เงารักซ่อนแค้น...ตอนที่ 10
|
|
10...ตะกรุดเงิน
นางโหงพรายปรากฏกายขึ้นตรงหน้าของดวงจิตหมอผีเฒ่าทองมี นางส่งยิ้มร่าอันหมายถึงความสำเร็จตามที่ใจของเฒ่าทองมีปรารถนา
ข้าทำได้เรียบร้อยแล้วท่าน...
นางพรายค้อมหัวให้ด้วยความภักดี
ดวงจิตที่เพิ่งถอดออกจากร่างคล้ายดวงวิญญาณที่ล่องลอยท่ามกลางเกลียวคลื่นกลางมหาสมุทร หัวร่อชอบใจ
ดีมาก...ดีมากนางพราย มิเสียแรงที่ข้าไว้ใจเจ้า
บัดนี้ข้าจับพวกมันมัดไว้บนเรือนหลังนั้นแล้ว รอพ่อหมอจัดการกับมันแล้วเจ้าคะ
พวกมัน มันมีหลายตนนักรึ... เฒ่าทองมีทำหน้าฉงน
ใช่เจ้าค่ะ รู้สึกว่ามันจะเป็นผีชั้นสูง เป็นเจ้านางอะไรด้วย...
ผีชั้นสูงเรอะ ดีวันนี้ข้าจะได้มีทาสรับใช้เป็นเจ้าบ้าง ฮ่ะฮ่า...
ข้าว่าพ่อหมอรีบไปจัดการกับพวกมันเถอะ ลำพังเชือกอาคมของข้าคงทานแรงอาถรรพณ์ของมันได้ไม่นาน...
นางพรายเร่งเร้าหมอผีเฒ่าให้ทำตามดั่งที่ใจคิด แต่แววตานั้นแฝงไว้ด้วยแววชนิดหนึ่งสุดที่จะหยั่งรู้
****** สายหมอกเส้นบางๆ ลอยฟุ้งกระจายโอบล้อมเรือนไทยหลังเก่า กอไผ่สะบัดใบกันเกรียวกราว แสงดาวทอแสงเจิดจรัสเต็มท้องฟ้า กลุ่มเมฆดำที่ก่อตัวแต่แรกแตกสลายหายไปเสียสิ้น
ที่ชานเรือนโบราณเงารางๆ ของนางทาสผู้ซื่อสัตย์ยืนอยู่เบื้องหลังของเจ้านางเอื้องแก้วที่เหม่อมองแสงจันทร์ที่ทอแสงสุกสกาวอยู่เงียบๆ
เจ้านางจักทำเยื่องนั้นแต้ก่าเจ้า...
นางทาสจันทร์ร้องถามขึ้นอย่างสงสัยในท่าทีที่กระทำของนาย
มันบาปนะเจ้า...
กูฮู้ว่ามันบาป...แต่ถ้าบ่ทำจะอี้ หมู่เฮาจักอยู่ได้ก๊ะ...ไอ้มนุษย์ใจ๋ชั่วอย่างมันที่ชอบนำเหล่าดวงวิญญาณมาทำงานเยื่องทาส ถ้าหมู่เฮาบ่ฆ่ามันเสีย หมู่เฮาทุกตนก็จักถูกมันทรมาน...หรือมึงอยากเป็นจะอั้น อีจันทร์!
เป็นคำถามที่ผู้ถูกถามไม่ต้องการ เพราะการถูกทรมานถูกกักขังเยื่องสัตว์เยื่องทาสมันเป็นความทุกข์ชนิดหนึ่ง...จริงอยู่ถ้าไม่จัดการกับมนุษย์ผู้นี้ คงมีวิญญาณอีกหลายดวงจะต้องถูกทรมาน...เยื่องสัตว์
นางจันทร์เห็นด้วยจึงไม่อยากออกความเห็นอะไรอีก...ถ้านางถูกทรมานเช่นนั้นนางจะทนได้ฤๅไม่
บ่ก่อนนางพรายมันก็เป็นดวงวิญญาณเหมือนกับเฮา เคยมีชีวิตที่อิสระแต่พอถูกหมอผีเฒ่าคนนั้นจับมามันก็หมดอิสรภาพ อยากจะที่ไหนก่อบ่ได้ ความอิสระที่มีถูกจำกัด ถูกทรมานอีกหลายอย่างเมื่อทำผิด...ในข้อนี้กูบอกมึงตรงๆ กูเห็นใจ๋มัน
ลมเริ่มพัดกรรโชกแรงอีกครั้ง เหล่าต้นไม้ใบหญ้าปลิวสะบัด ผมสยายดำขลับของเจ้านางผู้ผูกจิตพยาบาทรอวันแก้แค้นปลิวไสว...
นางเอื้อยปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าในชั่วพริบตาก่อนจะรายงานต่อนาย
เจ้านาง...หมู่นั้นมันมากั๋นแล้วเจ้า...
*********** บรรยากาศเงียบสงบ สายหมอกเส้นบางๆ ลอยอยู่ทั่ว หมอผีเฒ่าสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายแห่งความตาย เลือด และเหล่าวิญญาณที่รอคอยด้วยดวงจิตที่อาฆาตพยาบาท เขาค่อยๆ ย่างก้าวขึ้นเรือนอย่างเงียบๆ คอยระวังทุกกระเบียดนิ้ว ไม่ยอมประมาท...ข้างหลังมีเงาเลือนรางของนางพรายตามมาอย่างเชื่องช้า
ถ้าหากหมอผีเฒ่าจะหันมามองข้างหลังสักนิด ก็จะเห็นว่าแววตาของนางพรายที่ได้เปล่งประกายแสงเรืองรองออกมา...เปลวเพลิงที่ลุกโชนอยู่ในแววตานั้นคล้ายกับไฟจากนรกอเวจีที่จ้องจะเผาผลาญร่างที่อยู่ตรงหน้าทุกวินาทีด้วยความอาฆาต
...และรอวันแก้แค้น เมื่อมีโอกาส...
เฒ่าทองมียืนอยู่บนเรือนเต็มตัว สายตาสอดส่ายหาศัตรูด้วยความระมัดระวัง
มันอยู่ไหน นังพราย...
หมอผีเฒ่ากระซิบถามแผ่วเบา โดยไม่หันกลับมา แต่กลับมองไปโดยรอบคล้ายกำลังมองหาเป้าหมายที่ต้องการ
นางโหงพรายนิ่งเงียบอยู่นานคล้ายจะพยายามเก็บและรวบรวมเสียงให้เป็นปกติ ก่อนจะตอบไป
พวกมัน อยู่ในห้องทางซ้ายมือจ๊ะ พ่อหมอ...
นางพรายชี้นิ้วไปที่ห้องทางซ้ายมือที่เต็มไปด้วยหยากไย่ใยแมงมุม ข้าวของวางระเกะระกะขวางประตูอยู่
มันอยู่ในนั่นรึ...
หมอผีเฒ่าถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
...เจ้าคะ พ่อหมอ...
นางพรายตอบสั้นๆ แล้วเลื่อนร่างหายไปในทันที
หมอผีเฒ่าเปิดยิ้มด้วยความกระหยิ่มใจ กำหนดดวงจิตให้ไปปรากฏในสถานที่แห่งนั้น อย่างไม่ยากเย็นนัก...
******** ภายในห้องนั้นเฒ่าทองมีก็ต้องตะลึงเมื่อสายตาได้เห็นดวงวิญญาณพวกนั้นยืนรออยู่...วิญญาณพวกนั้นไม่ได้ถูกมัด ดวงวิญญาณพวกนั้นไม่ได้สิ้นฤทธิ์ดั่งที่นางพรายพูด...แต่วิญญาณเจ้าถิ่นกลับยืนรออย่างกระหยิ่มใจ...
...เขาโดนหลอก ...จากวิญญาณข้าทาสของตนเอง
...นางโหงพราย...
เหอะๆ ๆๆ ๆ หึๆ ๆๆ ๆ ๆ
เจ้านางเอื้องแก้วส่งเสียงหัวเราะเป็นการต้อนรับ พร้อมกับเหล่าข้าทาสที่หัวเราะเยาะประสานเสียงกันจนลั่นห้องแคบๆ นั้น หมอผีเฒ่าทำหน้าเหลอหลาทำอะไรไม่ถูก ลืมแม้กระทั่งคาถาต่างๆ ที่ได้ร่ำเรียนมา
นาทีนั้นเจ้านางเอื้องแก้วก็แสยะยิ้มอย่างน่ากลัว ประกายแสงสีแดงปรากฏขึ้นที่ดวงตาทั้งสองคล้ายไฟจากโลกันต์
มึงต้องการปะกูบ่ไจ้ก๊ะ กูกำลังรอมึงอยู่เหมือนกั๋น...
เสียงของอิสตรีสูงศักดิ์เปรยขึ้นอย่างเยือกเย็น
หมอผีเฒ่าหลับตาพริ้ม หนาวยะเยือกเข้าไปถึงขั้วหัวใจ ความคิดที่จะนำดวงวิญญาณพวกนี้มาเป็นทาสในขณะนี้มันมลายหายไปเสียสิ้น แต่มันกลับเป็นความกลัวที่ก่อตัวขึ้นมาแทน
...ความกลัวที่ติดตัวมาแต่ครั้งอดีตชาติ
...ว่าอย่างไรเล่า เมืองคำ มึงอยากจะปะกับกูก๊ะ นี่อย่างไรเล่ากูออกมาพบมึงแล้ว ไยมึงบ่ทำอย่างที่ใจ๋ของมึงปรารถนาเล่า
เฒ่าทองมีคล้ายได้สติกลับคืนมาอีกครั้งต่อปากต่อคำกับเจ้าของเรือนอย่างโอหังด้วยสัญชาตญาณจากอดีตหวนกลับมา
น้องข้า ไยเจ้าอู้จะอั้นกับพี่ปี้เล่า...
ไผเป็นน้องมึง...คนที่คิดคดกบฏเยื่องมึง กูบ่มีวันนับว่ามึงคือญาติดอก เมืองคำ...
เจ้านางเอื้องแก้วจ้องเข้าไปที่วงหน้าของดวงจิตหมอผีเฒ่าที่สงบนิ่งคล้ายโดนสะกด...นาทีนั้นลำแสงสีแดงเจิดจรัสก็พุ่งเข้าปะทะดวงตาที่เริ่มพร่าเลือนของเฒ่าทองมี ภาพที่นางถ่ายทอดให้ไหลเข้าสู่สมองเป็นระยะ และชัดเจน
ไม่....ข้าบ่ไจ้เมืองคำ ไจ้แล้วน้องนาง ข้าจื้อเมืองคำ....โอ๊ะ...ข้าจื้อทองมีบ่ไจ้เมืองคำอะหยั่งทั้งนั้น...อีผีบ้ามึงย๊ะอะหยั่งกู...
เฒ่าทองมีเกิดอาการร้อนรนและมีอาการคล้ายคนวิกลจริตพร่ำเพ้อแต่ชื่อของตน ส่วนมือก็ยกขึ้นบีบขมับตัวเองที่เกิดอาการคล้ายจะระเบิดออกมา...
หึๆ ๆๆ ๆๆ
เสียงของเจ้านางเอื้องแก้วหัวเราะเย้ยหยัน เหล่านางข้าทาสทั้งหลายในเวลานั้นดูจะขบขันต่อกิริยาของหมอผีเฒ่าตรงหน้าเป็นอย่างมาก เฒ่าทองมีหลับตาลง ทรุดนั่งขัดสมาธิพยายามข่มความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นด้วยคาถาที่เข้มขลัง...ไม่นานอาการทั้งหมดก็หายไปคล้ายไฟที่ถูกน้ำดับมอดลง หมอผีเฒ่าลืมตาขึ้นหัวเราะร่า
...เก่งเหมือนกั๋นนี่ ไอ้หมอผีเฒ่า...
เจ้านางผู้เลอโฉมยิ้มแสยะ ดวงตาแดงก่ำ
คราวนี้ถึงคราวของกูผ้องล่ะอีผีบ้า อีผีไร้สถุล...
เฒ่าทองมีว่าจบก็หลับตาร่ายเวทย์บริกรรมคาถา ก่อนจะขว้างสิ่งหนึ่งไปตรงหน้า...พร้อมๆ กับที่อีเยื้อนที่โกรธแทนนาย นางได้พุ่งตัวมาขวางหน้าเจ้านางเอื้องแก้วอย่างได้จังหวะแล้วใช้อิทธิฤทธิ์ทำลายลูกไฟตรงหน้าให้แตกสลายไปในพริบตา
เปรี๊ยะ ะ ะ ะ ะ !!!!
ไอ้มนุษย์ใจ๋ชั่ว มึงโอหังนัก มาว่าเจ้านางของกู ต๋ายเต๊อะมึง...
นางทาสผู้ซื่อสัตย์ชี้หน้าหมอผีเฒ่าอย่างเดือดดาล แล้วเคลื่อนตัวเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว มือที่ชี้อยู่นั้นเปลี่ยนเป็นจะบีบคอแทน
โอ๊ย ย ย ย
แต่นางต้องกระเด็นออกมาเมื่อเฒ่าทองมีตั้งรับอยู่ก่อนแล้ว สิ่งที่คล้องอยู่ที่คอนั่นเองที่สำแดงเดชให้อีเยื้อนต้องกระเด็นออกมาก่อนจะร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวด และร้อนรน
โอ๊ย...ย ย ฮ้อน ข้าฮ้อนเหลือเกิ๋น เจ้านางจ้วยข้าเจ้าตวย...
นางทาสสาวรุ่นปรากฏตัวขึ้นที่แทบเท้าของเจ้านางเอื้องแก้ว ดิ้นทุรนทุรายอย่างเจ็บปวด
ฮ่ะฮ่ะฮ่า...
เฒ่าทองมีหัวเราะร่าอย่างผู้เหนือกว่า กระชากสายสร้อยพระแล้วชูไปข้างหน้า
แสงสีเงินเปล่งประกายออกมาจากสร้อยคอเส้นนั้น ทำให้เหล่าวิญญาณอาฆาตต่างปิดหน้าปิดตาด้วยความกลัว...แสงนั้นไม่ใช่แสงจากพระพุทธคุณเพราะพระทุกองค์ที่ห้อยอยู่นั้นล้วนเป็นพระปลอมแต่ลำแสงนั้นกลับเป็นลำแสงของอิทธิฤทธิ์แห่งความชั่วร้ายและมนต์ดำ
เจ้านางผู้รอวันแก้แค้นจ้องมองสิ่งนั้นด้วยตาที่ไม่กระพริบตกตะลึงต่อสิ่งนั้น...คล้ายเคยเจอมาก่อน...นานมาแล้ว
บ่น่าเจื้อว่าตะกรุดเงินจะมาอยู่ที่มือคนชั่วเยื่องมึงได้ เมืองคำ...
นางพร่ำออกมาเสียงดังลั่นห้องด้วยความฉงนปนความกลัว
...จริงอยู่ตะกรุดเงินเป็นสิ่งที่ใช้กำจัดความชั่วร้าย ถูกสร้างมาจากภิกษุชรารูปหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว...มันหาใช่เป็นเป็นสิ่งที่สร้างมาด้วยพระพุทธคุณไม่ ตรงกันข้ามมันกลับถูกสร้างมาพร้อมกับสิ่งอาถรรพณ์ไสยศาสตร์จากภิกษุชราผู้ที่หลงงมงาย...สิ่งชั่วร้ายถ้ามันตกอยู่ในเงื้อมมือของคนชั่วมันย่อมจะนำความเดือดร้อนมาสู่คนอีกหลายคน...ตะกรุดอันนี้หมดฤทธิ์และหายสาบสูบไปนับร้อยปี ...นางไม่นึกเลยว่าแท่งโลหะแท่งนี้จะมาอยู่ในมือคนชั่วร้ายอย่างเฒ่าทองมีได้...หรือกาลวิบัติจะมาถึงแล้ว
ฮ่ะฮ่ะฮ่า...กลัวแม่นก่อ...นี่แน่ะ ฮ่ะฮ่า....
เฒ่าทองมีชูสายสร้อยไปตรงหน้าด้วยความกระหยิ่มใจ
แววตาของเจ้านางเอื้องแก้ววาวโรจน์เมื่อสิ่งที่นางคิดไว้เป็นจริงไม่มีผิด...เจ้าหมอผีคนนี้มันมีความเจ้าเล่ห์ติดตัวมาตั้งแต่อดีตชาติ...
เมื่อมันมีวิธีตั้งรับนางก็มีเหมือนกัน...
เจ้าฮู้ก่อเมืองคำ ตะกรุดเงินที่มึงถืออยู่นั้นกูฮู้หนาว่าจะแก้สิ่งอาถรรพณ์มันได้อย่างไร
...อะหยั่งเก๊อะอีผีเจ้านาง...
เฒ่าทองมีหยุดชะงักชักมือกลับโดยพลัน ใบหน้าซีดเซียวไร้เลือดฝาด
...สิ่งอาถรรพณ์ทุกสิ่งทุกอย่างเมื่อมันโดนสิ่งคาวก็จะหมดอิทธิฤทธิ์...โดยเฉพาะน้ำเลือด...
เจ้านางผู้ที่ผูกจิตอาฆาตมาแต่ครั้งอดีตหัวเราะร่าก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปที่ขื่อเหนือประตูห้องตรงที่เฒ่าทองมียืนอยู่...แววตาของนางวาวโรจน์อย่างน่ากลัว
นาทีนั้นสิ่งหนึ่งที่อยู่บนนั้นก็หล่นลงมา...
...ซ่า....
น้ำเลือดสีแดงฉานตกลงมาตรงหัวของหมอผีเฒ่าทองมีอย่างตรงเผง...หมอผีเฒ่าร้องลั่นคล้ายถูกไฟโหมไหม้ ตะกรุดทองที่เปล่งรัสมีแต่แรกก็ดับวูบลงเมื่อน้ำเลือดกระเซ็นถูกแท่งโลหะ
...ตะกรุดเงินอันเรืองฤทธิ์ได้หลุดออกจากมือของหมอผีเฒ่าตกลงพื้นกลายเป็นแท่งโลหะไร้อิทธิฤทธิ์ ขณะที่เฒ่าทองมีทรุดฮวบลงกองกับพื้นท่ามกลางเสียงหัวเราะหยามเหยียดจากอิสตรีที่ยืนมองอยู่เบื้องหน้า
หึๆ ๆๆ ๆ เหอะๆ ๆๆ
เจ้านางเอื้องแก้วจ้องมองร่างที่ดิ้นทุรนทุรายอยู่ตรงหน้าอย่างสมเพช
...มันบ่เพียงแต่จะแก้อาถรรพณ์จากตะกรุดเงินเต้านั้นนะ ไอ้หมอผีเฒ่า...หึ...หึ...หึ แต่มันอาจจะทำหื้อดวงจิตของมึงซึ่งครองเพศในไสยเวทย์แหลกสลายไปได้...น้ำเลือดนี้มันเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับมึงบ่ไจ้ก๊ะ
เจ้านางผู้พกความแค้นมาเต็มหัวอกกางเล็บกางนิ้วออก ก่อนจะเคลื่อนตัวออกไปอย่างรวดเร็วเป้าหมายอยู่ที่คอของเฒ่าทองมี...
...บีบจนแน่น หมอผีเฒ่าหายใจเริ่มติดขัด...
*********** ไกลออกมาอีกด้านหนึ่งร่างที่นั่งขัดสมาธิเริ่มเกิดอาการเปลี่ยนแปลง ร่างที่นิ่งมานานเริ่มสั่นคลอน ชีพจรเต้นเร็วไม่เป็นจังหวะ การหายใจเริ่มติดขัด ไม่นานมือที่วางทับซ้อนกันอยู่ที่ตักก็ยกขึ้นมากุมอยู่ที่คอคล้ายประหนึ่งเจ้าของร่างถูกบีบคอจากสิ่งที่มองไม่เห็น...การหายใจเริ่มขาดเป็นช่วงๆ
อ็อก...ก ก ก ก
เสียงร้องอย่างทุรนทุรายดังมาจากร่างทรงของหมอผีเฒ่า
..เส้นเลือดปูดโปนตามใบหน้าและลำคอเพราะเกิดจากอาการเกร็ง
อั่ก...ก ก ก ก
เฒ่าทองมีร้องขึ้นอีกครั้งคราวนี้เลือดสีแดงฉานก็ได้ไหลย้อยออกมาจากตาทั้งสองข้าง จมูกและริมฝีปากที่เม้มสนิท
อ๊าก ก ก ก ก
คราวนี้นับว่าเป็นเสียงสุดท้ายที่ออกจากปากก่อนที่ร่างจะล้มตึงลงไปชัดกระตุกอยู่ที่พื้นและแน่นิ่งไป
นับว่าเป็นการดิ้นรนครั้งสุดท้ายก่อนชีวิตจะดับลง...ขณะเดียวกันดวงจิตที่ถูกบีบจากพลังแรงแค้นขนาดมหาศาลจนดวงจิตที่อ่อนด้อยได้แหลกสลายไปตลอดกาล...
..โปรดอ่านต่อในตอนต่อไป.....
Create Date : 19 กรกฎาคม 2553 |
Last Update : 19 กรกฎาคม 2553 16:05:34 น. |
|
0 comments
|
Counter : 492 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
พะเยา Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
ข้อตกลง 1. กรณีที่ผลงานชิ้นนี้เป็นผลงานที่แต่งโดยผู้ลงผลงานเอง ลิขสิทธิ์ของผลงานนี้จะเป็นของผู้ลงผลงานโดยตรง ห้ามมิให้คัดลอก ทำซ้ำ เผยแพร่ ก่อนได้รับอนุญาตจากผู้ลงผลงาน
2. กรณีที่ผลงานชิ้นนี้กระทำการคัดลอก ทำซ้ำ มาจากผลงานของบุคคลอื่นๆ ผู้ลงผลงานจะต้องทำการอ้างอิงอย่างเหมาะสม และต้องรับผิดชอบเรื่องการจัดการลิขสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว
3. ผู้ใดพบเห็นการลงผลงานที่ละเมิดลิขสิทธิ์ โปรดแจ้งเจ้าของบล็อกทันที
|
|
|
|
|
|
|