Group Blog
 
 
มกราคม 2548
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
19 มกราคม 2548
 
All Blogs
 
The Aviator : q.u.a.r.u.n.t.i.n.e


Howard Hughes เป็นนักธุรกิจ เป็นนักสร้างหนัง เป็นนักบิน เป็นนักรัก ... และเป็นคนไม่ปกติ

คำพูดประมาณนี้เป็นสคริป์ที่ออร์แลนโด บลูมพูดตอนแนะนำหนังเรื่อง The Aviator ในงานประกาศผลรางวัลลูกโลกทองคำปีล่าสุด ฟังเผิน ๆ อาจจะคิดว่าหลาย ๆ สิ่งที่ Howard Hughes "เป็น" นั้นไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกัน แต่หลังจากดูแล้ว .. ฉันว่ามันเกี่ยวกันเกือบทุกอย่างเลยสิวะคะ

เขาเป็นคนโชคดี เกิดมาบนกองเงินกองทองที่พ่อแม่ทิ้งเอาไว้ให้ แต่ในขณะเดียวกันก็โชคร้ายที่เกิดมาบนกองเงินกองทองที่พ่อแม่ทิ้งเอาไว้ให้เนี่ยแหละ

ฉันว่าโฮเวิร์ด ฮิวจ์ได้รับความรัก แต่ไม่ได้รับความอบอุ่น ภาพแรกที่เปิดให้เห็นร่างของเด็กชายยืนอยู่ในอ่างน้ำราวกับรูปแกะสลักหินอ่อนชิ้นงามบอกเราว่าบางทีในสายตาของหลายคนโฮเวิร์ดในวัยเด็กอาจจะเป็นแค่ของประดับอีกชิ้นหนึ่งของพ่อและแม่ แค่ฉากสั้น ๆ ที่แม่อาบน้ำให้ พร้อมกับพร่ำสอนให้ "กักกันเชื้อโรค" ก็สื่อให้เห็นความ... เอ่อ... 'เพี้ยน' ของครอบครัวนี้ไม่ใช่น้อย

ความ 'เพี้ยน' ที่ส่งผลมาจนถึงเมื่อเด็กชายคนนั้นโตขึ้นมาเป็นหนุ่มเจ้าของกิจการขนาดมหึมา ... ฮิวจ์มีความทะเยอทะยานและอยากพิสูจน์ตัวเองอย่างยิ่งยวด อาจจะเพราะโตมาในฐานะของ "จูเนียร์" อย่างที่เขาบ่นให้นักบัญชีที่เพิ่งจ้างมาทำงานฟัง แต่ในบางครั้ง ความพยายามที่จะทำอะไรหลาย ๆ อย่างของเขาอาจจะเป็นผลมาจากความต้องการหา "จุดยืน" ของตัวเองที่ไม่ใช่เพียงแค่เด็กที่รับมรดกจากพ่อแม่มาบริหารเท่านั้นก็ได้

แต่ถึงฮิวจ์จะต้องการการยอมรับจากผู้อื่นสักแค่ไหน เขากลับปิดกั้นตัวเองจากคนรอบข้างอย่างที่คนธรรมดา ๆ อย่างเรา ๆ ไม่อาจจะเข้าใจได้ ความ "กลัว" เชื้อโรคของเขาลุกลามไปจนถึงขึ้นที่เขากลัวอย่างอื่นไปด้วย กลัวเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน กลัวคนรอบข้าง กลัวการผูกมัด ... และกลัวที่จะรัก ... "เส้น" ที่ถูกกำหนดขึ้นเพื่อระหว่างความปลอดภัยความตัวเองไม่เพียงแต่เป็นเส้นที่ช่วยรักษาสุขภาพกาย แต่มันครอบคลุมมาจนถึงเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างเขากับคนอื่น ๆ ด้วย

จึงไม่น่าแปลกใจ เมื่อถึงเวลาที่คนคนเดียวที่เขาเปิดใจให้ก้าวข้ามเส้นเข้ามานั้นตัดสินใจเดินจากเขาไป ฮิวจ์จึงไม่คิดจะเปิดใจรับใครคนอื่นเข้ามาอีกเลย


ฉันว่าฮิวจ์เป็นคนน่าสงสารค่ะ แม้จะประสบความสำเร็จมากมาย แต่สุดท้ายชีวิตของเขาก็ไม่มีใคร ไม่มีอะไร

แล้วจะมีสิ่งที่ได้มา (หรือเสียไป) เหล่านั้นไว้เพื่ออะไรกัน?

============================

อันที่จริง ฉันไปดูหนังเรื่องนี้ก่อน What remains of us? แต่เนื่องจากเรื่องนั้นมีอะไรที่ทำให้อยากเขียนอย่างกระทันหัน ปัจจุบันทันด่วนมากกว่า หนังเรื่องล่าสุดของพ่อสุดหล่อ Leo ก็เลยโดนดองไว้ก่อนตามระเบียบ

ถ้าใครถามฉันว่า ชอบหนังเรื่องนี้หรือไม่ คำตอบก็คงจะเป็นคำง่าย ๆ ที่ว่า "ชอบ" แต่ในความชอบนั้นก็ไม่ถึงขั้นกรี๊ดกร๊าด อาจจะเพราะว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนัง "หวังสูง" และเมื่อตัวหนังทำออกมาได้สมกับความคาดหวัง มันเลยไม่มีอะไรประทับใจมากที่จะทำให้กรี๊ด ๆ ชอบจังเลยหรืออะไรอย่างนั้นได้

ในวันที่เขียนอยู่นี้ ผลรางวัลลูกโลกทองคำประกาศมาได้สองวันแล้ว คิดว่าใคร ๆ ก็คงรู้แล้วว่านี่เป็นหนังที่ได้ลูกโลกทองคำมาสามตัวถ้วน ๆ รวมทั้งดารานำชายและหนังดราม่ายอดเยี่ยม ฉันเห็นด้วยกับรางวัลนะคะ (ความคิดเห็น ณ ขณะนี้ที่ยังไม่ได้ดูหนังที่เข้าชิงดารานำชายเรื่องอื่น ๆ ซักเรื่อง :p) ลีโอเล่นเก่งจริง ๆ และ "เกือบ" จะทำให้ฉันลืมไปได้ว่าเขาคือลีโอนาร์โด... แต่ก็แค่เกือบ .. แฮ่ แย่จัง

นักแสดงสมทบทุกคนเล่นลืมตายไปค่ะ แม่ฉัน (ผู้ซึ่งเป็นแฟนแคธอรีน แฮปเบิร์น) บอกว่าเคท เบลนเชทท์พูดหรือเดินได้เหมือนเด๊ะ ๆ ... เสียอย่างเดียวว่า "สวยไปหน่อย" (เอิ๊ก) จิม บรอดแบนด์ (ฉันสะกดผิด แต่จำไม่ได้ง่ะ) ก็เล่นดี ... เอ มีใครเล่นไม่ดีมั้ยน่ะ .. ขนาด Gwen ที่โผล่มาจิ๊ดนึง ฉันก็ยังว่าเธอเล่นดีเลยนะ

แต่สิ่งที่ฉันชอบกว่าการแสดง กลายเป็นบทแฮะค่ะ การ "เลือกนำเสนอ" แค่บางช่วง ไม่ได้ร่ายยาวตั้งแต่เกิดจนตายโดยเน้นตรงจุดที่จะส่งถึง "ความเป็นฮิวจ์" มากที่สุด บทอุดมไปด้วยรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทำให้เราเห็นสิ่งปลีกย่อยของตัวละครได้อย่างชะงักนัก เช่นฉากอาบน้ำต้นเรื่องที่ว่าไปแล้ว ... ฉากที่พาเคทไปขับเครื่องบินครั้งแรกแล้วเปิดนม..ก่อนที่จะชะงักไปนิดเมื่อจะแบ่งนมให้สาวดื่มด้วย (สำหรับคนที่กลัวเชื้อโรคขนาดนี้ ให้คนอื่นดื่มนมจากขวดเดียวกันถือเป็นการ "เปิดใจ" อย่างรุนแรงแล้วนะคะ ฉันว่า) ... หรือตอนที่เข้าไปล้างมือแล้วไม่สามารถจะเปิดประตูห้องน้ำออกมาได้ที่พยายามจะสื่อว่าเขา "ขังตัวเอง" ไว้ในวงล้อมที่สร้างขึ้นเองจนไม่อาจจะหาทางออกมาจากตรงนั้นได้แล้ว

การที่เขาชอบ "การบิน" อาจจะเป็นเพราะเหตุนี้ อิสระที่เขาไม่มีในยามที่อยู่บนพื้นดินกลับกลายเป็นความเว้งว้างไม่มีเส้นกั้นหรือขอบเขต

แต่ไม่ว่าจะเป็นความโดดเดี่ยวในยามที่มีคนแวดล้อมรอบตัว หรือจะเป็นความโดดเดี่ยวเมื่อรอบตัวมีเพียงอากาศ (กับแผ่นเหล็ก)

ยังไงมันก็เป็นความโดดเดี่ยวอยู่ดี






Create Date : 19 มกราคม 2548
Last Update : 3 มิถุนายน 2550 22:15:04 น. 10 comments
Counter : 383 Pageviews.

 
แลกกันอ่าน...
อ่านแล้วสะใจดีครับ
สะใจที่เขียนกันคนละซีกอย่างแรง
ผมว่าลักษณะแบบนี้มันน่าจะเป็นรูปแบบที่ลงตัวที่สุดระหว่างคุณกับผมแล้วนะ
ชอบหว่ะ 5555


โดย: NUTS วันที่: 20 มกราคม 2548 เวลา:1:29:27 น.  

 
เห็นด้วย

(ง่ายไปมะ แต่เห็นด้วยทุก point ค่ะ :P)


โดย: Scarborough IP: 61.90.71.75 วันที่: 20 มกราคม 2548 เวลา:1:33:05 น.  

 
ยังไม่ได้ดูเลยอ่ะ อยากดูเหมือนกัน แต่ทำไมไม่ไปดูซะทีก็ไม่รู้ว่ะ
อืม แคททารีน แฮปเบิร์นนี่ไม่สวยเหรอวะ??? เจ๊ว่าเค้าก็สวยดีนะ สวยเก๋ๆอ่ะ ทีแรกก็เซ็งเหมือนกันที่เลือกเอาเจ๊เคท บลังเชทมารับบทนี้ แต่นึกไปนึกมา เออ เค้าบุคลิกเดียวกันเลย สวย แต่ไม่มาก เก๋และดูฉลาดเกินหญิงยุคนั้นอ่ะ
ว่าแต่อีกเคทนึงเล่นดีมั้ย หลายเคทเลยงงว่าพูดถึงใครบ้าง อิอิ


โดย: patsypacky IP: 203.156.45.130 วันที่: 20 มกราคม 2548 เวลา:16:02:59 น.  

 
i personally don't like him. as film is for enjoyment, i certainly don't wanna see his film. heehee
yes he was good in 'who's eating gilbert grape'
but still i couldn't help feeling boring seeing his pretty-boy face.
that's why, though i like tom hanks's acting, i couldn't get myself to watch catch me if you can.


โดย: =p o o k p u i= วันที่: 20 มกราคม 2548 เวลา:16:47:18 น.  

 
อ๋า นึกได้แล้ว ที่เราไม่อยากดู the aviator ก็เพราะลีโอนี่แหละ ขอบคุณหลายที่ทำให้นึกออก บอกถูก


โดย: patsypacky วันที่: 20 มกราคม 2548 เวลา:16:49:00 น.  

 
จับพลัดจับพลูไปดูกับเพื่อนเป็นหมู่คณะง่ะ เนี่ยน้า ถ้ารู้ว่ายาวตั้งสามชั่วโมงคงต้องคิดหนักแหงๆ ก็ในโรงมันหนาวโคดเรย ขนาดใส่เสื้อแขนยาวอีกชั้นนะ ... ทรมานจริงๆ >_<

ดูแล้วก็ชอบเคท(บ.)จัง ส่วนตัวหนังอะไรๆ ก็ดี ที่ไม่ดีคงเป็นอคติของตัวเองนี่แหละ -_-" บวกลบแล้วก็เลยทำให้รู้สึกเฉยๆ กับเรื่องนี้ ไม่ชอบไม่เกลียด แหะๆ


โดย: vee vee' วันที่: 20 มกราคม 2548 เวลา:18:07:07 น.  

 
แล้วก็ระหว่างดูเหลือบมองซ้ายขวา เห็นเพื่อนข้างหนึ่งหลับคร่อกไปแล้ว ส่วนอีกข้างหนึ่งกำลังตั้งใจดูสุดๆ เลย สรุปว่าลางเนื้อชอบลางยานิ ^_^


โดย: vee vee' วันที่: 20 มกราคม 2548 เวลา:18:10:09 น.  

 
 
 
กึ่งยิงกึ่งผ่าน say :
ผมคงไปดูไม่ทันมันอยู่ในโรงแน่ๆ เลยอ่ะ
ช่วงนี้งานยุ่งมากๆ เลยอ่ะ

ฮือ ฮือ ฮือ
 
 


โดย: กึ่งยิงกึ่งผ่าน วันที่: 21 มกราคม 2548 เวลา:1:25:49 น.  

 
ยังไมได้ดูแต่แวะมาอ่านก่อน







++:คลิ๊กที่นี่:++
บ้าน ของพีอาร์ชมรมแพนด้า


โดย: จ๊อบ (joblovenuk ) วันที่: 21 มกราคม 2548 เวลา:3:21:14 น.  

 
ข้อสังเกตอีกอย่างนึงคือ ลีโอนาโด ชอบเล่นเป็นตัวแสบของ Pan Am ฮ่า ไม่รู้ฝังใจอะไรกะสายการบินนี้รึเปล่า :p


โดย: LTG (LittleTiger ) วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2548 เวลา:22:05:27 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Seven Of Nine
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




seven of nine tertiary adjunct of unimatrix zero-one เป็นสาวบอร์ก ครึ่งคนครึ่งจักรกล หุ่นสะบึมสุดสวิงริงโก้ ฉลาดเป็นกรดเพราะมี nano เทคโนโลยีติดตัวเป็นของขวัญจากราชินีแห่งบอร์ก ... ปกติจะอยู่กับยาน Voyager แต่ช่วงนี้หลบร้อนมาพักอยู่เมืองไทยชั่วคราวค่ะ (เอิ๊ก)
Friends' blogs
[Add Seven Of Nine's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.