งานมีเพียง 2 วันคือ 21-22 ธันวาคม 56
เราไปงานในวันเสาร์ที่ 21 ค่ะ


ไปกับเพื่อนเก่าค่ะ (มันเป็นคนชวน)  นัดเจอกันที่งานเลย เราจอดรถได้ที่สำนัำกงานที่ดิน กำลังเดินไปมันก็โทรหามันว่าอยู่ไหน  มันบอกว่าอยู่ในแท็กซี่ แถวกระทรวงกลาโหม  แล้วก็ุถามเรามาทันใดว่า  เออ สามแพร่งมันอยู่ตรงไหนวะ  แล้วมันมีแพร่งอะไรมั่ง....อ้าว  มรึงงง

มันมี แพร่งภูธร แพร่งนารา และแพร่งสรรพสาตร์  นะคะท่านผู้อ่าน



ต้องขอบอกว่าเป็นงานเล็ก ๆ ที่จัดได้อบอุ่นเหลือหลาย  กิจกรรมมากมาย แบ่งโซนอย่างดี
พร้อมกับของกิน ทั้งของดีในพื้นที่ และของกินเล่น ที่พ่อค้าแม่ขายสมัครเล่น มาตั้งโต๊ะเป็นระยะ
แถมอากาศในยามนี้ มีลมเย็นพัดพา บรรยากาศที่ได้นี่้ สุดบรรยายเลยค่ะ

เริ่มกันจากแพร่งนรา ....ปีนี้เค้าแขวนเสื้อค่ะ



ตึกเก่าคลาสสิคมากค่ะ  แต่ถ้าเก็บสายไฟให้เรียบร้อยหน่อยน่าจะดี

สองแม่ค้าสาวสวย

มีหุ่นละครเล็กมาเดินให้ถ่ายรูปค่ะ (เรียกคนดูไปในตัว)



แม่ค้าตัวน้อย ๆ



โต๊ะที่มีกระดาษ พร้อมสี สำหรับศิลปินน้อย



นักดนตรี วันละอ่อน....ร้องเพราะด้วยนะคะ



ทางแยกไปแพร่งสรรพสาตร์ จะแขวนโคมกระดาษ



มาไม่ทันดูโชว์ค่ะ  เดินมาถึงก็จบพอดีเลย (แย่ชะมัด)



ศิลปะจากทรายสี









การแสดงของ Baby Mime ค่ะ เรียกเสียงฮาได้มากมาย



เค้าแจกหนังสือให้ด้วยนะคะ คนละ 3 เล่ม ( แต่เราไม่ได้เอามา  ขี้เกียจถือ )



ฉากหลังคือ โรงเรียนตะละภัฏศึกษา ซึ่งเดิมคือโรงละคร ส่วนหนึ่งของวังของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์  สร้างสมัยรัชการที่ 6










 ถนนตะนาว...ถนนร้องเพลง กับร็ิิิิองเง็งยิปซี วงบุหงามาลัย



และวงอภิวาท



ซุ้มประตู หนึ่งเดียวที่เหลือไว้  แพร่งสรรพสาตร์



หนังใหญ่วัดขนอน  มาไกลจากราชบุรี



แพร่งภูธร จะเป็นถนนที่รวมงาน Handmade หลากหลายอย่างให้ลองหัดทำค่ะ










กลางลานผู้คนคับคั่ง เพราะดนตรีจากคุณธีร์ ไชยเดชค่ะ  (เสียงนุ่มเกิ๊น )



หัดทำงานฝีมือกันกลางลานนี่แหละค่ำ 
( จขบ.ได้แต่เมียง ๆ มอง ๆ อยากเข้าไปทำ dream catcher แต่แอบอายเพราะมีแต่เด็ก ๆ ทั้งนั้น )



ตรงนี้เค้าเพ้นกระถาง กะสานทางมะพร้าวเป็นตระกร้าค่ะ




เมื่อสมควรแก่เวลา พวกเราก็พากันกลับค่ะ 
(ตอนแรกว่าจะไปงาน Night at the museum ด้วย แต่เดินสามแพร่งเพลินมากจนเกินเวลา เลยอดค่ะ )