ไม่ผิดหวังน้ำซุปเข้มข้นสุด ๆ ไม่ต้องปรุงไม่เสียรสชาติ เส้นเหนียวนุ่ม หมูชาชูนี่สุด ๆ ไปเลยพี่จ๋า ค่ำนี้กลับที่พักกันด้วยความอิ่มเอมเปรมฤทัย มาเที่ยว Japan คือต้องมีสักมื้อนึงนะที่ต้องกินราเมงอร่อย ๆ ราคาดูแพงแต่คุณภาพของเค้าดีจริง ๆ ค่ะคุณผู้ช้ม















Day 3
วันนี้พวกเราตั้งใจไปเที่ยว Otaru แบบจัดเต็ม แต่ ๆๆ มันไม่เป็นอย่างที่คิดไว้เลย เช้านี้ออกเที่ยวพร้อมสายฝน แล้วนางตกตลอดทั้งวันแต่ยังดีที่ไม่ตกแรงมาก ไหน ๆ ตั้งใจไปเที่ยวแล้วพวกเราก็เดินหน้าลุย Otaru ฝนก็ฝนเหอะทำไรพวกฉันไม่ได้ (ฝนทำไม่ได้แต่ความหนาวนี่สิสุด ๆ หนาวคูณเข้าไปเลย) การเดินทางจาก Sapporoไป Otaru ง่ายมาก เริ่มจากที่พัก Kita-juhachi-jo StationSapporo St. Otaru St. ที่แรกที่พวกเราตั้งใจเที่ยวคือ Otaru Aquarium แต่คุณผู้ชมค่ะมันปิดบริการ Sad เลยจร้า ตั้งใจจะพาเด็กมาดูพาเหรดเพนกวิน อีป้านี่อยากร้องไห้ แต่ดีอย่างนึงคือเค้ามีป้ายบอกที่ Otaru Bus Station เลยว่าปิดบริการ เราก็ไม่ต้องนั่งรถไปให้เสียเวลา เลยเปลี่ยนแผนเดินเที่ยวห้างแถวนั้นไปก่อน เพราะมาถึง Otaru ฝนตกหนักกว่าเดิม ห้างนี้อยู่ตรงข้าม Otaru Bus Station เลย เดินเที่ยวห้างคงไม่มีอะไรดีไปกว่าการกินและช้อปปิ้งใช่มะ ชั้นล่างของห้างมี Supermarket ของกินของใช้เพียบ ของกินที่ซื้อมาเพียบนะ แต่ด้วยความหิวลืมถ่ายรูปไว้ ถ่ายได้แต่โมจิ 3 อัน แต่โมจิที่ห้างนี้อร่อยมาก แป้งเหนียวนุ่ม ไส้ไม่หวาน ยิ่งไส้สตรอเบรี่กินแล้วสดชื่นเลย อร่อยชนะเลิศทั้ง 3 อัน อิ่มแล้วฝนก็ยังตกอยู่ แต่ก็ซาลงไปบ้างแล้ว เราก็เลยตัดสินใจเดินเที่ยวกลางฝนไปเลย



ออกจากห้างเราก็พากันเดินลุยฝนไป Otaru Canal ได้ไปถ่ายรูปกันคนละสองสามรูป ทั้งหนาวทั้งฝนทนไม่ไหว คือวันนี้นี่สุด ๆ เลยทั้งอากาศหนาว+ฝน+หิมะที่ค้างอยู่ หนาวแบบว่าเดินไปก็แวะหาความอุ่นตามร้านค้าต่าง ๆ ไป ประมาณว่าเดินได้สักร้อยสองร้อยเมตรก็เข้าร้านโน้นออกร้านนี้ ซื้อบ้างไม่ซื้อบ้างไปตามเรื่อง






วันนี้ถ่ายรูปน้อยมากรูปทั้งหมดจากมือถือ จากกล้องนี่ไม่ได้ถ่ายเลยสักรูป ไม่กล้าเอาออกมากลัวโดนฝนแล้วกล้องพัง อีกจุดหมายหนึ่งที่มา Otaru คือฉันต้องมากินขนมร้าน LeTAO ป่ะเปิด Map เดินหาร้านกันเลยดีกว่า ไม่มีเวลาจะมาเดินเรื่อย ๆ และเพราะมันหนาวเหลือเกินพี่จ๋า มาถึงร้าน LeTAO แล้วไม่รอช้าสั่งเลย จัดไปเบา ๆ 4 ชิ้น กินให้หายอยาก





อร่อยทั้ง 2 แบบ ละมุนลิ้นสุด ๆ แบบว่าไป Otaru ต้องได้กินชีสเค้ก LeTAO ไม่นั้นไปไม่ถึง Otaru นะนอกจากชีสเค้ก็มีไอศครีมที่อร่อยไม่แพ้กัน LeTAO ที่ Otaru ไม่รู้มีกี่สาขานะ แต่สาขาที่เราแวะร้านไม่ใหญ่มาก มีโต๊ะให้นั่งไม่ถึง 10 โต๊ะ แต่ลูกค้าก็นั่งเกือบเต็มหมด บรรยากาศในร้านคือชอบเลยเพราะมันอุ่น นอกจากเค้กและไอศครีมที่มีขายแล้วยังมีขนมอีกมากมาย แพคเกจของเค้าสวย ๆ ทั้งนั้น พนักงานก็ให้ชิมขนมแทบทุกชนิด แบบว่าชิมก็อิ่มแล้ว ดีงามสุด ๆ










จบที่ร้าน LeTAO เราก็มาเดิน Otaru Sakaimachi Dori Shopping Street ท่ามกลางฝนที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลยสักนิด ก็ได้มาแต่ขนมของฝากนิดหน่อย แวะกินไอติมร้านนึงอร่อยดีไม่แพ้ LeTAO เลยจากนั้นก็มาเดินกันที่ Miyaki Dori









ก่อนกลับ Sapporo ก็แวะร้านดองกิและไดโซะ ตรงห้างเดิมที่เราแวะเมื่อเช้า ได้ของใช้ขนมติดไม้ติดมือกลับมาพอสมควร ของหลาย ๆ อย่างที่ดองกิที่ Otaru ถูกว่าดองกิที่ Tanuki Koji อีกนะ จัดกันไปเรียบร้อยก็ได้เวลากลับ Sapporo โดยรถไฟประมาณครึ่งชั่วโมง เราก็ถึง Sapporo Station
ด้วย Sapporo Station รายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้าทุกทิศทาง เราก็เลยต้องเดินเที่ยวห้างก่อนกลับที่พัก ก่อนเดินช้อปก็แวะเติมพลังกันสักนิด เหมือนเดิมความหิวรอนานไม่ได้เลยถ่ายมาได้แค่ ทาโกยากิ 1 กระทง อิ่มแล้วก็ไปเดินจับจ่ายใช้สอยกันที่ Bic Camera มีทุกสิ่งให้เลือกสรร มีพันหมดพัน มีหมื่นหมดหมื่น จะซื้อของกินของใช้ของฝาก ที่ Sapporo Station ตอบโจทย์หมดมีทุกสิ่ง




ค่ำนี้ก่อนกลับที่พัก เราก็จะทำเมนูสุกี้กินกัน วัตถุดิบสด ๆ เพรซ ๆ ก็ซื้อจาก Supermarket ในห้าง ESTA ราคาและความสดใหม่ถือว่าคุ้มค่า แนะนำให้ไปซื้อช่วงค่ำ ๆ ราคาอาหารสดจะลดลงไปอีก ส่วนน้ำจิ้มเอามาจากไทยทั้งน้ำจิ้มสุกี้และน้ำจิ้มซีฟู๊ด มื้อนี้อร่อยและฟินสุด ๆ










Day 4
เช้านี้ตื่นมากับความตื่นเต้นดีใจเป็นวันที่รอคอย หิมะมาแล้วจ้าตกกันตั้งแต่เช้าเลย พวกเรานี่รีบกินข้าว อาบน้ำเพื่อออกไปลุยหิมะ Day นี้ของเราจุดหมายหลักคือไปเที่ยว Mt. Moiwa เมื่อทุกอย่างพร้อมก็ออกไปกันเลย หน้าที่พักเช้านี้เต็มไปด้วยหิมะขาว ๆ ฟู ๆ สดชื่นที่สุด






การเดินทางจากที่พักเราไป Mt. Moiwa ก็หลายต่ออยู่นะ รถใต้ดินไปไม่ถึงจร้า และนี่คือการเดินทางของเรา Kita-juhachi-jo StationNakajima Koen StationNakajima Koen Bus Stop (Bus NO.56) Minami 19 Jo Nishi 16-chome Bus Stopwalk to Moiwa Sanroku StationMoiwa Chufuku StationMoiwa Sancho Station จากการเดินทางดูวุ่นวายมากมายแต่เราก็มาถึงจนได้ Mt. Moiwa เปิดให้ขึ้น Ropeway รอบแรกตอน 11.00 น. เห็นคนเยอะเลยรอรอบต่อไปไปคือ 11.15 น. ค่าขึ้นกระเช้าไป-กลับ คนละ 1,700 เยน





















สนุกสุขแสนเที่ยวแดนหิมะ พึ่งได้สัมผัสหิมะครั้งแรก เออมันสนุกจริง ๆ หิมะมันดีอย่างนี้นี่เอง สนุกกับหิมะแล้วก็ได้เวลาลงจากเขามาสู่พื้นราบ ก่อนกลับเราก็แวะห้าง ๆ นึงซึ่งอยู่ตรงป้ายรถเมล์ที่เราลง มี Supermarket และ Daiso มันช่างเข้าทางพวกบ้าซื้อบ้ากินอย่างพวกเราซะจริง ๆ แบกกลับกันเพลิน ๆ เราไม่กลัวเรามีถุงผ้าพร้อมใช้งาน จากจุดตรงนี้ก็จะกลับเข้าเมืองและ ขากลับนี่เปลี่ยนแผนอีกจ้า เพราะหิมะตกและหนาวมากไม่อยากยืนรอรถเมล์ แล้วอีกอย่างรถเมล์จากที่เช็คกับ Google Map กว่าจะมารออีกครึ่งชม. ไม่ไหวหล่ะจ้า ขากลับเลยได้นั่งรถรางของ Sapporo เกร๋ ๆ กู๊ด ๆ น่ารักฉบับญี่ปุ่น เริ่มเดินมาจากห้างที่เราแวะกัน มาขึ้นรถรางที่ป้าย Ropeway Iriguchi Station มาลงที่ Chuokuyakusho-Mae Station ตอนแรกว่าจะไป Odori Park แต่ด้วยความหนาว+หิมะที่ตกตลอดวัน ทำให้ต้องเปลี่ยนแผนมาเดินหาของกินที่ Tanuki Koji แทน



เดินมาสักพักเฮ้ย!! เจอร้านอาหารหน้าตาคุ้น ๆ อาหารในภาพก็คุ้น ๆ นึกขึ้นได้ตอนเราไปเที่ยว Nara เคยไปกินร้านนี้ พวกเรานี่รีบพุ่งตัวเข้าไปเลย ชื่อร้านไรอ่านไม่ออกแต่เป็นร้านอาหารจีนที่รสชาติรับรองถูกปากคนไทยอย่างเรา ๆ แน่นอน เป็นอีกหนึ่งมื้อที่อิ่มอร่อยและฟินมากมาย อาหารร้านนี้จะสั่งแบบจานเดียยวหรือสั่งเป็นเซทก็คุ้มทั้ง 2 แบบ ความหิวถ่ายไว้ได้แค่นี้












อิ่มแล้วก็ช้อปต่อไม่รอแล้วนะ นอกจากช้อปแล้วก็อย่าลืมไขกาชาปองกันนะ หลานชายนี่ไขกาชาปองทุกที่ที่มีให้ไข ใน Tanuki Koji จะมีอยู่ร้านนึงตู้กาชาปองเยอะมาก เลือกว่าหมดตัวกันเลยทีเดียว



วันนี้เอาพอประมาณค่ำเร็วมืดเร็ว กลับที่พักกันดีกว่าเรา ก่อนกลับก็แวะซื้อชีสทาร์ตของร้าน Kinotoya ร้านดังแห่งฮอกไกโด 1 กล่องมี 6 ชิ้น จำราคาไม่ได้ แต่มันอร่อยมาก เราว่าอร่อยกว่ายี่ห้ออื่น ๆ ที่มีขายในญี่ปุ่นที่เคยชิมมาอะนะ นอกจากชีสทาร์ตแล้วก็มีของกินเล่นกรุบกริบอีกนิดหน่อย แต่อร่อยทุกอย่าง มา Sapporo 4 วันแล้วยังไม่เจอของไม่อร่อยเลยอะ


















Day 5
เดย์ 5 มื้อเช้าง่าย ๆ ได้ความอร่อย วัตถุดิบทั้งหมดซื้อจาก 7-11 ใกล้ ๆ ที่พัก





เช้านี้ถนนและบริเวณรอบ ๆ ที่พักขาวและฟูไปด้วยหิมะ สวยสะอาดตาน่าขื่นชมบ้านเมืองเค้าจริง ๆ วันนี้จะพาเด็กไปเที่ยวสวนสัตว์ Sapporo Maruyama Zoo และเดินเล่นอีกรอบใน Maruyama Park และไป Sapporo Dome ปิดท้ายด้วย Tanuki Koji และ Susukino เช่นเคย






การเดินทางไปสวนสัตว์ตามนี้เลยจ้า Kitajuhachijo St. (Green Line)Odori Station (Orange Line) Maruyama Koen St. Walk about 1 km. ตลอดการเดินไปสวนสัตว์เราได้ลุยหิมะกันจริงจังมาก 2 ข้างทางไม่น่าเบื่อเลย ทิวทัศน์ทั้งซ้ายขวาหน้าหลังสวยทุกองศา Sapporo Maruyama Zoo เป็นสวนสัตว์ในเมืองที่ต้องมา
















ค่าเข้าชม Sapporo Maruyama Zoo ผู้ใหญ่ 600 เยน เด็กต่ำกว่ามัธยมปลาย(แสดงบัตรนักเรียน) เข้าชมฟรี สัตว์ส่วนใหญ่จะอยู่แบบ Indoor สัตว์ Outdoor มีน้อย ถ้ามีก็จะเป็นพวกสัตว์ที่ทนหนาวได้หรือชอบอากาศหนาว ๆ การจัดการที่นี่ดีมาก แต่บางจุดแสดงสัตว์กลิ่นแรงมาก ก็พอเข้าใจ   แหล่ะว่ามันเป็นห้องปิด แต่รวม ๆ ถือว่าดีกว่าบ้านเราเยอะ

















จบสวนสัตว์ก็จะไป Sapporo Dome แต่ก่อนจะไปต้องแวะหามื้อกลางวันกินสักหน่อย ร้านที่เราแวะกันเป็นร้านที่แนะนำมาจาก Trip Advisor ร้านจะอยู่ระหว่างทางเดินจากสถานีรถไฟมา Maruyama Park ร้านนี้ชื่อ Ajinosu Maruyama อร่อยแบบญี่ปุ้นญี่ปุ่น ใครไปเที่ยวโซนนี้แล้วหิวหรือเบื่อปลาดิบแล้ว แนะนำร้านนี้ไว้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกจร้า









ได้เวลาลุย Sapporo Dome กันแล้วจร้า ทำไมเลือกมา Sapporo Dome หนึ่งเลยคือหลานชอบ เจ ชนาธิป และป้าก็ชอบ สองอยากมาเห็นความยิ่งใหญ่อลังการของ Sapporo Dome ที่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสนามที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น และสามอยากมาดูของที่ระลึกของทีม Consadole Sapporo
การเดินทาง : Maruyama Koen St. Odori St. Fukuzumi St. เดินอีกประมาณ 600 เมตร เราไม่ได้เข้าเป็นเดินชมภายในสนามนะ ถ้าใครสนใจเข้าไปชมราคาตามนี้เลยจ้า ผู้ใหญ่ราคา : 1250 เยน / เด็กราคา : 700 เยน ถ้าชมแค่ห้องชมวิวก็คนละ 500 เยน พวกเราเลือกไม่เข้าชมเลยไม่เสียเลยสักเยน ได้แต่เดินชมรอบ ๆ และแวะร้านขายของที่ระลึก ส่วนของที่ระลึกนั้นอยากซื้อนะแต่ ๆๆ ยากที่จะตัดใจซื้อ โอ้แม่เจ้าราคาเค้าแรงจริง ๆ เสื้อตัวนึงปาไป 2-3 พันบาท อกอีแป้นจะแตก ชมอย่างเดียวพอและเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด



















ได้พอชื่นใจกับ Sapporo Dome เราก็ไปช้อปปิ้งกันต่อที่ห้างที่อยู่ตรงสถานี Fukuzumi เป็นห้างขนาดกลาง ๆ แต่มีครบจบทุกสิ่งนะ อุตส่าห์อดทนไม่จัดกระเป๋ามาได้ตั้งหลายวัน แต่ต้องมาแพ้ใจให้กับกระเป๋า COACH ที่ห้างนี้จนได้ แบบว่าราคาถูกกว่าบ้านเราหลัก 2 -3 พันเลยทีเดียว สาวก COACH มาเห็นต้องจัดรับรองได้เลย แล้วยังมีร้าน 100 yen can do ให้ซื้อของฝากกระจุกกระจิกกลับมาอีกถุงใหญ่ แบบว่ามาหมดตัววันก่อนกลับนี่แหล่ะจร้า จาก Fukuzumi Station เราว่าจะไปที่ Odori Park กัน สุดท้ายก็ไม่ได้ไปอีกก็หิมะตกเยอะมากเดินไม่ไหวจร้า ก็เลยมาจบที่ Tanuki Koji และ Sapporo Station อีกเช่นเคย
ค่ำนี้เราก็จัดอาหารจีนกันอีก 1 มื้อ ใครชอบไม่ชอบไม่รู้แต่พวกเราชอบอาหารทุกอย่างที่สั่งมากิน แล้วราคาน่าคบหาไม่แพงเวอร์จนเกินไป อร่อยคุ้มค่าคุ้มราคา















อิ่มแล้วได้เวลาละลายเงินเยน ลุยกันที่ดองกิเลย ดองกิที่ Tanuki Koji มี 2 ฝั่งตรงข้ามกันเลย ซื้อของฝั่งไหนจ่ายฝั่งนั้น ซื้อง่ายจ่ายคล่อง หนุกหนานกับการช้อปกันไป จบทริปเดย์นี้ไปแบบกระเป๋าเบา



Day 6
ก๊อก ๆ กลับบ้านจร้ากลับบ้าน พวกเราเก็บข้าวของ อาบน้ำกินมื้อเช้ากันเสร็จก็ออกจากที่พักกันตอน 10 โมงเช้า จริง ๆ อยากออกสักเที่ยง แต่ที่พักตามกฏให้ออกภายใน 10 โมง ที่พักพิงของเราในทุกวันก็คือ Sapporo Station ไปเดินเล่นเดินกินกันจนประมาณเที่ยงเราก็เดินทางไปสนามบิน ไปหาเดินเล่นที่สนามบินดีกว่า ที่ New Chitose Airport นี้รานขายของด้านนอกเยอะมาก มีทั้งของกินของฝาก ถ้าใครไม่ได้ซื้อของฝากนะมาซื้อที่สนามบินเลยครบจบในที่เดียว เริ่ดสะแมนแตนสุด ๆ








นั่ง ๆ เดิน ๆ กิน ๆ รอเวลา Check In เที่ยวบินของเราเวลา 16.10 : HX691 ตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ Check in ก็ยังมีร้านดองกิมาหลอกหลอนให้นักท่องเที่ยวนักเดินทาง ได้ซื้อกันจนหยดสุดท้าย แนะนำอีกอย่างให้กินให้อิ่มมาจากข้างนอกเลยนะ อย่ามาหวังด้านในเกทรอขึ้นเครื่อง






ร้านค้าและร้านอาหารมีน้อยไม่ตอบโจทย์ ส่วนของฝากซื้อกลับบ้านซื้อแล้วใส่กระเป๋าโหลดไปเลย สะดวกกว่ามาซื้อด้านใน ขากลับนี่กระเป๋าแตกลูกหลานมาอีกหลายใบ ของส่วนใหญ่เป็นของกินกว่า 80 %





ได้เวลาเจ้าหน้าที่เรียกขึ้นเครื่อง Hong Kong Airlines ออกตรงเวลานะ ขึ้นไปได้สัก 1 ชม. ก็ได้เวลากิน มื้อนี้บนเครื่องถือว่าอร่อยเลย นั่งมาประมาณ 5 ชม.ครึ่งเราก็ถึง Hong Kong International Airport เวลา 3 ทุ่มกว่า ๆ



ลงที่ฮ่องกงแล้วก็เดินตามป้าย Tranfer ไปแล้วก็เข้าช่องตรวจตั๋วและพลาสปอต ตามเกทที่ต้องไปรอขึ้นเครื่องได้เลย เรารอขึ้นเครื่องอีก 4 ชม.ครึ่ง ไฟล์เราคือตี 2 จะนอนก็นอนไม่ได้เพราะไฟในสนามบินสว่างและแอร์หนาวมาก แต่ไฟและแอร์ก็ยังแพ้ทัวร์จีน พอพวกนี้มาทีกรูนี่นึกว่าไต้ฝุ่นเข้า แก๊งเราเป็นอันต้องหนีไปนั่งที่อื่นเลยทีเดียว






แต่หนีไงก็ไม่พ้นนะ ยังไงก็ต้องไปเจอบนเครื่องอยู่ดี ได้แต่ทำใจและก็ทำไจ ประมาณตีหนึ่งกว่า ๆ เจ้าหน้าที่ก็เชิญขึ้นเครื่องกันได้แล้วจ้า เราไม่รีบให้อาม่าอากงอาซิ่มอาแป๊ะ แกไปก่อนเลย พอหมดแล้วค่อยตามไปแบบเงียบ ๆ 555++ เครื่องออกตรงเวลาเป๊ะ อาหารรอบดึกจะแจกเป็น Snack Box ไม่ได้กินอะง่วงมากแบกกลับมากินที่บ้าน



เครื่อง landing สุวรรณภูมิประมาณตี 4 กว่า ๆ กลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ ทริปหนาว ๆ ฟิน ๆ อินซัปโปโร ทริปนี้ขอบคุณเหล่าสมาชิกร่วมทริปลุยหิมะ ขอบคุณ Hong Kong Airlines บริการดีอาหารอร่อย ถึงจะเปลี่ยนไฟล์ทั้งไปทั้งกลับแต่ก็ไม่ขี้เหล่ ขอบคุณเจ้าของที่พักที่มีที่พักดี ๆ เหมือนพักอยู่บ้านเราเองให้บริการนักท่องเที่ยว ขอบคุณการเดินทางที่แสนสะดวกสบายไปได้ง่ายทุกที่ ขอบคุณอาหารสด ๆ อร่อย ๆ ทุกมื้อ ขอบคุณห้างร้านทุกห้างที่มีที่พักพิงอิงหลบหนาว ขอบคุณข้อมูลท่องเที่ยวจากลุ่มและเพจต่าง ๆ มากมาย ทำให้การเดินทางในครั้งนี้ง่ายขึ้นเยอะ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตามสถานที่ต่าง ๆ ที่ให้บริการและเอาใจใส่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี และสุดท้ายขอบคุณหิมะสวย ๆ ขาว ๆ ฟู ๆ ที่ทำให้ทริปนี้ของพวกเราสมบูรณ์แบบ ขอบคุณซัปโปโรจากใจ “หนาว ๆ ฟิน ๆ อินซัปโปโร” รักนะจ๊ะ




 

Create Date : 23 มกราคม 2563
0 comments
Last Update : 23 มกราคม 2563 15:06:07 น.
Counter : 3609 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณkhimyo

 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

กินให้สุด อย่าหยุดเที่ยว
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Life is Journey Life is Travel
[Add กินให้สุด อย่าหยุดเที่ยว's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com