ตำนานรักเหนือภพ....Fresh กั่วกัว

 ผู้แปล  พริกหอม




โปรยปก เล่ม 1

ชื่อของนาง ‘เชียนกู่’แปลว่ากระดูกพันชิ้น เด็กหญิงคนหนึ่งได้รับนามอัปมงคลเช่นนี้เพราะความที่นางมีดวงชะตาแข็งเกินไป พรากชีวิตมารดาแต่แรกคลอด ทั้งเลือดในกายมีกลิ่นหอมประหลาด ดึงดูดภูตผีสิ่งลี้ลับให้เข้ามาวอแว บิดาจึงตั้งชื่อหมายให้เป็นเคล็ดหักล้างกัน ทว่าก็หาได้เป็นผล เพราะท้ายสุดครอบครัวเพียงคนเดียวก็จากนางไปอยู่นั่นเอง

แม้เหลือตนลำพัง หากเชียนกู่ก็ไม่ระย่นย่อต่อชีวิต ยึดคำสั่งเสียของบิดา ดั้นด้นเดินทางสู่เขาเหมาซาน หวังกราบอาจารย์ฝึกฝนวิชาบำเพ็ญเพียร เพื่อขับไล่ตะเพิดภูตผีทั้งหลาย

ทว่าการณ์ผิดจากแผนที่กะเกณฑ์ แทนที่จะได้ฝากตัวเป็นศิษย์ กลับถูกยัดเยียดตำแหน่งเจ้าสำนัก และยังต้องเดินทางไปเขาคุนหลุนเพื่อร่วมงานเลี้ยงชุมนุมเซียน เมื่อวานนางเป็นเพียงเด็กกำพร้าอายุสิบสอง ดูสิ แค่วันเดียวนางได้กลายเป็นอะไรไปเสียแล้ว...


โปรยปก เล่ม 2

การที่อาวุธเทพสิบทิศกลับคืนสู่แดนเซียนได้หลายชิ้นเช่นนี้ นับว่าเป็นความชอบของฮวาเชียนกู่ทั้งสิ้น นางเป็นเพียงเด็กอ่อนเยาว์ แต่กลับดึงดูดแต่คนที่ไม่ธรรมดา ทั้งจักรพรรดิแดนมนุษย์ ประมุขแดนมารปีศาจ และบัณฑิตปริศนาอัจฉริยะ ซึ่งความบริสุทธิ์จริงใจของนางก็ทำให้ทุกคนต่างรักนาง ทำเพื่อนางอย่างเต็มใจ

หากสิ่งนี้เองกลับสร้างปัญหาแก่นางภายหลัง เมื่อหนีมั่นเทียนคู่ปรับเก่าเกิดจับจุดอ่อนนางได้ ด้วยความอิจฉาจึงไม่ลังเลเลยที่จะฉุดนางลงต่ำ ฮวาเชียนกู่อะไรก็ยอมได้ เว้นแต่ความลับที่นางเก็บงำมาตลอดเวลาหลายปีเรื่องนั้น จะถูกเปิดเผยออกไปไม่ได้เป็นอันขาด!

จุดเริ่มต้นของการกระทำผิด และยิ่งทีก็ยิ่งสั่งสมเพิ่มพูน นางย่อมรู้ตัวว่ากำลังทำอะไร แต่ก็ไม่อาจไม่ทำได้จริงๆ เพื่อเขาคนที่อยู่ในหัวใจ ต่อให้นางผิดต่อสำนัก ผิดต่อทุกคน ผิดต่อทั้งหกภพภูมิ แม้บทลงทัณฑ์อันโหดร้ายรออยู่ที่ปลายทาง นางก็ยินดียอมรับมัน ไม่มีวันหันหลังกลับเด็ดขาด



โปรยปก เล่ม 3

เป็นชะตาฟ้ากำหนด เป็นผู้คนบีบบังคับ และเป็นหัวใจตัวเองที่ดื้อรั้นงมงาย ฮวาเชียนกู่จึงไม่เหลือหนทางอื่นให้เดิน มีเพียงเส้นทางสู่การเป็นมารเทพอันน่ารังเกียจ

เมื่อตระหนักรู้และยอมรับในพลัง ดินแดนรกร้างป่าเถื่อนก็ไม่อาจคุมขังนางได้อีกต่อไป ทว่าแม้เป็นมารเทพแล้วนางยังคงเป็นนาง ยังคงเทิดทูนบูชาอาจารย์และฉางหลิว นางไม่ต้องการสร้างความเดือดร้อน และไม่ต้องการให้เขารู้ว่านางกลับมาแล้ว

ถึงจะบอกว่าไม่หวังให้อะไรๆ กลับมาเป็นดังเดิม แต่แค่ได้ข่าวว่าไป๋จื่อฮว่าจะรับศิษย์คนใหม่ ฮวาเชียนกู่ก็รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างในร่างพังทลายลงมา ที่เคยคิดว่าเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วแต่เขาก็ยังไม่กล่าวตัดขาดความเป็นศิษย์อาจารย์นั้นเพราะคนยังมีเยื่อใย ดูทีนางก็คือตัวโง่งมแห่งหกภพภูมิจริงๆ



โปรยปก ภาคพิเศษ

สองร้อยปีที่เพียรตามหา ในที่สุดก็พานพบ ต่อแต่นี้ไป๋จื่อฮว่าจะไม่ให้นางแยกจากอีก ไม่ว่าฉางหลิว หกภพภูมิ หรือมวลมนุษยชาติล้วนไม่สำคัญ เพียงปรารถนาได้อยู่กับนางตราบตลอดไป

สามวิญญาณเจ็ดจิตเหลือเพียงดวงจิตเดียว ตัวนางในชาติภพนี้ไม่อาจนับได้ว่าเป็นคนเต็มคน หากเขาก็ยังยืนกรานที่จะเป็นอาจารย์ของนาง คอยดูแลเคียงข้างอย่างที่เคยเป็นเมื่อวันวาน

แต่การเฝ้าดูนางเติบโตก็ทำให้เขาซึมซาบรับรู้ว่าเสี่ยวกู่ผู้นี้กับเสี่ยวกู่คนเก่าไม่ใช่คนเดียวกัน ไม่ใช่คนที่เคยรักเขาอย่างโง่งม... ถ้อยคำ‘ถ้าทุกอย่างสามารถย้อนคืนกลับมาใหม่ได้ ข้าจะไม่มีวันรักท่านอีก’ดุจมีดแหลมกรีดแทงใจ แล้วเขาผู้ซึ่งไม่แก่ ไม่ตาย ไม่เจ็บ ไม่ดับสูญ จะข้ามผ่านความทรมานของการที่นางไม่รักเขาได้อย่างไร!


หลังอ่าน

ความยาวขนาดนี้ สำหรับนิยายจีนนี่คงธรรมดาใช่ไหมนะ ....ผู้เขียนช่างมีจินตนาการสร้างสรรค์ในการเล่าเรื่องได้ดีอย่างยิ่ง  เริ่มตั้งแต่นางเอกยังตัวน้อย  บุกบั่น ไปเขาเหลาซานเผื่อฝากตัวเป็นศิษย์  ...ซึ่งจริง ๆ แล้วนางเอกนั้นก็ไม่ใช่คนธรรมดา  สิ่งที่เธอพบเจอ ตลอดจนผู้คนที่เข้ามาผูกพันธ์กับเธอจึงไม่ธรรมดาไปด้วย  และเพราะเธอดันไปมีรักต้องห้าม  รักบุคคลที่ไม่ควรรัก ซึ่งก็คืออาจารย์ของตนเอง  เธอกระทำสิ่งผิดเพื่อชายที่รัก และผลของมันที่เธอต้องรับมันเลวร้ายเกินบรรยาย..ยิ่งกว่าทุกขเวทนา

ผู้เขียนเปิดเรื่องได้ดีค่ะ  ดึงเอาเหตุการณ์ ในช่วงกลางเรื่อง (ท้ายเล่ม 2 ) มาเล่าก่อน เป็นเหตุการณ์ที่นางเอกกำลังรับโทษทัณฑ์ ที่แสนสาหัสเลยค่ะ  แถมคนลงโทษยังเป็นอาจารย์ของเธอเอง....ทำเอากระตุ้นต่อมอยากรู้มากเลยว่า นางเอกไปทำอะไรไว้ขนาดนั้น....แล้วผู้เขียนก็ค่อย ๆ เล่าเรื่องความเป็นมาของนางเอกตามลำดับ ตั้งแต่เป็นเด็กน้อย กำพร้าพ่อ  ออกเดินทาง (ผจญภัย )ไปเขาเหลาซาน เพื่อฝากตัวเป็นศิษย์เซียน

ตัวละครสำคัญในเรื่องนี้ มีเยอะนะคะ  แต่ทยอยโผล่กันเข้ามา ไม่ชวนให้สับสน  แต่ละตัวก็มีบทบาทน่ารัก น่าชังแตกต่างกันไป...คือบรรดาหนุ่ม ๆ ที่รุมรักนางเอกน่ะ น่ารักหมดค่ะ  ยกเว้นพระเอก ( เคร่งครัดในคุณธรรมมากไปหน่อย  จนไม่ยอมรับความรักของนางเอก )  บรรดาพระรองล้วนแต่ช่วยเหลือนางเอกตลอด ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง  ทำให้นางเอกของเราฝ่าฝันอุปสรรค มาได้สบาย ๆ อยู่เรื่อย  จนกระทั่งเสี่ยวกู่ หลงรักไป๋จื่อฮว่า อาจารย์ของตัวเอง (พระเอก ) ชะตาชีวิตของนางเอกก็พลิกผัน  เลวร้ายสุด ๆ เลยค่ะ

ผู้เขียนทำได้ดีนะคะ ในการใส่ดราม่าจัดเต็ม ไปในนิยายแฟนตาซีแบบจีน ๆ ...แม้ว่าตัวร้ายอย่างหนีหมั่นเทียนดูร้ายอย่างไม่ค่อยมีมิติเท่าไรนัก  แต่ก็โอเคละค่ะ  ถ้าไม่มีเธอนางเอกก็ไม่มีชะตาตกต่ำสิ..

จนท้ายเล่ม 2 ที่นางเอกต้องทรมานอย่างสาหัสสากรรจ์ เรียกว่าคนอ่านเทใจสงสารนางเอกมากมาย (แอบแช่งชัก พระเอกไปพราง ๆ ด้วย )  ถึงตอนนี้คนอ่านแทบวางไม่ลงแล้วค่ะ 

พอถึงเล่ม  3 ทำไม่รู้สึกเรื่องมันเป๋ ไปหน่อยไหมน้า....นางเอกดูจะทำร้ายผู้บริสุทธิ์ เยอะเกินไปไหม  แถมช่วงท้ายการดำเนินเรื่องก็ดูเอื่อย ๆ ไปหน่อย  ( แต่ความดราม่า มีให้เป็นระยะนะคะ....ความรักของคู่นี้ไม่ง่ายเลย )  จนถึงไคลแมกซ์ ตอนจบ....อาจเป็นเพราะคนเขียนเค้าจัดเต็มมาแต่แรกแล้วในการบีบคั้นอารมณ์  จขบ.เลยไม่ค่อยรู้สึกอะไรมากกับฉากนี้  แต่ก็โอเคนะคะกับการเลือกจบแบบนี้  เห็นด้วยว่าจบได้ดีมากแล้ว 


ส่วนเล่มพิเศษนี่  เป็นเหตุการณ์ต่อมาค่ะ  ว่าในที่สุดพระเอกก็ตามหาเศษเสี้ยววิญญาณของนางเอกจนเจอ  แต่อ่านแล้วแอบมีงงหน่อย ๆ นะคะ  ตอนต้น ๆ ก็เป็นช่วงที่เจอกัน  เอาไปเลี้ยงเป็นศิษย์อาจาย์อีกครั้ง....แล้วพอถึงตอนพิเศษสุดท้ายอยู่ ๆ ก็โผล่มาแบบว่า แต่งงานแล้ว.....อร๊าย  ยังไง  ทำไมไม่กล่าวถึงเหตุการณ์ช่วงแต่งงานสักหน่อยล่า...สนพ.แปลขาดไปหรือเปล่าเนี่ย ?....คงไม่ต้องบอกนะคะว่าเรื่องนี้ เล่มพิเศษช่วยให้จบอย่างมีความสุขแบบไม่ต้องจิ้นค่ะ...


เรื่องนี้ค่อนข้างยาว  รายละเอียดปลีกย่อยเยอะค่ะ  แต่อ่านได้เพลิน ได้สนุกตลอดค่ะ  ชอบนะคะเรื่องนี้  ชวนอ่านอีกเรื่องนึงค่ะ

Create Date : 23 กรกฎาคม 2557 Last Update : 23 กรกฎาคม 2557 23:51:17 น. Counter : 9929 Pageviews.		18 comments
Share Tweet